23 ชิ้นเด็ดที่หมดแล้วต้องซื้อซ้ำ Products I've Used up.

40 16

สวัสดีค่าาา สาวๆชาวจีบัน มัวแต่ก้มหน้าก้มตาไถนา เงยหน้ามาอีกทีก็ผ่านครึ่งปีกันไปแล้วอย่างรวดเร็ว ว้ันนี้ผู้หญิงบ้าลิปไม่ได้มารีวิวลิปอต่อย่างใดนะฮ้า แต่จะมาบอกกันว่า 23 ชิ้นเด็ดที่ผู้หญิงคนนี้ใช้เองจนหมดแล้วหมดอีก ก็ต้องซื้อมาใช้อีก มีว่อกแว่กเปลี่ยนใจไปหาเจ้าอื่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาหานางพวกนี้อยู่ดีค่ะ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ออกตัวก่อนว่าปกติเป้นคนผิวแห้งและแพ้ง่ายนะคะ ก็จะมีพวกสิวผดขึ้นบ้างเวลาหิวแห้งมากๆ หรือบางทีช่วงวันนั้นของเดือนก็จะมีสิวฮอร์โมนขึ้นบ้างตามปกติค่ะ หลายชินที่อาจซ้ำกับสิ่งของที่เคยรีวิวไปแล้ว ที่เป็นproduct ในชีวิตประจำวัน ก็คือการใช้อยู่จริงๆนั่นเองค่า ไปดูกันเล้ยยยย

เพื่อความไม่สับสนขออนุญาตใส่ตัวเลขให้ดูตามภาพด้านล่างนี้นะคะ

1. อย่างแรกเลย ก็คือเจ้า Bioterm Life Plankton Essenceที่โด่งดังมากๆ ไม่แปลกใจเลยว่าของมักจะขาดตลาดอยู่เสมอ ส่วนตัวใช้แล้วชอบม้ากกก ดีมากๆค่ะ เรียกว่านี่ก็ขึ้นขวดที่ 4 แล้วดีสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ หลังล้างหน้า ก่อนจะทาสิ่งอื่นใดก็จะตบๆตัวนี้เข้าไปก่อน มันทำให้ผิวที่โทรมๆของคนพักผ่อนน้อย ดีขึ้นมากระดับนึงเลยค่ะ ปกติถ้านอนดึก พักผ่อนน้อย ผิวจะแห้ง โทรมๆขาดชีวิตชีวา สิวผดก็จะขึ้นบางทีก็จะมีเหมือนผื่นเล็กๆตามมา แต่พอมีเจ้าตัวนี้ ปัญหาพวกนั้นก็ลดลงค่ะ ยิ่งช่วงไหนเดินทางบ่อย ขึ้นเครื่องบ่อยผิวมันจะขาดน้ำก็จะเอามันหยดๆลงบนสำลีแล้วแปะทำเป็นมาส์คไว้ทั่วหน้าเลย ผิวจะชุ่มชื้นขึ้น รู้สึกได้ว่าผิวมันแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ เป็นชิ้นที่ recommend มากๆค่ะ

2. Bio Oil เป็นน้ำมันมหัศจรรย์จริงจัง ทีแรกใช้ไปก็เฉยๆค่ะ แต่พอใช้ไปนานๆดันติดซะงั้น หลังอาบน้ำไม่ทาไม่ได้เลย รู้สึกได้ว่ารอยสิวหรือรอยแผลเป็นมันจางลงจริงๆ มันช่วยรักษาแผลเป็น ผิวแตกลาย สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวเสื่อมสภาพ ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ดีทีเดียวค่ะ เอาไว้ทาหลังอาบน้ำตอนที่ผิวยังหมาดๆอยู่ก็ทาไปเลยค่ะ ทางแบรนด์เคลมว่าเพื่อให้ได้ผลดีควรใช้วันละ2 ครั้ง เลยใช้หลังอาบน้ำเช้า-เย็นเลยค่ะ ถ้าใครกลัวเหนียวหรือเหนอะหนะ ก็ทาแค่เฉพาะบริเวณที่มีปัญหาก็ได้ค่ะ เช่นพวกต้นขา หน้าท้อง หรือบริเวณต่างๆที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอหรือมีแผลเป็นนะคะ ก้นหรือหลังใครลายๆก็ทาไปเลยค่าาา นี่น่าจะเป็นขวดที่ 3หรือ4 แล้ว ทาทุกวันๆจนลืมระยะเวลาไปเลย ของพวกนี้ต้องอาศัยเวลานะคะ ไม่ใช่ทาแค่ไม่กี่วันแล้วจะเห็นผลเลย มันจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ตอนนี้อยากบอกว่าใช้กันทั้งบ้านเลย แม่พี่น้อง อิอิ ที่สำคัญปลอดภัยสำหรับหยิงตั้งครรภ์ด้วยนะคะ คุณแม่ทั้งหลายที่กลัวท้องจะลายก็ทาเจ้าตัวนี้ได้เลยค่ะ แต่ทางแพบรน์ดแนะให้ทาอายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปนะคะ

3. BIODERMA Sensibio cleansing make-up removing water เป็นสูตรสำหรับผิวแห้ง-ธรรมดา แพ้ง่ายนะคะ จุดเด่นคือจะอ่อนโยนเหมือนน้ำโดยเฉพาะในสูตรนี้จะมีส่วนผสมของ Laminiaria จะช่วยยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง และ Enoxolone ช่วยต่อต้านการอักเสบ ลดอาการแดงของผิวทั้งสองส่วนผสมนี้เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BIODERMA ค่ะ

ทางแบรนด์เคลมว่าให้ใช้เช็ดทำความสะอาดผิวรอบดวงตาและผิวหน้า ทั้งยังไม่มีสารก่อให้เกิดการระคายเคืองOil-free, Soap-free, Alcohol-free, Perfume-free และด้วยนวัตกรรม Micelle ทำให้ไม่ต้องล้างซ้ำด้วยน้ำ

แต่ส่วนตัวแล้วถ้าวันไหนแต่หน้าอ่อนๆก็สามารถเช็ดได้หมดจดค่ะ ส่วนเครื่องสำอางค์พวกที่กันน้ำทั้งหลายเช่น อายไลเนอร์หรือมาสคาร่า แนะนำว่าให้ใช้ที่เป็น remover โดยเฉพาะจะได้ผลที่ชัดเจนกว่าค่ะ และหลังจากเช็ดเจ้านี้แล้วส่วนตัวก็จะใช้โฟมล้างหน้าตามปกติ หรือใครจะล้างแค่น้ำเปล่าก็ได้ค่ะ ^^

4. Neutrogena Deep Clean Hydrating Bamboo นั่นเอง ลักษณะจะเป็นเจลใสๆ กลิ่นหอมอ่อนๆหลังล้างหน้าด้วยตัวนี้แล้ว รู้สึกได้ว่าผิวยังคงความชุ่มชื้น เวลาล้างออกไม่มีเสียงเอี๊ยดๆที่หน้า และไม่ลื่นจนเกินไปเหมือนล้างไม่สะอาด สรุปคือชอบมากๆค่ะ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่าหลอดละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้นานมากค่ะ เสียดายไม่มีขนาดพกพา ไม่งั้นจะซื้อพกไปเดินทางด้วยเลย หลอดนี้เป็นหลอดที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ซื้อมาตุนด้วยตอนนี้วัตสันจัดลดราคาน่าจะเหลือประมาณ150 กว่าบาท ใครสนใจรีบลองไปดูกันได้เลยค่า

5. L'oreal Gentle Lip And Eye Make-Up Remover เนื่องจากเป็นคนที่ชอบแต่งตา และสิ่งที่ใช้มักจะเป็น water proof จึงต้องอาศัยเจ้าสิ่งนี้เขย่าๆให้ส่วนของน้ำและน้ำมันผสมกัน เทลงบนสำลีแปะไว้ที่ตาซักครู่แล้วค่อยๆลูบออกค่ะ ทำอย่างเบามือนะคะ ไม่งั้นผิวใต้ตามันบอบบางเดี๋ยวจะช้ำหมดและอาจแก่เร็วก็ได้ค่า (ถ้าเราเช็ดถูมันแรงๆทุกวัน) ชอบตรงที่อ่อนโยนไม่แสบตา กลิ่นก็หอมอ่อนๆ หรือสาวๆคนไหนที่ทาลิปสีสดๆจัดๆก็ใช้สิ่งนี้ลบออกได้เช่นกันค่ะ หาซื้อง่ายราคาไม่แพงด้วยค่ะ ^^

