เปิดหมดเปลือกกก....คอนแทคเลนส์ที่ใส่มาเองทั้งหมด

สวัสดีสาวกจีบันอีกครั้งนะคะ กลับมาพบกันอีกแล้ว

วันนี้ริชจะมาพูดถึงคอนแทคเลนส์ค่ะ หลายๆคนถามเข้ามาบ่อยใส่ยี่ห้ออะไร สีสวยดีตาสวยจัง

มาๆ จะมาบอกมาเล่านะตัวเธอวว

ไหนๆจะโพสทั้งทีเลยขุดทุกๆยี่ห้อที่เคยใส่นะคะ จะบอกถึงที่มาที่ไปของคอนแทคเลนส์แต่ละยี่ห้อค่ะว่ามันเป็นอะไรยังไง ทำไมใส่อันนี้แล้วตาฉันเคือง และทำไมใส่อันนี้แล้วมันแข็งกว่า อันนั้นบางกว่า บลาๆๆๆร้อยแปดจุดห้านะคะคุณณณ

กระทู้นี้จะออกไปทางแนวถาม-ตอบ ให้เกร็ดความรู้มากกว่า ไม่เชิงรีวิวนะคะ รีวิวคือใส่แล้วเป็นยังไง สวยมั้ย สินค้าน่าคบน่าซื้อมั้ย ไรงี้นะ เราจะไปลึกกว่านั้นค่ะ :) ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเล้ยยยย

ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะ ราคาคอนแทคเลนส์ที่ริชจะพูดถึงต่อไปนี้ ช่วงแรกๆของโพส จะเป็นราคาที่เขาขายในตลาด ณ ช่วงเวลานั้น ปัจจุบันต้องยอมรับว่าราคาคอนแทคเลนส์ลดลงไปพอสมควรค่ะ

ริชใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรกตอน ม.3 ค่ะ (11 ปีที่แล้วเอง)

ยี่ห้อแรกที่ใส่คือ Ultraflex รุ่นที่มันเป็นสีๆค่ะ บริษัท Maxim เป็นผู้นำเข้า แต่ปัจุบันทางบริษัทเลิกนำเข้ายี่ห้อนี้แล้วค่ะ

คอนเแทคเลนส์รุ่นนี้จะคล้ายๆกับ Freshlook colorblends คือมีขนาดเท่าตาดำจริงๆ แต่สีจะออกไปแนว 2-tone มากกว่า จำได้ว่าสีที่ชอบซื้อใส่มากที่สุดคือสีเขียว เขียวยี่ห้อนี้มีเอกลักษณ์มากคือมันออกเขียวขี้ม้า พอมาอยู่บนตามันเลยเป็นสีเขียวเหลือบเทาหม่น หลวยดุ้งเว่อร์

ในขณะที่ Freshlook จะเป็นคอนแทคเลนส์ 3-toneอย่างชัดเจน ยี่ห้อแรกๆที่มีวางขายในไทยค่ะ

ในสมัยนั้น ริชจะซื้อคอนแทคเลนส์สลับไปมาระหว่าง Ultraflex กับ Freshlook ซึ่งราคาจะต่างกันค่อนข้างมาก Ultraflex ราคาประมาณ 450บาท/คู่ ในขณะที่ Freshlook จะสนนราคาที่ประมาณ 800บาท/คู่ ค่ะ ซึ่งร้านประจำที่ริชซื้อคือร้านแว่นไนซ์ ออพติก สยามแสควร์ ซอย 1 ค่ะ

ป.ล.1 ไม่มีรูปสำหรับ Ultraflex Color Contact lenses นะคะ กูเกิ้ลไปแล้ว แต่กลัวว่ารูปจะไม่ใช่ เอามาโพสแล้วมาโชว์โป๊ะเปล่าๆเนาะ

มาต่อกันที่คอนแทคเลนส์สีรุ่นยอดนิยมในบ้านเราค่ะ

Freshlook Colorblends Color Contact Lenses

ชาร์ตสีในภาพ คือมีขายทั้งหมดในเมืองนอกค่ะ ในไทยช่วงแรกๆก็มีจำหน่ายครบตามชาร์ตสีเช่นเดียวกัน แต่ปัจจุบันสี Honey, True Sapphire, Amethyst, Turqoise ไทยเรายกเลิกนำเข้าแล้วค่ะด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่ใช่สีฮิต ขายไม่ออก" ส่วนสี Gemstone Green, sterling Gray และ Brilliant Blue มีจำหน่ายบางสาขาค่ะ

