Jeban x Hourglass Exclusive​ : 5 สเต็ปหน้าไบร์ท แบบมีช่างไฟส่วนตัว

32 8

เทรนด์หน้าพุ่ง โกลว์ ไบรท์ เป็นสิ่งที่สาวๆ กำลังสนใจใช่หรือเปล่า? แน่นอนค่ะว่าอย่ามองข้ามเทรนด์ในปีนี้ เพราะการแต่งหน้าให้ลุคออกมาแบบ ใบหน้าดูโดดเด่นทั้งจมูกและโหนกแก้ม กำลังมาแรงนะคะจะบอกให้

เพื่อให้สาวๆ ได้รู้จักเทคนิคการแต่งหน้าที่กำลังอินในตอนนี้ จีบันจึงได้ชวน 2 สาวที่มีดีกรีแต่งหน้าระดับท็อป เจน - JaneMakeup และ ทน์ - Vvalentines ไปเป็นตัวแทนของพวกเราเก็บเกี่ยวเทคนิคหน้าพุ่งแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับ คุณลอร่า เจนส์ Global Artistry and Training Director เมคอัพอาร์เทรเนอร์คนดังจากแบรนด์Hourglass ที่เพิ่งเปิดเคาน์เตอร์อย่างเป็นทางการที่ Sephora ประเทศไทย เมื่อช่วงก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมา

โจทย์ที่ทำให้ 2 สาว มาพบกับคุณลอร่าในวันนี้ คือการเรียนรู้วิธีการแต่งหน้าแบบเพิ่มประกายคล้ายกับแสงไฟลงบนใบหน้าด้วยเทคนิค "STROBE" คือการเพิ่มแสง เงา และมิติ ลงบนใบหน้า ที่มากกว่าการสร้างกรอบหน้าด้วยการ shading บรอนเซอร์เพียงอย่างเดียวอย่างที่สาวๆ คุ้นเคย

Hourglass มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการ STROBE โดยเฉพาะ กับ Ambient Lighting Powder แป้งที่ช่วยเพิ่มประกายสร้างมิติบนใบหน้า และ Ambient Lightning Blush ที่ช่วยให้เม็ดสีกระจายตัวบนพวงแก้มได้หลากหลายมิติ แต่งออกมาให้ดูแพงได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

แบรนด์ Hourglass จากอเมริกานี่เค้ามีแนวคิดคือ รวมเอาความงาม (Beauty) วิทยาศาสตร์ (Science) และ ความหรูหรา (Luxury) เข้าไว้ด้วยกัน ตามความตั้งใจของ Carisa Janes เจ้าของแบรนด์ เลยทำให้เกิดเครื่องสำอางที่รวมเอาคุณสมบัติสกินแคร์ไว้ด้วยกัน เรียกว่าได้ทั้งเมคอัพได้ทำบำรุงไปพร้อมๆ กัน

ก่อนจะลงมือทำให้หน้าสวยเด่น คุณลอร่าแนะนำสาวๆ ให้เตรียมผิวให้พร้อม ด้วย Veil Mineral Primer ที่นอกจากจะช่วยให้เมคอัพติดทนนานตลอดวันแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยอำพรางให้รูขุมขนแลดูเล็กลง ทำให้ผิวเรียบเนียน ช่วยลดรอยแดงจากอักเสบของผิว ไม่อุดตัน แถมยังเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา เพราะช่วยควบคุมความมันได้อย่างดีเยี่ยม

งานนี้คุณลอร่าทดสอบให้ดูโดยฉีดน้ำลงบนผิวหลังจากที่ไพรเมอร์เซ็ตตัว จะเห็นว่า ไพรเมอร์ไม่สะเทือน

Let's Strobe in 5 Steps

เตรียมผิวพร้อมแล้ว คุณลอร่าก็เริ่มสอนเทคนิค 5 ขั้นตอน ช่วย ลดเลือนจุดบกพร่องบนใบหน้า ลดความมันวาวของผิวหน้า เซ็ตรองพื้นให้สวยแน่น ปรับแสงที่ตกกระทบบนใบหน้าให้ดูดียิ่งขึ้น ด้วย เทคโนโลยี Photoluminescent ช่วยสร้างมิติของแสงให้เกิดขึ้นบนใบหน้า ด้วยผงแป้งขนาดเล็กที่มีความวาวและโปร่งแสง Optically Transparent Particles ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นเหมือนมีช่างจัดแสงตามไปทุกที่ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเล้ยย

