Kiehl's & Shu Uemura สกินแคร์สองเจ้านี้ ดีจริงหรือ? (Skin Care Review)

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาวจีบัน

คนเรานี่ก็แปลกนะค่ะ ทักเพื่อน ทักพี่ทักน้อง ทักแต่ดีๆ ทั้งนั้น เช่น "เหรยยย ไปทำอะไรมา ทำไมโทรมจัง" "ทำไมปล่อยสิวเห่อขนาดนี้" "นี่ไปทะเลมาหรอ หน้าดำเชียว" เอิ่มมมมมมมมมม มองบน ปากเบ๊ะแป๊บ ล่าสุด จขกท.เพิ่งโดนดั่งเช่นตัวอย่าง หลังจากโดนทัก ดาวน์มากกกก ทำให้หมดตังค์ไปสามพัน อาเฮือก แต่ต้องขอบคุณคนทัก ที่ทำให้เราได้เจอสิ่งที่คู่ควร ^^

บางทีหน้าเราก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นป่าววว เพียงแค่มันไม่ได้ดีเว่อร์เหมือนดาราในทีวี หรือรูปแมกกาซีนที่ผ่านการรีทัชมาแล้ว ถึงอย่างไรก็ตาม สกินแคร์ที่ใช้แล้วถูกจริตหน้า ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่สิว ไม่อันตราย ก็ควรอยู่คู่โต๊ะเครื่องแป้งของเราค่ะ การตามหาสกินแคร์ที่ตอบโจทย์และได้ผลจึงไม่เคยจบสิ้น และการมีสกินแคร์เยอะแยะ ร้อยแปดพันเก้า ประโคมไปในคราเดียวก็อาจจะไม่ช่วยอะไรเลย

กระทู้นี้ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ได้เห็นตัวเลือกมาขึ้นนะค่ะ วันก่อนก็รีวิวป้าลอร่าไปแล้ว วันนี้ขอมารีวิวหน่อง Kiehl's กับ พี่ Shu บ้างดีกว่า ชื่อและความดังของแบรนด์ไม่ใช่ตัวการันตีทุกสิ่งอย่าง แต่ก็ให้ความมั่นใจ และไว้ใจได้ในระดับหนึ่งค่ะ

ออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณแต่อย่างใด เรื่องสารบำรุงในผลิตภัณฑ์ก็เช่นกัน แต่จะเป็นการเล่าให้ฟังมากกว่าว่า ณ ขณะนั้น เราอยู่ในสภาพผิวยังไง ถึงได้ผลิตภัณฑ์นั้นมา ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง โอเค สมราคารึป่าว มากกว่านะค่ะ

let's get started!!! huhuhu ^_______^

1. Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate หรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่า วิตซีคลีลซ์นั่นเองค่ะ

เวลาพูดถึง วิตซี (เซรั่ม วิตามินซี) มักจะได้ยินสองแบรนด์ดัง ๆ คือ Kiehl's และ OP เคยใช้ OP มั้ยเคยค่ะ แต่นานนนนนนนนน มามากแล้ว ไม่ได้ปลื้มมากมายอะไร สำหรับ Kiehl's ตัวนี้ขอรีวิวตามนี้เลยค่ะ ขวดปัจจุบันเป็นขวดที่สี่ค่ะ ขวดแรกนี่เมื่อประมาณเกือบๆ สามปีที่แล้ว

สภาพผิวก่อนไปซื้อ ผิวเช่นใดจึงได้ตัวนี้มา

• ยังไม่แก่นะ แต่ริ้วรอยเจ้ามาแต่ใดรือ
• หน้านี่จะโทรมไปไหนนนน
• สิวขึ้นง่ายมาก ก.ไก่ล้านตัว พูดง่ายคือ ผิวอ่อนแอ่สุด
• ความผ่อง ไม่ต้องพูดถึง ไม่มี 5555555 ตอนนั้นเป็นช่วงขี้เกียดบำรุง

