Favorite of Fabruary ของดีของเด็ด ไปตำซะ !

47 26

สำหรับวันนี้แตจะมารีวิวของที่ใช้แล้วชอบประจำเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มาช้าไปหน่อยเพราะมัวแต่คิดว่าจะเลือกตัวไหนมารีวิวดี จนได้ 11 ชิ้น ที่โดนใจที่สุดแล้วมา

สำหรับสภาพผิวของแต เป็นคนที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้างบริเวณข้างจมูก มีสิวอุดตันเรื้อรังและขึ้นง่ายมาก ผิวโทนเหลืองออกไปทางสาวผิวสีน้ำผึ้งค่ะ

มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยนะคะ เริ่มที่สกินแคร์ก่อนเลย

1.Snail cream with aloevera หรือ ครีมเมือกหอยทาก

หาซื้อง่ายตามเซเว่น ราคาถูกมาก เพียง 39 บาท ตอนแรกไม่เคยสนใจครีมเซเว่นเลยค่ะ จนมีเพื่อนแนะนำมาว่าให้ลองใช้ดู สิวลดลงไปเยอะมาก เดิมเพื่อนก็เป็นคนที่มีสิวเยอะมากๆแต่หลังๆมานี้หน้าดูใส เรียบขึ้นเยอะ เลยลองซื้อมาใช้ตาม ผลปรากฎว่ามันดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สำหรับตัวนี้เคลมเรื่องรอยสิวและริ้วรอย ก็จริงตามคำเคลมค่ะ แตเป็นคนที่ชอบกดสิว รู้สึกได้ว่ารอยดำรอยแดงหายไวขึ้นมาก ส่วนเรื่องสิวอุดตันบริเวณหน้าผาก รู้สึกลดลงไปมาก ตัวครีมไม่ได้เคลมไว้ว่าช่วยเรื่องลดสิวนะคะ แต่รู้สึกเองหลังใช้ว่าสิวอุดตันลดลงจริงๆ ทั้งตัวแตเองและเพื่อนอีกสองคน เลิศจริงอะไรจริง ซื้อใช้ซ้ำมาเกิน 5-6 ซองและจะซื้อต่อไปค่ะ

เนื้อครีมดูไม่ครีมเลยค่ะ ออกไปทางเซรั่มมากกว่า เนื้อใสๆ ตบแล้วยืดๆตามConceptครีมหอยทากทั้งหลาย ในเรื่องของความชุ่มชื่นนี่น้อยมากค่ะ

2.Biotherm life plankton ( ฟรี )

ตัวนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก must have ของสาวๆจริงๆ ในเรื่องของราคาและสรรพคุณถือว่าคุ้มค่า ตัวนี้สำหรับนักศึกษาคงราคาสูงไปหน่อย ประมาณ 1,500+ บาท ใจจริงอยากได้มานานแต่ใจพร้อม เงินไม่พร้อมไงคะ โชคเข้าข้างเราแล้ว 5 ปีมานี้คุณผู้ชายเพิ่งเคยซื้อของขวัญวาเลนไทน์ชิ้นแรกให้เลยได้มาฟรีเป็นของขวัญวาเลนไทน์ค่ะ ฮิฮิ (สุขใจ สุขตังค์) ตัวนี้เคลมไว้ว่าให้ความชุ่มชื่น ลดความอักเสพของผิวและกระชับรูขุมขน ตามคำเคลมทุกประการเลยค่ะ หลังใช้งานได้ประมาณ 3 สัปดาห์กว่าๆ รู้สึกได้ว่าผิวดีขึ้นจริงๆ รูขุมขนบริเวณข้างจมูก กระชับขึ้นเล็กน้อย ผิวหน้าดูสว่างขึ้น ชุ่มชื่น สำหรับสาวผิวแห้งคงตอบโจทย์มากแต่เนื่องจากแตเป็นคนผิวมันเยี่ยงน้ำมันจากปาท่องโก๋ เลยใช้แค่ตอนกลางคืนวันละ 3 หยด หลังจากใช้ครีมหอยทาก เข้ากั๊นเข้ากัน

