ทริปตามใจแม่ : ฝ่า F1 เก็บ Landmark ที่สิงคโปร์

7 4

สวัสดีค่ะสาวๆ เอิร์ธเอิร์ธพาเที่ยวกลับมาแล้ววว หลังจากที่ทริปก่อนเอิร์ธพาทุกคนลงไปทะเลใต้กันแล้ว ครั้งนี้ขอขยับลงไปอีกที่ประเทศเพื่อน AEC กับประเทศสิงคโปร์จ้า

ช่วงที่เอิร์ธไปมีการแข่ง Singapore Grand Prix F1 ด้วย อยากดูมากก แต่ขุ่นแม่ไม่อินเลยได้แค่เก็บบรรยากาศเล็กๆ มาฝากกัน อย่างที่บอกค่ะ ทริปนี้ตามใจแม่ 5555

ทริปนี้มีข้อจำกัดนิดหน่อย เพราะไปกันแค่ 2 สาวแม่ลูกค่า (หนีแฟนหนีพ่อกันไปดูโอ้ 555) ดังนั้นต้องเลือกสถานที่เที่ยว-พักที่ไม่น่ากลัว ยิ่งสวยๆ กันอยู่ด้วย หุหุ แล้วก็ต้องเดินทางสะดวกเพราะขุ่นแม่ก็เดินมากๆ ไม่ได้ด้วยค่ะ

ครั้งนี้เอิร์ธจองตั๋วไปกับ Air Asia ช่วงที่มีโปรลดราคานู่นน

เหลือแค่ไป-กลับคนละ 2,880 บาท

ซื้อน้ำหนักกระเป๋าขากลับ 20 kg. 640 บาท

แล้วก็ข้าวขาไปคนละเมนู 240 บาท รวมเป็น 6,640 บาท ค่ะ

ที่พักเอิร์ธเลือกที่โรงแรม The Porcelain Hotel ย่าน Chaina town ค่ะ ซึ่งราคาโรงแรมช่วงที่ไปถือว่าแพงมากกก ปกติ 3,000 กว่าขึ้นเป็นคืนละ 5,280 บาทเลย เพราะเอิร์ธจองช้าด้วย แล้วช่วงนั้นก็มีการแข่ง F1 อีก แต่แลกกับการเดินทางสะดวกก็โอเคมีโอกาสได้เห็นรถแข่งจริงๆ ซักครั้ง คุ้ม!!! (แหละมั้ง)

วันที่ 1

ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองกันตอนประมาณ 6 โมงเช้า ค่ะ

ระหว่างเดินทางก็ถึงหม่ำๆ กับเมนูที่เอิร์ธเลือกไว้นั่นก็คือข้าวผัดสไตล์เอเชียกับไก่สะเต๊ะ รสก็ถือว่าโอเคนะคะ ไม่แย่ แต่ก็ไม่พีค

9.40 เราก็ถึง Changi Airport จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพสิ่งแรกที่ทำเลยก็คือการซื้อซิมค่ะ ตามที่อ่านมาเค้าบอกว่าให้ซื้อของยี่ห้อ Singtel ในราคาประมาณ 18 SGD. แต่!! ในสนามบินมีแต่แบบ Tourist 30 SGD. อะแกก ซิมราคา 750 บาท!!! เดี๋ยวๆ นี่มันค่าโปรเน็ตทั้งเดือนของชั้น!!! ทำไรไม่ได้ ด้วยความใจร้อน แล้วพนักงาน UOB ก็บริการดี ซื้อก็ซื้อ

แพ็คเกจของเค้าคือ ใช้งานได้ 10 วัน

เน็ต 100 GB

โทรต่างประเทศ 100 นาที

โทรในสิงคโปร์ 3,000 นาที

หึหึหึ ใส่ซิมปุ๊บก็แชร์ Hotspot ให้แม่ทั้งวันทั้งคืนเลยจ้าาา แพงเหลือเกินนน

จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปยัง Terminal 2 เพื่อซื้อ Ez-link และเข้าเมืองกัน

