เที่ยวฮอกไกโด(เองไม่ง้อทัวร์) วันที่ 10 - 16 พ.ค. 2558 :Vol.3 Day4

สวัสดีค่ะ สาวๆจีบัน marliblossom มารายงานตัวแล้วค่ะ พร้อมเสิร์ฟทริปฮอกไกโดในวันที่ 4 ซึ่งจะย้ายเมืองจากโนโบริเบทซึไปที่ซัปโปโร ตามไปเที่ยวกันเลยค่ะ

สามารถอ่านภาคก่อนหน้าได้ที่

Vol.1 http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=207897

Vol.2 http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=207932

วันที่ 13 พ.ค.

วันนี้ตื่นไม่ค่อยเช้าเท่าไหร่ค่ะ สงสัยเมื่อคืนไปแช่น้ำร้อนนานไป เกือบจะไม่ทันกินอาหารเช้า นั่งได้แป๊ปเดียวพนักงานเดินมาบอกว่าอีก 15 นาทีจะปิดแล้วนะจ๊ะ หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ก็กลับไปเก็บกระเป๋า และเช็คเอ้าท์ เพื่อเดินทางไปเมืองต่อไปคือ ซัปโปโร ค่ะ

จริง ๆ แล้ว โรงแรม Mahoraba มีบริการรถรับ-ส่ง จากซัปโปโร ด้วยนะคะ แต่เมื่อวานตอนเช็คอิน ดิฉันกับเพื่อนก็จะจองแต่เต็มเลยอด กะว่าจะประหยัดตังซักก่อนหน่อย T_T

ไม่ไปไรค่ะ ถึงแม้เราจะไม่ได้ไปรถฟรี เราก็สะพายกระเป๋ากับถุงของฝาก เดินเชิดหน้าผ่านรถบัสไปยืนรอรถเมล์ที่หน้าโรงแรมแทนค่ะ วันนี้อากาศสดใสผิดกับเมื่อวานมาก เพื่อนๆ สามารถเช็คเวลารถเมล์ไว้ก่อนได้ที่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่ขามาได้เลยค่ะ จะได้ไม่ต้องไปยืนรอนาน ดิฉันกับเพื่อนไปถึงสถานีรถไฟในแบบที่ซื้อตั๋วเสร็จแล้ววิ่งไปขึ้นรถไฟเลย ขึ้นโบกี้ผิดด้วย แต่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี เลยยืนรอเจ้าหน้าที่ พอเจ้าหน้าทีมา คุณเค้าก็บอกว่ายืนตรงนี้ดีแล้ว แล้วก็ทำท่าว่าโบกี้ no reserve คนเยอะมาก ก็เลยต้องตีตั๋วยืนจากโนโบริเบทซึไปซัปโปโรกันเลยทีเดียว ระหว่างฝนตกลงมาค่ะ แต่พอถึงซัปโปโรโชคดีที่ฝนหยุดตก

ออกจากชานชลามา คนเยอะมากค่ะเพราะซัปโปโรเป็นเมืองใหญ่ เหมือนเป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด ทางออกจากสถานีหลายประตูเลย ต้องยืนดูแผนที่ว่าโรงแรมนี่ต้องออกประตูไหน โรงแรมที่เราพักอีก 3 คืน คือ Best Western Hotel Fino Sapporo ซึ่งออกประตูทางเหนือค่ะ เห็นป้ายโรงแรมแต่ไกลเลยค่ะ เดินไปไม่ไกลมาก เช็คอินและฝากกระเป๋าไว้ และเริ่ม walking tour around sapporo ค่ะ เดินออกจากโรงแรมไปฝนตกเลยค่ะ แถมอากาศก็ดูจะเย็นลงกว่าเมื่อวานอีก T_T เลยข้ามถนนไปซื้อร่มจาก lawson ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย และไปอีกไม่ไกล เยื้อง ๆ โรงแรมก็มี MosBurger อยู่ค่ะ เลยไปแวะกินมื้อเที่ยง แน่นอนค่ะว่าต้องกินเบอร์เกอร์เนื้อไหน ๆ มาถึงถิ่น อร่อยฝุดๆ ของชอบ ^_^

"ช่วงพ่อค้าแซ่บ"

จากร้านมอสเบอร์เกอร์ เดินกลับไปที่สถานีรถไฟ ข้ามไปออกทางประตู South เพื่อไปเที่ยวตึกที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโดเป็นที่แรก ด้วยเราสองสาวเป็นมนุษย์คาเฟอีน ต้องหากาแฟกินเพิ่มพลัง ก็บังเอิ๊นนนนบังเอิญค่ะ เจอร้านกาแฟอยู่ระหว่างประตูเหนือกับใต้ เลยพบเข้ากับหนุ่มบาริสต้าหน้าตาดี ตรงสเปคเพื่อนดิฉัน (ดิฉันไม่ค่อยถูกสเปคเท่าไหร่ อิอิ) ระหว่างรอพ่อหนุ่มเค้าชงกาแฟให้ เลยแอบถ่ายรูปมา อาจจะเบลอนิดหน่อยนะคะ เขิลคุณเค้า