หลังใช้

• ริ้วรอยลดมั้ย อันนี้เราไม่ได้สังเกตหรือว่าถ่ายรูปก่อนใช้ หลังใช้จริงจัง
• แต่สิ่งหนึ่งจริง ๆ ที่เรารู้สึกได้ชัดและทำให้ไปเปลี่ยนใจ ไม่กล้าขาด ไม่กล้าหยุด คือ ผิวแข็งแรงขึ้น ส่วนตัวแล้ว ก่อนจะหน้าใส หน้าตึง หน้าขาว หรืออะไรก็ตามแต่ การที่ผิวแข็งแรงมันเป็นอะไรที่สุด ๆ แล้ว จากคนที่ผิวเคยอ่อนแอมาก
• รอยแผลเป็นสิวหายง่าย หายเร็วขึ้น ทั้งๆที่เคยแกะ แคะยังไง ก็แกะ แคะอยู่อย่างนั้น
• สิวหายขาดดดดดดดด มั้ย ไม่หรอกค่ะ มันก็มีสิวฮอร์โมนบ้าง อะไรบ้าง แต่มันไม่อยู่ตลอดและไม่รุนแรง ไม่เห่องไม่อะไรทั้งนั้น มันมาเยี่ยมหน้าบ้าง แล้วจากไปด้วยดี
• ถ้าช่วงที่ขยันใช้ ๆ ติดต่อกันเช้าเย็น เห็นได้ชัดเลยว่า หน้าดีขึ้น ใสขึ้นค่ะ

2. Deep Moisture Clarifying Cream 24- Hour Hydration

หลังจากผิวแข็งแรงขึ้น ก็เกิดกิเลศอยากขาว บวกกับเกิดอาการหน้าแห้ง ลอกบางส่วน เพราะวิตซีนั้นค่อนข้างแรงทีเดียว (ถ้าเป็นคนหน้าแห้งอยู่แล้ว ควรถามพนักงานดี ๆ นะคะ เพราะรุ่นพี่คนนึงหน้าแห้ง พนักงานไม่แนะนำให้ใช้ แต่ให้ใช้ตัวอื่นแทน) กิเลสความอยากขาวใสขึ้น และขุย จึงทำให้เราเชื่อใจพนักงาน สอยตัวนี้มา (ตัวแรกได้ผล เชื่อใจอีกตัวไม่น่าจะเสียหาย) แต่!!!

สภาพผิวก่อนไปซื้อ ผิวเช่นใดจึงได้ตัวนี้มา

• เกิดกิเลศอยากขาว
• หน้าลอกบ้าง ขุยบ้าง ไม่ชุ่มชื้น
• วิตซี ต้องใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์

• ใช้จนแล้วจนเล่า (สม่ำเสมอบ้าง ไม่บ้าง) หน้าชุ่มชื้นขึ้นจริง แต่ความใสอะไรนี่ไม่เห็นความแตกต่างจากเดิมเลย รอยสิวเก่า ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหายไป
• ใช้จนหมดกระปุก กลับมาใช้สมูทอี ใช้เป็นประจำหน้าดีขึ้น เหมือนจะเป็นการจับคู่ที่ดีระหว่างวิตซีกับสมูทอี เลยตัดสินใจไม่ซื้อต่อ
• ปกติเป็นคนแพ้ง่าย อันนี้ไม่แพ้นะ

3. Kiehl's Rare Eath Deep Pore Cleansing Masque

ตัวนี้เป็นมาส์กโคลนจากอเมซอน ไว้ดีท๊อกซ์หน้า ดูดซับสิ่งสกปรกออกมา ใช้อาทิตย์ละครั้ง ทาลงไปแล้วจะรู้สึกร้อน ๆ ตอนแรกๆที่ทาค่ะ

สภาพผิวก่อนไปซื้อ ผิวเช่นใดจึงได้ตัวนี้มา

• เอาตรงๆ คือตอนนั้นผิวไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่เดินเข้าร้านดูของตามปกติ แล้วเกิดกิเลศอยากได้ คิดเข้าข้างตัวเองว่ามีไว้ก็ไม่เสียหาย ราคาก็รับได้ (จ่ะ)

• เหรยยย มันดีใช้ได้อยู่นะ หน้าใส หน้าสะอาด แต่จะไม่ค่อยโอก็ตรงรู้สึกร้อน ๆ ตอนทาแรก ๆ นี่แหละ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ค่ะแต่ แรกมันก็ดี แต่มันกลายมาเป็นข้อเสียของมาส์กโคลนตัวนี้ เมื่อเราได้ลองมาส์กโคลนอินนิสฟรี ดังนั้น เจ้าตัวนี้หมดเมื่อไหร่ ไม่ซื้อต่อแน่นอน เพราะเจอที่ถูกใจมากกว่า นั่นก็คือ อินนิสฟรีค่ะ