เอิร์ธซื้อ Ez-link มาในราคา 12 SD แต่สามารถใช้ได้แค่ 7 SGD จึงเติมเงินไปอีก 10 SGD เพื่อใช้ตลอด 3 วันค่ะ (แต่มันไม่พอนะคะ เพราะวันสุดท้ายเหลือเงินแค่ SGD ไม่สามารถเข้าไปยังสถานีได้ จึงเติมเพิ่มไปอีก 10 SGD รวมเป็น 20 SGD ค่า)

บัตรพร้อมก็ได้เวลาไปที่พัก งานนี้เอิร์ธนั่ง MRT สายสีเขียวไปที่ Tanah Merahและนั่งต่อไปที่OutramPark เพื่อเปลี่ยนเป็นสายเป็นสีม่วงไปยัง Chaina Town

สำหรับ Porcelain Hotel ให้เดินออกมาทางออก A แล้วเดินไปทางด้านหลัง เลี้ยวขวาเข้าถนน Mosque St. ก็จะเจอโรงแรมอยู่ด้านซ้ายค่ะ แต่! ด้วยควมที่ร้านค้าใน Chaina town มันเย้ายวนใจ ออกจากใต้ดินปุ๊บก็เดินเข้าไปเลย จนหลงสิคะ! ทำให้เอิร์ธเดินอ้อมไปทางวัดแขกก่อนจะเลี้ยวซ้ายไปค่ะ แหมม ไกลเลย 555

เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย ก็ไปหาข้าวมันไก่เจ้าดังกินที่ Mexwell Food Centre ตอนแรกก็ว่าจะกินข้าวจาก 2 ร้านคือ Tian Tian และ AH Tai แต่ด้วยความตาลาย คนเยอะ หาร้านไม่เจอ หิวก็หิว เลยสั่ง Tian Tian ไปเลยว่า Chicken rice standard 2 ค่าาาา

ราคาจานละ 5 SG ค่ะ ตัวข้าวดีงามมาก ชุ่ม รสกลมกล่อม ไก่ก็นุ่มๆ ไม่เหนียวแต่ด้านในเหมือนไม่ค่อยสุก เก๊าเลยไม่ค่อยชอบ ส่วนน้ำซีอิ้วราดที่เค้าว่าเด็ดก็แอบจืดไปนิดสำหรับเอิร์ธ

อิ่มเสร็จก็แวะที่วัดเขี้ยวแก้ว ชื่อดังที่ตอนนี้ดันซ่อมถนนตรงหน้าวัดอยู่ซะงั้น รูปสวยๆ ที่ดูมาจากเน็ตหายวับ ข่ะ =="

จากนั้นก็เดินกลับมาที่วัดแขก ค่ะ แต่งานนี้เอิรธไม่ได้เข้าเนื่องจากเอิร์ธใส่กระโปรงสั้นมา ขี้เกียจนุ่งผ้าเข้าไป

เลยเดินดูเหล่าพวงกุญแจที่ Chaina Town แทน

พักเอาแรงที่โรงแรมกันก่อน ขนาดของห้องนอนก็เล็กกกกกกก เคยได้ยินว่าสิงคโปร์ประหยัดเนื้อที่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเล็กขนาดนี้ คืนละห้าพันนะแก๊!!! เอาน่า! แลกกะความสบายในการเดินทาง ท่องไว้คุ้มม คุ้มมมมม

ประมาณ 5 โมงเย็นเราก็เดินข้ามถนนไปที่ห้าง People's park เพื่อไปซื้อตั๋ว Gardens by The Bay และ Singapore Flyer ที่ Sea Wheel Travel เข้าไปในร้านเจอกรุ๊ปคนไทยมาซื้อตั๋วกันเพียบเลย คนขายก็น่ารัก พูดไทยได้นิดหน่อย น่ารักดี 5555

สำหรับราคา Gardens by The Bay อยู่ที่ 18 SGD ส่วน Singapore Flyer 28 SGD ต่อคนค่า

ตอนแรกตั้งใจไปขึ้นชิงช้าวันถัดไปแต่! สนาม F1 อยู่ตรงนั้นพอดี ทำให้วันที่ 18-20 มันปิด! เลยต้องเปลี่ยนแพลนกระทันหันมาขึ้นวันแรกแทน

