review เป็นสาวเเล้วจะเเต่งตัวออกไปไหนก็ได้ Chapter1 "A La Campagne พัทยา"

ไปพัทยาคุณนึกถึงอะไร

ทะเล…

บานาน่าโบ้ท…

แสงสีเสียง…

หรือ ฝรั่งล่ำๆ…

น่าแปลกที่ทริปพัทยาของเราครั้งนี้ เรากลับไม่ได้อินกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นสักเท่าไร แต่อยากลองไปใช้ชีวิตนิ่ง ๆ สงบๆ หลบมรสุมของงานประจำที่ท่วมหัวดูบ้าง ไม่อยากขยับร่างกายเยอะนัก(มาเที่ยวแล้วต้องสบายๆสิ เค้าถึงเรียกว่ามาพักผ่อนยังไงละ) ต้องขอบคุณโลกโซเชี่ยลและความเบื่อๆว่างๆของยามดึกคืนหนึ่งที่ทำให้เรามาเจอกับที่ ๆ หนึ่งในหน้าที่ 4-5 ของ google

ภาพตรงหน้า คือ community mall รูปทรงสะดุดตา แถมชื่อยังสะดุดหูอีก (ถ้าไม่มีภาษาไทยกำกับชาตินี้คงอ่านไม่ออกแน่55)

A la champagne หรือ อะลา คอมปาณย์ ในภาษาบ้านเรา (แนะ ขนาดภาษาไทยยังยากเลย55) สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ผสมผสานกลับกลิ่นอาย Vintage Industry ท่ามกลางสวนสวยที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และดอกไม้สีสันสดใส

เหมาะที่เราจะหลบร้อนจากทะเล มาเดินเล่นให้เย็นใจสักพักหนึ่ง…แต่ระวังรู้ตัวอีกที คุณอาจจะเพลินกับมันจนถึงเย็นเลยก็ได้

Ep1. : ยินดีต้อนรับ สู่ชนบทในยุโรป

เมื่อผ่านซุ้มประตูโค้งเข้ามาแล้ว เหมือนเราเดินทางข้ามทวีปไปสู่ยุโรปเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น

(แถมออกนอกตัวเมืองไปถึงชนบทซะงั้น)

จุดแรกที่ดึงดูดใจสาวขาช็อปอย่าง เรามากคือ ร้านขายของที่ระลึก "A la champagne Shop&Gallery"่ ที่มีความคราฟท์ และความอินดี้สูงมาก เป็นที่ๆรวบรวมงานอาร์ตและของ Handmade น่ารักๆไว้ในที่เดียว

แถมแอบมีผลิตภัณฑ์ไทยๆสไตล์ออแกร์นิคขายด้วยนะ เราอินกับที่นี่มาก ๆ เดินดูได้ทั้งวัน เพลินกับการดูงานที่ละชิ้น

หยิบเซรามิกขึ้นมาดูที่ละอัน เหมือนเป็นแกลลอรี่ขนาดย่อมๆ ท่ามกลางหมู่บ้านชนบทที่มีชาวพื้นเมืองเอาผลงานมาแสดง

ก็ว่าได้

Ep2 : เมื่อเจ้าบ้านเอาน้ำชามาให้

เดินเพลินใน Shop ได้สักพัก เราก็โดนร่างกายประท้วงให้

หาอะไรเย็นๆดื่มซะแล้ว เดินออกมาจากซุ้มประตูไปอีกฝั่งของหมู่บ้าน

ก็จะเห็น Tea Factory&More โรงน้ำชาของเพื่อนบ้านตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า แทบไม่ต้องคิดเรารีบตรงดิ่งเข้าไปเลย แต่ยังไม่ทันได้ดื่มชา เราก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศซะแล้ว Glasshouse ท่ามกลางสวนสวย และอบอวลไปด้วยกลิ่นของชาหลากหลายชนิด

ที่น่าแปลกใจก็คือร้านของเพื่อนบ้านเรานี้ดันเป็นโรงน้ำชาที่ได้ไอเดียมาจากโรงงานชาในศรีลังกาซะงั้น แต่ก็ดีนะเหมือนเราเป็นคนตัวเล็กๆที่เดินข้ามโลกไปมาบนหน้าแผนที่ของหนังสือ Atlas

เราเลิกสนใจเรื่องนี้แล้วมาให้เวลากับเมนูชามากมายดีกว่า ที่กำแพงด้านหนึ่งของร้าน มีกล่องชามากมายเรียงรายอยู่ในตู้กระจกไม้ เหมือนเป็นวอลเปเปอร์ที่เก๋ไปอีกแบบ