6. Hada Labo Air Aqua UV SPF30 PA++ส่วนตัวอย่างที่เคยรีวิวไปค่ะว่า ไม่ถูกกับครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์ โดยเฉพาะครีมกันแดดซึ่งส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ค่อนข้างมาก ฮาดะลาโบะจึงเป็นอีกทางเลือกนึงที่ลองอ่านส่วนผสมแล้วสามารถใช้ได้ค่ะ เป็นครีมกันแดดประสิทธิภาพดีจากญี่ปุ่น ที่มีส่วนผสมไฮยาลูลอน ให้ความรู้สึกเบาสบายหลังใช้ ไม่อุดตันรูขุมขน พร้อมบำรุงไปในตัวด้วยค่า หลังใช้ผิวจะรู้สึกสว่างขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่วอกค่ะ สามารถใช้เป็นเบสได้เลยและค่อยใช้บีบี รองพื้น หรือคอนซีลเลอร์อื่นๆต่อไป หรือใครจะใช้แค่ตัวนี้แล้วทาแป้งเลยก็ได้ค่ะสำหรับคนผิวแห้งถือว่าใชไ้ด้ดีเพราะมันยังให้ความรู้สึกชุ่มชื้น แต่สำหรับคนผิวมันไม่แน่ใจว่าจะชอบหรือไม่เพราะอาจรู้สึกไม่แห้งสบายเท่าครีมกันแดดยี่ห้ออื่่นๆค่ะ แต่ส่วนตัวแล้วชอบมากไม่แพ้ ราคา400 กว่าบาท แต่ติดตรงที่หาซื้อค่อนข้างยากค่ะ เวลาหมดทีนึงกลุ้มใจเลย ล่าสุดไปได้แบบ1 แถม1 มาจากร้าน EVEANDBOY ค่ะ อิอิ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีอยู่มั้ย ใครสนใจลองไปดูได้ค่ะ อีกที่นึงคือวัตสัน แต่เท่าที่ไปดูมาก็ไม่ได้มีทุกสาขาค่ะ ต้องตามหากันนิดนึง

7. Biotherm : Blue Therapy Serum-In-Oil เจ้าตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยต่อต้านและชะลอการเกิดริ้วรอย และเสริมการบำรุงปราการปกป้องผิวให้แข็งแรงขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวจะมีโอกาสสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายเนื่องจากส่วนใหญ่เราจะนอนห้องแอร์ดันนั่นเอง ผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อสัมผัสแบบ Serum-In-Oil ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผิวดั่งออยล์ แต่ให้การบำรุงเข้มข้นและบางเบาดุจเซรั่มนั่นเอง ทำให้ทุกเช้าเมือตื่นขึ้นมาผิวจะเรียบเนียน เปล่งปลั่ง และยืดหยุ่นมากขึ้นนั่นเองค่ะ ขอแนะนำว่าใช้คู่กับ Life Plankton Essence จะดีสุดๆเลยค่ะ เหมือนเค้าผลิตมาเพื่อให้ใช้คู่กันโดยเฉพาะจริงๆค่ะ หลังจากทาเจ้าตัวนี้เสร็จก็สามารถเข้านอนได้เลยค่ะ หรือหากใครมี night cream ตัวอื่นๆก็สามารถทาตามเป็นขั้นตอนต่อไปได้ค่ะ แนะนำให้พี่สาวที่เป็นแอร์โฮสเตสใช้ เนื่องจากผิวเค้าพังมากบินบ่อยผิวแห้ง สิวผดขึ้นสารพัดเลยแนะนำส่วนของ Life plank ton และ serum in oil อันนี้ไปค่ะ เวิคมากพี่สาวยังติดใจเลย ราคาโหดอยู่ปริมาณ 30 ml ราคา 2 พันกว่าบาท

8. NIVEA Sun Protect & White Super Serum SPF50+ PA+++ ตอนนี้ออกแพคเกจจิ้งใหม่แล้ว เป็นเหมือนในรูปค่ะ เมื่อก่อนจะมีคำว่า light texture ด้วย สดชื่นบางเบาสุดๆ ไม่อุดตันรูขุมขน ทางแบรนด์เคลมว่า มีประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดจาก UVB และ UVA ปกป้องได้ครอบคลุมแม้กระทั่งรังสี UVA1 ที่ทำร้ายผิวลึกที่สุดเพื่อผิวกระจ่างใส ต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน Ultra Deep UVA1 Protection ไม่เพียงแต่ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB แต่ยังปกป้องผิวจากการทำร้ายลึกของ UVA1 ช่วยบล็อคความหมองคล้ำ ให้ผิวกระจ่างใสตลอดทั้งวัน ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย Vitamin E และเทคโนโลยี Hydra IQ

อนุภาคเล็กขนาดไมโคร ทำให้ซึมซาบเร็ว บางเบา สบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ

ใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้ เข้าได้กับทุกสีผิว ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ขาวลอย