4. Kielh's Midnight Recovery Eye

ไม่มีใครที่จะทาคอนซีลเลอร์ คอเร็คเตอร์ปิดรอยสงคราม ใต้ตาได้ตลอดเวลาหรอกจริงมั้ยค่ะ บางทีก็ต้องเปิดเผยความจริง ใช้อายครีมมาหลายตัว แต่ก็ไม่เคยลงทุนกับอายครีมแพง ๆ เกินพัน เพราะคิดว่า อะไรๆ ก็คงเอาไม่อยู่ นอกจากนอนเวลาปกติให้เพียงพอเท่านั้น

สภาพผิวก่อนไปซื้อ ผิวเช่นใดจึงได้ตัวนี้มา

• สภาพใต้ตาแย่เกินกว่าจะปลงว่า อะไร ๆ ก็คงเอาไม่อยู่ค่ะ
• ที่ผ่านมา คลีลส์ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง จะฝากความหวังไว้กับอายครีมอีกตัวก็คงไม่เป็นไร
• เคยใช้ขนาดทดลองก็ไม่แพ้ เพราะฉะนั้น ลองขนาดจริง น่าจะไม่ผิดหวัง

• เหยยยยย (เว่ออีกละ) ไม่เว่อร์ค่ะไม่เว่อร์ หรืออาจจะเป็นเพราะใต้ตาเราไม่ได้แย่มาก แต่มันดีขึ้นจริงๆนะ ตอนที่ไปซื้อแรก ๆม พนักงานให้ดูสองตัว ๆ นี้กับอีกสูตรนึงสีส้ม พนักงานก็แนะนำตัวสีส้มให้เรามากกว่า เพระาตัวนั้นซึมเร็ว เหมาะสำหรับคนแต่งหน้า ลดรอยได้มากกว่า แต่อะไรไม่รู้ทำให้ตัดสินใจซื้อตัวนี้อาจจะเป็นเพราะเป็นแบบหลอด บีบใช้ งา่ยสะดวก ไม่สกปรก (สีส้มเป็นกระปุก) และคิดว่า จะลดรอยอะไรหนักหนา ไม่แก่ขนาดน้านนนน (เข้าข้างตัวเอง) แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะรอยดำนี่ลดลงเห็นได้ชัดเลย ทำให้ดูสดชื่นขึ้นค่ะหน้าสดก็ไม่ค่อยอายเท่าไหร่ 55555555555
• เป็นตัวที่ชอบมากรองจากวิตซีเลยค่ะ
• ก่อนใช้ พนักงานไม่ได้สอนเรานะ แต่เราคิดว่าน่าจะดี ถ้าเราวอร์มผลิตภัณฑ์ก่อน ก่อนแต่งก็ใช้ ครีมก่อนข้างข้น แต่ด้วยการที่เราวอร์มก่อน ถ้าจะแต่งหน้าก็ไม่ทาเยอะค่ะ

5. Kiehl's micro -blur skin perfector

จะว่าครีมก็ไม่ใช่ เซรั่มก็ยิ่งไม่ใช่ เนื้อคล้ายๆซิลิโคน แต่ก็ไม่เชิงซิลิโคลน เอิ่มมม แต่เนื้อบาง เบา เกลี่ยง่ายค่ะ

สภาพผิวก่อนไปซื้อ ผิวเช่นใดจึงได้ตัวนี้มา

• รูขุมขนกว้าง
• กูรูหลายคนใช้เป็นไพร์มเมอร์ช่วยอำพรางรูขุมขน เราก็ซื้อตาม

• ตอนแรก ๆซื้อ ขยันค่ะ ใช้สักพักใหญ่ๆๆๆ เห็นได้ระดับนึงว่ารูขุมขนกระชับขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเข้าใจว่า เรื่องรูขุมขนเนี่ย เป็นอะไรที่นะ รักษา เอาใจยาก ขึ้นอยู่กับอากาศ อาหาร การกินด้วยค่ะ
• ตัวนี้ราคาไม่แพงด้วย เราเลยไม่หวังอะไรมาก แต่ถือว่าใช้ได้เลย ใช้เป็นไพร์มเมอร์ก็ใช้ได้ดีค่ะ
• ซื้อต่อมั้ย อาจจะไม่ หรืออาจจะซื้อ เพราะหลัง ๆมานี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว เพราะไม่รู้เกิดอะไรขึ้นรูขุมขนเรามันไม่ใหญ่เว่อร์เหมือนแต่ก่อนแล้วอ่ะ ทั้งๆที่ ไม่ใช้ตัวนี้มาสักพักแล้ว เพราะขี้เกียจ มีไว้อยู่นิ่งๆ ในกรุเฉยๆเลย