ใบชาหอมๆถูกบรรจุในขวดแก้วสวยๆ ให้เราได้ลองทดสอบกลิ่น แต่เราว่ายิ่งดมยิ่งมึนเพราะเลือกไม่ได้สักทีว่าจะดื่มอันไหนดี

ขณะที่ดมกลิ่นชาอยู่ เรารู้สึกเหมือนโดนไอเย็นๆมาสะกิดแขน เมื่อหันไปมองมันคือถังน้ำแข็งที่ใส่ Cold Bottled tea หลากหลายชนิด นอนอวดสีสันในขวดสวยแข่งกันใหญ่ นี่ก็เป็นอีกซิกเนอจอร์ของโรงน้ำชาที่พลาดไม่ได้เหมือนกัน

หลังจากสาละวนกับชามาสักพัก เลยตัดสินใจได้ว่า ชิมมันทั้งร้อนทั้งเย็นซะเลย !

'Matcha Ike no Shiro' : อบอุ่น…ละมุน…นุ่มลึก

ชาเขียวแบบญี่ปุ๊น…ญี่ปุ่น ที่พี่สาวเพื่อนบ้านแสนใจดีชงให้ดูกันสดๆ จากผงมัทฉะสีเขียว

เทน้ำร้อนใส่ และตีๆๆ จนขึ้นฟองนุ่มๆละมุน เหมือนเป็นคาปูชิโน่ในสไตล์ชาๆก็คงไม่ผิดนัก

ขั้นตอนนี้เราขอข้าม เพราะน้ำหนักมือเรามันอาจกลายเป็นตีไข่เจียวได้ 55

'Matcha Ike no Shiro' พร้อมเสิร์ฟเเล้วค่ะ

เมื่อจิบเข้าไปคำแรก

อืมมมมมมมมมมมม ละมุนนนนนนนน มากกกกกกกก

สัมผัสแรกที่แตะลื้นคือ ความนุ่มของฟองชา และไม่ถึงวินาทีรสชาติและความหอมของชาก็มาทักทาย เหมือนไม่ให้พักคิดเรื่องอื่นได้แม้สักเสี้ยววินาทีเลยทีเดียว อารมณ์เหมือนชามันพูดกับเราว่า "ฉันคือนางเอกนะ เธอต้องสนใจฉันสิ" ต้องยอมใจจริงๆ ว่าเธอคือตัวชูโรงของโรงน้ำชาแห่งนี้เลย

อาจดูเว่อร์นะคะ55 เพราะเราคิดเองว่ามันต้องกินยากเเน่ๆ เลยเซอร์ไพรเบาๆ (หรอ!?)

'Dimbula Lemon tea'

หอมเย็น…สดชื่น…เปรี้ยวอมหวาน

ขอมาเติมความเย็นให้ร่างกายบ้าง กับชาเชื้อสายศรีลังกา 'ดิมบูล่า' ที่เพิ่มความเปรี้ยวและหอมสดชื่นด้วยเลม่อน เสิร์ฟมาในขวดเย็นเจี๊ยบ แค่เห็นก็สดชื่นแล้ว

เมื่อลองชิมดูก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบจากความสุขุมนุ่มลึกเมื่อครู่ กลายเป็นความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที

เมื่อดื่มชาจนหายอยากแล้ว เราขอเดินซนรอบๆร้านเสียหน่อย พี่สาวใจดีก็ไม่ว่าอะไรซะด้วย คงเพราะยุ่งอยู่กับการชงชาต้อนรับเพื่อนใหม่ ที่อยากมาชิมชาหอมๆ ใน Counter Bar แบบเปิดโล่งที่ตั้งเด่นอยู่กลางร้าน

อีกโซนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือโซน Glasshouse ที่ได้เห็นบรรยากาศสวนด้านนอกแบบ Panorama กันเลยที่เดียว แถมความโปร่งใสของกระจก ทำให้เรารู้สึกโล่งสบาย และอบอุ่นกับไอแดดดอ่อน ๆ

สุดท้ายนี้ เราขอลาไปกับบรรยากาศสวยๆหน้าโรงน้ำชาซักนิดละกัน ถ้าเพื่อนๆพอจะหาเวลาว่างๆหนีจากงานเเละเมืองที่เเสนวุ่นวาย เเต่งตัวเเละหนีออกมาเทียวสักแปปนึง ขอให้คิดถึงที่นี่เเล้วกันนะคะ...ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่า :)