How to-แต่งหน้าเขาให้เป็นเธอ ไปเดทวันวาเลนไทน์ ด้วยลุค valentine’s night out – ตาโต ผิวกริบ ผิวโกลว

นี่เป็นกระทู้ How to แรกของเท็ดดี้นะคะ ปกติได้แต่แต่งหน้าคนอื่น วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจ เลยอยากมาลองสอนสาวๆ แต่งหน้า หรือ หนุ่มอยากสาว ไว้ลองแต่งตามกันก็ได้นะคะ ลุคนี้จะเน้นตาโต คม ขนตาฟุ้งๆ โชว์ผิว หน้าโกลว ปากสีธรรมชาติค่ะ

Product ที่ใช้จะคละๆกันไป มีทั้งถูกและแพง แต่ทุกตัวคือคุณภาพโอเค เท็ดดี้ลองใช้กับตัวเองแล้วเวิคค่ะ โดยจะใช้และบอกสรรพคุณไปพร้อมๆกัน ...Let's get started ค่ะ

• อันดับแรกเตรียมผิวโดยล้างหน้าให้สะอาด กันคิ้ว โกนหนวด ให้เรียบร้อย จากนั้นลงครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง และลงลิปมันบำรุงปากค่ะ ตอนหลังทาลิปแล้วปากจะได้ไม่เป็นขุยนะคะ

• หลังจากนั้นลง Primer ค่ะ ลงหลังกันแดดก่อนรองพื้น ขอย้ำว่าสำคัญนะ เค้าจะช่วยควบคุมความมัน อำพรางรูขุมขน ช่วยให้เกลี่ยรองพื้นง่ายและติดทนค่ะ

เท็ดใช้ "L'oreal TRUEMATCH Blur cream" – ตัวนี้ชอบ ราคาน่ารัก ทาแล้วผิวลื่น รูขุมขนจากปกติรถสิบล้อเข้าไปยังเหลือที่ให้กลับรถ แล้วยังหลงเลยคร้า พอทาแล้ว เหลือรถตุ๊กๆพอ

• ต่อไปคือการลงรองพื้นค่ะ เท็ดใช้ "Covermark Foundation Flawless Fit" สี N3 ตัวนี้เป็น new item ที่หลงรัก หลังจากที่เห็น blogger ของญี่ปุ่น และไทย รีวิวและอวดอ้างสรรพคุณกัน เลยไปสอยมาลองบ้าง ชอบที่มันมาในรูปแบบตลับ ทำให้พกง่าย ไม่หนัก ไม่ต้องกลัวเลอะเทอะ

เวลาทาใช้แต่น้อย โดยใช้ฟองน้ำที่ให้มาแตะรองพื้นเบาๆลากปาด เหมือนปาดเค้กค่ะ คุณคะ! คือมันดีมาก ฟองน้ำไม่กินเนื้อรองพื้น รูขุมขนจางหาย จุดด่างดำก็หาย ในขณะที่ยังโชว์ผิว รู้สึกสบายผิว ไม่หนัก ไม่มัน แต่ให้ลุคโกลว์เบาๆ ดูผิวอิ่มน้ำ เท็ดใช้ตัวเดียวทั่วหน้า แทนการใช้ concealer ค่ะ โดยตรงไหนที่ยังปิดไม่มิด ก็ใช้ฟองน้ำแต้มเอาเฉพาะจุดค่ะ

**ที่พีคคือแต่งไปงานปาร์ตี้ Dance กระจาย กลับบ้านมาหน้ายังกริบมากค่ะ

• อยากละมุนนี ( แปลว่า เนียนเหมือนผู้หญิง ) ต้องจมูกเรียว หน้าผากนูน คางเด้ง ถ้าแม่หรือหมอไม่ได้ให้มา งาน Hi-Light ต้องมาค่ะ เท็ดดี้ใช้ LIFEFORD PERFECT HILIGHT เป็นรูปแบบเนื้อครีม ใช้แปรงหรือนิ้วทาช่วงกลางหน้าผาก สันจมูก กระจับปาก และคางค่ะ

ตัวนี้จะช่วยให้หนังหน้าเราแลดูมีมิติค่ะ เวลาแต้มลงบนผิวจะดูขาวมาก นี่เป็นสาเหตที่ทำให้ผู้หญิงไทยไม่กล้าใช้กัน แต่เชื่อเท็ดดี้ หลังจากทาแล้วใช้แปรงหรือฟองน้ำ blend แล้ว มันจะดูสวยกลืนไปกับผิวค่ะ

• เนื่องด้วยเท็ดเป็นคนผิวค่อนข้างมันง่าย จึงลงแป้งฝุ่น รุ่นเดียวกับรองพื้น "Covermark Sheer Powder Flawless Fit" เพื่อนๆคงสงสัยว่า Sheer powder กับ Loose powder ต่างกันอย่างไร?