STEP 1

ลงแป้ง Ambient Lighting Powder สี Dim Light ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากส่วนหน้าผาก สันจมูก ใต้ตา หน้าแก้ม และวนไปรอบใบหน้าและส่วนคางทำให้ผิวดูเรียบเนียน ที่สันจมูก โหนกแก้ม และหน้าผาก

Dim Powder เป็นแป้งที่จะให้เอฟเฟ็คต์เหมือนกับเราหรี่ไฟลงเบาๆ ให้แสงแบบนัวๆ บนผิว ทำให้ลุคที่ได้ ดูมีแสงที่นุ่มนวลมากขึ้นไอเท็มนี้จะให้ลุค sheer กับผิว ทำให้ผิวดูโกลวขึ้น แถมยังช่วย

เบลอริ้วรอยสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้า ทำให้ผิวดูเนียนและมีสุขภาพดีมาก

ขึ้นโดยที่ไม่ดูมันเยิ้ม จนสาวๆ หลายคนเรียกแป้งตัวนี้ว่าตัว Instagram no-filter

STEP 2

ลงแป้ง Ambient Strobing Powder เพื่อสร้างประกายบนใบหน้า ด้วย แปรงหัวใหญ่ หรือจะใช้กับตัวฟองน้ำ Sculpture ของ Hourglass ที่ออกแบบมาเพื่อให้รับกับส่วนโหนกแก้ม โดยใช้แปรงหรือฟองน้ำแตะแป้งลงไปที่บริเวณโหนกแก้มไปจนถึงขมับ กรอบหน้าผากคล้ายๆ รูป C-shape ในจุดที่จะรับกับแสง รวมถึงสันจมูก ซึ่งตัวนี้จะช่วยให้ดูดั้งพุ่งมากขึ้น

STEP 3

สเปร์ยน้ำลงบน Sculpture ถ้าต้องการเพิ่มความโกลว อันนี้เป็นเทคนิค สำหรับสาวๆ ที่ ต้องการ Strobing ให้หน้าพุ่งชัด เพื่อลุคไปงานกลางคืน เพียงใช้น้ำฉีดลงบนฟองน้ำ Sculpture แล้วแตะที่หลังมือเพื่อเอาน้ำส่วนเกินออกซักเล็กน้อย จากนั้นแตะแป้ง Strobing ย้ำลงไปที่ส่วนโหนกแก้มและดั้ง

เพิ่มเติมอีกนิด มีแค่ตัวแป้ง Strobing เท่านั้นที่ควรจะใช้แบบ Wet ส่วนตัวอื่นๆ ควรใช้แบบ Dry เท่านั้น โดยปกติแล้วลุคกลางวัน คุณลอร่าแนะนำให้ใช้แบบ Dry ส่วนลุคกลางคืนหรือลุคออกงานจะใช้แบบ Wet นะคะ

STEP 4

ปัดแป้ง Radiant Light เพื่อสร้างกรอบหน้า ทำให้ผิวดูบ่มแดด โดย ใช้แปรงหัวฟูๆ ปัดแป้ง Radiant Light เติมลงไปบนใบหน้า ในส่วนแก้ม และกรอบหน้า แป้งจะทำหน้าที่คล้ายกับ Bronzer ช่วยให้ผิวดูโกลว เป็น Sunkissed skin ให้ผิวดูอบอุ่นมากขึ้น อาจจะแตะย้ำช่วงแก้มเพิ่มอีกนิดให้เป็นเหมือน Blush ด้วยก็ได้นะ

STEP 5

ปัดแป้ง Ambient Lighting palette เพื่อสร้างประกายให้กับผิว บริเวณหัวไหล่ และลำคอ โดย ปัดแป้งทั้งหมดรวมกันทั้งสามสี แล้วแตะไปตามหัวไหล่ แขน ลำคอ ไหปลาร้า ส่วนต่างๆ ที่เราอยากจะให้มันดูโกลว ดูมีแสงวาวๆ สร้างประกายให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

ไปดูเทคนิคแต่งหน้าแบบ Strobe Make Up กันชัดๆ ในวีดีโอนี้กันเลย

ผลิตภัณฑ์ Hourglass ที่ออกแบบมาสำหรับการ STROBE มีให้เลือกในรูปแบบแป้ง Ambient Lighting Powder และ Ambient Lighting Blush สร้างประกาย จำลองแสงไฟบนใบหน้า ตามรูปแบบของไฟ 6 ลักษณะ ที่เหมาะกับทุกสีผิว