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรทราบของ Freshlook Colorblends

ผู้ผลิต:CIBA Vision, USA (รายเดือน)

CIBA Vision, Germany (รายวัน)

ค่าอมน้ำ:55%

ความโค้งมาตรฐานขึ้นอยู่กับค่าสายตา

0.00 - -0.75 BC 8.30mm -1.00 - -3.50 BC 8.45mm

-3.75 - -6.50 BC 8.50mm -6.75 - -8.00 BC 8.60mm

ความบางของเลนส์: 0.08mm

เส้นผ่าสูนย์กลาง: 14.5mm

เป็นเลนส์กันยูวี

ป.ล.2 ราคาของ Freshlook ถูกลงพอสมควรค่ะ จากที่เคยซื้อแพงสุดที่ 900 ตอนนี้อยู่ประมาณ 500-550 บาท/คู่

มาถึงตัวนี้กันบ้าง Maxim Color contact Lenses คอนแทคเลนส์เอาใจชะนีและตุ๊ดเด็กวัยเรียน ในช่วงสมัยของริชกันบ้างค่ะ

สมัยที่ Maxim ออกคอนแทคเลนส์สีมา จำได้เลยว่าอยู่ม.4 ซื้อรุ่นกล่องชมพู สนนราคาที่ 380 บาท/คู่ เป็นราย 2 เดือนค่ะ จะมีแค่สองลายเท่านั้น คือ Skyline และ Sunrise ค่ะ (อีกลายชื่อ Moonlight เป็นรายปี ปัจจุบันน่าจะเลิกผลิตไปแล้วนะคะ)

หลังจากนั้น Maxim ค่อยปล่อยคอนแทคเลนส์อีกสองรุ่นออกมา คือ รุ่นกล่องส้ม (รุ่นตาโต) มี 3 สี สีดำ,เทา,น้ำตาล ราคา 450บาท/คู่ กับ รุ่นกล่องฟ้าอมเขียวค่ะ (รุ่นตาหวาน) จำไม่ได้ว่ามีสีอะไรบ้าง ราคา 400บาท/คู่ (ราคาในสมัยก่อนนะคะ)

ปัจจุบันได้แตกไลน์และจำนวนสีตามภาพข้างบนเลยค่ะ

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรทราบของ Maxim Color Contact Lenses

ผู้ผลิต: Vision Science, Korea

ค่าอมน้ำ: 42%

ความโค้งมาตรฐาน

BC 8.6mm (กล่องฟ้า,ชมพู,เขียว)

BC 8.7mm (กล่องส้ม)

ความบางของเลนส์:0.05mm - 0.11mm

เส้นผ่าสูนย์กลาง: 14.0mm (กล่องฟ้า,ชมพู,เขียว)

14.5mm (กล่องส้ม)

เป็นเลนส์กันยูวี

ราคา ณ ปัจจุบันไม่ทราบนะคะ แต่ถราคาถูกลงแน่นอน ริชไม่ได้ใส่ยี่ห้อแม็กซิมมานานมากๆแล้ว ตอนแรกๆที่ยี่ห้อนี่ออกมา ริชก็ใส่ปกติค่ะ แต่พอไปเจอคอนแทคเลนส์ยี่ห้อที่ใส่สบายกว่า พอกลับมาใส่ รู้เลยว่าเลนส์ยี่ห้อนี้แข็งกว่ามาก แต่ปัจจุบัน เท่าที่ถามๆเพื่อนที่ยังใส่ยี่ห้อนี้ เขาบอกว่ามันก็นิ่มขึ้นนะ อันนี้ก็ต้องไว้ลองดูแล้วล่ะ เนาะ:)

ใส่ยี่ห้อพวกนี้วนเวียนจนกระทั่งขึ้นมหาวิทยาลัย เข้าสู่ยุคของคอนแทคเลนส์ขวดๆจากเกาหลีมีให้เลือกสรรมากมายครองเมืองค่ะ