ต่างที่ Sheer powder จะให้ลุคโกลว เนื่องจากมี shimmer เล็กๆช่วยกระจายแสง ให้หน้าดูมีมิติ โกลว ผ่องแพ้วเป็นยองไย แต่ไม่ทำให้ดูมัน

ในขณะที่ Loose powder จะให้ลุค Matte หน้าจะแลดูมีมิติน้อยกว่า หลังทาแล้วอันนี้ต้องยอมรับ ว่าเนื้อแป้งละเอียดมากกกกก โปร่งแสง ดูฉ่ำ สุขภาพดี และที่สำคัญคุมมันได้ดีทีเดียว เจ้าแม่แป้ง LauraMecier มีหนาวนะคะงานนี้

• ต่อไปมาที่งานตาค่ะ เพื่อนสังเกตไหมว่าทำไมแต่งตาใช้ eye shadow ยี่ห้อและสีตาม blogger แต่ทายังไงสีก็ไม่ติด ไม่ชัด เพราะว่าเพื่อนๆไม่ได้ลง Eye base หรือ Eye Primer ถูกไหม? ลองใช้ดูนะคะ จะได้เลิกบ่น

เท็ดดี้ใช้ " Revlon PHOTOREADY Eye Primer" ทาไปทั่วๆเปบือกตา จนถึงโหนกคิ้วเลยค่ะ ตัวนี้ใช้ดี ราคาไม่แพง ทำให้สี eye shadow ชัด และไม่หลุดร่อนทั้งวันค่ะ แอบเบื่อเวลาหมุนเยอะไป แล้วมันออกมาเยอะ เสียดายค่ะ พูดเลย!

• Eye shadow ที่ใช้ทั้งหมดวันนี้คือ Urban Decay NAKED3 พาเลตที่แสนจะโด่งดัง ส่วนตัวเวลาแต่งหน้าลูกค้าหรือเจ้าสาว โทนหวานๆ จะต้องใช้พาเลตนี้เสมอ เพราะมีเฉดชมพูนู้ดๆสวยๆเยอะค่ะ อีกทั้งต้องยอมรับว่า Pigment นางดี ละเอียด เวลา blend มันช่างง่ายดายเสียนี่กระไร

--ดูภาพปลากรอบนะคะ--

• เริ่มจากลง เบอร์ 1. สี DUST ตรงช่วงกลาง สีชมพูอ่อน มีชิมเมอร์เยอะที่สุดในพาเลต ช่วงให้ตาดูโต POP วิ้ง เวลาแอ๊บมองล่าง หรือเล่นโทรศัพท์ ตัวเรานั้นจะดูสวยเลอค่า ดีงามพระรามเก้าค่ะ

• ลง เบอร์ 2. สี Nooner ช่วงหัวตาแล้ว blend ให้หายไปกับเบอร์ 1 ที่ลงไว้

• ลง เบอร์ 3. คัดเบ้าช่วงหางตาด้วยสี Factory การคัดเบ้า จะช่วยให้หางตาไม่ตก ตาดูโตขึ้น ลงทีละน้อยๆ เริ่มจากจุดที่ใกล้ๆขอบตา แล้วค่อย build เพิ่มออกไปด้านบนและข้างๆค่ะ ถ้าตรงขอบมันเป็นสีเข้มๆ ให้ใช้แปรงสะอาด ปาดๆตรงจุดนั้น มันด็จะ blend หายไปกับผิวค่ะ

• ลงเบอร์ 4 สี black heart ทับ area ที่ลงเบอร์ 3 แต่ลงเปนจุดเล็ก ใกล้ หางตาที่สุด เพื่อเพิ่มมิติให้ดวงตาดูกลมโตค่ะ