เดินออกจากสถานีมา ฝนก็พลำๆไปเรื่อยค่ะ ใช้ google map ช่วยพาเดินไปถึงที่หมาย พาเข้าไปด้านหลังของตึงที่ทำการฯซะงั้น แต่แค่ด้านหลังก็อลังการแล้วค่ะ ตึกอิฐแดงทรงยุโรปเก๋ ๆ

รอบ ๆ ตึกที่การฯจะเป็นสวนค่ะ เดินตามสวนมาด้านหน้าตึก ยังพอได้เจอดอกซากุระ พันธุ์ที่ออกดอกพร้อมใบอยู่บ้าง ด้านในตึกฯ เป็นพิพิธภัณฑ์ เข้าชมได้ฟรี แสดงห้องประชุมรัฐบาล ห้องทำงาน ห้องแสดงประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด เราเห็นช่างภาพชาวญี่ปุ่นมาเก็บภาพสถาปัตยกรรมภายใน มุมเสา หัวบันได ซึ่งเห็นก็คลาสสิคดี

พอข้ามถนนจากหน้าตึก ฯ ก็พอย่านที่ดูชิค และวิวดี มีคนมาถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งด้วย เราสองสาวก็เจอร้านที่ขนมดูหน้ากินมาก ร้านนี้มีโต๊ะแบบ outdoor ร่มกางสีส้มๆ เลยจัดซักหน่อย เพราะซัปโปโรเค้าขึ้นชื่อเรื่องขนมหวานอยู่แล้ว น่ากินและมันก็อร่อยมาก.......ชีวิตดี๊ดี

หลังจากได้รับน้ำตาลเพิ่มพลัง ก็เดินค่ะเดินไปที่ หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร ของแท้ต้องมีดาวแดงสองดวง พร้อมดอกไลแลคบานสะพรั่งอยู่ด้านหน้า

ใกล้ๆ กันนี้ ก็จะเจอกับ Sapporo TV Tower ค่ะ เห็นเด่นตะหง่าน ดิฉันไม่ได้ขึ้นไปชมวิวนะคะ เนื่องจากขึ้นไป 2 ที่ละก่อนหน้านี้ที่ฮาโกดาเตะ ที่นี่เลยขอนั่งชิวอยู่ข้างล่าง แต่ highlight ของที่นี่ คือ ต้องมากินข้าวโพดปิ้งค่ะ ฝักละ 300 เยน (ประมาณ 90 บาท) ดิฉันกะเพื่อนนี่ก็นั่งแทะ ๆ หน้าเสาทีวี ชมนกพิราบ นั่งดูผู้คน แล้วก็ไปเดินชมสวนดอกไม้ด้านหน้าเสานี่ยาวๆเลย เจออีกาญี่ปุ่น ตัวใหญ่ดำ หลายตัวเลย

และแล้วเราก็ถึงเวลา shoppinmg time วันนี้ไปที่ Tanuki Koji Shopping Arcade แน่นอนค่ะว่าต้องไป Matsumoto Kiyoshi ร้านขายยาที่มากกว่าขายยา นอกจากนี้ก็แวะร้านขายยายี่ห้ออื่น ๆ ด้วย จำชื่อไม่ได้ สองสาวก็หอบกัน 2 ถุงใหญ่ นั่งแท็กซี่ไปกินมื้อเย็นที่ซัปโปโรเบียร์การ์เด้น เพื่อไปกินเมนูขึ้นชื่อคือ เจงกิสข่าน หรือเนื้อแกะย่างบนกะทะเหล็ก ตอนแรกกลัวว่าจะมีกลิ่น แต่พอได้ลองแล้ว ไม่มีกลิ่นเลย แถมเนื้อยังนุ่ม โหยติดใจ แนะนำเลยค่ะว่าต้องไปกิน

เอร็ดอร่อยกับเจงกิสข่าน แกล้มเบียร์สด และควันบุหรี่ ดีนะที่เค้ามีบริการถุงพลาสติกให้ใส่เสื้อกันหนาว กระเป๋าและข้าวของที่ติดตัวมา จะได้ไม่มีกลิ่นเหม็นติดออกไป นั่งแท็กซี่กลับไปโรงแรมค่ะ ค่าแท็กซี่เที่ยวละไม่เกินพันเยนค่ะ คือ ดูจากข้อมูลท่องเที่ยวเค้าก็แนะนำให้นั่งแท็กซี่มาค่ะ เหมือนจะไม่มีรถไฟใต้ดินและรถเมล์มาถึง

4 วันผ่านไปแล้วค่ะทริปนี้ อีก 3 วันที่เหลือพบกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ

ขอขอบคุณจากใจที่เข้ามาอ่านกันค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่อยากไปเที่ยวเองที่ฮอกไกโดนะคะ

marliblossom

Discussion (2)

@MODTRIMOSA ขออภัยค่ะ แต่ของกินที่นั่นเค้าอร่อยจริงๆ :P
เปิดกระทู้มาก็เจอของกินเลย จขกท ใจร้ายมาก  ><
ท้องร้องเลยคะ 55