ส่วนตัวใช้สีชมพูสูตรขาวเนียนทันทีค่ะ แต่จริงๆทาแล้วก็เบาบางและไม่ขาววอกเลยตามที่ทางแบรนด์บอกจริงๆค่ะ แค่เหมือนปรับสีผิวให้หน้าดูสว่างขึ้นเท่านั้น ค่อนข้างที่จะสามารถปรับเข้าได้กับทุกสีผิวเลยค่ะ สามารถใช้เป็น make up base ได้ด้วยเช่นเดียวกับฮาดะลาโบะค่ะ เนื้อจะเบาบางกว่า และมีค่า SPF สูงกว่าค่ะ อันนี้จะหาซื้อง่ายกว่าฮาดะลาโบะค่ะ

9. K.I.S.S Skincare Whitening Collagen Cream Mask ครีมมาร์คบำรุงผิวหน้าเร่งด่วน ขาวเนียนใส เด้ง ครีมมาส์กหน้าสูตรหมออะตอม ซึ่งเหมอชื่อดังคนนี้เป็นที่รู้จักดีสำหรับเหล่าดาราและเซเลบพริตตี้ชั้นนำ การันตีผ่าน อ.ย. และไม่มีสารปรอทรวมทั้งสารสเตอรอยด์ด้วยค่าไม่เป็นอันตรายต่อใบหน้า ปกติจะใช้มาร์คนี้อาทิตย์ละประมาณ 2 ครั้งก่อนนอน ส่วนผสมของครีมจะอุดมด้วยคอลลาเจนบริสุทธิ์จากอัลฟ่า – อะบูติน และมีวิตามินซี จากผลไม้ในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติของการยับยั้งเม็ดสีเมลานิน ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตเซลล์ผิวหน้า ให้ขาว และฟื้นฟูผิวจากแสงแดดด้วยค่าทำให้ใบหน้าใส และสวย ชุ่มชื้น ลดรอยฝ้า และจุดด่างดำ กระชับรูขุมขนให้เล็กลง เนื้อครีมละเอียดซึม เข้าสู่ผิวหน้าอย่างรวดเร็ว ตื่นมาจะสัมผัสได้อย่างชัดเจนคือใบหน้า นุ่มและใสอย่างเห็นได้ชัดเลยค่า อันนี้ใช้มากระปุกที่ 2 แล้ว

10. Innisfree Orchid Enriched Creamครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น กระปุกสีม่วงน่ารัก สินค้าขายดีตลอดปีของแบรนด์ Innisfree ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดของดอกกล้วยไม้ ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ลดริ้วรอย ผิวดูเนียนละเอียดขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันให้กับผิวได้ดีอีกด้วยค่า กลิ่นก็หอมอ่อนๆ ชอบมากกก ทาแล้วชุ่มชื่นดีมากเลย อันนี้ส่วนตัวใช้ทาเป็นประจำทุกวันค่ะก่อนทากันแดด หรือบีบีต่างๆ ซื้อมาตั้งแต่ตอนยังไม่เข้ามาขายที่เมืองไทย ตอนซื้อไปคุยกับคนขายว่าผิวแห้งก็จะทำให้เริ่มมีริ้วรอยเร็วกว่าคนผิวมันเค้าก็แนะนำตัวนี้มาเลยซื้อมาลองใช้ค่ะ ใช้หมดไปแล้ว 1 กระปุก ตอนนี้ดีใจที่มีshop มาเปิดที่ไทยแล้ว ของมันเริ่ดจริงๆค่ะเดี่ยวจะไปซื้อเพิ่ม ใครสนใจลองไปทดลองได้ที่shop Innisfree ที่สยามสแควร์นะคะ สนนราคาไม่แน่ใจว่าที่ไทยขายเท่าไหร่ แต่น่าจะอยู่ที่ 1500 - 2000 บาทค่ะ

