2015 Drama

รวบรวมข่าวคราวสุดช็อก ดราม่าร้อนแรงในรอบปี 2015 ลองมาตามติดกันสิคะว่าเรื่องใดที่ทำให้คุณอินสุดๆ

Discussion (27)

จบความดราม่าของปี 2015 ไว้ที่นี่  ปี 2016จะร้อนแรงขนาดไหนหนอ...
Brett Rossi อดีตคู่หมั้นของชาร์ลีลุกขึ้นมาฟ้องเขาด้วยข้อกล่าวหาที่ทำให้เธอต้องบอบช้ำทางจิตใจ และบอกว่าเขาหลอกเธอให้มีsex แบบไม่มีอะไรป้องกันและยังบังคับให้เธอไปทำแท้งด้วย 



ส่วนชาร์ลีโต้ว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าเขามีเชื้อและยืนยันอยากจะมีอะไรกันแบบไม่ใช้ถุงยางเอง  และตอนที่หมั้นกันเธอก็ยังแอบไปร่วมรักกับชายอื่นอีก ไม่ใช่แต่กับเขาเท่านั้น 


Brett ผู้นี้เป็นดาราโป๊แนวที่ชาร์ลีชื่นชอบมาตลอด และเขายืนยันว่าตอนที่เจอกันเมื่อ2ปีก่อน เธอก็ยืนยอมเซ็นชื่อในสัญญาที่เขาตั้งเงื่อนไขไว้ก่อนที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน  ซึ่งตอนแรกเธอกำลังจะได้รับเงินก้อนโตจากชาร์ลีแล้ว แต่ทีมกฎหมายฝั่งชาร์ลีดันไปเจอวีดีโอที่เธอถ่ายระบายความโกรธในตัวของชาร์ลีที่ถ่ายไว้ตั้งแต่เดือนเมษา 2015 ก่อนที่เรื่องติด HIV ของชาร์ลีจะแดงออกมา เธอด่าชาร์ลีเรื่องที่ปิดเรื่องติด HIV มาเป็นปี แล้วมาบอกให้เธอทำแท้ง และเอาเงินมาปิดปากเธอหลังจากที่เธอช่วยดูแลทั้งชาณ์ลีและลูกๆของเขามาตลอด  ซึ่งทนายถือว่าเป็นการทำผิดข้อตกลงที่เซ็นชื่อยินยอมไว้ และจะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆอีก 


ชาร์ลีสวนกลับว่าหลังจากอยู่ด้วยกันไปนานเข้าทำให้เขารู้ว่าตัวจริงของอดีตคูหมั้นนั้นเต็มไปด้วยความโลภและยังขี้อิจฉาและเขาก็ยังให้เธอไปมากพอแล้ว และหลังจากติดเชื้อ เขาเคยมีอะไรกับผู้หญิงโดยไม่ป้องกันเพียง 2 คน


 Amanda Bruce ได้ออกมายอมรับว่าตกลงยินยอมพร้อมใจมีอะไรกับพระเอกรุ่นใหญ่โดยไม่ป้องกัน  แม้ว่าจะทราบว่าเขามีเชื้อ HIV โดยเธอได้รับการดูแลจากหมอและกินยาต้านไว้เพื่อทำให้อัตราความเสี่ยงในการติดเชื้อต่ำลง  (PrEP) 


ชาร์ลีกับการสักหลังจากติดเชื้อ   


จากพฤติกรรมเหล่านี้จึงมีคนที่ออกมาตอกย้ำชะตากรรมของชาร์ลีว่า "สมควรแล้ว"  และคนๆนั้นคือ Burt Reynolds  เพื่อนของพ่อเขาเอง และเบิร์ทยังบอกว่าไม่รู้สึกสงสารชาร์ลีสักนิด ทำตัวเองแล้ว



แต่ก็มีเสียงที่เห็นใจว่าชาร์ลีไม่ควรถูกแบล็กเมล์ และการเลือกที่จะปิดหรือเปิดเผยเรื่องปัญหาสุขภาพก็เป็นสิทธิของแต่ล่ะบุคคล  และย้อนกลับไปชาร์ลีเริ่มทำตัวเป็นปัญหามากกว่าเดิมจนถูกมองว่าเพี้ยนไปแล้วก็น่าจะช่วงที่รู้ตัวว่าติดเชื้อเมื่อ 4 ปีก่อนนั่นเองค่ะ
 