ยี่ห้อที่คุ้นเคยกันดีนะคะ นี่เลย

Dueba Contact lenses นั่นเอง

Contact Lenses ทั้งสามตัวข้างบน Vassen, Dueba, Barbie เป็นรุ่นคอนแทคเลนส์ที่อยู่ภายใต้ การผลิดของ Dueba G&G ซึ่งเป็นบริษัทผลิตคอนแทคเลนส์รายใหญ่อีกรายหนึ่งของทางเกาหลีใต้ค่ะราคาแรกเริ่มที่เปิดตัวในตลาดคอนแทคเลนส์บ้านเราอยู่ที่ 650บาท++ ค่ะ ซึ่งหมายความว่า มีขายแพงกว่าราคานี้แน่นอน เคยเจอแพงสุดคือเลย 1000 ไปเลยค่ะ แพงโคตรรรรรรรรรรรร

จุดขายอีกจุดหนึ่งที่เรียกว่าเปลี่ยนประวัติศาสตร์คอนแทคเลนสืบ้านเราเลยก็คือ คอนแทคเลนส์เกาหลี (ที่ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อที่กำลังพูดถึงก็ดี หรือยี่ห้อที่กำลังจะพูดถึงก็ตาม) นางมาพร้อมสรรพคุณที่หลายๆคนฟังแล้วก็ อิ้ออออหือออออออ นั่นก็คือ ฉันเป็ยความสวยรายปีย่ะ ไม่ต้องเปลี่ยนมันทุกเดือนๆ คู่นี้คู่เดียว จบ!!

ใครทันยี่ห้อนี้บ้าง GEO Contact Lenses

โดยเฉพาะรุ่น Angel กับ GEO 3 tone

ทั้ง GEO และ Dueba G&G เป็นตัวแม่ของการผลิตคอนแทคเลนส์ในอุตสาหกรรมเกาหลีในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ค่ะ

ถ้าพูดถึงตัวสินค้า สินค้าจากบ้านเขาเลย จะต่างกับสินค้าที่วางขายในบ้านเราปัจจุบันค่ะ (ขั้นตอนการผลิต งบที่ใช้ในการผลิต ตัววัสดุ หรือปัจจัยอื่นใด ริชก็ไม่ทราบนะคะ แต่ด้วยความที่ใส่มาตั้งแต่ยี่ห้อเหล่านี้เข้ามาไทยตั้งแต่แรกๆ กล้าพูดเลยว่า คุณภาพ สี ความสวย ความสบาย ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับของปัจจุบันแน่นอนค่ะ)

คอนแทคเลนส์ของ GEO สมัยนั้นคือพังมาก ค่าอมน้ำ 38% เมื่อเทียบกับของทาง Dueba ที่มีค่าอมน้ำ 42% ความสบายเมื่อสวมใส่จึงต่างกันเยอะค่ะ ค่าความโค้งของเลนส์ก็ตามตลาดเลยค่ะ 8.6mm นั่นเอง (ช่วงท้ายกระทู้จะพูดถึงเรื่องพวกนี้ด้วย สำคัญแน่นอน ห้ามพลาด!!!)

ปัจจุบันนี้ สินค้าทั้งสองยี่ห้อ ทำค่าความโค้งออกมามากขึ้นเพื่อรองรับผู้สวมใส่มากขึ้นค่ะ ล่าสุดที่เข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของเกาหลี ค่าความโค้งสูงสุดอยู่ที่ 9.0mm ค่ะ

เขยิบมาอีก generation นึงของคอนแทคเลนส์ขวดในบ้านเราค่ะ

คือด้วยความที่อะไรพวกนี้มันเข้ามาในบ้านเรา พอเริ่มฮิต สาวๆเริ่มใส่ ละมันสวยกว่าพวกแม็กซิมไรงี้นะ ปากต่อปากกันไป มันเลยเป็นที่ต้องการของตลาดไง แต่ด้วยราคามันก็สูงเว่อร์ๆ สุดท้ายค่ะ

ของปลอมระบาด!!! เดชะบุญ ริชไม่เคยซื้อเจอของปลอม ไม่เคยพรีออเดอร์ในเว็บเลยค่ะไม่กล้า ริชซื้อหน้าร้านตลอด ตอนนั้นจำได้ว่าซื้อที่ปิ่นเงินพลาซ่า แถวเมเจอร์ปิ่นเกล้า ตลอด เราเจอแม่ค้าดี เค้าไม่ขายของซี้ซั้ว ไม่โกงไม่เอาเปรียบลูกค้า แต่ราคาก็จะสูงหน่อย