11. Innisfree Ampoule Intense Cushion แป้งเนื้อน้ำที่ฮิตกันมากๆค่ะ (ส่วนตัวใช้เบอร์ 21ค่ะ) มีส่วนผสมของ Green Tea Seed Oil บำรุงและเติมน้ำให้กับที่ผิวแห้ง เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายด้วยใช้วิธีเดียวกันกับแป้งเนื้อน้ำทั่วไปค่ะ คือใช้ฟองน้ำที่ให้มาค่อยกดผลิตภัณฑ์ลงไป แล้วแตะลงที่ผิวให้ทั่วใบหน้าทีละน้อย หากยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอสามารถแตะเพิ่มทีละชั้นบางๆได้ค่ะ มี SPF34/PA+++ (ยี่ห้อนี้เค้ามีCushion หลายสูตรค่ะ สูตรนี้จะเหมาะสำหรับผิวแห้ง-ผิวธรรมดา แต่ผิวแห้งจะใช้ดีเป็นพิเศษ คนผิวมันหรือผิวผสมอาจจะต้องเลือกสูตร Long wear จะเหมาะกว่าค่ะ) เมื่อทาลงไปแล้วจะรู้สึกเย็นๆที่ผิว สดชื่นดีค่ะ ปรับให้สีผิวสว่างกระจ่างใสขึ้น รุขุมขนจะดูเลือนไปด้วยเลย เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา ปกปิดได้น้อย-ปานกลาง ใครที่ผิวไม่ค่อยมีปัญหาชอบแต่งหน้าบางๆ ลองทาตัวนี้แล้วลงคอนซีลเลอร์อีกนิดหน่อย ก็สามารถลงแป้งแต่งหน้าตามปกติได้เลยค่ะ เท่าที่ไปดูมาสูตรนี้เหมือนจะไม่มีที่ shop ไทยค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าเค้าไม่นำเข้ามาขาย หรือตอนไปดูที่shop แล้วของมันหมด หรือเลิกผลิตไปแล้วรึเปล่า พอดีซื้อตุนไว้ตอนไปเกาหลีเลยสบายใจ ตอนนี้ใช้ตลับที่ 2 แล้วค่ะ ใช้ง่ายรวดเร็ว ไม่เป็นคราบ ชอบมากค่ะ

13. Sulwhasoo Perfecting Cushion (ขออนุญาตกระโดดจาก 11 แล้วมา13 เลย พอดีมันถ่ายรูปมาคู่กัน แหะแหะ) ส่วนตัวใช้เบอร์ 23 นะคะ แป้งเนื้อน้ำที่ให้การปกปิดปานกลาง ช่่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ สว่างกระจ่างใสมากขึ้นพอสมควร เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวมาก แถมยังมี SPF50+/ PA+++ กันแดดได้ดีในช่วงระหวางวันด้วยนะคะ เนื้อผลิตภัณฑ์จะเกลี่ยง่ายไม่หนักหน้า สามารถลง concealer ปกปิดบริเวณใต้ตาหรือรอยสิวต่างๆได้อีกทีนึงค่ะ ก็อยู่ได้ทั้งวัน ไม่หมองนะ ส่วนตัวชอบเช่นเดียวกันกับ Innisfree ค่ะ ถือว่าดีทีเดียวใช้สลับกันแล้วแต่อารมณ์ หุหุ (แต่แอบเอียงไปทาง Innisfree มากกว่าหน่อยนึง เพราะ Innisfree จะค่อนข้างเบาสบายและรู้สึกสดชื่นผิวมากกว่า)

สำหรับ Cushion 2 ตัวนี้เคยรีวิวไปแล้วในกระทู้ก่อนๆลองไปอ่านดูเพิ่มเติมได้ค่า

12. Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex II เป็นเซรั่มชื่อดังมากๆ ตัวนี้ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางถึงความดีงามของมันค่ะ ราคาโหดพอสมควรยิ่งขนาดใหญ่สุดก็ 4-5 พันบาท แต่ส่วนใหญ่ เรื่องความสวยงามอ่อนเยาว์แล้วสาวๆมักจะยอมลงทุนเสมอค่ะ หรือใครที่ยังไม่กล้าลงทุนมากลองซื้อที่เป็นขนาดทดลองมาใช้ก่อนได้ค่ะ สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก และที่สำคัญทำให้เรารู้ด้วยว่าจะแพ้หรือไม่ ส่วนตัวแล้วเป็นคนผิวแพ้ง่ายใช้ตัวนี้แล้วก็ไม่แพ้ค่ะ ชอบพกไว้เดินทางไปทำงานต่างประเทศเพราะจะพักผ่อนน้อยผิวจะโทรม พกตัวนี้ไปก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ทาก่อนมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวอื่นๆของเราค่ะ ทาทั้งหน้าและคอเลยนะคะ เพราะหน้าตึงแต่คอเหี่ยวคงไม่ดีแน่ ใช้แค่น้อยค่ะ 1-2 หยด ใครไม่พอก็เพิ่มปริมาณได้ค่ะ แต่ไม่ต้องใช้มาก มันจะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น เส้นริ้วรอยดูลดลง ดูสุขภาพผิวดี ชุ่มชื่นขึ้น พร้อมปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายในแต่ละวัน ซึ่งได้รับการพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพว่าเหมาะกับผิวทุกเชื้อชาติด้วยนะคะ

