กรุแตก Cushionกระจาย 15 ตัว!! รีวิวกันชัดๆหมดนี่ค่าาา ^^

81 23

สวัสดีค่าาวันนี้อีฟจะมาทลายกรุ Cushion ที่เคยลองใช้ค่ะ

อาจจะไม่ได้ hi-end มากนะค๊า เพราะว่ายังไม่ได้สอยค่า กลุ่มนั้นเค้าเพิ่งออกกัน แอบแพง

เราขอเก็บตังแปป 5555

เรามาทำความเข้าใจกันก่อน คือ Cushion เนี่ยเค้ามีมานานแล้ว มาจากดินแดนแห่งเครื่องสำอาง เกาหลีนั่นเองค่ะ แต่เพิ่งมาฮิตกันและหลายๆแบรนด์ ทั้ง Hi-end และ ไม่ Hi-end ก็พัฒนากันมาเรื่อยๆทยอยออกกันมา จนเป็นที่แพร่หลาย และฮิตสุดๆๆค่า

ตามความเข้าใจของอีฟ

Cushion มันก็คือรองพื้นรูปแบบหนึ่งที่อยู่ในฟองน้ำ ที่อยู่ในฟองน้ำเพราะจะช่วยกรองเนื้อรองพื้นให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมเวลาใช้ อยู่ในตลับ พกพาง่าย และมีพัฟที่ละเอียดมากๆมาให้ใช้คู่กัน ซึ่งเอาจริงๆมันก็คือ รองพื้น, BB Cream หรือ CC Cream นั่นแหละค่ะ

แต่เค้าจะทำเนื้อให้เหลวกว่า ซึ่งจะได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ และผิวดูฉ่ำน้ำ หน้าวาวใสเด้ง

ดังนั้นพวก Cushion จะไม่คุมมันเท่ารองพื้นเนื้อ matte ที่เป็นขวดๆปกตินะคะมันก็ได้ในระดับนึง

เท่าที่ Cushion จะทำได้

ก็อย่างว่าเกาหลีเค้าสร้างมาเพราะอากาศบ้านเค้าเย็นอะเนอะ ใครชอบความแน่น ความเป๊ะ full coverage หน้าไม่มัน ก็ใช้รองพื้นปกติดีกว่าค่า

ใครหน้ามันขั้นเทพ อยากใช้ Cushion ก็ใช้ได้เลยค่าา เราอาจจะต้องมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาคือ ทาเบสคุมมัน หรือ ซับมันและเติมระหว่างวันเอาค่ะ ซึ่งตลับของเค้าออกแบบมาให้เราพกพาไปไหนมาไหนได้และใช้งานง่ายค่ะ

หลายคนสงสัย ???

ใช้ Cushion ต้องใช้ครีมบำรุงมั้ย : ใช้ค่ะ ก่อนแต่งหน้าก็ทาครีมบำรุงตามปกติของเราอะเนอะ รอให้ซึมก่อนแล้วค่อยแต่งหน้า

ใช้ Cushion ต้องทาครีมกันแดดมั้ย : ถ้าเค้ามีค่า spf อยู่แล้วไม่ต้องก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครไม่มั่นใจจะทากันแดดของตัวเองลงไปก่อนก็ได้ แต่อย่าลืมว่า Cushion เค้าค่อนข้างเหลว เพราะฉะนั้นการทาอะไรลงไปเยอะๆก่อนแต่งหน้ามันก็จะไหลง่ายค่ะ ก็ควรเลือกเนื้อกันแดดที่แห้งไวนิดนึง

ใช้ Cushion ต้องทา Make up base อีกมั้ย : จริงๆไม่ต้องค่ะ เพราะเค้ารวมไว้ให้แล้ว แต่ว่าถ้าใครหน้ามันขั้นเทพจริงๆ ก็เบสคุมมันทาบางๆพอค่ะ เดี๋ยวจะไม่ฉ่ำ

