[CR] รีวิวมหากาพย์การเฟ้นหาสุดยอดครีมกันแดด!

5 1

นี่เป็นรีวิวแรกของเรานะคะ จริงๆอยากเขียนรีวิวนานแล้วแต่ติดที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีเวลาบวกกับเป็นคนไม่ค่อยแต่งหน้า ไม่ค่อยใช้สกินแคร์หลากหลายแบรนด์เท่าไหร่ ก็เลยไม่รู้จะรีวิวอะไรดี พอดีปิ๊งไอเดียว่าเราน่าจะทำรีวิวครีมกันแดดนะ เพราะเราเคยใช้มาเยอะ มีทั้งแบรนด์ที่ใช้ดี แต่หลายๆคนอาจยังไม่รู้จัก ราคาก็คละกันไปตั้งแต่กลางๆ ไปจนถึงราคาค่อนข้างแพง หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์ให้กับเพื่อนๆหลายคนที่มีสภาพผิวคล้ายๆกันหรือกำลังมองหากันแดดที่ถูกโฉลกกับตัวเองนะคะ อ่อออ ด้วยความที่รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกจริงๆ ถ้ามีคำแนะนำอะไรก็สามารถบอกได้นะคะ เรายินดีเอามาปรับปรุงในรีวิวครั้งต่อไปค่ะ

เริ่มเลยละกันเนอะ . . .

สภาพผิว/ปัญหาผิว

เราเป็นคนผิวผสม จะมันมากๆช่วง T- Zone ปกติเราจะแต่งหน้าบางมากๆ (คือทาแค่กันแดด คอนซีลเลอร์บ้างในบางวัน และตบท้ายด้วยแป้งฝุ่นแค่นี้) มีสิวบ้างช่วงก่อนมีประจำเดือน ปัญหาคือเมื่อปลายปี 2557 ถึงต้นปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาว ด้วยความไม่รู้ของเราเลยใช้น้ำอุ่น (มากๆ) ล้างหน้าแล้วก็สระผมตลอดเลย (T w T) ทำให้หน้าและหนังศีรษะแห้งและเป็นสิวเยอะมากๆ จนเราต้องไปรักษากับหมอผิวหนัง ซึ่งช่วงนั้นเราต้องงดแต่งหน้าและงดสกินแคร์ทุกชนิด ทาได้แค่ครีมกันแดดกับแป้งฝุ่นอย่างเดียว ไปหาหมอทุกอาทิตย์เพื่อกดสิวและซื้อยาทุกอาทิตย์อยู่ประมาณ 3-5 เดือน จนตอนนี้สิวลดลงเยอะแล้ว ทิ้งรอยไว้พอสมควร แต่ก็ไม่ได้ไปหาหมออีกเนื่องจากงบหมดค่ะ!

(TwT)

สรุปสภาพผิวหน้าของเราตอนนี้คือ "ผิวผสม + มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวง่าย" นะคะ

จากตอนนั้นเราก็เลยกลัวมากๆ เวลาจะซื้อหรือเปลี่ยนครีมกันแดดทีเพราะกลัวแพ้หรือใช้แล้วสิวอุดตันขึ้น คือเราเบื่อวงจรชีวิตที่ต้องไปหาหมอ กดสิว ทายาเป็นเวลาหลายๆเดือนมากๆๆๆๆๆ ส่วนใหญ่เราเลยเลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็นเวชสำอางค์หรือแบรนด์ทั่วไปบ้าง การตัดสินใจซื้อครีมกันแดดซักยี่ห้อเราจะเลือกจาก . . .

1.ลูกพี่ลูกน้อง (ซึ่งเป็นหมอผิวหนัง) แนะนำ

2.เพื่อน/คนใกล้ตัวใช้แล้วดี/ไม่แพ้ (อันนี้ดูจากเพื่อนที่สภาพผิวหน้าใกล้เคียงกันด้วยนะคะ)

3.ดูจากส่วนผสม ที่เราค่อนข้างให้ความสำคัญคือ fragrance-free, paraben-free, และ alcohol – free แต่จะให้ความสำคัญกับน้ำหอมมากที่สุด

ปล. 1: ครีมกันแดดบางยี่ห้อ เราไม่ได้ถ่ายรูปเองเนื่องจากปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว/ ยังไม่ได้ซื้อต่อเนื่องจากชอบตัวปัจจุบันที่ใช้อยู่ ก็เลยไม่มีแพคเกจอยู่กับตัว แต่ที่เอามารีวิวด้วยเพราะอยากรวบรวมข้อมูล/ความรู้สึกต่อผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้ไว้สำหรับคนที่สนใจนะคะ

ปล. 2: การให้คะแนนนั้นอยู่ที่ประสบการณ์และความรู้สึกหลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวของเราเองนะคะ

ครีมกันแดด SpectraBan SPF60

SpectraBan เป็นครีมกันแดดสำหรับทาหน้าตัวแรกในชีวิตเลยค่ะ ใช้ตั้งแต่ตอนอยู่ ม.ปลายจนถึงช่วงมหาลัย ตอนประมาณปี 1 (ช่วง ม.ปลายเป็นช่วงที่เราเป็นสิวแล้วค่ะ แต่ช่วงมหาลัยสิวหายไปพักใหญ่เนื่องจากรักษาและทานยาสิวค่ะ) พี่สาวแนะนำให้ใช้เนื่องจากเป็นแบรนด์เวชสำอางค์ที่หมอผิวหนังนิยมแนะนำให้คนไข้ใช้และเราไม่น่าจะแพ้ ก็เลยลองดูค่ะ ระหว่างที่ใช้สิวก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงนะ แต่ที่เพิ่มขึ้นแน่นอนคือความมัน มันมาก ช่วงนั้นยังไม่รักสวยรักงามมากนักก็เลยใช้ไปทั้งๆที่มันมันมากกกกกก แต่เราก็ใช้กระดาษซับมันซับเอาค่ะ จนช่วงปลายๆปี 1 ก็เลิกใช้ไปเพราะทนความมันไม่ไหวและอยากลองใช้กันแดดยี่ห้ออื่นดูบ้าง

จัดคะแนนเต็ม 5 ให้นิดนึง

ลักษณะเนื้อครีม: 2/5 เนื้อครีมค่อนข้างข้นและเหนอะหน้ามากถึงมากที่วุด

คุณสมบัติในการกันแดด: 4/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 3.5/5

กลิ่น: 3/5

ราคา: ถูก – ปานกลาง (ถ้าจำไม่ผิดราคาอยู่ที่ประมาณ 200 – 300 บาท)

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ไม่ เพราะใช้แล้วหน้ามัน เหนอะหนะมาก ไม่เหมาะกับผิวผสมค่อนไปทางมันแบบเราเลย

ความประทับใจโดยรวม: 2/5

ครีมกันแดด Minus Sun SPF40 สี Ivory

หลังจากที่เลิกใช้ SpectraBan เราก็เปลี่ยนมาใช้ Minus Sun สี Ivory เนื่องจากเห็นรูมเมทใช้แล้วสิวไม่ขึ้น เราก็เลยอยากลองบ้าง ด้วยความที่เป็นเนื้อมูสเลยไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือทำให้หน้ามัน คือพอทาไปแล้วมันจะรู้สึกลื่นๆหน้าเหมือนทาแป้งยังไงไม่รู้ ซึ่งเป็นจุดเด่นของกันแดดยี่ห้อนี้ที่เราปลื้มมากๆ อีกอย่างคือเราอยากได้กันแดดที่ใช้เป็นรองพื้นไปในตัวได้ตัว (อารมณ์ตอนนั้นคือแบบ อยากแต่งหน้านะ อยากสวย แต่ก็ไม่อยากแต่งแบบจัดเต็มลงรองพื้น กรีดอายไลเนอร์แบบหนักหน่วงอะไรขนาดนั้น) ก็เลยเลือกสี Ivory รู้สึกว่าครีมกันแดดตัวนี้มันตอบโจทย์เราในตอนนั้นที่สุด ได้ทั้งกันแดด ได้ทั้งรองพื้นในคราวเดียว แต่ต้องล้างหน้าให้หมดจดจริงๆ ไม่นั้นสิวอุดตันขึ้น

จัดคะแนนเต็ม 5 ให้นิดนึง

ลักษณะเนื้อครีม: 3.5/5 เนื้อมูส ไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้หน้ามัน แต่อาจเกลี่ยยากนิดนึง และถ้าเกลี่ยไม่ดีหรือทามากเกินไปก็อาจทิ้งคราบได้

คุณสมบัติในการกันแดด: 4/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 3.5/5

กลิ่น: 3/5

ราคา: ถูก – ปานกลาง (ถ้าจำไม่ผิดราคาอยู่ที่ประมาณ 200 – 300 บาท)

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ไม่ซื้อแล้วค่ะ เนื่องจากมีแบรนด์อื่นที่ชอบมากกว่า

ความประทับใจโดยรวม: 3/5

ครีมกันแดด Kanebo Allie Whitening SPF50 PA+++

เราได้กันแดดตัวนี้มาโดยบังเอิญมากๆ เพราะจริงๆ ฝากพี่สาวซื้อครีมกันแดด Kanebo Allie นี่แหล่ะ แต่เป็นสูตรเนื้อเจล หลอดสีฟ้า แต่อันนี้เป็นแบบน้ำนมหลอดสีทอง เมื่อซื้อมาแล้วเราก็ต้องใช้ค่ะ เพราะเสียดายตังค์ เอาจริงๆนะ ตอนแรกเราก็กลัวแพ้อยู่เหมือนกัน เพราะว่ากันแดดตัวนี้มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมด้วย คือทาปุ๊ปได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆเตะจมูกเลย แต่ใช้ไปก็ไม่แพ้นะคะ ที่ชอบคือเนื้อกันแดดที่เป็นแบบน้ำนมนี่ล่ะ คือทาแล้วไม่มัน ไม่เหนอะหน้าเลย ชอบมาก ข้อดีอีกอย่างคือไม่มีสี ไม่มีน้ำหอมด้วย (แต่มีแอลกอฮอล์นะอย่าลืม!)