14. Laura Mercier Foundation Powder ส่วนตัวใช้เบอร์ 2 นะคะ เป็นแป้งผสมรองพื้นสุดฮิตที่มียอดขายดีอันดับหนึ่งในหลายๆที่ ป้าลอร่าของสาวๆ หลายคนทั่วโลก ด้วยสูตรที่บางเบา แต่ให้การปกปิดดีเยี่ยม เนื้อแป้งอณูละเอียด ให้ผิวดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมควบคุมความมันได้อย่างยาวนานเนื้อแป้งเป็นเนื้อแมทต์เบาบาง เนียนละเอียด เป็นสูตรควบคุมความมัน(เหมาะกับสาวๆผิวมันเป็นอย่างยิ่งนะคะ) ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน พร้อมทั้งช่วยปกปิดจุดบกพร่องของใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ใบหน้าดูเนียนกริ๊บ สีแป้งไม่เพี้ยนไม่ดร๊อฟระหว่างวัน รู้สึกได้เลยว่า เนื้อละเอียดมาก ๆเลย พอทาลงไปแล้วไม่รู้สึกเลยว่าหนักหน้าเกินไปทั้งๆที่ก็เป็นแป้งผสมรองพื้น เพราะเป็นแป้งสูตรพิเศษที่ใช้ควบคู่กับน้ำได้ด้วย เวลามี่เหงื่อไหลจึงไม่ทำให้เป็นคราบเลย ส่วนตัวแล้วถึงแม้จะมีผิวแห้งแต่ก็ยังหลงรักแป้งนี้เช่นเดียวกันค่ะ แต่แค่เวลาใช้ไม่ได้ทาทั้งหน้านะคะ จะทาเฉพาะส่วนที่ต้องการปกปิดเช่น ใต้ตา หรือส่วนข้างจมูกที่อาจมีรอยแดงบ้าง หรือรอยสิวบางที่ค่ะ ส่วนอื่นๆของหน้าจะปัดด้วยแป้งฝุ่นอยู่แล้วค่ะ เลิฟจริงๆแป้งนี้ เสียดายไม่มีรีฟิล และเมื่อเทียบปริมาณกับราคาแล้วก็ถือว่าโหดเอาเรื่องอยู่ค่า แต่ยังก็ตามก็ยังรักอยู่ดีใช้เป็นตลับที่ 2 แล้วค่ะ ^^

15. Three Advance Smoothing Concealer เป็นคอนซีลเลอร์สูตรลิขวิด มาในรูปแบบของปากกากดตรงด้านท้าย จะมีเนื้อของผลิตภัณฑ์ไหลออกมาตรงพู่กัน เราสามารถใช้ป้ายไปตามบริเวณที่มีปัญหาต่างๆได้เลยค่ะ สะดวกต่อการพกพาเติมหน้าระหว่างวัน เค้าออกมาหลายเฉดสีด้วยกัน ส่วนตัวใช้ เบอร์ 01 เหลืองอ่อนๆสำหรับทาใต้ตาค่ะ ชอบตรงที่เนื้อผลิตภัณฑ์ทาใต้ตาแล้วมันไม่ตกร่องบางเบาแต่ก็ปกปิดได้พอสมควรเลยค่ะ ทำให้ใต้ตาสว่างขึ้นด้วย ช่วยอำพรางรอยคล้ำใต้ตา, จุดด่างดำ, รอยสิวต่างๆ และสามารถใช้ทัชอัพระหว่างวันโดยไม่เป็นคราบ ผสมผสานเข้ากับรองพื้นได้ทุกชนิดสามารถเกลี่ยทับบนแป้งและหลังการลงรองพื้นก็ได้ค่ะ หัวแปรงที่ออกแบบมาให้ใช้งานอย่างง่ายดายมากๆค่ะ ครั้งแรกที่ได้ไปลองคือทางเค้าท์เตอร์ส่ง sms มาชวนให้ไปทดลองของใหม่เลยได้มีโอกาสไปลอง พอลองปุ๊บก็ดันติดใจ ซื้อกลับบ้านมาทันที พอน้องสาวมาลองใช้ก็ชอบ ก็พาน้องสาวไปซื้อด้วยอีกอันนึง นี่กำลังจะหมดแล้ว จะซื้ออีกแท่งแน่นอนค่ะ ส่วนตัวชอบมากกว่ารุ่นเก่าที่เป็นครีมตลับเยอะเลยค่า ใครสนใจไปลองดูได้ที่เค้าท์เตอร์ Three ทุกสาขานะค้า มีหลายสีให้เลือกรับรองว่าจะชอบเหมือนกันอย่างแน่นอน เผลอๆได้ผลิตภัณฑ์ชิ้นอื่นติดมือกลับมาอีก ก็ของแบรนด์นี้เค้าเริ่ดหลายอย่างเลยทีเดียวเชียว

