BEST OF MINE; Favourite ใช้ชอบ ใช้ดีและใช้ต่อแน่นอน!

สวัสดีค่ะ^^ วันนี้จะมารีวิวเครื่องสำอางค์และสกินแคร์ที่เราได้ใช้ในปีที่แล้วและเดือนมกราคมในปีนี้ค่ะ โดยทุกผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกมาลงจะเป็นตัวที่เราประทับใจในผลหลังการใช้มากที่สุดค่ะ

เราจะแยกเป็นหมวดในการรีวิวดังนี้นะคะ

- หมวดบำรุง

- หมวดเครื่องสำอางค์:ผิว

- หมวดเครื่องสำอางค์: เฉพาะจุด

- Makeup Setting

เริ่มต้นด้วยหมวดบำรุงกันเลยนะคะ ซึ่งเป็นหมวดที่มีความสำคัญมากๆ ในแรกๆที่เริ่มแต่งหน้า ดูแลตัวเอง เรามีความคิดผิดๆที่ว่า การแต่งหน้าคือการประโคมเมคอัพมาใส่บนหน้าของเรา รอยสิว รอยแดงอะไรต่างๆ ใช้รองพื้นและคอนซีลเลอร์กลบหมด แต่จนถึงจุดนึงคือ(คิดได้ช้ามาก) แทนที่เราจะแต่งหน้าหนาๆ เปลียนเป็นมาดูแลผิวให้สวยจากภายในดีกว่าเนาะ แหะๆ

ตัวแรกเป็นอายครีมค่ะ Himalaya Herbals Under Eye Cream

เนื่องจากเราเป็นภูมิแพ้และนอนดึกมาก ใต้ตาเลยแพนด้ามากๆค่ะ จึงไม่น่ามีอายครีมตัวไหนที่จะแก้ได้เลย TT เพราะเราลองอายครีมมาหลายตัวแล้ว ที่จะช่วยได้คือให้รอบตาชุ่มชื่นขึ้นเท่านั้นค่ะ เพื่อจะได้เป็นฐานที่ดีทำให้เวลาทาคอนซีลเลอร์จะได้ไม่ตกร่องและไม่เป็นคราบค่ะ ซึ่งตัวนี้สำหรับเรามันคุ้มค่ามากๆ เพราะมันไม่แพงด้วยค่ะ

ตัวถัดมาเป็น FRACORA "Placenta Extract"

เป็นสารสกัดรกหมูค่ะ ตัวนี้ซื้อตามพี่บล๊อกเกอร์คนนึงค่ะ รวมทั้งเห็นรีวิวหลายคนเลยก็เลยสบโอกาสตอนมันลดราคาแบบครึ่งนึงเลยค่ะ เลยลองซื้อมาใช้ ปรากฎว่า ใช้แล้วผิวนุ่มขึ้นทันทีที่ใช้ และผิวเริ่มกระจ่างใสขึ้นนิดหน่อยค่ะ และเหมือนมันจะเร่งให้การทำงานของผลิตภัณฑ์ตัวถัดไปทำงานได้ดีขึ้น ขั้นตอนการใช้คือพอล้างหน้าเสร็จแล้วเช็ดหน้าให้แห้งก่อนแล้วนำตัวนี้มาหยดใส่มือ2-3หยดแล้วตบเบาๆบนใบหน้าค่ะ

สองตัวที่เรากำลังจะพูดถึงตัวเนื้อครึมที่ข้นขึ้นมาหน่อยค่ะ ใช้หลังจากตัวรกหมู

- LANEIGE "White Plus Revew Original Cream"

ตัวนี้ลองซื้อมาจากในเว็บเครื่องสำอางค์ค่ะเนื่องจากอยากได้ครีมบำรุงตัวใหม่ๆมาลองบ้าง ปรากฎว่าหลังจากใช้แล้ว หน้านุ่มมากค่ะ (อันนี้ใช้ก่อนจะได้ตัวรกหมูมาค่ะ) ผิวก็ใสขึ้นด้วย แพ็คเกจดี แข็งแรงมากค่ะ

-Biotherm "Aquasource"

เป็นตัวเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวค่ะ เหมาะสำหรับคนผิวมันที่ผิวขาดน้ำค่ะ เนื้อเป็นเจลใสๆ พอทาแล้วซึมเร็วมากๆค่ะ