6. Shu Uemura Skin Purifier

ตัวนี้เป็นเคลนซี่งแบบน้ำมันนะคะ เราเป็นคนผิวมัน แรก ๆ ก็ใช้เคลนซิ่งสูตรน้ำของบีโอเร ก็โอเค แต่เหมือนจะได้แค่ความสะอาด แอบรู้สึกว่าหมดเร็วด้วย (เทียบกับบีเฟียสต้า) หลังๆมาขี้เกียจใช้สำลี เลยหันมาใช้ Cleansing Facial Wipes ของ Simple ก็สะอาดดี ถูก ไม่เปลือง แต่แล้วก็ไปอ่านเจอในคอมเม้นต์เพจแพร์รี่พาย ว่าควรเลี่ยงการใช้สำลี ควรใช้น้ำมันนวดหน้า ก็เริ่มสนใจแบบน้ำมัน เลยหารีวิวดู เหมือนพี่ชูจะโด่งดังเรื่องนี้เลย (เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ยกเว้น Three ) เลยไปหาซื้อดู แต่ห้างที่ไปไม่มี Three เลยได้พี่ชูมา เล็งสูตรอื่น แต่บีเอเค้าแนะนำสูตรนี้เพราะความหมองเราชัดเจนทะลุมาก (แอบคิด เรายังไม่แก่นะ ไม่ต้องแอนตี้เอจจิ้งม้างงง แต่ความหมองชัดเจนเลยได้ตัวนี้มา เห็นได้ว่าเป็นสูตร Anti dullness)

หลังใช้

• ทำความสะอาดได้ดีมาก จริงๆ (ต้องทำตามขั้นตอนนะคะ) เค้าเขียนว่า 3-4 ปั๊มต่อครั้ง แนะนำว่า 4 ปั๊มสำหรับคนแต่งหน้าค่ะ ตอนเช้าแค่ 3 ปั๊มก็พอ ตอนนวดอย่ารีบ นวดไปเรื่อย ๆ เบา ๆ อย่าใจร้อน มันสะอาดจริง ๆ ค่ะถ้าใช้ถูกวิธี
• ล้างหน้าเสร็จหน้าไม่แห้ง ไม่ตึงรู้สึกสดชื่นด้วย คงเป็นเพราะชาเขียว ตามต่อด้วยโทนเนอร์และบำรุงปกติได้เลย
• ใช้น้ำมันล้างหน้า แล้วหน้ามันมั้ย? ไม่เลยคะ หน้าไม่มันเพิ่ม ชุ่มชื่นดี แต่งหน้าดีติดด้วย เวลาไม่แต่งหน้าแค่บำรุง จะเห็นแบบเกือบดิวอี้เลย (ส่วนตัวชอบลุคดิวอี้มาก)
• มีสิวอุดตันมั้ย? สำหรับเราไม่นะ เราไม่แพ้ อีกอย่าง อย่าที่บอกว่า นวดดีๆ ทำตามขั้นตอน ล้างดี ๆ สิวเก่า ๆ รอยแห้งๆ จากแผลที่ค้าง และสิ้วเสี้ยนที่จมูก หายไปด้วยซ้ำค่ะ
• ราคา (ไม่ขอเอ่ย) มันแพงจับใจ แต่บีเอบอกว่าใช้ได้นานถึง 10 เดือน (เอาไว้ปลอบใจ)

7. Shu uemura Fragrance free mist

เคยใช้สเปร์ยน้ำแร่ Avian สดชื่นดีค่ะ แต่ให้แค่ความสดชื่นจริง ๆ เลยสนใจตัวอื่น ก็หารีวิว หาไปหามา ก็เช่นเคย ตัวนี้ก็ติดอันดับ ราคารับได้ ก็เลยลองซื้อมาใช้ดู

หลังใช้

• ขนาดพกพาสะดวก
• สูตรที่ซื้อมา เป็นสูตรไม่มีน้ำหอม สำหรับคนแพ้ง่าย เราเลยไม่แพ้ สิวอุดตันไม่มีค่ะ
• สเปร์ยหลังแต่งหน้าให้ลุคช่ำๆ คสอ.ติดทนขึ้นระดับนึง
• ฉีดแล้วสดชื่นดี
• แอบรู้สึกเล็กๆ ว่ามันช่วยให้ผิวดีขึ้น เพราะบางทีนั่งทำงาน หน้าสดเราก็เอามาฉีดค่ะ
• แต่ก็ไม่ถึงกับว้าว ให้ความรู้สึกเหมือนมีไว้ข้างกาย อุ่นใจ สบายหน้ามากกว่าค่ะ