ออกเดินทางไป Singapore Flyer ด้วยรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Promenage ลำพังการเดินปกติจาก MRT ไปชิงช้าก็ไกลอยู่แล้ว ตอนนี้มี F1 มาขวางไว้อีก ทำให้ต้องเดินอ้อมซ้ายขวากันไกลอยู่ แต่มันดีงามตรงที่ระหว่างทางเราได้เห็นบรรดารถแข่ง นักแข่ง การเตรียมที่ดูแล้วก็อินตามในความเท่ห์ของพวกนาง

ได้เวลาตีตั๋วขึ้นชิงช้ากันแล้ว ตอนแรกคิดว่าเราก็เดินไปขึ้นชิงช้าดูวิวปกติ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นตรงที่ระหว่างทางเดินไป เค้าจะมีจัดนิทรรศการเล่าความเป็นมาต่างๆ ให้เราได้ดู แถมยังจำลองเป็นการขึ้นเครื่องบินไปตะลุยเมืองด้วยนะ เล่นเอาเพลินเลย

บรรยากาศบนชิงช้ายามคำค่ำคืนค่ะ

หลังจากทัวร์สิงคโปร์ยามค่ำคืนเสร็จ ก็ปิดท้ายการเดินทางวันนี่ด้วยการกินน! เราเลือกหม่ำที่โซนอาหารใน Singapore Flyer เลยค่ะ พระเอกเด็ดมื้อนี้ยกให้ เนื้อสะเต๊ะเลย อร่อย นุ่ม น้ำจิ้มเด็ด พี่คนขายเป็นคนไทยด้วยค่า

วันที่ 2

หม่ำอาหารเช้าง่ายๆ ในห้องกับมันบดสำเร็จรูปที่แค่เติมน้ำเข้าไป คนๆๆ ก็จะได้มันบดอร่อย เห็นถ้วยเล็กๆ แบบนี้ อิ่มอยู่น้า

ออกเดินทางไปเที่ยวกันที่กาะ Sentosa ค่ะ นั่ง MRT เหมือนเดิมไปลงที่ Harbourfront เดินเข้าห้าง Vivo City ชั้น 3 เพื่อไปนั่ง Sentosa Express โดยเค้าจะคิดค่าโดยสาร 4 SGD ค่ะ จะนั่งไปกลับกี่ครั้งก็ได้ใน 1 วัน

ที่แรกที่เราไปลงก็คือสถานี Beach Station เพื่อไปแอบดูทะเลของเค้าและตึก Ifly

ทะเลไทยแอบสวยกว่าเยอะนะ 55555

นั่งรถถัดมาอีกป้าย Imbiah Stationเพื่อมาถ่ายรูปกับพี่สิงห์ตัวยักษ์ Merlion ค่า

จากนั้นก็มาที่สถานี Waterfront Station เพื่อมายัง Universal Studio แต่ไม่ได้เข้านะคะ เพราะขุ่นแม่ไม่เล่นด้วย TT เลยได้แต่แอบโฉบไปซื้อมินเนี่ยนกลับมาเบาๆ

แวะหม่ำอาหารกลางวันกันที่ Malaysian Food Street ตรงทางเข้า Universal ค่ะ

มื้อเที่ยงของเราวันนี้เป็น Char Koay Teow ที่หน้าตาเหมือนผัดไทมาก ความอร่อยก็พอกันเลย หอมกลิ่นเส้นไหม้ๆ กำลังดี แหม ถ้ามีพริกป่น น้ำตาล น้ำปลาคงยิ่งฟิน ส่วนของขุ่นแม่เป็นบักกุ๊ดเต๋ค่ะ ตบท้ายกันด้วยน้ำแข็งไส ice kacang ที่หน้าตาน่ากินมาก ติดตรงที่น้ำราดเหมือนยาธาตุไปหน่อย 55555

อิ่มแล้วก็ไปช็อปปิ้งกันค่ะ เอิร์ธนั่งรถไฟใต้ดินสายสีม่วงจาก Harbourfront ไปลงที่ DhobyGhautเพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีแดงไปยัง Orchard แล้วก็เริ่มช็อปปิ้งกันค่ะ ทั้ง Ion Orchard , Takashimaya และห้างอื่นๆ มีให้ช็อปเพียบบ แต่เอาจริงๆ สำหรับเอิร์ธ เอิร์ธว่าช็อปที่นี่ยังไม่ฟินเท่าญี่ปุ่น เลยได้ของติดมือกลับมาแค่นิดเดียว

