*review ศัลยกรรมปากบาง (รึป่าว)

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์การทำปากบางนะคะ ขอแก้ไข ลบชื่อคลินิก ไม่อยากให้กะทู้ปลิว

เหตุผลที่ตัดสินใจทำ; ปากบนล่างค่อนข้างหนา ไม่ได้รูป ไม่มั่นใจ เวลายิ้มหรือถ่ายรูป หน้าเราจะดุและนิ่งมาก

___________________________________________________________________

เริ่มแรก เราได้มีการสอบถาม ปรึกษา เรื่องการทำศัลยกรรม และนัดวันเวลาที่เหมาะสม

โดยเลือกช่วงเวลาทำในช่วงปิดเทอม เพราะจะได้มีเวลาพักฟื้นนานหน่อย

เปิดเทอมมาจะได้หายบวม และรูปทรงจะได้เข้าที่มากขึ้น โดยตอนแรกนัดกับทางคลินิกไว้

ว่าจะทำ วันที่ 22 กค. ทำกับคุณหมอบี (นามสมมติ)

เราก็ทำการคอนเฟิร์มและโอนเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 10,000.-

เพื่อเป็นการล็อควันไว้ ตอนนั้นเราอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด เมื่อคอนเฟิร์มเรื่องวันขึ้นเขียงแล้ว

เราจึงได้โอนเงินจองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 21 กค. (ไปล่วงหน้าทำปาก1วัน)

หลังจากนั้น ก็ได้ทำการโอนยอดที่เหลืออีกจำนวน 9,500.- ไปให้ทางคลินิก

เนื่องจากไม่อยากพกเงินสดไปจ่าย ..

ทุกอย่างราบรื่นปกติดี นับวันรอที่จะได้ขึ้นเขียง

.

.

และแล้ว ก่อนวันเดินทาง1วัน (20กค.) ทางคลินิกก็ได้แจ้งทางinboxมาว่า

คุณหมอบี (นามสมมติ) ได้ไปดูงานที่ต่างประเทศ กระทันหัน ขอเลื่อนนัดคิว!

เป็นวันที่ 12สค. ได้ไหม?

คือตอนนั้นเราช็อคและเสียใจมาก ทุกอย่างมันวางแพลนไว้หมดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ค่าใช้จ่ายต่างๆ พังหมด ต้องมาตั้งสติกันใหม่

และได้คิวไวสุด คือ 9สค. กับคุณหมอแอล (นามสมมติ)แทน ซึ้งตอนนั้น

อยู่ในสภาพจำยอมไม่มีตัวเลือก

เพราะมหาลัยเปิด 17สค. เอาวะ ทำก็ทำ!

.

เราก็ได้แจ้งทางคลินิกไป ว่าแบบนี้เราเสียหายนะ ค่าเครื่องบิน ที่พัก

อะไรหลายๆอย่าง ที่วางแพลนไว้ มันค่อนข้างเดือดร้อน

ทางคลินิกจึงได้ชดเชย โดยการให้ gift voucher จำนวน 5000.- เป็นการรับผิดชอบ

จริงๆแล้วมันแทบจะแทนกันไม่ได้เลย เพราะเราต้องทิ้งตั๋วแล้วซื้อใหม่

แต่ทำไงได้ เรากลับมาตกอยู่ในสภาพจำยอม ครั้งที่2

.

.

ต้องบอกก่อนคือ เราเป็นคน ไม่เรื่องมาก ถ้าคุณแฟร์กับเรา เราก็โอเคแฟร์แฟร์เช่นกัน

.

.

ถึงวันขึ้นเขียง ทุกอย่างโอเค ไม่ว่าจะเป็นการบริการ ของพนักงาน ผู้ช่วยหมอ

และในทุกๆฝ่ายประทับใจตรงนี้มากที่สุด

คลินิกสวย สะอาดค่ะ ขั้นแรก ก็จะต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดชุดชั้นใน และเครื่องประดับ

ที่เป็นเหล็ก โลหะ อะลูมิเนียม ออก ตามด้วยการทำความสะอาดในหน้า

และบ้วนปากด้วยยาฆ่าเชื้อลักษณะคล้ายเบตาดีนผสมน้ำ (ไม่แน่ใจ)

และขึ้นเขียงค่ะ ..