8. Shu Uemura Rouge Unlimited Supreme Matte สี MPK 376

หลังใช้

• เป็นลิปสติกเนื้อแมตที่ทาแล้วไม่แห้งผาก แต่ให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อกำมะหยี่นิด แบบที่เคยฝันไว้
• เนื้อสีนี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ อยู่ไกลสามร้อยเมตรก็ยังคิดว่าเห็นอยู่ เป็นชมพูบานเย็นแซ่บ ที่สวยมากจริงๆ ทาแล้วหน้าสว่าง ช๊อบชอบ
• ติดทนนาน ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง
• แพจเกจน่ารัก เห็นแล้วรู้อ่ะว่าเป็นของพี่ชูเค้า
• ก่อนซื้อ เคยพยายามผสมสีที่มีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้แบบนี้ แต่พอเอาสีนี้ไปจับคู่กับสีอื่น ความสนุกก็เกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ
• ทาแตะๆ อ่อน ๆ แล้วกลอสใส กลอสสีคอรัลทับก็สวยหวานสดใสไปอีกแบบ

จบไปแล้วนะค่ะ สำหรับการริวิวสกินแคร์จากสองแบรนด์ดัง นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ หรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือ ราคา ถามว่าดีกว่านี้มีมั้ย มีแน่นอนค่ะ แต่ก็แพงกว่าแน่นอน ก่อนซื้อเราควรคำนึงว่า ถ้าเราโดดไปไฮเอนด์แล้ว เราสามารถใช้ได้ต่อเนื่องรึป่าว เพราะผิวเราก็สามารถเคยชินกับสิ่งที่ใช้ เช่นว่า แรกๆ ใช้ลาแมร์ แต่พอตังค์หมดกลับมาหาสมูทอี้งี้ ผิวเราจะจำได้รึป่าว บางทีผิวก็ติดไปแล้ว

การรักษาทั้งระดับคุณภาพ ราคาให้อยู่ในระดับที่เรารับได้อย่างต่อเนื่องจึงสำคัญ เพราะต่อให้สกินแคร์ดีแค่ไหน แพงแค่ไหน แต่ถ้าใช้ไม่ต่อเนื่องก็ไม่อาจเห็นผลเช่นกัน

จากใจคนเคยแพ้นะค่ะ การทำให้ผิวแข็งแรงนั้นสำคัญก่อนผิวขาว การดื่มน้ำเปล่า เลือกรับประทานอาหาร และออกกำลังกายก็มีส่วนสำคัญค่ะ ไม่อยากหน้ามัน มัวหาแต่ผลิตภัณฑ์ แต่การกินยังกินไม่เลือก กล้วยทอด เค้ก ทุกวัน น้ำเปล่าไม่ค่อยจะแตะ สตาบัคเป็นประจำ ก็เป็นปัญหานะค่ะ

จากใจคนแต่งหน้าอีกเช่นกันค่ะ ถ้าผิวมีปัญหา มัวแต่โทษสกินแคร์ที่ใช้ ก็อาจต้องคิดใหม่นะค่ะ ว่าเครื่องสำอางค์เราได้มาตรฐานหรือป่าว หมดอายุรึยัง แต่งหน้านานไปมั้ย โบกหนักทุกวันรึป่าว ผิวได้หายใจบ้างมั้ย ล้างหน้าสะอาดรึป่าว แปรง พัพ ไม่ได้ล้างมานานแค่ไหนแล้ว

ที่สำคัญที่สุด คือการยอมรับในสิ่งที่เป็นค่ะ เช่น ผิวเราดีได้เท่านี้ เราค่อยๆ ทำให้ดี แต่ถ้าไม่ดีเหมือนคนอื่นก็ไม่เป็นไร ผิวขาวได้แค่นี้ เราก็สวยได้ ฯลฯ ยังไงเราก็ผิวมนุษย์นะคะ มีสิวบ้าง หมองบ้าง แย่บ้าง ดีบ้าง เป็นธรรมดา

เพราะยังไง จขกท. ก็เชื่อค่ะ ว่า ทุกอย่างเริ่มต้นที่ความสะอาด รักษาความสะอาด เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมปลอดภัย แล้วค่อยแต่งแต้มเติมแต่งนะคะ "สวยสะอาด สวยปลอดภัย สวยมีความสุข" ค่ะ ^________^

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