• แต่งหน้าแล้วไม่ได้กรีด Eye liner แล้วเหมือน ไปเที่ยวเมืองนอกแล้วเอากล้องฟรุ้งฟริ้งไปแต่ลืมเอาเม็มโมรี่การ์ดไป เท็ดใช้ EYELINER ของ LIFEFORD PARIS HI-PRECISE EYE PEN ของถูกและดีมีอยู่จริง กรีดง่าย สีชัด ไม่เลอะค่ะ กรีดเปนเส้นไม่หนามาก แล้ววิงตรงหางเล็กน้อย

จากนั้นใช้ลูกรัก MeiLinda Quick Eyeliner Super Water Proof เขียนเป็นอินเนอร์ด้านใน ปิดช่องว่างขนตา ตัวนี้ถูกมาก ก ล้านตัว และดีมาก ก สิบล้านตัว ใช้แล้วหันไปมองบนพวกเค้าเตอร์แบรนด์ แล้วพูด บั้ย!

• ดัดขนตาให้แหงนที่สุดเพื่อที่เวลาติดขนตาปลอมแล้วจะได้ไม่เป็นชะนีขนตา 2 แฉกนะคะ มันไม่น่ารักนะคะที่รัก ดัดเสร็จแล้วก็ปัดมาสคาร่า เท็ดดี้ใช้ Maybelline รุ่น the Rocket Volum Express Mascara – ตัวนี้รักที่สุด เพราะตั้งแต่ใช้มาหลายยี่ห้อ ตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ปัดแล้ว ขนตาจริง มันติดแนบไปกับขนตาปลอมค่ะ และไม่เป็นหมาแพนดี้ระหว่างวันด้วยค่ะ

• ติดขนตาปลอม รุ่นฟรุ้งฟริ้ง อันนี้แล้วแค่ความชอบของแต่ละคน อยากได้ลุคเบากว่านี้ ก็เอารุ่นที่บางลงค่ะ ติดเสดแล้ว ผลักขนตาแหงนขึ้น แล้วเอานิ้วที่สะอาด บีบให้ขนตาจริงกับปลอมมติดกัน ( มันจะมีความหนึบจากมาสคาร่าที่เราปัดไปก่อนหน้านี้นะคะ ) ต้องนิ้วสะอาด ไม่มีคราบแป้งหรือรองพื้นนะคะ ไม่งั้นขนตากลายเป็นสีเนื้อนะคะ มันไม่น่ารักนะคะ

• ช่วงรอกาวขนตาเซทตัว เรามาต่อที่งานคิ้วค่ะ เพราะคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า

เท็ดดี้ใช้ Cosluxe Slim Brow Pencil สี Caramel เพื่อให้คิ้วสีอ่อนลง เป็นแบบหมุน เขียนง่าย ให้เส้นเล็กและหางที่คมค่ะ

อย่าลืม blend หัวคิ้วให้ฟุ้งๆไปกับผิวนะคะ เห็นหลายคนมาก ที่เขียนหัวคิ้วตัดๆเหมือนเอาสติ๊กเกอร์สีดำมาแปะคิ้ว อยากจะเข้าไป blend ให้จริงๆ ก็มันไม่โอเคนะยูววววว์

• จากนั้นก็เคลือบขนคิ้วให้เป็นสีเดียวกัน โดยใช้ Lifeford Styling Brow สี Brown-Gold เทคนิคการปัดก็คือปัดย้อนขนคิ้วก่อน จึงปัดตามแนวขนคิ้วเพื่อให้มาสคาร่าเคลือบขนคิ้วตลอดเส้นค่ะ

• มาที่ตาล่าง ที่จะทำให้ตาของเราสวยงาม เลอค่า เป็นประกายราวกับเห็นผู้ชายที่อยากได้เป็นสามีก็มิปาน โดยเริ่มจาก

• ลงเบอร์ 4 สี black heart ที่ขอบตาล่าง ใช้แปรงเล็กๆลากจากหางตา มาหยุดที่ขอบตาดำ

• ลง เบอร์ 1. สี DUST ที่ร่องน้ำตา และขอบตาล่างจากหัวตาไปถึงกลางตาดำ จะทำให้ตาเบิก เป็นประกายวิ้งๆค่ะ