ใช้ Cushion ต้องทาแป้งทับมั้ย : จริงๆเกาหลีเค้าไม่ทาทับค่ะ แต่ด้วยอากาศบ้านเรากับเกาหลี…. บ้านเรามันโคตะระจะร้อนเลย เพราะฉะนั้นทาไว้ไม่เสียหายค่า หน้าอาจจะไม่ได้ดูเปียกเหมือนสาวเกา แต่มันก็ช่วยพยุง Cushion ไว้ไม่ให้ไหลมากองรวมกัน อาจจะปัดบางๆก็พอค่ะ แต่ถ้าใครหน้าแห้งจริงๆ มั่นมากว่าไม่ไหล จะไม่ทาได้ค่า คือมันก็ขึ้นกับสภาพผิวอะเนอะ

แต่ส่วนตัวอีฟทาแป้งฝุ่นทับค่ะ เพราะเป็นคนหน้ามัน

ใช้ Cushion แล้วทาแป้งผสมรองพื้นทับได้มั้ย : ไม่แนะนำค่ะ เพราะจะหนาเกินไป เสี่ยงต่อการเป็นคราบและเสียดาย texture ผิวค่าา มันจะไม่ค่อยฉ่ำน้ำ จะกลายเป็นว่าเหมือนโบกหน้ามาหนาไป แต่จะทาก็ไม่ผิดค่ะ หรือใช้วิธีการปัดบางๆทั่วหน้าก็ได้ค่า เพิ่มความแน่น

ถ้าใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ถามมาได้น๊า จะพยายามตอบให้ ถ้าเค้ารู้ 555

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

โอเค ปูพื้นฐานกันเเล้วก็ เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะ

Before สภาพผิวของอีฟคือ คือเป็นสิว มีรอยกระนิดๆ รอยแดงเป็นจ้ำๆ รูขุมขนก็มีพอประมาณ

ที่คางก็เป็นสิวฮอร์โมน มากมายขยันขึ้น นี่ก็ขยันบีบ และผิวผสมค่ะมัน T-zone

พร้อมแล้ว มาดูกันแบบ Close up ที่หนังหน้าเลยค่าาา

อีฟจะเรียงตามตัวอักษรของแบรนด์ละกันนะคะ

เพราะทำไฟล์รูปมาตามชื่อแบรนด์จะได้ไม่งง ไม่ใช่อะไร 5555

1. AR Cosmetic CC Cushion spf50+ PA++

ตัวนี้เป็น CC นะคะ ซึ่งที่อีฟได้มาเป็นเบอร์ 1 มันจะขาวกว่าผิวอีฟไปหน่อย ก็อะแด๊บมาเป็นไฮไลท์แทนได้ค่า การปกปิดก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียวสำหรับ CC Cream ไม่ได้ full coverage แน่นขนาดนั้น ตัวนี้เน้นความผ่องค่ะ ใครชอบหน้าขาวๆผ่องๆจัดไป การคุมมัน กลางๆค่ะ

แต่ไม่เยิ้ม ไม่เป็นคราบ แต่ตัวนี้เค้าจะเซ็ทตัวช้านิดนึงน๊า ต้องรอหน่อย มี Spf 50+ PA++ ค่ะ

ราคาน่ารัก ไม่ถึง 200 บาท ใน 7-11 เท๊อออ!!

สรุป

สีเข้ากับผิว 3/ 5

ปกปิด 3.5/ 5

ฉ่ำวาว 4/ 5

คุมมัน 4/ 5

ติดทนนาน 4/ 5

มีกันแดด spf50+ PA++

ราคา ประมาณ 200 บาท!!!~

ของ Innisfree มี 2 ตัว

2. Innisfree Water Glow cushion

ตัวนี้ของ Innisfree เป็นเบอร์ 21 มันดูข๊าววขาว ขาวพอๆกับ AR เลย แต่ตัวนี้อมเหลืองกว่านิดนึง

รุ่นนี้ตามชื่อค่า Glow สมใจมาก คือด้วยความที่อีฟหน้ามัน ตกกลางวันเลยดูเมือกๆไปหน่อย ต้องซับมันและคอยเติม การปกปิด สามารถปกปิดรอยแดงได้โอเค แต่พวกรอยสิวหนักๆเอาไม่อยู่ มันจะเห็นเป็นดำๆ เพราะตอนกลางวันจะเริ่มหลุด แล้วรุ่นนี้ไม่คุมมัน ก็ไปใหญ่เลย 555 แต่ใครหน้าแห้ง ผิวดีๆ ชอบหน้าฉ่ำน้ำ บางๆใสๆ ตัวนี้เหมาะนะ มี spf50+ pa+++ ถือว่าสูงสุดเลยค่า