เขยิบมาที่ยี่ห้อคอนแทคเลนส์ขวดในบ้านเราตอนนี้กันนะคะ ที่เคยใส่ก็จะมี Pretty Lens, Protend Color, Mimi By Toni

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรทราบของ MiMi by Toni

ผู้ผลิต: GEO Medical, Korea

ค่าอมน้ำ: 40%

ความโค้งมาตรฐาน

BC 8.6mm

BC 8.7mm

เส้นผ่าสูนย์กลาง: 14.2mm, 14.5mm, 14.8mm

สี: Black, Brown, Blue, Green, Gray, Red(บางรุ่น)

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรทราบของ Protrend Color

ผู้ผลิต: Prime Color Vision, Korea

ค่าอมน้ำ: 38%

ความโค้งมาตรฐาน: BC 8.6mm

เส้นผ่าสูนย์กลาง: 14.2mm, 14.5mm, 14.8mm

สี: Black, Brown, Blue, Green, Gray, Pink

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรทราบของ Pretty Lenses

ผู้ผลิต: GEO Medical, Korea

ค่าอมน้ำ: 55%

ความโค้งมาตรฐาน: BC 8.6mm

เส้นผ่าสูนย์กลาง: 14.5mm

สี: Black, Brown, Blue, Green, Gray, Pink

ป.ล. 3 คอนแทคเลนส์ 3 ยี่ห้อนี้เป็นชนิดรายเดือนนะคะ และไม่กันยูวี

มาถึงคอนแทคเลนส์จำพวกสุดท้ายที่ริชจะพูดถึงนะคะ คอนแทคเลนส์ Import อันได้แก่

Adore Coloured Contact Lenses และ Solotica Contact Lenses ค่ะ

จะขอพูดแค่ Adore Coloured Contact Lenses นะคะ ของ Solotica เคยใส่แค่ครั้งเดียว ซึ่งนานมากพอสมควร ที่จำได้คือแพงเว่อร์ 3000 กว่าบาท ลาก่อยยยยยยยยย

ข้อมูลพื้นฐานที่ควรทราบของ Adore Coloured Contact Lenses (กล่องรูปพีระมิดสีทอง)

ผู้ผลิต: Eyemed Technologies, Italy

ชนิดราย 3 เดือน

ค่าอมน้ำ: 38%

ความโค้งมาตรฐาน: BC 8.6mm

เส้นผ่าสูนย์กลาง: 14.0mm

สี: Adore Bi-tone - Acqua, Green Blue, Gray, Hazel, Honey, Yellow

Adore Tri-tone - Light Blue, Green Blue, Gray, Hazel, Light Green, Light Gray

สนนราคาที่ 900กว่าบาทค่ะ จำไม่ได้จริงว่า 900 เท่าไหร่ วิธีซื้อ พรีออเดอร์โลดดด (เหมือนเขาจะมีเว็บไซต์ของเขาเองนะคะ เค้าไปซื้อสินค้าในนั้นได้ ส่งถึงไทย แต่ก็บวกค่า shipping บานอะ)

มาถึงเกร็ดความรู้ที่ควรจะรู้นะคะ มีดังนี้ค่ะ

1. ค่าอมน้ำ (water content) - ค่าอมน้ำสูง ทำให้ออกซิเจนไหลผ่านได้ดีค่ะ ทำให้ใส่แล้วสบายตา แต่จำไว้เลยว่า เลนส์ที่มีค่าอมน้ำสูง จะบอบบางกว่าและรักษาความสะอาดยากกว่า

ยกตัวอย่างง่ายๆเลยนะคะ คอนแทคเลนส์ใสของ Acevue (Johnson&Johnson) ค่าอมน้ำค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ใส่แล้วสบายตามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แต่ มันขึ้นรูปยาก ยวบกว่า กลับด้านก็ดูไม่ค่อยออกด้วย 555555 และมันจะบางกว่า ทำให้เกิดการฉีกขาดได้ง่ายค่ะ

2. รัศมีความโค้งด้านหลังเลนส์ (Base Curve) นั้นสำคัญมากค่ะ

• ยิ่งค่าความโค้งมากขึ้น เลนส์ตัวนั้นจะยิ่งแบน เช่น เลนส์ที่มีค่าความโค้งที่ 8.4mm จะติดรัดและบีบแน่นดวงตามากกว่าเลนส์ที่มีความโค้ง 8.8mm เป็นต้น
• เป็นหน้าที่ของจักษุแพทย์เท่านั้นนะคะ เพราะการใส่เลนส์ที่หลวมไปหรือคับไปอาจเป็นอันตรายได้
• ทางที่ดีนะคะ ควรไปวัดก่อนหาใส่ค่ะ

3. ค่าความดันลูกตา มีผลกระทบต่อระดับสายตาค่ะ

แล้วค่าความดันลูกตาคืออะไร??