มาถึงตัวบำรุงฝีปากแล้วค่า ฮี่ฮี่

ตัวแรกนี่ดังมาก คนฮิตกันมากค่ะแต่เราพึ่งได้ลองใช้ไม่นาน นั่นก็คือ Lucas' Papaw Ointment

เป็นบาล์มสารพัดประโยชน์จากออสเตเลียค่ะ ส่วนใหญ่เราก็เอามาใช้ทาก่อนทาลิปสติคแบบแมตต์ค่ะเพราะเราปากแห้งมาก พอทาแล้วจะทำให้ทาลิปง่ายขึ้นและไม่ตกร่อง ใช้ทีละนิดเดียวเองค่ะ หลอดใหญ่มากกกก ใช้ได้อีกนานเลย คุณสมบัติคล้ายๆวาสลีนเลยค่ะ แต่เราชอบตัวนี้มากกว่านะคะ มันไม่ค่อยมันจนเกินไปเวลาทา

ตัวที่สองในตัวบำรุงริมฝีปากคือ LANEIGE "Lip sleeping mask" ค่ะ

สามารถใช้ได้สองแบบค่ะ คือ 1. บำรุงขั้นลึก คือใช้ช้อนตักตัวมาส์กมาโปะบนปาก 2.บำรุงทั่วไป คือใช้นิ้วแตะมาทาบางๆค่ะ แต่ส่วนใหญ่เราจะทำแบบหลังมากกว่าค่ะ เพราะเท่านี้ก็บำรุงได้ดีมากๆแล้วค่ะ โดยเฉพาะเราที่เป็นคนปากแห้งมากกกกก เป็นขุยมาก เพราะดื่มน้ำน้อย ทาตัวนี้ตอนกลางคืนตื่นมาคือปากเรียบ ขุยหายค่ะ ปกติเราจะใช้Lucas' Papawตอนกลางวันและตัวนี้ตอนกลางคืน

มาถึงหมวดเครื่องสำอางค์ในส่วนของผิวกันแล้ว เย้เย้

ตัวแรกคือ A'PIEU "Start up Primer" สูตรรูขุมขนค่ะ

ตัวนี้ไม่ค่อยคุ้นตากันใช่มั้ยคะ เราก็พึ่งรู้จักไม่นานค่ะหลังจากไปส่องเว็บของแบรนด์ A'PIEU (แบรนด์เกาหลีที่คนจะรู้จักในตัวคูชั่นมากกว่า) แล้วสะดุดตาตรงที่ว่า เจ้าตัวนี้ได้การันตีจากรายการ Get it beauty รายการชื่อดังของเกาหลีเลยนะคะคู้ณณ หลังจากที่ทำการศึกษาและอ่านรีวิว ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อเจ้าตัวนี้มาลองค่ะ โดยที่ราคาไม่แพงเลย เราเห็นร้านหิ้วในไทยราคาประมาณ4-5ร้อยเท่านั้นเลยค่ะ แต่คุ้มค่ามาก เพราะหลอดใหญ่และปริมาณเยอะมากค่ะ ไม่รู้ปีนี้จะใช้หมดมั้ยเนี่ย 5555555 ในเรื่องของการคุมมันทำได้ดีในระดับนึงเลยนะคะ ตัวนี้เป็นสูตรporeที่ช่วยเรื่องพลางรูขุมขนค่ะ ซึ่งเราว่ามันดีมากๆเลย

Primerอีกตัวค่ะ Illamasqua "Matte Veil"

เราเป็นคนที่ถ้าจะลงทุนกับเครื่องสำอางค์แพงๆซักตัว ถึงแม้จะมีรีวิวว่ามันดีแค่ไหน แต่ต้องลองซื้อไซส์ทดลองมาลองใช้ก่อนค่ะ ไม่เช่นนั้นจะพัง(ทางการเงิน)เอาได้ค่ะ 5555555 เพราะถ้าได้มาแล้วไม่เหมาะกับเรา มันจะเสียเปล่า