แต่เพิ่งมามีข่าวลือใหญ่โตให้ผู้คนเดากันไปต่างๆนานาเมื่อปลายปีนี้ว่ามีพระเอกดังคนหนึ่งที่เคยมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวที่เป็นคนดังระดับ A List มาหลายคนถูกวินิจฉัยว่ามีเชื้อ  HIV 





ไม่นานต่อม สื่อหลายเจ้าก็ยืนยันว่าดาราใหญ่ที่ติดเชื้อ HIV นั้นคือชาร์ลี ชีนอย่างไม่ต้องสงสัยและเจ้าตัวกำลังจะออกมาแถลงข่าวเปิดเผยความจริง



พฤติกรรมที่หลายคนบรรยายได้เต็มปากว่า "สำส่อน" ของชาร์ลีนั้นทำให้เขาตกเป็นดาราต้องสงสัยรายชื่อแรกๆที่สื่อประโคมข่าว   ในที่สุดเขาก็ออกมายอมรับ และประกาศว่าปกปิดเรื่องติดโรคเป็นความลับมาหลายปี แต่ทนการถูกแบล็กเมล์ไม่ไหว จึงออกมาเคลียร์ความจริงเลยดีกว่า



ชาร์ลีอ้างว่าเขาต้องจ่ายให้กับคนที่ขู่ว่าจะเปิดโปงเรื่อง HIV ไปแล้ว 10 ล้านเหรียญ  และเป็นคนใกล้ชิดซะด้วย


เขายืนยันถึงการรักษาตัวด้วยการใช้ยาควบคุมไวรัส และบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแพร่เชื้อให้กับใคร แต่มันไม่ได้ช่วยให้ผู้หญิงหลายคนที่เขามีเพศสัมพันธ์ด้วยหายขวัญเสีย พวกเธอไปตรวจเลือดและแม้จะพบว่ามีผลเป็นลบ แต่ก็ออกมาเรียกร้องให้ชาร์ลีรับผิดชอบที่ไม่ยอมบอกพวกเธอว่ามีเชื้อ HIV
แต่ชีวิตส่วนตัวเค้าดำดิ่งอยู่กับผู้หญิงมากมาย ยาเสพติด การบำบัด  ยิ่งเค้าโด่งดังร่ำรวยมากเท่าใด ก็ดูเหมือนว่าจะเอาแต่ปัญหาเข้าตัว


ชาร์ลีอ้างว่านอนกับผู้หญิงมาแล้ว 5000 คน ซึ่งตอนนั้นนานมาแล้วนะ


แต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง ลูกเต้าก็มีตั้งแต่ที่โตจนมีหลานให้แล้ว จนไปถึงน้องแฝดตัวเล็ก  แต่การแต่งงานก็ล้มเหลวทุกครั้ง สื่อก็พุ่งเล่นข่าวไปที่พฤติกรรมของเค้าค่ะว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยาทนไม่ได้



หลังจากโสดแล้ว ชาร์ลีไม่ปิดบังเรื่องที่ชอบมีความสัมพันธ์กับดาราหนังโป๊หรือสาวเอสคอร์ท เคยเสพดคเคนเกินขนาดและสร้างความเสียหายในห้องสวีทของโรงแรม  เราเรียกพวกเธอมาอาศัยอยู่ในบ้านหรูแล้วเรียกพวกเธอว่าแม่เทพธิดา    แน่นอนว่าพวกเธอไม่ได้ไปอยู่กับชาร์ลีเพื่อทำความสะอาดค่ะ

 
HIV Actor


ชาร์ลี ชีน เคยถูกเรียกว่าเป็นเจ้าชายของวงการ  เขาเป็นทายาทของนักแสดงดัง มาร์ติน ชีน ทั้งลุคและโพรไฟล์เลิศเลอมีหนังดังในยุค 80-90 เพียบ











ช่วง2000ก็มีซีรีย์อย่าง Spin City ที่ทำให้คว้ารางวัลใหญ่มาแล้ว



แล้วไหนจะซิทคอมสุดฮาอย่าง 2 and a half men อีก งานรุ่งมาตลอดค่ะ