• เหมือนกับความดันโลหิตเลยค่ะ คือเป็นค่าที่เปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวัน หรือแม้แต่ในระหว่างวัน ซึ่งค่าตรงนี้ มีผลทำให้ค่าระดับสายตา swing ไปมา เช่น ที่บางที เรารู้สึกว่าปวดตา แล้วรู้สึกว่าสายตาไม่พอดีกับเลนส์ เพราะว่าค่าสายตามัน swing ช่วงเช้าอาจจะปกติ พอใช้ชีวิตกันไปซักพัก ความดันลูกตาขึ้นสูง ระดับค่าสายตาเปลี่ยนเป็นสั้นเพิ่มขึ้น หรือสั้นน้อยลง นั่นเป็นเพราะว่าของเหลวในลูกตา มีส่วนในการทำให้เกิดการหักเหของแสงในลูกตาเราเปลี่ยนไปนั่นเอง

4. ใส่คอนแทคเลนส์จนรอบๆตาดำขึ้นเป็นวงเส้นเลือดแดงๆ เป็นเพราะอะไรกัน?

• เกิดจากภาวะกระจกตาเราขาดออกซิเจนค่ะ อาจเนื่องมาจากการใส่คอนแทคเลนส์ในเวลาที่นานเกินไป หรือภาวะตาแห้ง หรือตัวเลนส์บีบรัดลูกตาเรามากเกินไป อย่างที่บอกค่ะ Base Curve นั้นค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว อย่างตัวริชเอง จะใส่คอนแทคเลนส์ตามท้องตลาดไม่ค่อยได้ เพราะ Base Curve เราไม่ตลาด ซึ่งคอนแทคเลนส์ทั่วไปที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบัน Base Curve จะอยู่ที่ 8.6mm ซึ่งริชเคยไปปรึกษาหมอ ให้เขาวัดให้ จำได้แค่ว่ามากกว่า 8.6 คือจริงๆมันก็ใส่ได้ค่ะ แต่จะไม่สบายเท่าที่ควร แล้วก็จะเกิดภาวะขอบตาดำขึ้นเป็นวงแดงๆตลอด จากที่เราทนได้ 8 ชั่วโมง มาตอนนี้ 4-5 ชั่วโมง ก็เริ่มเจ็บตาแล้ว

5. ใส่คอนแทคเลนส์มานาน ตาดำดูเล็กลง และตาขาวก็ไม่ใส่เหมือนก่อน เพราะอะไร?