โดย เราได้แจ้งหมอ ว่าเราอยากทำบนและล่างแต่เมื่อหมอประเมิณปากเรา

หมอบอกว่า จะทำให้แค่ล่างอย่างเดียว

เพราะบนเวลาเรายิ้ม มันบางอยู่แล้ว เราเองก็ไม่เห็นด้วย ก็พยายามตื้อ

และยกเหตุผล ชี้จุดบกพร่องให้หมอทราบ

แต่สุดท้าย .. กลับเข้าสู่ สภาพจำยอม ครั้งที่3คือเราไม่สามารถแจ้ง

หรือชี้แนะดังความต้องการของเราได้เลยแม้แต่น้อย ..

สรุป ได้ทำแค่ปากล่าง อย่างเดียว

(ถ้าทำล่างด้านเดียว คลินิกอื่นราคาประมาณ9,000-15,000เองนะ)

.

พูดถึงเรื่องการผ่าตัด เจ็บมดกัดแค่ตอนฉีดยาชาค่ะ 2-3จี้ด

หลังจากนั้นตามที่เค้าเล่าๆกัน คือนอนชิลชิล ฟังเพลงสบายๆ

และดมกลิ่นคล้ายหมูกะทะ ไม่เจ็บเลยค่ะ เสร็จไว หมอมือเบา เย็บแผลสวย หลังจากผ่าตัด

ก็จะมีผู้ช่วย มาคอยดูแล ให้เราประคบเย็นและทานพาราป้องกันการปวด

หลังจากนั้นมีอาการแสบๆนิดหน่อยค่ะ คล้ายกับทานของเผ็ด

นอกนี้แทบจะไม่มีอาการใดใดเลย

สามารถทานข้าวได้ปกติ (ทานเยอะด้วยนะ) และแปรงฟันได้ปกติ ไม่ได้ตึงหรืออะไรเลย

อาจจะมีปัญหาตอนทานน้ำ บ้วนปาก

และตอนพูด นิดหน่อย จะพูดไม่ค่อยชัด หัวเราะไม่ได้เลย 55555. ทรมานตรงนี้แหละ

โดยหลังจากการทานอาหาร ก็ต้องทำความสะอาดบริเวณแผล ด้วยน้ำเกลือ

ไม่ให้เศษอาหารติดตามซอกไหม

ไม่งั้นอาจจะเกิดอาการหมักหมมได้ ส่วนตัวเราแผลหายไวมาก และไม่เจ็บเลยด้วย

เดี๋ยวจะแนบรูปให้ชมนะคะ

ภาพ before และ ภาพหลังทำ 14วัน แทบไม่เห็นความแตกต่าง

.

.

ระหว่างที่แผลกำลังยุบ เราก้มีการปรึกษาทางคลินิกเรื่องการทำปากบนเพิ่ม

โดยทางคลินิกแจ้งให้มาพบหมอ

และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอ ถ้าหากหมอยินยอม ก็จะทำได้ ไม่ต้องเสียงานเพิ่ม

เพราะราคาที่จ่ายไป มันเป็นราคาเหมาจ่ายอยู่แล้ว

บอกตรงๆว่าตอนนั้นเราใจชื้นมาก โอเคมาก รออย่างจดจ่อ บอกกับตัวเองว่า

ยังไงก็ต้องได้ทำ ปากหนาขนาดนี้ หมอต้องยอมแน่ๆ

.