สรุป

สีเข้ากับผิว 3/ 5

ปกปิด 3/ 5

ฉ่ำวาว 5/ 5

คุมมัน 2.5/ 5

ติดทนนาน 3/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 900 บาท

3. Innisfree Long wear cushion spf50+ PA+++

ของ Innisfree เหมือนกันค่ะ เบอร์ 21 เหมือนกัน แต่คนละรุ่น ขอบอกว่าชอบรุ่นนี้มากกกก คือสีเป็นธรรมชาติ โทนเหลืองเข้ากับผิว ไม่วอก ตัวนี้ปกปิดดี อาจจะไม่ฉ่ำมาก แต่ตัวนี้อีฟว่าแน่นอยู่นะ นี่ไม่เข้าใจว่าทำไมสี 21 เหมือนกัน รุ่นนี้สีเข้ากับผิวกว่ามาก

แต่ตลับนี้อีฟฝากเพื่อนซื้อมาจากเกาหลีค่ะ เลยไม่แน่ใจว่ามันคนละล็อตหรือยังไง แต่เอาเป็นว่ารุ่นนี้อีฟใช้มา 3 ตลับแล้ว ตั้งแต่สมัยโน้นนน พรีเกาหลีมา ตัวนี้คุมมันโอเค ปิดดี สีเป็นธรรมชาติ มีกันแดด spf50+ PA+++ จ้า ใครหน้ามันรุ่นนี้โอเคเลย

สรุป

สีเข้ากับผิว 5/ 5

ปกปิด 5/ 5

ฉ่ำวาว 3/ 5

คุมมัน 4/ 5

ติดทนนาน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ต่อมาเป็นของ Laneige นะคะ

4. Laneige BB cushion [Anti-Aging] spf50+ PA+++

ของ Laneige รุ่น Anti-aging คือฉ่ำ เงา และ Glow มากกก เค้าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด คือจะเน้นปกปิด อำพรางริ้วรอย ช่วยให้ผิวที่แห้งกร้านดูมีน้ำมีนวลไรงี้ ก็นะ Anti-aging ตามชื่อเลย อีฟใช้สี21 คือสีเข้ากับผิวนะ อาจจะเข้มกว่าผิวอีฟไปนิสสสส มันก็เลยไม่ได้ผ่อง แต่ไม่วอก ไม่ลอย ไม่เทา ตัวนี้ไม่คุมมันนะคะ แต่ให้ Look ที่ฉ่ำ เงา วาว ปกปิดดี

ผิวดูสวยธรรมชาติอิ่มน้ำมากๆ คนหน้าแห้ง มีริ้วรอยเยอะๆลองไปเทสตัวนี้ดูค่ะ ฉ่ำน้ำแบบสาวเกาหลีแน่นอน

สรุป

สีเข้ากับผิว 4.5/ 5

ปกปิด 4.5/ 5

ฉ่ำวาว 5/ 5

คุมมัน 3/ 5

ติดทนนาน 4/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

5. Laneige BB cushion spf50+ PA+++

ตัวนี้เป็น Cushion รุ่นดั้งเดิม รุ่นปกติของ Laneige เบอร์ 21 เรื่องสีคือเค้าเน้นความเป็นสีผิวปกติ เหมือนตัวบน คือมันเข้มกว่าผิวอีฟไปนิสสสนึงอะ ระหว่างวันเจอแดดจัดๆเจอลมมีดรอปลงนิดหน่อย

มีความแน่นในตัว ปกปิดโอเค รุ่นนี้จะอยู่ตรงกลางจะไม่ได้คุมมันเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามัน

ผิวไม่ได้วาวเหมือนรุ่น Anti-aging ใครผิวปกติ ไม่อยากได้หน้าขาวลอย หรือผิวเข้มนิดนึงก็ใช้รุ่นนี้ได้ค่า

สรุป

สีเข้ากับผิว 4/ 5

ปกปิด 3.75/ 5

ฉ่ำวาว 3.5/ 5

คุมมัน 4/ 5

ติดทนนาน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

6. Laneige BB cushion [Pore Control] spf50+ PA+++

ตัวนี้อีฟใช้ประจำเพราะว่ามันเป็นรุ่น pore control ควบคุมความมัน อำพรางรูขุมนนั่นเองค่า