เดินเล่นกันซักแปบก็เคลื่อนย้ายตัวไปที่ Gardens By The Bay กันค่ะ โดยนั่ง MRT มาลงที่สถานี Bayfront แล้วก็เดินทะลุมาที่ Gardens By The Bay

นั่ง Shuttle Service ราคาคนละ 2 SGD ขาไป – กลับเพื่อเข้าไปที่โดมของ Flower Dome และ Cloud Forest ค่ะ

Flower Dome เป็นโดมดอกไม้สีสันสวยงามมากกกกก

ส่วน Cloud Forest เป็นโดมต้นไม้เขตร้อนชื้นที่เปิดเข้าไป ก็จะเจอกับน้ำตกใหญ่ๆ ที่ทำเอาหนาวไม่ใช่เล่น ความพิเศษของโดมนี้คือ ชั้นของน้ำตกจะมีนิทรรศการต่างๆ อยู่ด้วย อย่างพวกหินงอก หินย้อยจ้า

ทัวร์สวนกันเสร็จ ก็เริ่มหิวจึงเดินทะลุ MRT ไปยัง Marina Bay Sands เพื่อหาข้าวหม่ำๆ กัน เอิร์ธเลือกกิน Laksa หรือว่าก๋วยเตี๋ยวแกงชื่อดัง ที่เราสามารถเลือกใส่ท็อปปิ้งได้เอง ขอบอกว่าอร่อยมากกก ฟินนนน ใครที่มาที่นี่ต้องลองเลยค่ะ มีอยู่ร้านเดียวในฟู้ดคอร์ทของเค้า

พร้อมกับมะม่วงสิงคโปร์ที่ราคาครึ่งลูก 75 บาท!! ซึ่งรสแอบหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ความรู้สึกเอิร์ธคือสู้น้ำดอกไม้บ้านเราไม่ได้นะ 555555

ที่ Marina Bay Sands มี Super Hero Cafe ของ DC ด้วยน้า แต่ด้วยความที่เป็นติ่ง Marvel บอกเลยไม่สน 5555555

ทุ่มกว่าๆ ก็เดินมาที่ร้านหลุยส์สุดฮิต เพื่อมารอดู Wonderfull Light Show กันค่ะ ความจริงเค้าจะมีการแสดงเวลา 2 ทุ่ม แต่วันนั้นมีแข่ง F1 ทำให้ย้ายเวลาเป็น 2 ทุ่มครึ่งจ้า

รอกันไปยาวๆ ก็ถึงเวลาได้ชมเจ้าน้ำพุนี้กันแล้ว ก่อนจะกลับห้องไปนอนพักเตรียมช็อปวันต่อไปจ้า

วันที่ 3

เช้านี้แอบเซฟเงินโดยการกินอาหารบนเตียงกันอีกแล้ว โดยงานนี้ซื้อแซนวิชมาจากซุปเปอร์แถวที่พัก พร้อมกับ นมช็อกโกแลตของ Hershey ราคากล่องละ 1 SGD. รสใช่ได้เลยนะคะตัวนี้ แต่ยังหวานไปนิดถ้าเพิ่มความขมของช็อกโกแลตไปอีกหน่อย น่าจะเจิดค่ะ

กินข้าวกันเสร็จก็พุ่งตัวไปที่ Landmark แห่งสุดท้ายอย่าง Merlion สิงโตพ่นน้ำ ที่ถ้ามาสิงคโปร์แล้วไม่มาถ่ายถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ โดยเอิร์ธนั่งรถไฟใต้ดินสายสีม่วงไปลงที่ OutramPark เพื่อเปลี่ยนสายเป็นสีเขียวไปยัง Raffles Place แล้วเดินต่อมานิดหน่อยทางโรงแรม One Fullerton ก็จะเจอกับ Merlion พ่นน้ำเด่นป็นสง่าค่ะ

บรรยากาศวันนี้เต็มไปด้วยหมอกจางๆ และควัน ทำให้วิวในการมองเห็นอาจไม่สวยงามนัก แต่โดยรวมแล้วน้องสิงโตก็ยังเด่นเป็นสง่า สวยไม่แพ้ใครน