ตัวนี้เราได้มาลองตอนเว็บนึงมีโปร1แถม1ค่ะ ก็เลยจัดมาลองซะเลย เราลองใช้ในวันที่คิดว่าจะต้องลุยหน่อยๆ แต่ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ เอาอยู่มากๆ คุมความมันได้ดีมากๆค่ะ ชอบมากเลย ถ้าที่มีอยู่หมดแล้วคิดว่าจะไปซื้อไซส์จริงๆมาใช้แน่ๆค่ะ

A'PEIU - AIR FIT Cushion spf50+/PA+++

คูชั่นตัวดังจากA'PEIUค่ะ เราซื้อมาลองพร้อมกับตัวprimerด้านบน หลังจากลองใช้แล้วชอบมากๆค่ะ ให้การปกปิดในระดับนึงแต่เบาบางค่ะ เราจะเอาไว้ใช้ในวันที่ต้องการงานผิว และที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลยค่ะ ร้านหิ้วนี่300กว่าเอง คุ้มค่าแก่การลองมากค่ะ

INNISFREE "No-Sebum Mineral Powder"

แป้งฝุ่นคุมมันจากแบรนด์เกาหลี Innisfreeค่ะ

สืบจากแป้งฝุ่นที่ใช้อยู่หมดเลยต้องหาของมาแทนค่ะ และตัวนี้ก็เห็นรีวิวหลายคน และราคาก็รับได้เลยลองซื้อมาจากช้อปที่สยามค่ะ เราใช้ลงหลังจากลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์เพื่อเซตผิวค่ะ และนอกจากจะใช้บนผิวหน้าแล้ว วันไหนที่ตรงโคนผมเรามันๆ เราก็เขย่าแป้งมาใส่ฝ่ามือแล้วมาลูบๆตัวโคนผมค่ะ หายมันเลย ดีมากๆ เลิฟมากค่ะ

Babalah "UV 2 Way SPF20"

แป้งผสมรองพื้นที่มีชื่ออีกตัวค่ะ ตัวนี้ใช้ตามคุณแม่เลย เพราะทาแล้วผิวมันผ่องมาก เด้งมากค่ะ แต่ไม่โบ๊ะนะคะ ถูกใจทั้งแม่ทั้งลูกเลย ใช้มาตลับที่2แล้วค่ะ ตลับนึงใช้ได้นานมาก บางวันเราเอาไว้ตบเบาๆหลังจากแต่งหน้าเสร็จเพื่อเซทอีกที และทำให้หน้านวลๆค่ะ

มาถึงหมวดเครื่องสำอางค์เฉพาะจุดกันบ้าง

ตัวแรกที่เราจะพูดถึงคือ The Balm "Mary-Lou Manizer"

ตัวนี้เราฝากพี่ที่อยู่เมกาซื้อมาฝากค่ะ เนื่องจากที่นู่นลดราคาอย่างหนักหน่วงมากเราเลยลองซื้อมาใช้ดูค่ะ ตัวนี้ต้องปาดนิดเดียวจริงๆค่ะ คือมันติดขึ้นมาเยอะมาก ตอนนี้ใช้มาเกือบปีแล้วยังไม่พร่องไปเลย ขนาดแต่งหน้าแทบทุกวันอ่ะค่ะ รู้สึกเสียดายของมากๆ 5555555555 ไม่รู้จะหมดเมื่อไหร่ แต่ถ้าหมดซื้อต่อแน่ๆค่า

Cathy Doll "8.2 Seconds Fall in love Eyeshadow"

อายชาโดว์ราคาถูกจาก Cathy Doll ร้านคาร์มาร์ทค่ะ เราได้มาลองตอนที่มันลดราคา เราจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นซื้อมาเท่าไหร่ แต่ราคาปกติคือ 89บาทค่ะ ถูกมากเลย และคุณภาพไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ กลิตเตอร์ละเลียดและติดทนมากค่ะ

TOO FACED "Natural Eyes" Palette

พาเลตต์แต่งตาจาก Too Facedค่ะ เป็นโทนที่สามารถแต่งได้ทุกวัน ส่วนตัวเราชอบสไตล์นี้อยู่แล้วค่ะ ทั้งวันไปเที่ยว วันไปงาน และไปเรียน ตัวนี้เอาอยู่หมดค่ะ เพราะเราเวลาแต่งหน้าไม่ค่อยแต่งตาเยอะเท่าไหร่ รวมทั้งสีน้ำตาลในนี้เราก็เอามาเขียนคิ้ว เชดดิ้งด้วยค่ะ ใช้ดีมั่ก

PASSION VILLE "Cream Blush on the road!"