ตัวนี้จะไม่ฉ่ำเท่ารุ่นอื่นในตระกูลลาเนจ ลองเทียบกันกับรุ่น anti aging นะว่าหน้าไม่เปียกเท่า

ตัวนี้คุมมันได้ดี ปกปิดโอเคอยู่พอๆกัน เหมาะกับคนหน้ามันค่าา เรื่องสีเหมือนอีก 2 ตัวข้างบน

ถ้าอยากผ่องใช้แป้งที่ขาวกว่าผิวปัดทับหรือฟาดไฮไลท์เลยค่า (ชอบใช้ตัวนี้กับตัว Cushion highlighter)

สรุป

สีเข้ากับผิว 4/ 5

ปกปิด 4/ 5

ฉ่ำวาว 3.5/ 5

คุมมัน 4.5/ 5

ติดทนนาน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคาทั้ง 3 รุ่น ประมาณ 1500-1600 บาท + รีฟิล ค่ะ

7. Laneige Cushion Highlighter

ตัวนี้เป็นตัวพิเศษษษษษษษ!!! ยังไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไหนทำนะ คือจะเป็น Cushion ที่เป็น Highlight ถ้ายังฉ่ำไม่พอ ก็เอาคุชชั่นนี่ตบๆๆไปได้อีกค่าา ส่วนตัวชอบใช้ตัวนี้คู่กับ

รุ่น pore control มากๆ เพราะมันจะได้ผิวที่ดูฉ่ำกำลังดี ไม่ได้หน้าเมือก

และคุมมันไปในตัว ฮี่ๆๆ ในรูปจะเห็นว่ามันเงาสะท้อนแสงขึ้นมาตรงโหนกแก้มแบบกะลังงามเลยค่า

ราคาประมาณ 800-1000

8. Lavome cocoon cushion spf 50+ PA+++

สิ่งแรกที่รักตั้งแต่แรกพบคือ ตลับ น่ารักมากกก บริ๊งๆ บริงๆ คือน่ารักไปไหน น่ารักเกินบรรยายเหมาะกับชะนีแบบเรามากกก เรื่องประสิทธิภาพ ตัวนี้เค้าผสมรังไหม คือใช้แล้วเค้าจะบำรุงไปในตัว

สีจะไม่อมเหลืองมากมีติ่งอมชมพูนิดๆ แต่ไม่เทานะ หน้าขาวผ่อง ปกปิดดีและให้ความเป็นธรรมชาติ เนื้อฉ่ำๆอยู่นะตัวนี้ ได้ลุคสาวเกาหลีอยู่

อาจจะไม่ค่อยคุมมันเท่ากับตัวที่เค้าเน้นคุมมันอะนะ แต่ไม่ไหลเยิ้มค่า ^^ ทั้งวัน มันตรงจมูก และมีหน้าแก้มนิดๆค่า โดยรวมคือฉ่ำ คือมีความหน้าเด้ง คือไม่หลุดไม่เยิ้ม

สรุป

สีเข้ากับผิว 5/ 5

ปกปิด 4.5/ 5

ฉ่ำวาว 4/ 5

คุมมัน 3.75/ 5

ติดทน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 690 บาท

9. SISKA CC Magic Cushion spf50 PA+++

สำหรับ siska สีพอดีกับหน้าเลย ตัวนี้เป็น CC นะคะ จะเน้นงานผิวมากกว่าเน้นปกปิด จะเห็นว่าผิวดูเป็นธรรมชาติม๊ากกก แต่มันก็ปกปิดได้ระดับนึงนะ บางๆ ตัวนี้อาจจะฉ่ำน้อยหน่อย(หรืออีฟเปิดใช้นานแล้วไม่รู้ จำได้ว่าตอนเปิดใช้ใหม่ๆมันฉ่ำกว่านี้)

เอาเป็นว่าเค้าเน้นธรรมชาติ งานผิวๆ ไม่ดรอปไม่หมอง ใช้แล้วเหมือนผิวดีอยู่แล้วไรงี้

เรื่องคุมมันโอเคเลยนะได้ระดับนึง ไม่ได้มันเพิ่ม ไม่เยิ้ม อีฟว่าตัวนี้ทาแล้วสบายผิวมากๆเลย