วันตัดไหม ไม่ได้พบหมอ พบแค่พยาบาล เจ็บจิ้ดๆนิดหน่อยค่ะ พอทนได้

พอตัดไหมเสร็จ รู้สึกโล่งมากค่ะ

เราก็ได้คอนเฟิร์มเรื่องทำปากบนกับพี่พนักงานอีกรอบ เพื่อความสบายใจ

และนับวันรอ วันที่ 23กค. วันที่มีนัด follow up ติดตามผลของปาก

.

.

23 กค.

มีการถ่ายรูป afterและเรียกพบหมอ โดยเราก็พยายามพูดให้หมอเข้าใจ

ว่าความต้องการของเราคืออะไร

แต่สุดท้าย คืออะไรรู้ไหมคะ .. สภาพจำยอมครั้งที่4 ไงคะ

หมอบอกว่า สวยแล้ว สวยแล้ว สวยแล้ววววว ไม่ต้องทำแล้ว ปากเราบางแล้ว

คำตอบเดิมๆค่ะ เราพยายามยิ้ม พูดจาให้สนุกสนาน

หมออ ทำให้หน่อยน้า หนูอยากสวยย นี่หนูเก็บเงินมานานนะหมอออ ได้แค่นี้เองหรอคะะะ

อ้อนเต็มที่ สุดท้ายคือ ไม่ ..

.

สังเกตปากบน เวลายิ้ม มันไม่มีความเป็นกระจับเลย - -

.

เดินออกมาทั้งน้ำตาค่ะ พูดตรงๆ

เคยคิด ว่าวันนึงจะมีโอกาสออกมาเขียนรีวิวดีดี แต่วันนี้ต้องมาระบายความรู้สึกแทน

เงิน 19,500+1165(ค่ายา) รวม 20,665.- โดยประมาณ

ไม่รวมค่าเสียเวลา ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ฯลฯ และความรู้สึกที่เสียไป วันนี้เราได้อะไรกลับมา

.

กลับมาที่พัก มานึกๆ มันโกรธนะคะ เจอแบบนี้ สำหรับบางคนอาจะมองว่า แค่สองหมื่นเอง

แต่สำหรับเรา เราทำงาน เราอดออม ประหยัดมาเพื่องานนี้

คิดว่าต้องสวย จะมีความมั่นใจมากขึ้น ตอนนี้เฟลมากค่ะ เฟลระดับสิบ

.

ความมั่นใจ? ไม่มีเหมือนเดิม ยังไม่กล้ายิ้ม ไม่อยากถ่ายรูป .. เหมือนเก่า

ความประทับใจ? โอเค ในด้านของพนักงาน การบริการ ภาพรวม แผล

ราคา? โอเค ถ้าได้ทำทั้งบนและล่าง

แนะนำเพื่อนต่อไหม? ไม่ เพราะแทบไม่มีใครเห็นถึงความแตกต่างเลย

.

ตอนนี้ยังมี gift voucher 5000.- เหลืออยู่ ยังคิดๆว่าจะกลับเข้าไปที่นั่นอีกดีไหม เราค่อนข้างเสียความรู้สึกมาก

คือเราเป็นเด็กอายุ 20 ไปคนเดียว ยิ้มแย้ม คุณอาจจะมองว่าเราเด็ก ว่าเรายังไงก็ได้ ยอมหมด..ใช่เรายอม

แล้วความประทับใจ ความรู้สึกของเราหละ

เงินที่จ่ายไป ตั้งสองหมื่นนะคะ ได้มาแค่นี้เองหรอ..

สุดท้ายนี้ เราไม่รู้ว่ากะทู้จะปลิวตอนไหน เพราะเรานำเสนอรีวิวในด้านไม่ประทับใจ

อันนี้ก็เข้าใจอาจจะทำให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสียได้

แต่ก็อยากเป็นประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ดูกันนะคะ เพื่อเป็นการตัดสินใจ

เบ้าหน้าเรา ไม่ได้แนวพริตตี้ ไม่ได้สวยอะไร คงได้แค่นี้สินะ .. ไม่สวย ก็ควรหยุด ใช่ไหม?