ไคใช้คอนซีลเลอร์ ดิออร์ บ้างค่ะGammiizie1 Oct 081คอนฯดิออร์ปกปิดได้ดีมั้ยค่ะ ปิดแพนด้าอ่ะค่ะ แบบว่าแพนด้ามากมายDiscussion (1)SEND oHLa17 yr.เคยใช้ค่ะ ตามรีวิวนี้เลย YSL Touche Eclat vs Dior Skinflash http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ohla&month=10-2006&date=16&group=4&gblog=2 ตัวแรก YSL - Touche Eclat ใช้มาเป็นแท่งที่ 3 แล้วค่ะ ปกติเราใช้เบอร์ 1 มาตลอด ผู้ท้าชิง Dior - SkinFlash นิตยสารที่นี่โปรโมตว่าวงการเดินแบบและแฟชั่นโชว์เค้าใช้ดิออร์กัน แล้วด้วยความอยากรู้และอยากพิสูจน์เราเลยไปสอยมาลองมั่ง วิเคราะห์รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย ทั้งสองชิ้นเป็นคอนซีลเลอร์+ไฮไลท์ แบบปลายพู่กันเหมือนกัน แต่! YSL - เป็นดินสอกด ในขณะที่ Dior - เป็นปากกาหมุน แกร็กๆๆๆ ความแตกต่างข้อแรกสร้างปัญหาให้สาวๆที่ใช้ Dior เล็กน้อย เพราะทำให้ควบคุมน้ำหนักและปริมาณครีมได้ยากกว่า แต่! (อีกแล้ว) Dior - พยายามทำคะแนน ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวกว่า (12 เดือน) ในขณะที่ YSL ใช้งานได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น อย่างั้นงี้เลย เรามาลองทาลงบนแขนพิสูจน์เลยละกัน มุมขวาเป็น Dior ส่วนมุมซ้าย YSL สีที่ใช้ต่างโทนกันนะคะ Dior เราเลือกโทนออกเหลือง (เบอร์ 002) ในขณะที่ YSL เป็นเบอร์ 1 โทนชมพู พอเริ่มละเลงเนื้อครีมลงบนผิวแล้ว YSL - ได้คะแนนการเกลี่ยง่ายกว่าไปครอง เพราะเนื้อครีมเบากว่า ส่วน Dior - เนื้อหนืด และข้นกว่าจึงทำให้เกลี่ยยากกว่า แต่ว่าการเกาะติดพื้นผิวนั้นจะนำ YSL นะคะ การปกปิดขอแบ่งเป็นสองส่วน 1. ริ้วรอย ปกปิดได้ดีพอกันทั้งคู่ แต่ YSL จะแซงออกมาแค่ไม่กี่มิล เพราะเนื้อครีมบางกว่า ก็เลยทำไม่เน้นริ้วรอย 2. แพนด้า รอยดำใต้ตานั้นต้องยกให้ Dior เค้าค่ะ แซง YSL ไปไม่เห็นฝุ่นเลย สุดท้ายนี้ถ้าให้เทียบความคุ้มก็คงต้อง Dior เพราะใช้ได้นานกว่า เพราะเท่าที่ใช้มาไม่เคยหมดก่อน 6 เดือนซักที เพราะฉะนั้นหากสาวๆที่ไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านนัก ซื้อ Dior คุ้มกว่าค่ะ แต่แนะนำให้ไปลองเองที่เคาน์เตอร์ก่อนซื้อนะคะ จะได้เลือกสีที่ถูกใจ REPLY
oHLa17 yr.เคยใช้ค่ะ ตามรีวิวนี้เลย YSL Touche Eclat vs Dior Skinflash http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ohla&month=10-2006&date=16&group=4&gblog=2 ตัวแรก YSL - Touche Eclat ใช้มาเป็นแท่งที่ 3 แล้วค่ะ ปกติเราใช้เบอร์ 1 มาตลอด ผู้ท้าชิง Dior - SkinFlash นิตยสารที่นี่โปรโมตว่าวงการเดินแบบและแฟชั่นโชว์เค้าใช้ดิออร์กัน แล้วด้วยความอยากรู้และอยากพิสูจน์เราเลยไปสอยมาลองมั่ง วิเคราะห์รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย ทั้งสองชิ้นเป็นคอนซีลเลอร์+ไฮไลท์ แบบปลายพู่กันเหมือนกัน แต่! YSL - เป็นดินสอกด ในขณะที่ Dior - เป็นปากกาหมุน แกร็กๆๆๆ ความแตกต่างข้อแรกสร้างปัญหาให้สาวๆที่ใช้ Dior เล็กน้อย เพราะทำให้ควบคุมน้ำหนักและปริมาณครีมได้ยากกว่า แต่! (อีกแล้ว) Dior - พยายามทำคะแนน ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวกว่า (12 เดือน) ในขณะที่ YSL ใช้งานได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น อย่างั้นงี้เลย เรามาลองทาลงบนแขนพิสูจน์เลยละกัน มุมขวาเป็น Dior ส่วนมุมซ้าย YSL สีที่ใช้ต่างโทนกันนะคะ Dior เราเลือกโทนออกเหลือง (เบอร์ 002) ในขณะที่ YSL เป็นเบอร์ 1 โทนชมพู พอเริ่มละเลงเนื้อครีมลงบนผิวแล้ว YSL - ได้คะแนนการเกลี่ยง่ายกว่าไปครอง เพราะเนื้อครีมเบากว่า ส่วน Dior - เนื้อหนืด และข้นกว่าจึงทำให้เกลี่ยยากกว่า แต่ว่าการเกาะติดพื้นผิวนั้นจะนำ YSL นะคะ การปกปิดขอแบ่งเป็นสองส่วน 1. ริ้วรอย ปกปิดได้ดีพอกันทั้งคู่ แต่ YSL จะแซงออกมาแค่ไม่กี่มิล เพราะเนื้อครีมบางกว่า ก็เลยทำไม่เน้นริ้วรอย 2. แพนด้า รอยดำใต้ตานั้นต้องยกให้ Dior เค้าค่ะ แซง YSL ไปไม่เห็นฝุ่นเลย สุดท้ายนี้ถ้าให้เทียบความคุ้มก็คงต้อง Dior เพราะใช้ได้นานกว่า เพราะเท่าที่ใช้มาไม่เคยหมดก่อน 6 เดือนซักที เพราะฉะนั้นหากสาวๆที่ไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านนัก ซื้อ Dior คุ้มกว่าค่ะ แต่แนะนำให้ไปลองเองที่เคาน์เตอร์ก่อนซื้อนะคะ จะได้เลือกสีที่ถูกใจ REPLY
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ohla&month=10-2006&date=16&group=4&gblog=2
ตัวแรก YSL - Touche Eclat
ใช้มาเป็นแท่งที่ 3 แล้วค่ะ ปกติเราใช้เบอร์ 1 มาตลอด
ผู้ท้าชิง Dior - SkinFlash
นิตยสารที่นี่โปรโมตว่าวงการเดินแบบและแฟชั่นโชว์เค้าใช้ดิออร์กัน
แล้วด้วยความอยากรู้และอยากพิสูจน์เราเลยไปสอยมาลองมั่ง
วิเคราะห์รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลย
ทั้งสองชิ้นเป็นคอนซีลเลอร์+ไฮไลท์ แบบปลายพู่กันเหมือนกัน
แต่!
YSL - เป็นดินสอกด
ในขณะที่
Dior - เป็นปากกาหมุน แกร็กๆๆๆ
ความแตกต่างข้อแรกสร้างปัญหาให้สาวๆที่ใช้ Dior เล็กน้อย เพราะทำให้ควบคุมน้ำหนักและปริมาณครีมได้ยากกว่า
แต่! (อีกแล้ว)
Dior - พยายามทำคะแนน ด้วยอายุการใช้งานที่ยาวกว่า (12 เดือน)
ในขณะที่ YSL ใช้งานได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น
อย่างั้นงี้เลย เรามาลองทาลงบนแขนพิสูจน์เลยละกัน
มุมขวาเป็น Dior
ส่วนมุมซ้าย YSL
สีที่ใช้ต่างโทนกันนะคะ Dior เราเลือกโทนออกเหลือง (เบอร์ 002)
ในขณะที่ YSL เป็นเบอร์ 1 โทนชมพู
พอเริ่มละเลงเนื้อครีมลงบนผิวแล้ว
YSL - ได้คะแนนการเกลี่ยง่ายกว่าไปครอง เพราะเนื้อครีมเบากว่า
ส่วน Dior - เนื้อหนืด และข้นกว่าจึงทำให้เกลี่ยยากกว่า แต่ว่าการเกาะติดพื้นผิวนั้นจะนำ YSL นะคะ
การปกปิดขอแบ่งเป็นสองส่วน
1. ริ้วรอย
ปกปิดได้ดีพอกันทั้งคู่ แต่ YSL จะแซงออกมาแค่ไม่กี่มิล เพราะเนื้อครีมบางกว่า ก็เลยทำไม่เน้นริ้วรอย
2. แพนด้า
รอยดำใต้ตานั้นต้องยกให้ Dior เค้าค่ะ แซง YSL ไปไม่เห็นฝุ่นเลย
สุดท้ายนี้ถ้าให้เทียบความคุ้มก็คงต้อง Dior เพราะใช้ได้นานกว่า
เพราะเท่าที่ใช้มาไม่เคยหมดก่อน 6 เดือนซักที
เพราะฉะนั้นหากสาวๆที่ไม่ได้แต่งหน้าจัดจ้านนัก ซื้อ Dior คุ้มกว่าค่ะ
แต่แนะนำให้ไปลองเองที่เคาน์เตอร์ก่อนซื้อนะคะ จะได้เลือกสีที่ถูกใจ