จากนั้นก็ได้เวลาช็อปปิ้งค่ะ โดยงานนี้เราตั้งใจจะไปกันที่ Outlet ของ Charles & Keith ที่ City Square Mall กันจ้า โดยเรานั่งรถไฟสายสีแดงไปสถานี DhobyGhaut เพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีม่วงไปยัง Farrer Park ก็จะเจอกับห้างเลย แต่! ห้างยังไม่เปิด จึงเปลี่ยนแพลนไปเดินเล่นที่ Mustafaห้างที่อยู่ใกล้กันแทนเพราะนางเปิด 24 ชม.

เอาตรงๆ เอิร์ธไม่ค่อยประทับใจ Mustafa เท่าไหร่นะ เพราะการวางของของเค้าดูน่ากลัวไปนิด แถมอ่านรีวิวมาเยอะว่าของในร้านเค้าก็สุ่มเสี่ยงว่าจะแท้หรือไม่แท้ อย่างน้ำหอมที่ราคาถูกลงไปมากกกกกกกกกจนน่าตกใจ ถ้าใครไม่ซีเรียสก็ลุยโลดจ้า สำหรับเอิร์ธแอบกลัวนิดๆ เลยได้แค่ขนมติดไม้ติดมือมานิดหน่อย ก่อนจะพุ่งตัวกลับไปที่ City Square Mall เหมือนเดิมประมาณ 10 โมงกว่า

ความจริงตั้งใจว่าจะรีบซื้อ Charles & Keith แล้วก็รีบกลับมาเก็บของให้เสร็จประมาณ 11 โมง เพื่อ Check Out ของจากที่พัก แต่!!! ร้านดันเปิด 11 โมงค่ะคุณขาาาา ทำให้เรามีเวลาช็อปกันแค่ 20 นาทีเท่านั้น!! ตอนแรกก็กะจะถอดใจ แต่เรามาถึงขนาดนี้แล้ว ชีวิตต้องสู้ค่ะ!!

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่ซื้อ C&K ที่อื่น มีตั้งหลายที่ จะลำบากทำไม แต่จากการสำรวจลองไปเทียบราคาแล้ว ช็อปทั่วไปจะไม่ลดราคาค่ะ ซึ่งถ้าไม่ลดราคาก็จะถูกกว่าไทยนิดเดียวค่ะ ถึงบางช็อปจะลด แต่ก็น้อยลดแค่ 20-30% เอง แต่ถ้าซื้อที่ Outlet ก็จะลดถึง 70% เลยนะ คุ้มมมม

ระหว่างรอร้านเปิดก็เดินเล่นในห้างไปพลางๆ พร้อมแวะกินลูกชิ้นปลาแสนอร่อยที่แค่พูดถึงก็หิวขึ้นมาทันที เพราะติดใจในความเด้งๆ อร่อยแบบไม่มีแป้งปนเลยจริงๆ ค่ะ

C&K เปิดแล้ววววว มีเวลาให้ช็อป 20 นาที ปฏิบัติ!! จุดนี้เหมือนกับวิ่ง 4 x 100 เลยค่า เลือกๆ ลองๆ ก่อนหยิบไปจ่ายเงิน แต่ขอบอกเลยนะว่าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่มันส์มาก เพราะของเค้าลดเยอะมากกกกกกก รองเท้าเหลือคู่ละ 500 บาทงี้ กระเป๋าสตางค์ไม่ถึง 7-800 บาทก็มี งานนี้พูดเลยว่าพลาดมากที่ให้เวลานางน้อยไป ถ้าได้มีเวลามากกว่านี้คงช็อปกันเพลิน 555 ช็อปเสร็จก็ใส่เกียร์ 120 km/hr วิ่งกลับโรงแรมไป Check Out โดยการนั่งรถไฟใต้ดินสายสีม่วงไปลง Chaina Town เหมือนเดิมค่า

อาหารมื้อสุดท้ายที่ประเทศสิงคโปร์ฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารจีนบนถนน Mosque St. ใกล้ๆ กับโรงแรมค่ะ แอบจำชื่อร้านไม่ได้แต่พิกัดของเค้าอยู่ข้างกับ Backpacker's Inn Chaina Town เป็นร้านสีแดงๆ ค่ะ