• อย่าลืมว่าคอนแทคเลนส์ มันก็นับเป็นสิ่งแปลกปลอมอย่างหนึ่งค่ะเมื่อเข้าสู่ลูกตาเรา ดังนั้นการมีผลกระทบย่อมเกิดขึ้นแน่นอน ขึ้นอยู่กัับสภาพปัจเจกบุคคลด้วย มากหรือน้อยก็แล้วแต่ธรรมชาติของแต่ละคน สิ่งแวดล้อมในขณะนั้น หรือลักษณะการใช้สายตาของแต่ละคนด้วยค่ะ
• อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า การใส่คอนแทคเลนส์ทำให้ออกซิเจนผ่านเข้าไปในกระจกตาได้น้อยลง น้ำที่หล่อเลี้ยงตาก็น้อยลงเพราะถูกคอนแทคเลนส์ดูดซึมเข้าไป อีกทั้งยังมีสารต่างๆที่ไปสะสมในเนื้อคอนแทคเลนส์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เกิดการอักเสบเล็กๆน้อยๆของตาได้ ซึ่งก็จะแสดงออกมาในลักษณะของเส้นเลือดที่ขยายตัว การระคายเคือง เป็นต้น
• น้ำตาเทียมคือตัวช่วยสำคัญค่ะ ที่จะทำให้ตาเราไม่แห้ง และเดี๋ยวนี้คือจะมีน้ำตาเทียมสูตรที่ช่วยลดเส้นเลือดในตาขาวด้วยค่ะ ที่ทราบมาก็จะมีน้ำตาเทียมที่เป็นผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น เคยใช้อยู่ครั้งสองครั้งค่ะ ก็ช่วยได้ในระดับนึงนะ มีหลายยี่ห้อเลยค่ะ ลองเสิร์ชๆดูกัน ใครสะดวกอะไรซื้อที่ไหน ใช้ดีแล้วมาบอกต่อด้วยเนาะ 555555 (ห้ามใช้น้ำเกลือ หรือน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์แทนน้ำตาเทียมเด็ดขาด)
• ที่วางขายนบ้านเราตามร้านขายยาไม่แน่ใจนะคะ แต่ถ้าไปซื้อตามร้านขายยา มันก็จะเป็นพวกยาหยอดตาไปเลยค่ะ ลดเส้นเลือด ลดการระคายเคืองของดวงตา คือเป็นเวชภัณฑ์ที่ใช้เอาไว้รักษาโรคไปเลยมากกว่า ซึ่งทราบๆกันดีนะคะว่า ยาหยอดตาใช้ติดต่อกันเป้นเวลานานไม่ได้ ถ้ายังไงปรึกษาจักษุแพทย์ดีกว่า
• แต่ก็อย่างทีบอก ใส่คอนแทคเลนส์เมื่อยามจำเป็นจะดีกว่านะคะ รักษาความสะอาด ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องเป็นประจำ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของลูกตาให้อยู่กับเราไปนานๆได้

มาถามถึงความรู้สึกที่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ที่ได้ล่าวมาทั้งหมดเลยนะคะ

โดยรวมแล้วริชใส่อะไรก็แห้งทั้งนั้นค่ะ 55555555 คือเป็นคนตาแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยต้องพึ่งน้ำตาเทียมอยู่ประจำ ช่วงที่ใส่คอนแทคเลนส์นะ ตาแห้งขนาดไหน? แห้งขนาดที่่เคยใส่แล้วมันแห้งคาลูกตา ปลิวออกมาจากลูกตาเราเป็นแผ่นแข็งๆเลย น่ากลัวววววว

แต่ค่อนข้างจะเทคะแนนให้คอนแทคเลนส์เอเชียมากกว่าของฝรั่งค่ะ มันใส่สบายกว่านะ ในแง่ของความรู้สึกส่วนตัว โดยจะให้คะแนนที่ใส่สบายที่สุดเป็นลำดับนะคะ

1. Dueba G&G

2. Adore Coloured Contact Lenses เป็นคอนแทคเลนส์ที่ค่าอมน้ำต่ำพอสมควร (38%) แต่ใส่แล้วสบายกว่าที่คิด

3. Pretty Lens บางรุ่นค่ะ สินค้าบางล็อตใส่ละสบายลืม บ้างล็อตนี่คือปาหัวหมาเลยนะ

4. Freshlook Colorblends

5. Protrend Color กับ MiMi by Toni ให้เท่ากันค่ะ แข่งกันแห้ง แข่งกันดูดตา

หมดละ หมดก๊อก ไม่รู้จะพูดอะไรละ 5555555

หวังว่าเนื้อหาที่ริชโพสจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ

มีอะไรอยากเพิ่มเติมเสริมแก้ หรือจะชวนคุยก็ได้ค่ะ ได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างนะคะ

ที่สำคัญ ฝากนะคะ สาวกคอนแทคเลนส์ อย่าใส่นอนเป็นอันขาด เอาแบบขี้เกียจสุดเลยนะ ถอดแช่คืนนี้พรุ่งนี้เช้าค่อยลุกขึ้นมาถูเลนส์ก็ได้อะ

สำหรับคนใส่นอน ไม่ได้ขู่นะคะ เสี่ยงต่อการเกิดติดเชื้อ หรือตาบอดถาวรนะคะ พูดเลย

เลือกเอานะคะ สวยอย่างเดียวไม่ได้ ช่วยฉลาดด้วยเนาะ

ยังไงก็เจอกันกระทู้หน้านะคะสาวๆ XOXO