ครีมบลัชจากแบรนด์ไทย คุณภาพเกินราคาค่ะ แต่เสียดายที่เราซื้อมาสีอ่อนสำหรับตัวเองไปหน่อย มันเลยค่อนข้างเกือบกลินไปกับผิว แต่ก็ยังใช้บ่อยอยู่ดีค่ะ 55555555 ตัวนี้420บาท

Beauty People

"Bubble GGum Volume Curl Mascara"

มาสคาร่ากาวเหนียวหนึบจากแบรนด์เกาหลี ขนตางอนเด้ง ติดทน กันน้ำ ที่สำคัญคือชอบแพ็คเกจมากค่ะ แฮ่

ไลน์ถัดมาเป็นอายไลเนอร์ค่ะ

ตัวแรกเป็นอายไลน์เนอร์เนื้อครีมจาก Etude ตัวนี้ใช้มาแท่งที่สองแล้วค่ะ ใช้แล้วธรรมชาติมากๆค่ะ สามารถเกลี่ยนให้มันดูฟุ้งๆได้ค่ะ

ตัวที่สองเป็นอายไลน์เนอร์เมจิคจากแบรนด์ไทยอย่าง Mistine ค่ะ ใช้ตามคุณแม่อีกแล้ว 5555555

เขียนง่าย เส้นคมชัด และสีดำมากกกกค่ะ ในรูปดูเส้นไม่คมเพราะตอนปิดฝาเราไม่ระวังค่ะ ตัวปลายปากกาเลยบิ่นๆแหกๆ

มาถึงลิปกันแล้ววววววววววววว

เซ็ทแรกจะเป็นลิปมีสี ลิปแมตต์ ประมาณนี้ค่ะ โทนที่เราใช้ก็จะมีแต่สีชมพูค่ะ

ตัวแรกเป็น Cathy Doll - Lip Blur #1 Cute Brick

ตัวนี้ได้มาลองตอนไปลองที่ร้านแล้วชอบมากค่ะ

แต่เอามาใช้จริงแล้วคือไม่ใช่สไตล์เพราะมันกลบสีปากและร่องบนริมฝีปากได้มิดมากๆค่ะ ซึ่งเราไม่ค่อยชอบ 555555 มันทึบเกินไป แต่เอาไว้ใช้ในวันที่ต้องไปงานและแต่งหน้าแบบจัดเต็มค่ะ

3CE Drawing pen

ตัวนี้นี่ฮิตมากกกในช่วงนี้เนอะ ตอนแรกเราก็ตกใจว่าทำไมมันฮิตขนาดนี้ เพราะส่วนตัวเป็นแฟนคลับแบรนด์นี้อยู่แล้วค่ะ ก็เลยสั่งแบบแยกแท่งมาเพราะสีอื่นเราไม่ได้ใช้แน่ๆ 55555555 ตอนแรกที่มีคนบอกว่าไม่ดีงู้นงี้เราก็ใจเริ่มเสีย ว่าอ่าว เนื้อมันไม่เหมือนกับรุ่นก่อนๆที่เรามีหรอ เพราะมันใช้ดีมากๆค่ะ พอได้ของมาปรากฎว่ามันไม่ได้แย่แบบที่เค้าพูดกันเลยค่ะ เนื้อครีมมี่ เขียนง่าย แห้งเป็นปกติเพราะเป็นลิปแมตต์ค่ะ ก่อนใช้เราก็ทาตัวLucas' Papaw

#Willowy ชมพูส้มๆ นู้ดๆ เราใช้วันไปเรียนค่ะ ธรรมชาติมากๆ

#Beware ตัวนี้เราทาแล้วยิ่งปากม่วงไปใหญ่ เลยเอาไว้ใช้เบลด์ข้างในแทนค่ะ

Wet n Wild

สาวๆทุกคนต้องมีติดบ้านเลยนะคะแบรนด์นี้เนี่ย ปกติเราชอบใช้ Just Peachy ทาทั่วตรงกึ่งกลางปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยนให้เป็นธรรมชาติค่ะ แล้วใช้ Rose-bud ทาข้างในเพื่อเบลนด์สี