เคยตบ 2 หยดตอนเช้าไปเรียน เพื่อนทักกันใหญ่ว่าวันนี้หน้าโกล๊โกล์ ลุคเกาหลีหรอแก ได้แต่ยิ้มตอบแต่ในใจเราหน้ามันเว่ยแก หน้าเหนียวหนักจนอยากจะล้างหน้าเดี๋ยวนั้น T^T เพราะฉะนั้นไม่เหมาะกับสาวผิวมันในตอนเช้ามากๆค่ะ

เนื้อเซรั่มค่อนข้างหนืดๆ ชุ่มชื่น หนักหน้า เหมาะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายจะเวิร์คสุด กลิ่นหอมดีค่ะ ชอบ (ก็แน่ละ ใส่น้ำหอมมาแน่นขนาดนั้น)

3.Collection Makeup remover cleansing water (ราคา ประมาณ 300 บาท)

ตัวนี้ได้มาตอนเค้าโฆษณาหนักๆว่าซื้อ 1 แถม 1 และเป็นคนที่ชอบ Cleansing water อยู่แล้ว อีกทั้งยังถูก นักศึกษางบน้อยรีบไปสอยมาโดยไว ปรากฎว่าประทับใจมาก เทียบกับ Cleansing water ที่เคยใช้มา ตอนนี้ชอบตัวนี้มากที่สุด Bifesta Biore รู้สึกว่าหลังเช็ดทำความสะอาดทิ้งความเหนียวหน้าเอาไว้ ส่วน Bioderma ตัวยอดฮิตของสาวๆ ใช้แล้วรู้สึกเฉยๆมาก รู้สึกไม่สะอาด ต้องเช็ดจนแสบหน้า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะใช้ขวดสีชมพูไม่ตรงกับสภาพผิวหรือเปล่า ถ้ามีโอกาส ตังค์พอจะลองสูตรฝาเขียวสำหรับผิวมันดูแต่ตอนนี้เจ้า Collection ถูกใจ ถูกตังค์ จนไม่กล้านอกใจไปหาแบรนด์อื่นอีกเลย ใช้หมดไปแล้ว 1 ขวด ขวดที่ 2 นี้ใช้ไปแล้วครึ่งขวด หลังเช็ดทำความสะอาดไม่ทิ้งความเหนียวไว้ แต่ไม่เหมาะกับการนำไปเช็ดตา แสบพินาศโลกมาก แม้จะเคลมว่าอ่อนโยนด้วย Micellar Technology =_= หลังใช้คู่กับเจ้าครีมหอยทากมา สิวอุดตันเกลี้ยงมาก แทบไม่มีเลย มีประปรายเล็กน้อย ชอบมาก รักมาก ซื้อซ้ำแน่ๆ

4.Cussons baby oil ชวดสีเขียว (ราคาร้อยนิดๆ)

ได้มากจากโลตัส 1 แถม 1 ซื้อมาทาตัวค่ะเพราะเป็นคนตัวแห้ง ถ้าไม่ทาจะคันผิวมาก ให้ความชุ่มชื่นที่ผิวตัวได้ดีกว่าเบบี้ออยแต่ซึมยากกว่าเบบี้ออยมากและแตก็ใช้ตัวนี้เช็ดรอบดวงตาด้วยค่ะ เลิศมาก เหมือนเจอคนที่ใช่ หากันจนเจอ ปกติเวลาไปเรียน จะปัดมาสคาร่ากันน้ำไปเรียนเพราะหนังตามัน ถ้าไม่ปัดกันน้ำนี่เยิ้มเป็นแพนด้าจนเพื่อนกลัว ปกติก็จะใช้ eye remover ตลอด เมื่อก่อนชอบใช้ Maybelline clean express waterproof eye makeup remover ขวดสีชมพู แต่หลังๆในวัตสันไม่ค่อยเอามาขาย เลยเปลี่ยนใจมาใช้ Loreal eye and lip remover หลังจากดูพี่พิมพี่บิวตี้บล๊อคเกอร์ท่านหนึ่งใช้เบบี้ออยเช็ดรอบดวงตา ก็เลยลองใช้ดูบ้าง แบบว่าใช่ ดีมาก ออกง่าย สะอาด แถมช่วยบำรุงขนตาอีกเพราะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และให้ความชุ่มชื่น เลิศมาก ควรซื้อ