สรุป

สีเข้ากับผิว 5/ 5

ปกปิด 3.75/ 5

ฉ่ำวาว 3/ 5

คุมมัน 4/ 5

ติดทนนาน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50 PA+++

ราคา 690 บาท

10. Sulwhasoo Perfecting Cushion Brightening spf50+ PA+++

Sulwhasoo คือให้งานผิวที่สวยงามมมมากกกก หน้าจริงคือผิวดูดีมากอะ ปกปิดดี ฉ่ำวาวแต่ไม่ได้ดูหน้าเปียก ในความรู้สึกอีฟว่ามันเหมือน BB Cream ข้อดีของแบรนด์นี้คือมีสีให้เลือกเยอะค่ะ อีฟใช้เบอร์ 17 สีพอดีผิวเลย ไม่เหลืองมาก ไม่ชมพูไป แต่ตัวนี้ไม่คุมมัน ถ้าร้อนมากๆเอาไม่อยู่ค่ะ แอบไหลเหมือนกัน เหมาะไว้ใช้ถ่ายงานให้ผิวดูสวยๆ 555 ทำงานออฟฟิศชิลๆแอร์เย็นๆ เดินห้าง ไปเดท กินข้าวไสยๆ ไรงี้ เพราะงานผิวมันดีงามจริงๆค่าา

ปล.ตลับน่ารักเพราะไปซื้ออาทิตย์วาเลนไทน์พอดี มีเพ้นท์ตลับให้ฟรีค่าา >_____<

สรุป

สีเข้ากับผิว 5/ 5

ปกปิด 5/ 5

ฉ่ำวาว 4/ 5

คุมมัน 3/ 5

ติดทนนาน 3.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 2100 บาท + รีฟิล

11. THE FACESHOP oil control water cushion spf50+ PA+++

ตัวนี้โด่งดังมากกก เพราะว่านางเป็นคุชชั่นที่เคลมว่าคุมมัน!! เหมาะกับผิวมันไรงี้

อีฟว่ามันก็เหมาะอยู่นะ คุมมันได้พอประมาณ พอๆกับ Laneige pore control นางคุมมันดังนั้นเรื่องฉ่ำวาวต้องทำใจนะ มันจะไม่ได้ลุคหน้าเงา แต่เรื่องการปกปิด คือมันก็ปกปิดได้ แต่ต้องตบๆหลายรอบหน่อย คือเนื้อมันมีความใสอยู่ในตัว รอยเบาๆปิดได้ แต่รอยหนักๆนี่ไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ หรือเราสิวเยอะเองไม่รู้ 555 ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันไม่ได้จะต้องเอางานเนี๊ยบมากก็โอเคค่ะ

สรุป

สีเข้ากับผิว 4.5/ 5

ปกปิด 3/ 5

ฉ่ำวาว 3/ 5

คุมมัน 4.5/ 5

ติดทนนาน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 649 บาท + รีฟิล (ไม่รู้ว่าหมดโปรฯ แถมรีฟิลไปรึยังนะคะ)

12. THE FACESHOP CC Cushion intense cover spf50+ PA+++

ตัวนี้เป็น CC Cream แต่เน้นปกปิดค่า!! ซึ่งปกติ CC จะเน้นปรับสีผิวเนอะ ตัวนี้ปกปิดได้โอเคเลยนะ ดูจากรอยแดงที่แก้ม และรอยสิวที่คาง และด้วยความเป็น CC ก็จะช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ และคือให้งานผิวที่ฉ่ำน้ำไปอีก ส่วนคุมมันสำหรับอีฟไม่คุมนะ แต่ไม่เยิ้มเท่าไหร่ค่ะ ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ แต่ว่าสีมันข๊าววขาว เบอร์ 21 เท่ากัน แต่ขาวกว่ารุ่น oil control ประมาณครึ่งเฉดค่า แต่อย่าเพิ่งตกใจ ทาไปแรกๆจะข๊าววขาว พอสักพักจะกลืนกับผิวมากขึ้นค่ะ แต่ก็ยังเน้นให้หน้าดูขาวอยู่ดี งง มั้ย 555 ดังนั้นใครชอบฉ่ำๆๆๆและปกปิดและหน้าขาว ก็ตัวนี้แหละดูจะเหมาะที่สุดละค่ะ

