เปรียบเทียบรองพื้น LM: Smotting Finish Flawless และ Silk Crème Photo Edition

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวรองพื้นที่เพิ่งออกของ Laura Mercierค่ะ

เนื่องจากก่อนหน้านี้มีSmoothing Finish และ Silk Creme สูตร Moisturizing อยู่แล้ว

พอดีได้รับรางวัลจากการลงทะเบียนเล่นเกมกับทางแบรนด์

แล้วทางแบรนด์ให้เลือกสูตรไหนก็ได้

เลยเลือกแบบoil-Free มา

เพื่อที่จะได้เอามารีวิวเปรียบเทียบให้เพื่อนๆดูกันค่ะ

ตัวที่เราจะมารีวิวได้แก่

1. Smoothing Finish Flawless Fluide Foundation

2. Silk Crème Photo Edition Foundation สูตรMoisturizing และ Oil-Free

ไปดูรูปรวมๆกันก่อนค่ะ (ขวดแรกสภาพไปแล้ว555)

รายละเอียดผลิตภัณฑ์Smoothing Finish Flawless Fluide Foundation 30ml./1,790 บาท

- A long-wear, oil-free foundation that magically blurs the line between real skin and makeup

- รองพื้นที่ติดทนนาน คุมมัน ที่ทำให้ผิวเนียนเป็นธรรมชาติ

Silk Crème Photo Edition Foundation 30ml./1,950 บาท

- For the Ultimate look, photo-ready and long-wear

- รองพื้นที่ให้ผิวสวย เนียน ไร้ที่ติแบบไม่ต้องรีทัช แถมยังติดทนยาวนาน

Silk Crème มี2สูตร คือ

Moisturizing (ผิวแห้ง-ผิวผสม) ให้ลุค Luminous Finish

Oil-Free (ผิวผสม-ผิวมัน) ให้ลุค Natural Matte Finish

มาดูเฉดสีกันค่ะ Laura Mercer ทั้ง 2 รุ่น มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก

ถูกใจสาวเอเชียเป็นที่สุดเพราะมีโทนเหลืองให้เลือกเยอะมาก

ไปดู Range สีกันค่ะ ละลานตาเป็นที่สุด

Smoothing Finish Flawless Fluide Foundation

รูปต่อไปเป็น Silk Crème Photo Edition Foundation

เราเทียบจะเทียบให้ดูทั้ง 3 เนื้อก่อนนะคะ

จะเห็นว่าเนื้อต่างกันหมดเลย โดยที่ Flawless เนื้อจะเหลวกว่า Photo Edition สูตร Moist

และสูตร Oil-Freeจะหนืดที่สุดนะคะ

การปกปิด

ทั้ง3ตัวมีเม็ดสีค่อนข้างแน่น ถึงแม้ตัวแรกจะไม่ใช่ full coverage แต่

ก็ทำการปกปิดรอยแดงได้ดีทีเดียวค่ะ

ตอนแรกที่แขนเราทาสีชมพูเอาไว้ เพื่อจะได้เห็นว่าพอเกลี่ยแล้วปกปิดดีขนาดไหน

จากที่ลองใช้กับใบหน้า การปกปิดก็เรียงตามลำดับเลยค่ะ

Flawless > Moist > Oil-Free

ปัญหาผิวหน้าเราคือ เราเป็นคนที่ผิวsensitiveและชอบมีรอยแดง

แต่ทั้งสามตัวปกปิดรอยแดงเราได้สนิทค่ะ

มีรูปเปรียบเทียบ ให้ดูสำหรับตัว Silk Crème ค่ะ

แต่ใช้กล้องหน้ามือถือถ่าย อาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไร

การเกลี่ย Flawless Fluide เนื้อเบาค่ะ ลื่น เนียนไปกับผิว ..... แต่แห้งไว

****ข้อเสียนิดนึง คือ เปิดแล้วเลอะกระจุยกระจายมากค่ะ

แต่วิธีแก้คือ หลังจากเขย่าจนเนื้อเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ตอนเปิด ให้บีบด้านข้างขวดไว้ค่ะ

Silk Crème เนื้อหนักขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังถือว่าเกลี่ยง่ายทั้ง2สูตรค่ะ

บางคนอาจจะกลัวว่าสูตรOil-Freeจะเกลี่ยยาก ไม่ต้องกลัวนะคะ เนื้อลื่น

มือใหม่เราแนะนำให้ใช้แปรงลงรองพื้น หรือ ฟองน้ำค่ะ

เพื่อทำให้เนื้อบางลงและเกลี่ยง่ายขึ้น

การคุมมัน เราว่าเรื่องการคุมมันที่แบรนด์เคลมไว้ แอบเว่อร์ไปนิด แต่ ใครที่ผิวดี ก็อาจจะเป็นไปได้

Flawless Fluide : แบรนเคลมไว้ 12 ชม. สำหรับเราอยู่ได้ 4-5ชม.

Silk Crème Moist: แบรนเคลมไว้ 12ชม. สำหรับเราอยู่ได้ 6-7ชม.

Silk Crème Oil-Free: แบรนเคลมไว้ 12ชม. สำหรับเราอยู่ได้ 7-8ชม

สีดรอปมั้ยFlawless Fluide : ส่วนตัวคิดว่าผ่านไป 4ชม. แอบดรอปลงไป 1 เฉด

ส่วน Silk Crème ทั้ง 2 สูตร บอกเลยว่าไม่ดรอป ทำออกมาได้ดีมากๆ

มาสรุปคะแนนรายตัวกันดีกว่าค่ะ Smoothing Finish Flawless Fluide Foundation

• เฉดสี : 5/5
• การปกปิด: 3.5/5
• การเกลี่ย: 3.5/5
• คุมมัน: 3.5/5
• สีดรอป: 3.5/5
• Sum: 3.8

• เฉดสี : 4/5
• การปกปิด: 4/5
• การเกลี่ย: 4.5/5
• คุมมัน: 4/5
• สีดรอป: 5/5
• Sum: 4.3

• เฉดสี : 4/5
• การปกปิด: 4.5/5
• การเกลี่ย: 4/5
• คุมมัน: 5/5
• สีดรอป: 5/5
• Sum: 4.5

สำหรับ Smoothing Finish Flawless Fluide เราว่าเหมาะกับคนที่สภาพผิวดีๆนะคะ

คือไม่แห้ง ไม่มัน เนื่องจากรองพื้นเนื้อค่อนข้างบางและแห้ง สาวผิวแห้ง จุดที่ผิวแห้งเช่นแก้ม ระหว่างวันมันยิ่งแห้งค่ะ ส่วนสำหรับผิวมันน้ำมันออกเยอะ รองพื้นแอบหลุดค่ะ

ส่วนตัวเราชอบ Silk Crème นะ ชอบทั้ง2สูตร

เพราะให้ Finish Look ออกมาไม่เหมือนกัน และคุมมันได้ดีทีเดียว

ปกติหน้าเราระหว่างวันชอบเป็นเงาๆ แต่พอใช้ตัวนี้แล้วไม่มีเลย

สูตร moist อาจจะมีนิดนึงวันที่ร้อนมากๆ

แต่รวมๆแล้วปลื้มค่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------

ส่งท้ายด้วย Look ที่ใช้ Silk Crème สูตร Moisturizing

จะเห็นว่าเป็น Full Coverage ที่ยังให้ลุคใสๆอยู่ค่ะ

^____^ ปลื้มมากกกกก ก ไก่ล้านตัว

ps. ขอบคุณที่ติดตามค่ะ