16. Cosluxe Slim Brow Pencil ดินสอเขียนคิ้วแบบหมุนออโต้ ของดีราคาถูกแค่ 200 นิดๆ ที่ได้รับการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางเราไม่พูดถึงก็คงไม่ได้เช่นเดียวกัน ด้วยนวัตกรรมหัวเรียวเล็กแค่ 1 mm. คือแหลมทุกครั้งที่เปิดใช้นั่นเองค่ะ ได้ลองใช้มา 2 เฉดสีด้วยกันคือ Deep Brown และ Caramel ก็มาพบว่าชอบสี caramel มากกว่าเพราะเป็นคนชอบทำสีผมบ่อย เนื้อของดินสอเขียนง่าย ไม่บาดคิ้ว ติดทนนานด้วย แต่ข้อเสีย2 อย่างที่ไม่ชอบคือ รู้สึกว่าหมดเร็วจัง เหมือนได้มาน้อย(แต่ก็ราคาถูกอะเนอะ เหอเหอ) และแปรงปัดคิ้วอีกด้านที่ให้มามันเล็กไปค่ะ ทำให้ขนแปรงมันแข็งปัดเล้วค่อนข้างเจ็บเบาๆ แต่ยังไงก็ใช้มาเรื่อยเป้นแทงที่ 5 แล้ว ราคาถูกแล้วก็หาซือ้ได้ง่ายดีค่ะ

17. Cosluxe Trust Me Auto Pencil Eyeliner เป็นอายไลเนอร์เนื้อเจลนุ่มๆ แต่ไม่นุ่มจนเกินไป เขียนง่ายไม่บาดตา สูตรกันน้ำติดทนอยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ ใช้มานานตั้งแต่ออกใหม่ๆแล้ว ชอบมากจริงๆ ส่วนตัวเป็นคนชอบใช้ eyeliner แบบดินสอหมุนแบบนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เคยใช้แบบเจลของ In2it แต่มันเจลนิ่มเกินไปจนเลอะเทอะ ไม่ค่อยปลื่มจนมาเจอตัวนี้ เลยยังไม่เปลี่ยนใจไปไหนเลย ใช้สีน้ำตาลค่ะ Dark Chocolate พอดีชอบเขียนสีน้ำตาลแล้วเอาอายแชโดว์เกลี่ยๆทับให้ฟุ้งๆ สวยงามดี สีดำส่วนตัวทาแล้วจะดูหน้าดุไปหน่อย ถามว่าใช้มากี่แท่งอันนี้นับไม่ถ้วนเลยค่ะ มีตุนไว้อีก 4 แท่ง ^^ ราคาดีใช้ได้เรื่อยๆ เลิฟเลย

18. Lucas papaw ointment จากออสเตรเลีย ด้วยส่วนผสมจากมะละกอพันธุ์ Carica มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและช่วยอาการอักเสบของผิว เป็นบาล์มสารพัดประโยชน์จริงจังค่ะ ใครที่ว่าปากแห้งตัวนี้ก็เอาอยู่นะคะ ส่วนตัวใช้มันทาทุกอย่างเลยมีติดกระเป๋าไว้ไม่เสียหลาย ยุงกัด ผิวเป็นผดผื่นก็ทา ตรงไหนรู้สึกว่าแห้งก็ทา ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่ม และใช้แต้มสิวก็ยังได้ หรือแผลน้ำร้อนลวกได้อีกด้วยค่า ถือเป็นไอเท่มที่สาวๆ ควรมีติดกระเป๋าไว้นะคะ แนะนำๆ ราคาไม่แพงด้วยแค่ 200 กว่าบาทเท่านั้นค่า

19. Maybelline New York Volum'Express Hypercurl Cat EyesWaterproof Mascara

ด้วยหัวแปรงแบบหวี ทำให้ ขนตาดูยาวขึ้น โค้งงอนขึ้น และ ขนตา "แยกเส้น" สวย, เด้งทนทานนานตลอดวันชอบจริงจังหมดไปหลายแท่งมากๆค่ะ