5.Biore UV color Control CC mile spf 50+ PA++++ (ราคา 200 ปลายๆ)

เหมาะกับสาวผิวมันเพราะทาแล้วแห้งเลย (แน่สิใส่แอลกอฮอล์มามากโข) ประหยัดเวลาในตอนเช้ามากแถมให้ความรู้สึกสบายผิว ใช้เป็นประจำทุกวันที่ไปเรียน เป็นทั้งกันแดดและเป็นCCในตัว ไม่ต้องทารองพื้นเพิ่มให้เปลืองเวลา ให้ความปกปิดเล็กน้อย หน้าสว่างขึ้น สำหรับแตคิดว่ามันโอเคแล้วแหละสำหรับไปเรียน ไม่ต้องแต่งเยอะมาก ทำอะไรเยอะมาก เราไปเรียนเว่ยแกร ในยุคที่รถติดขนาดนี้ ที่จอดรถหายากพอๆกับรักแท้ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องรีบตื่นและประโคมร่างให้ไวที่สุดเพื่อหลีกหนีการจราจรและได้มาซึ่งที่จอดรถ

6. Three diaphanous loose powder #02 (ราคาจำไม่ค่อยได้ ประมาณ 1,500-2,000 บาท)

ได้มาราคาถูกจากลาซาด้าค่ะ ใช้โค้ดลด ใจจริงอยากได้ป้าลอร่าเพราะเหมาะกับสาวผิวมันแต่พี่ชายแนะนำตัวนี้ พี่ๆบล๊อคเกอร์อีกหลายคนก็นิยมตัวนี้มาก จนตัดสินใจซื้อตัวนี้ ดีงาม ลูกแม่ ใช้ไม่เคยเปลี่ยน แป้งตัวอื่นคือเลิกใช้ไปเลย บางเบา ปกปิดเล็กน้อย ผิวดูสุขภาพดี ไม่ได้คุมมันแต่ก็ไม่ได้ทำให้มันเพิ่ม ตาข่ายของเค้าออกแบบมาดีรู้สึกว่าแป้งไม่ออกมาเยอะเกิน พัฟก็นุ่มแต่แตชอบใช้กับแปรงมากกว่า ให้ลุคที่บางกว่าเหมาะกับสาวนักศึกษา คือดีอะ ต้องซื้อนะ

7. Physicians formula spotless powder (ราคา 480 บาท)

แป้งหน้าเด็กวิ้งวาวจนคิดว่าปัดไฮไลต์แทนแป้ง สอยตามรีวิวมาค่ะ ใช้เติมระหว่างวัน ในวันที่จะออกไปไหนต่อหลังเลิกเรียน หน้าฉ่ำ สุขภาพดีมาก ไม่ได้ทำให้หน้ามันเพิ่มแต่ให้ลุคผิวฉ่ำ สุขภาพดี ชอบตรงที่สามารถทาทับเมคอัพได้เลยโดยไม่ต้องซับมัน ไม่ทำให้เกิดสิว ไม่มีสี แต่ก็อย่าโบกเยอะจนเกินงามนะคะเพราะหน้าจะวิ้งวาวเกินพอดี มีสตินะคะ

ซื้อให้พี่ชายเป็นของขวัญวันเกิด พี่ชายก็ประทับใจตัวนี้มาก พี่ชายเป็นคนที่บ้าความฉ่ำจนน่ากลัว ก็หลงรักตัวนี้มากๆ

8. Cosluxe slimbrow pencil #Caramel

ครั้งแรกที่ใช้ตัวนี้ไม่ประทับใจเลย รู้สึกว่าแข็ง หักง่าย หมดไวแต่พอกลับมาใช้อีกครั้ง ก็ชอบนะคะ ไม่รู้ว่าเค้าปรับปรุงสูตรหรือเปล่า รู้สึกว่าเนื้อนิ่มเขียนง่ายขึ้นและไม่หักง่ายเหมือนแต่ก่อน เส้นเล็กวาดโครงได้ง่าย โอเคเลยแต่แปรงแข็งไปหน่อย เบลนด์คิ้วแล้วเจ็บคิ้วเหลือเกิน ด้วยสีที่อ่อนก็ประทับใจอีก เทียบกับ Etude ชอบทั้งคู่พอๆกันแต่ Etude จะเส้นใหญ่กว่าและสีเข้มกว่ามาก สำหรับสีผมตอนนี้เลยประทับใจ Cosluxe จึงเลือกมาเป็นของโปรดประจำเดือนนี้แทนค่ะ