งานนี้เอิร์ธสั่งเป็น Hokkien Mee หรือในเมนูเขียนว่า KL Fried Noodle มาหม่ำค่ะ รสดีมากกก อร่อยเลย น้ำซอสหอมหวานเค็มกำลังดี ใครผ่านแนะนำให้กินค่ะ

ถึงเวลากลับบ้านกันแล้ว เอิร์ธนั่ง MRT กลับโดยนั่งสายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Bugis แล้วเปลี่ยนเป็นสีเขียวเพื่อไปลงที่ Tanah Merah เพื่อนั่งรถต่อไปที่ Changi Airport กันค่ะ

จัดการ Refund ตั๋ว Ez-link ให้เรียบร้อย โดยเอิร์ธได้เงินคืนคนละ 7.5 SGD. เลย สรุปว่าใช้ไปทั้งหมด 19.5 SGD สำหรับค่าเดินทางค่ะ

จากนั้นก็ไป Check In พร้อม Refund Tax กัน สำหรับสิงคโปร์สามารถนำบิลที่มีมูลค่า 100 SGD ขึ้นไปมา Refund ค่ะ ดังนั้นเวลาซื้อของเอิร์ธแนะนำให้ซื้อรวมกันทีเดียวก็จะคุ้มกว่าแถมได้เงินคืนด้วยนะ ซึ่งจุดนี้เอิร์ธเกลียดตัวเองมากกกค่ะ เพราะขยำบิลที่มีทิ้งไปหมดแล้วจ้า ทำให้ไม่สามารถ Refund ได้เลยซักบาท เฮ้ออ TT

งานนี้ใครไปเมืองนอกก็อย่าเผลอขยำบิลน้า ไม่อย่างนั้นจะพลาดโอกาสแบบเอิร์ธไป

เดินเล่นซักพักใน Duty Free ก็ถึงเวลากลับไทยกันแล้วจ้า

เคล็ดลับสำหรับไปสิงคโปร์

- ที่นู่นเค้าจะใช้ปลั๊กหัวเหลี่ยม 3 หัวแบนๆ นะจ๊ะ ไม่เหมือนบ้านเรา ซึ่งเราควรซื้อ adapter ไปต่อ แล้วพ่วงกับปลุ๊ก 3 ตา ก็จะเริ่ดค่ะ ซึ่งเอิร์ธลืมเอาตัวนี้ไป เลยไปซื้อจากร้านใน Chaina town ราคา 2 SGD. ค่

- ที่นู่นเดินทางไม่ยากค่ะ เพราะมีรถไฟใต้ดินไปแทบจะทุกที่ แต่สถานที่ท่องเที่ยวอาจจะต้องเดินต่อไปอีกซักพัก แนะนำให้ดูแผนที่รถไฟให้ดีๆ แล้วก็ดูควบคู่กับเว็บ www.rome2rio.com ก็จะง่ายขึ้นค่ะ เพราะเค้าจะบอกการเดินทางไว้ครบเลยว่าเราควรลงสถานีไหน เดินไปกี่เมตรจ้า

- สิ่งที่ควรซื้อนอกจาก C&K และช็อกโกแลตแล้ว ก็คือ bak kwa ที่เป็นหมูหรือเนื้อแผ่น มีหลายรส ซึ่งขอบอกเลยว่าคนที่ทานเนื้อห้ามพลาดนะคะ เอิร์ธว่ามันเริ่ดกว่าหมูอีก 55555

จบไปแล้วกับทริปสบายๆ ที่เอิร์ธพาขุ่นแม่และสาวๆ จีบันไปเที่ยวสิงคโปร์กัน แหม เก็บ Landmark ซะเกือบครบเลย 55555 ครั้งหน้าเอิร์ธจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ไหนอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะจ๊ะ :D

แล้วมาเที่ยวไปด้วยกันอีกน้าาาาาาาา <3


allearth

allearth

earthpynn .

เคยเป็นสาวจีบัน แต่ตอนนี้เป็นคนบ้ารีวิว 5555
คสอ. กิน ช็อป รีวอวให้หมดไปเลยค่ะซิสส

FULL PROFILE