4U2 - Lipaholic #no.16 MayyR

ลิปดีราคาถูกอีกแบรนด์ค่ะ เป็นสีที่ชอบมากกกก ทาแล้วสวยมากกก สดใส และeveryday lookมากๆค่ะ ตอนแรกไปหาซื้อนี่ไม่มีของเลยซักร้าน ใจเสียมาก เพราะเป็นรุ่นของพี่เมอาร์ด้วย แล้วก็มันเป็นโทนที่ชอบด้วยอ่ะค่ะ แต่สุดท้ายก็ได้มา เป็นลิปที่ต้องมีติดกระเป๋าไว้ตลอดเลยค่ะ วันไหนไม่รู้จะทาตัวไหน ตัวนี้จัดไปตลอด แนะนำมากๆค่ะ

MAC - Sheen Supreme Lipgloss Tint

กลอสสีน่ารักจากMACค่ะ เราชอบมากๆๆๆๆๆๆ สีน่ารักมาก แถมยังติดทนดีมากๆด้วยค่ะ กินอะไรก็ไม่หลุด มีสีเบาๆด้วยค่ะ ทำให้บางครั้งไม่ทาลิปก็รอด เพราะเราปากซีดค่ะ

Maybelline - Candy Wow

ตัวนี้เราสนใจตั้งแต่มันออกเลยค่ะ เพราะอยากได้ลิปมันที่มีสีหน่อยๆ ทำให้ปากไม่แห้ง และดูชุ่มชื้น ซึ่งตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ระดับนึงค่ะ เสียตรงที่ค่อนข้างต้องเติมบ่อยเหมือนกัน แต่รับได้ค่ะ สมราคา

#Rasberry ชมพูใสๆ หอมกลิ่นราสเบอร์รี่

#Orange ส้มสดใส

สุดท้ายเป็นส่วนของ Makeup Setting ค่ะ คือการทำให้เครื่องสำอางค์ทั้งหลายที่เราแต่งไปอยู่กับเราให้นานนานนนนนนน 55555555555

ตัวแรก สำคัญเลยนะคะสำหรับสาวๆ งานคิ้วค่ะ

DAISO - Eye brown Coat

ได้มาจากไดโซะค่ะ ใช้ทาบางๆหลังจากเขียนคิ้วแล้ว มันจะทำให้ไม่เลือนค่ะ แถมยังกันน้ำได้ด้วย เราลองใช้ตอนรับน้องและไปเล่นน้ำทะเลแล้วค่ะ โดยน้ำราดใสหัวโคร่มๆ หน้าส่วนอื่นไปแต่คิ้วยังอยู่ค่ะ คือปลื้มมาก T^T คือมันก็มีจางนะคะ แต่ไม่ใช่แบบเวลาปกติที่เราไม่ใช้เจ้าตัวนี้อ่ะค่ะ มันดีมากๆๆจริงเลยนะคะ แนะนำมากกกก

สุดท้ายแล้วค่า

URBAN DECAY - All nighter Makeup Setting Spray"

สเปรย์เซ็ทเครื่องสำอางค์จาก Urban Decayค่ะ เราลองใช้ตามพี่ที่รู้จัก ปรากฎว่าใช้ดีมากกกกก สูตรนี้เหมาะาำหรับคนที่ต้องการการควบคุม(?)พิเศษหรือคนผิวมันนะคะ เราจะฉีดหลังจากแต่งหน้าในวันที่รู้ว่าจะเจองานลุย งานเหงื่อท่วมค่ะ เจ้าตัวนี้จะรักษาเมคอัพบนหน้าเราได้ดีเลยค่ะ เราลองใช้มาหลายงานเลย ไซส์นี้เป็นขนาดเดินทางนะคะ ซึ่งเราก็ว่ามันใหญ่แล้วนะคะ ไซส์จริงคือ จะใช้หมดเมื่อไหร่ 5555555555

จบแล้วนะคะสำหรับการรีวิวของที่เราใช้แล้วชอบ ผิดพลาดประการใดขออภัยมาล่วงหน้าด้วยนะคะ ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจค่ะ^^