ลักษณะเนื้อครีม: 5/5 เนื้อน้ำนม ไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้หน้ามัน ซึมเร็ว หน้ามันระหว่างวันบ้างแต่ไม่เยิ้ม เพราะพื้นฐานผิวเราเป็นผิวผสม-มัน

คุณสมบัติในการกันแดด: 4.5/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 4/5

กลิ่น: 3/5 มีกลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจน

ราคา: แพงแต่คุ้มค่า (ราคาที่ญี่ปุ่นประมาณ 600 กว่าบาท ที่ไทย 1,000 กว่าบาท)

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ซื้อแน่นอน แต่ถ้าเจอตัวที่ชอบมากกว่าก็อาจไม่ซื้อต่อ

ความประทับใจโดยรวม: 4/5

มาสู่ครีมกันแดดที่ยังคงใช้ในปัจจุบันกันบ้างนะค้า

ครีมกันแดด Origina Sun Care Fluid SPF 50 PA+++

เราเริ่มใช้กันแดดของ Origina ช่วงตอนที่ไม่ได้ไปหาหมอสิวแล้วค่ะ เพราะรู้สึกว่าหน้ายังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ไม่อยากเสี่ยงกับครีมกันแดดหนักๆ หรือที่มีส่วนผสมของน้ำหอม/แอลกอฮอล์เท่าไหร่ ซึ่งครีมกันแดดจากแบรนด์นี้ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เพราะเนื้อกันแดดเป็นแบบฟลูอิดบางเบา ไม่เหนอะหนะ ไม่มัน สิวอุดตันไม่เพิ่มขึ้น ชอบมาก คิดว่าใช้ได้ทั้งคนที่ผิวมันและผิวแห้งนะคะ เป็นหนึ่งใน Top 3 ของกันแดดที่เราใช้แล้วประทับใจเลยค่ะ

ลักษณะเนื้อครีม: 4/5 เนื้อฟลูอิด ไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้หน้ามัน แต่ซึมช้านิดนึง

คุณสมบัติในการกันแดด: 4.5/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 4/5

กลิ่น: 4/5

ราคา: ค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่า

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ซื้อแน่นอนค่ะ แต่มันต้องสั่งทางเนตนะอันนี้ ติดที่บางทีจะไปไหนแล้วไม่มีเวลารอ ไปเผลอสอยอันอื่นมาแทนอยู่เรื่อย

ความประทับใจโดยรวม: 4.5/5

ครีมกันแดด Benefit Specialist Dream Screen SPF 45 PA+++ Oil Free

ครีมกันแดด Benefit ตัวนี้เป็นอีก 1 ตัวที่เราปลื้มเหมือนกัน เนื้อครีมกันแดดจะคล้ายๆกับตัว Origina เลย ข้อดีคือแทบไม่มีกลิ่นเลย ทาแล้วไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบเลย รู้สึกหน้าบางเบามาก เป็นกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวมัน-ผิวผสมนะเนี่ย

ลักษณะเนื้อครีม: 4/5 เนื้อฟลูอิด ไม่เหนอะหนะ ไม่ทำให้หน้ามัน แต่ซึมช้านิดนึง

คุณสมบัติในการกันแดด: 4.5/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 4/5

กลิ่น: 4/5

ราคา: แพงนะ แต่เราว่ามันก็คุ้มแหละ (ราคาประมาณ 1,300 บาท)

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ซื้อแน่นอน แต่ถ้าเจอที่ถูกกว่าและคุณสมบัติใกล้เคียงก็อาจไม่ซื้อ

ความประทับใจโดยรวม: 4.5/5

ครีมกันแดด Cetaphil UVA/UVB Defense SPF 50+

ครีมกันแดด Cetaphil เป็นตัวที่เราใช้ เนื่องจากพี่สาว (พี่เป็นหมอผิวหนังค่ะ) แนะนำ เพราะไม่อุดตันผิว เราก็เลยลองใช้ดูค่ะ เป็นกันแดดเนื้อครีม (ซึ่งเราไม่ปลื้มมากๆ) แต่เพราะพี่แนะนำให้ใช้ ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างหนักและเหนอะหนะ ทาปุ๊ปเราต้องใช้กระดาษซับมันซับความมันออกทันทีเลย ถ้าไม่ติดว่าใช้แล้วไม่แพ้ สิวไม่อุดตันเพิ่มเราคงไม่ใช้อีกแน่ๆ แต่ถ้าคนผิวแห้งใช้ตัวนี้อาจจะชอบก็ได้นะคะ