9. Mistine prolong bigeye mascara (ซื้อจากร้านขายส่งเครื่องสำอาง ราคา 60 บาท)

ราคาขึ้นอยู่กับสถานที่ซื้อเลยค่ะ ซื้อจากแคตตาล็อคมิสทีนก็ราคานึง ร้านขายส่งเครื่องสำอางแต่ละร้านก็ราคาไม่เท่ากัน บางร้าน 60 บางร้าน 100+ แต่ตัวนี้ได้มาจากหน้ามหาวิทยาลัยราคา 60 บาท ปลื้มมาก จำไม่ได้แล้วว่าใช้มากี่แท่ง ขนตาเด้ง ยาว ทน ไม่เลอะ แผ่ ดีงาม หลายคนทักว่าติดขนตาปลอมตลอดเพราะใช้ตัวนี้เลย ใช้ทุกวัน เปลี่ยนไม่ได้จริง ไม่กล้าตัดใจ ลองยี่ห้ออื่นๆที่นิยมๆกันก็ไม่ปลื้ม ไม่ประทับใจเท่าตัวนี้ Maybelline ที่ว่ากันน้ำก็เอาความมันไม่อยู่ Lancome hypnose ก็เลอะเทอะจนน่ากลัว กลับมาตายรัง Mistine ทุกที ควรค่านะคะ

10.Millionaire boyfriend perfume

ญาติซื้อกลับมาฝากจากอเมริกาค่ะ ใช้ทุกวันเลย กลิ่นหอมอ่อนๆแบบดอกไม้ขาวๆ มีติ่งวนิลลา แตเป็นคนที่แยกน้ำหอมไม่เป็น ไม่เซียน เลยอธิบายไม่ถูก แต่หอมใช้ทุกวันจริงๆ หมดจนหยดสุดท้าย เสียดายมาก ไม่รู้หาซื้อได้ที่ไหน อยากจะไปซื้อมาใช้อีก

*ใครรู้ที่ซื้อรบกวน comment บอกกันด้วยนะคะ

11. Maybelline lip touch of spice # 660 (ราคา pre-order ประมาณ 380 บาท)

ดูรีวิวตัวนี้ไว้นานแล้วเหมาะกับสาวผิวเข้ม คือดี แต่ไม่มีขายในไทย ต้องพรีเอา ราคาไม่แพงมาก แตพรีมาประมาณ 380 บาทมั้งคะ สีสวย ทาได้ทุกวัน ทาไปเรียนบ่อยมาก สีสวอทอาจจะดูเข้มไปแต่ทาออกมาจริงๆจะทาบางทาหนาก็สวยอะ เวลาทาไปเรียนก็จะทาบางๆหน่อย เป็นลิปสติกที่มีติดกระเป๋าตลอด ทาจนจะหมดแต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้แล้วเพราะกลัวหมดค่ะ รอหาพรีใหม่ให้ได้ก่อน มีสำรองไว้จะได้อุ่นใจ

ลิปตัวนี้เป็นเนื้อแมทที่ไม่แมท ออกจะเป็นเนื้อครีมมากกว่า ติดทนพอสมควร ไม่ทำให้ปากแห้ง

***ขออภัยแทรก profile ซ้ำสองอันค่ะ ลบไม่ได้ T^T

สำหรับการรีวิวของโปรดประจำเดือนกุมภาพันธ์ทั้ง 11 ชิ้นก็มีเพียงเท่านี้นะคะ มีคำถามหรืออยากติชมอะไรก็แสดงความเห็นกันได้ตามสะดวกเลย นี่เป็นรีวิวแรกของแต ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ทีนี่และรบกวนช่วยแนะนำด้วย


ktlila

ktlila

ktlila จะรีวิวทุกสิ่ง everything jingle bell อะไรว่าดีน้องก็ว่าดี อะไรว่าไม่ดีน้องก็จะไม่แกง

FULL PROFILE