สรุป

สีเข้ากับผิว 4/ 5

ปกปิด 4.75/ 5

ฉ่ำวาว 4.5/ 5

คุมมัน 3/ 5

ติดทนนาน 3.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 649 บาท ไม่แน่ใจว่าแถมรีฟิลมั้ยนะ

13. THE FACESHOP CC ultra moist cishion spf50+ PA+++

แม่เจ้าพระคุณรุนช่อง!!! ใครมันมาสาดน้ำมันใส่หน้าอิชั้นนน โอ้ยยย อะไรมันจะเงา แวววาวทุกองศาขนาดนี้คะคุ๊ณณณณณ ยังกับมีหยดน้ำเกาะบนหน้า ลาเนจว่าเงาแล้ว ตัวนี้เงากว่า ใครผิวแห้งขั้นเทพ แห้งสุดใจ อยากให้หน้ามีน้ำมีนวล ชอบหน้าเปียกๆไปลองค่า

ตัวนี้ปกปิดดีด้วย แต่ว่าสีมันขาวไปหน่อยค่ะ เหมือนรุ่นบนอะแหละ เรื่องคุมมันขอโบกมือลาก่อยยย

ไม่คุมมันจ้า ก็ขยันซับมันเอาเนอะ

สรุป

สีเข้ากับผิว 4/ 5

ปกปิด 4.5/ 5

ฉ่ำวาว 5+/ 5

คุมมัน 2.75/ 5

ติดทนนาน 3.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 649 บาท ไม่แน่ใจว่าแถมรีฟิลมั้ย

14. The SAEM Eco soul spf50+ PA+++

เป็นยี่ห้องานเกาอีกเช่นเคย แต่ไม่ค่อยเห็นรีวิวเนอะ ตัวนี้ตอนแรกเปิดออกมาฟองน้ำที่ซับคุชชั่นจะขาวสะอาด เหมือนเป็นฟองน้ำสีขาวๆปกติ นี่ก็งงไปอีก พอเริ่มกดๆ เนื้อคุชชั่นถึงจะซึมออกมาค่า เหมือนเค้าเก็บคุชชั่นไว้ก่อนยังไม่ให้ซึมมาในฟองน้ำ และตัวนี้มีความพิเศษมากๆตรงที่ทาแล้วผิวจะเย็นค่ะ คือไม่ได้เย็นแบบเมนทอลซู่ซ่า

แต่จะทำให้ผิวลดอุณหภูมิลงประมาณนี้ ทาแล้วสบายผิวหน้ามากๆๆๆๆเลยค่า ตรงนี้ชอบมากเพราะยังไม่เคยเจอในยี่ห้ออื่น

แล้วก็เรื่องคุณภาพนี่โอเคเลย ไม่ดรอป ไม่หมอง หน้าผ่องดี ปกปิดดีงาม คุมมันเฉยๆน๊า แต่ไม่เมือก ถ้าร้อนมากๆก็ซับมันหน่อยก็ดีค่ะ

สรุป

สีเข้ากับผิว 5/ 5

ปกปิด 5/ 5

ฉ่ำวาว 4/ 5

คุมมัน 4/ 5

ติดทนนาน 4/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา 999 บาท

ตาลายกันแล้วใช่ปะ 5555 เขียนเองยังตาลายเอง ตัวสุดท้ายแล้วค่าาา

ตัวนี้เป็นตัวพิเศษที่เพิ่งได้มาแบบเซอไพรซ์สุดๆ ของมาส่งถึงหน้าบ้านเลยทีเดียวเชียว กรี๊ดมากกกก

15. MISSHA M MAGIC CUSHION spf50+ PA+++

ภาพแอบเยอะกว่าตัวอื่น จะให้ดูพัฟ มันน่าร๊ากกกกกกกกก

ตัวนี้เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ ได้มาแบบเซอร์ไพรซ์ ฮิๆ

(ดังนั้นภาพ Before จะต่างจากรูปอื่นเพราะถ่ายเมื่อวานค่า)

คือ Chsion ของ Missha รุ่นนี้เค้าจับมือกับ LINE มันก็คือคุชชั่นรุ่นปกติของ Missha อยู่แล้ว

แค่เอามาเปลี่ยนแพคเกจให้น่าร๊ากกกกมุ้งมิ้งๆอะเนอะ ความมุ้งมิ้งทำให้เราตาบอดเสมอ

หลับหูหลับตาว่าเรายังไม่เค๊ยยยไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน!!!