1. ETHEREAL LIGHT แป้งเฉดสีขาวโทนเย็นคล้ายแร่โอปอลจะช่วยสร้างความกระจ่างใสนวลเหมือนแสงจันทร์ให้กับใบหน้าแม้ในเวลากลางวัน

2. DIM LIGHT แป้งสีเบจโทนส้มพีชที่จะช่วยปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้า เพื่อไฮไลท์และสร้างมิติด้วยสีที่น้ำตาลกลาง ที่ผสมทั้งวอร์มโทนและคูลโทนสามารถใช้เป็น setting power ได้

3. LUMINOUS LIGHT สีแชมเปญอมมุกที่จะช่วยสร้างแสงอ่อนๆบนใบหน้าเสมือนแสงจากเทียน ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

4. DIFFUSED LIGHT แป้งสีเหลืองนวลคูลโทนที่ช่วยปกปิดรอยแดงและทำให้ผิวหน้าดูสว่างใสเสมือนแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า

5. MOOD LIGHT สีม่วงลาเวนเดอร์อมชมพู ช่วยขับเน้นผิวให้ผ่อง สว่าง กระจ่าง อย่างมีออร่า เหมาะกับสาวที่มีปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ

6. RADIANT LIGHT แป้งสีเบจอมทองเผยผิวหน้าสุขภาพดีด้วยสีวอร์มโทนอ่อนๆ ที่จะทำให้ผิวหน้าดูโกลวบ่มแดด สามารถใช้เป็นบรอนเซอร์ได้เหมาะกับทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อผิวแบบ Sun-kissed look

เพิ่มเติมอีกนิด สำหรับ Ambient Lighting Powder ใช้กับโหนกแก้มและส่วนต่างๆ ของใบหน้าที่จะกระทบกับแสง ทำให้หน้าดูพุ่งมากขึ้น ส่วน Radient Powder เป็นแป้งที่ช่วยเพิ่มเอฟเฟคความอุ่นให้กับผิว เหมือนผิวบ่มแดดโกลวๆ

ส่วน Ambient Lightning Blush ที่ออกแบบให้สีบรัชกระจายตัวได้หลากหลายมิติ ช่วยให้ STROBE แล้วได้ลุคที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น blush ของ Hourglass มีให้เลือกทั้งหมด 6 โทนสี เหมาะกับทุกสีผิว

    1. Diffused Heat สีดอกป็อปปี้สดใส
    2. Dim Infusion สีคอรัลอ่อน
    3. Ethereal Glow สีชมพูโทนเย็น
    4. Luminous Flush สีกุหลาบประกาบแชมเปญ
    5. Mood Exposure สีม่วงพลัมอ่อนอมชมพู
    6. Radiant Magenta สีชมพูประกายทอง

สำหรับสาวๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสีไหนให้เข้ากับตัวเอง คุณลอร่าแนะนำว่า การเลือกใช้แต่ละสีของตัวแป้ง และบลัชไม่ได้เกี่ยวกับว่าสีผิวของเราเป็นแบบไหน แต่ขึ้นกับว่าเราอยากได้เอฟเฟ็คต์ของแสงแบบไหนบนผิว ซึ่งสาวๆ สามารถออกแบบลุคได้ตามใจต้องการ

ทั้ง 2 สาวเจนกับไทน์ก็ได้เรียนรู้เทคนิค Strobe จากมืออาชีพกันไปแล้ว ถึงเวลาที่ทั้งคู่จะมาแสดงฝีมือ Strobe ให้ชาวจีบันได้เห็นกัน โดยทีมจีบันได้มอบโจทย์ให้กลับไป create ลุคหน้าพุ่งด้วยเทคนิคจาก Hourglass จะได้ลุคแบบไหนมาติดตามกัน

  • แต่งหน้าไปงานลุคผิวโกลวเปล่งแสงธรรมชาติด้วย Hourglass Ambient Palette กับ Vvalentine คลิกที่นี่
  • เทคนิคไฮไลท์หน้าวาวให้ดูมีมิติ Hourglass กับ Janemakeup คลิกที่นี่
ส่วนสาวๆ คนไหนที่กำลังวอแวกับ Hourglass อยู่ล่ะก็ แวะไปลองชม และเป็นจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้วที่ Sephora สาขาสยามเซ็นเตอร์ และเอ็มควอเทียร์นะจ๊ะ