• ลงเบอร์ 5 สี Strange ใต้โหนกคิ้ว เพิ่มมิติให้ดวงตาและให้งานดูสะอาดค่ะ

• เขียนอินเนอร์ตาล่าง จากหางตาเข้ามาที่ขอบตาดำด้วยลูกรัก Mei Linda Quick Eyeliner Super Water Proof เพื่อขับตาให้คมเข้มขึ้น จากนั้นปัดมาสคาร่าตาล่าง เป็นอันจบงานตาค่ะ วู้ฮูๆๆๆ

• เสร็จแล้วจะได้ลุคประมาณนี้ เนียนเทย (หมายถึงแลดูเป็นกะเทย) มากค่ะ พูดเลย

• เคลื่อนตัวมาที่พวงแก้ม อันน่าจูจุ๊บของพวกเรากัน เท็ดดี้ใช้ blush on ของ NARS รุ่น STEVEN KLEIN BLUSH PALETTE HOLIDAY 2015

• เริ่มจาก หลังโหนกแก้มไปถึงกกหู ใช้ สี 2+3 ผสมกัน ( สี Blasphemy + Dolce Vita ) ปัดอย่างเบามือ เพิ่มสีขึ้นเรื่อยๆจนพอใจ

• ปัดหน้าแก้มด้วยสี 1 (Robotic ) แล้ว blend ให้สีเนียนกัน น่าจุ๊บจุงเบย

• สิ่งที่จะขาดมิได้ ก็คือ Contour/ Shading เพิ่มมิติให้หน้าของเรา เท็ดดี้ใช้ของ Revolution รุ่น Ultra Bronze Palette สีที่จะใช้แล้วแต่บุคคลเพราะแต่ละคนสีผิวต่างกัน ควรใช้ 2-3 เฉดที่เข้มกว่าสีผิวเรา

• ใช้แปรงปัด Bronzer เบาๆ ด้านบนหน้าผาก ใกล้ไรผม เพื่อให้หน้าผากแลดูโหนกนูน

• ข้างสันจมูก

• ใต้โหนกแก้ม และ

• กราม เพื่อให้หน้าแลดูเล็ก

• Hi Light ก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าคุณอยากให้ผิวโกลว ฉ่ำ วาวแบบ เจนี่ เรียนโทสุพรรณ เท็ดดี้ใช้ Tom Ford รุ่น Moodlight Skin Illuminating Powder Duo โอ้ว พระเจ้า pigment นางช่างละเอียดราวกับอัญมณีล้ำค่า ทำให้ผิวโกลว ดูแพง ดูเอมบาสซี่ ดูพารากอน มากค่ะ แต่ราคาก็เอมบาสซี่เช่นกัน ใช้ Fan brush ปัดช่วงที่นูนของใบหน้าได่แก่

• กลางหน้าผาก

• สันจมูก

• บนริมฝีปาก

• คาง และ

• โหนกแก้ม

• ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการทาลิปสติก ใช้สีชมพู Nude แบบ Matte ของ Seventeen รุ่น Stay pout สี "Just a fling"

จากนั้นทาปากด้านในด้วย Maybelline Lip graduation สี Coral เพื่อ Make it blend แบบติช่าค่ะ เริ่ดๆ

***จากนั้นก็ไปใส่คอนแทคเลนส์สีน้ำตาล พร้อมจิกวิกเบาๆ พร้อมแล้วที่จะไปล่่าผู้ค่าาาาาาา***แถ่น แท้นนนน

หวังว่าเพื่อนๆคงสนุกกับการแต่งหน้านะคะ Practice makes perfect ค่ะ เพราะฉะนั้นแต่งครั้งแรกๆแล้วยังไม่สวย ไม่ต้องนอยด์ค่ะ ฝึกไปเรื่อยๆก็จะสวยขึ้น

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับคนรักนะคะ ใครที่โสดก็ขอให้มัความสุขกับตัวเอง ถ้าเจอคนไม่ดี สู้อยู่คนเดียวดีกว่าค่ะ

ถ้ามีโอกาส จะมาสอนใหม่นะคะ หรืออาจจะทำเป็นคลิปวีดิโอก็ได้ค่ะ

วันนี้ไปแล้วคร่า จุ้บ Peace xoxo บุ้ยบุ้ย/ By theddy