ซึ่งรุ่นหมีบราวน์จะคุมมัน(คือก็ไม่ได้แมท แต่เนื้อจะแห้งๆหน่อย)

และปกปิดดีกว่ารุ่นเป็ดแซลลี่นะคะ ถ้าใครผิวแห้งชอบความฉ่ำ จัดแซลลี่ค่ะ

สีของคุชชั่นตัวนี้จะออกขาวไม่เหลืองและไม่ชมพูมาก ใช้แล้วหน้าผ่อง ทาไปแล้วไม่หนึบหน้า

ค่อนข้างจะแห้ง

ไม่ได้ทำให้หน้าเปียกหรือหนึบหน้า ปกปิดดีหรืออาทิตย์นี้สิวเริ่มหายแล้วรึป่าวไม่รู้ - -'

แต่มันปกปิดดีอยู่ค่ะ

แล้วก็คุมมันได้โอเคเลยก็เนื้อมันแห้งอะเนอะ ทั้งวันก็มันแค่ตรงจมูก ตรงแก้มก็ดูวาวกำลังดีค่ะ

สรุป

สีเข้ากับผิว 5/ 5

ปกปิด 5/ 5

ฉ่ำวาว 3.75/ 5

คุมมัน 4.5/ 5

ติดทนนาน 4.5/ 5

มีกันแดด spf50+ PA+++

ราคา ประมาณ 700-800 บาท (ร้านพรีเกาหลี) + รีฟิล ค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

และนี่ก็คือ รีวิว รวมมิตร Cushion ถ้าถามว่าชอบตัวไหนมากที่สุด ตอบไม่ได้ค่ะ 55555

แต่ก็มีจะในดวงใจอยู่ ที่ชอบใช้วนไปวนมา

แต่มันขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นสภาพผิวเราเป็นแบบไหนอากาศเป็นยังไง

ถ้าวันไหนหน้าแห้ง บำรุงไม่ค่อยพอก็ชอบใช้ตัวฉ่ำๆ+คอนซิลเลอร์ปิดเฉพาะจุด

วันไหนอากาศร้อนก็เลือกตัวคุมมันมาใช้ เพราะฉะนั้นมีคุชชั่นหลายตลับ หลายสูตรได้ ไม่ผิด 555

รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอีฟเองล้วนๆค่ะ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย

ใครผิวแห้ง หน้าไม่ค่อยเป็นสิว ก็ไม่ต้องปกปิดมาก จัดตัวบางๆฉ่ำๆค่ะ

ใครผิวมันเหมือนอีฟ มีรอยสิว หรือหน้าแหก ก็ลองดูตัวที่คุมมัน ตัวที่ปกปิดดี

รีวิวในครั้งนี้พยายามให้มีทั้งข้อดีและข้อด้อย เพื่อให้เพื่อนๆได้ชั่งน้ำหนักดูนะว่าอะไรยังไง จะได้ดูตัวไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับเรา

มองหลายๆมุมและใช้วิจารณญาณในการอ่านนะค๊า อย่าลืมว่าสภาพผิวเราอาจจะแต่งต่างกันด้วยค่ะ

ยังไงก็ฝากกระทู้นี้ด้วยนะค๊า ตั้งใจทำมากๆเลย

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะค๊า บายค่า~

ด้วยรักจากใจ จ๊วบๆ


Evefeemakeup

Evefeemakeup

สวัสดีค่ะ อีฟนะคะ เปลี่ยน user มาจาก oopeve ค่ะ ^^
ขอฝากเนื้อฝากตัวกับเพื่อนๆทุกคนค่ะ


เพื่อนๆสามารถตามอีฟได้ที่ Fanpage,IG,Blog : Evefeemakeup ได้เหมือนเดิมนะคะ

ขอฝาก user ใหม่ด้วยน๊าใครที่ตามอันเก่ามาตามอันนี้แทนนะคะ ขอบคุณค่า

FULL PROFILE