ลักษณะเนื้อครีม: 2.5/5 เนื้อครีมหนักๆ สูสีกับ SpectraBan ทาแล้วรู้สึกเหนอะหนะและทำให้หน้ามันทันทีที่ทา ต้องใช้กระดาษซับหน้ามันซับออกทันที

คุณสมบัติในการกันแดด: 4.5/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 4/5

กลิ่น: 3/5 มีกลิ่นเฉพาะกันแดด ไม่ถึงกับเหม็นมาก แต่ก็ไม่หอม

ราคา: ปานกลาง (ราคาประมาณ 600 บาทถ้าซื้อตามร้านขายยาใหญ่ๆ)

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ไม่ซื้อดีกว่าอะ ถึงจะใช้แล้วไม่แพ้ แต่ทนความหนักและเหนอะหนะของเนื้อครีมไม่ไหวจริงๆ

ความประทับใจโดยรวม: 2/5

ครีมกันแดด SEA BREEZE SPF50 PA+++

ตัวนี้เป็นกันแดดของพี่สาวค่ะ เป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น ไม่แน่ใจว่าที่ไทยมีขายมั้ย เราเอามาลองใช้ดู เนื้อกันแดดเป็นแบบน้ำนมแต่จะข้นกว่า Benefit เล็กน้อย ซึมค่อนข้างเร็วพอสมควร ไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งความมันและคราบขาวไว้บนหน้า ข้อดีมีเยอะมาก แต่ข้อเสียของมันที่ทำให้เราต้องเอากันแดดตัวนี้ไปทาคอ/ทาตัวแทนที่จะเอามาทาหน้าก็คือ "กลิ่น" ค่ะ น้ำหอมแรงมากกกกกกกก กลิ่นพีชแบบสดชื่นสุด ถ้าใครที่ไม่แพ้หรือไม่กลัวแพ้แล้วชอบกลิ่นหอมๆของพีชน่าจะปลื้มนะ แต่เราไม่ขอเสี่ยงจริงๆ

ลักษณะเนื้อครีม: 4/5 เนื้อน้ำนม ไม่เหนอะหนะ ไม่ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบ

คุณสมบัติในการกันแดด: 4/5

คุณสมบัติในการกันน้ำ: 4/5

กลิ่น: 1/5 กลิ่นพีชฟุ้งมาก

ราคา: ไม่ทราบราคา

แนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป: ขอบายก่อน มึนหัวเพราะกลิ่นและกลัวว่าส่วนผสมของน้ำหอมอาจทำให้เกิดการระคายเคือง

ความประทับใจโดยรวม: 2/5

รีวิวแล้ว ขออนุญาตจัดอันดับ 3 ซันสกรีนจี๊ดใจเราไว้หน่อยนะคะ

"TOP 3 Facial Sun Protection Products"

อันดับ 1 ครีมกันแดด Benefit Specialist Dream Screen SPF 45 PA+++ Oil Free

ครีมกันแดด Benefit ตัวนี้เรารักมากค่ะ มันเหมาะกับคนที่ผิวมันและเป็นสิวง่ายแบบเรามากจริงๆ ราคาอาจจะสูงนิดนึงแต่ถ้ามันตอบโจทย์ ใช้แล้วแฮปปี้มีความสุขมันก็น่าลงทุนนะ ใช้แล้วจะหลงรักเหมือนเรา

อันดับ 2 ครีมกันแดด Origina Sun Care Fluid SPF 50 PA+++

ครีมกันแดดลูกรักอีก 1 ตัว คุณสมบัติสูสีกับ Benefit เลยเป็นตัวตายตัวแทนกันได้เลย ใช้แล้วหน้าไม่มัน ไม่แพ้ ใครที่ผิวมันแล้วกำลังมองหาครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองอยากให้ลองตัวนี้ดูนะ

อันดับ 3 ครีมกันแดด Kanebo Allie Whitening SPF50 PA+++

ครีมกันแดดอีกหนึ่งตัวมี่คุณสมบัติสูสีกับ 2 ตัวข้างบน แต่โดนหักคะแนนไปเนื่องจากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งอาจไม่เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย เลยได้ที่ 3 ไปครอง

จบแล้วค่ะสำหรับรีวิวครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า

ครั้งหน้าถ้ามีเวลาเราจะมารีวิวการรักษาสิวของเราน้า

แล้วเจอกันค่ะ :D


littlemissgiggle

littlemissgiggle

FULL PROFILE