20. Maybelline Volum' Express the False Lash Mascara

เนื่องจากว่าส่วนของ Hyper Curl Cat Eyes จะไม่ได้ทำให้ขนตาหนาเป็แพหรือมีวอลุ่มมาก ดังนั้น หลังจากปัดตัวนั้นแล้ว อยากเพิ่มความหนาก็มาปัดเจ้าตัวนี้ต่อค่ะ ไม่ทำให้ขนตาตกลงมาด้ยว อยู่คงทนนานตลอดวันจริงๆค่ะ ข้อเสียมีอยู่คือ อันนี้ใครที่หนังตามันตกบ่ายอาจมีแพนด้าบ้างนะคะ และมาสคาร่าถ้าใช้ไปซักระยะค่อนข้างจับตัวเป็นก้อนบ้างค่ะ สามารถใช้ซับๆกับกระดาษทิชชู่ให้มาสคาร่าส่วนเกินออกไปก่อนแล้วค่อยมาปัดที่ขนตาค่ะ

คู่นี้เรามันจะใช้คู่กันตลอดในวันออฟไปทำงาน แต่ถ้าวันเสาอาทิตย์เบาๆหน่อยก็ปัดแค่ Cat Eyes ค่ะ

21. Smooth E Acne Hydrogel ครีมเจลแต้มสิวที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและขจัดแบคทีเรียด้วย ส่วนตัวใช้เองค่อนข้างจะได้ผลลัพธ์ที่ดีพอสมควรเลยค่ะ เวลาที่รู้สึกเจ็บๆตรงไหน ก็ทาๆไปเรื่อยๆ ยิ่งวันหยุดก็ทาๆวนๆนวดๆให้ซึมลงไป สิวมันก็จะอักเสบน้อยลงและยุบไปด้วยค่ะ ขอสำคัญคือมันค่อนข้างแรง ควรทาจำกัดบริเวณเฉพาะที่เป็นสิวนะคะ ไม่งั้นอาจจะผิวจะแห้งลอกได้ นี่ก็ใช้มา3 หลอดแล้ว ยังคงต้องมีติดบ้านอยู่ต่อไป ใครที่ชอบเป็นสิวอักเสบแนะนำค่ะ (รูปภาพอยู่ในหมายเลข 23 นะคะ)

22. Laura Mercier Rouge Nouveau Lip Colour สี Chic

ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงบ้าลิปอย่างดิชั้นลองลิปมาแล้วทั่วโลกา จะมามีลิปที่ต้องซื้อซ้ำอยู่อีกนะเนี่ยะ และก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นแบรนด์นี้ เพราะ จริงๆแบรนด์นี้ก็ไม่ได้ดังเรื่องลิปเลย เค้าดังเรื่องแป้งหรือผลิตภัณฑ์เกี่ยบกับผิวต่างหาก ครั้งแรกเมื่อออกมาคือน้องสาวซื้อมาเป็นของขวัญวันเกิดปรากฏว่าชอบมาก กลายเป็นลิปที่พกติดกระเป๋าตลอดจนตอนนี้แท่งแรกหมดไปแล้ว ก็ยังพยายามเอาพู่กันควักๆเนื้อลิปขึ้นมากะจะใช้ให้สุดไม่ยอมทิ้ง ถึงแม้จะซื้อแท่งใหม่มารอแล้วก็ตาม รุ่นนี้ออกมามีหลายสีแต่ก็ไม่มากนักค่ะ แต่สีที่ชอบสุดๆคือสี Chic มันจะออกชมพูบานเย็นทาแล้วหน้าสว่างสดใสดีจริงๆค่ะ ที่สำคัญเนื้อลิปดีนุ่มลื่น ชุ่มชื้นไม่แห้ง สีติดทนนานด้วย ขนาดของแท่งก็เรียวเล็กเข้ากับรูปปากพอดีทาง่ายจริงๆ ชอบๆๆๆๆๆ (ไม้ยมกร้อยตัว) ใครสนใจแนะนำให้ไปลองดูค่ะ

23. ลำดับสุดท้ายแล้ววววว เหนื่อยเจงๆ 55 แต่เพื่อสาวๆจีบันทุกคน สู้ต่อไป!! อันนี้ก็คือ Vitara Clinda gel เป็นเจลแต้มสิวของดีราคาประหยัดค่ะ ราคา 5-60 บาทนะ หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เป็นเจลใสเย็นๆใช้สำหรับแต้มสิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน มันเป็นตัวยา Clindamycin เป็นตัวยาเดียวกับที่คลินิครักษาสิวใช้ ทาบริเวณที่เป็นสิว เช้าเย็นหลังล้างหน้า สิวมันค่อนข้างยุบเร็วแล้วก็ไม่ทิ้งรอยด้วยค่า ของเค้าดีจริงๆนะ ใครมีปัญหาสิวลองดูค่ะ

เย่จบแล้วววววว แฮ่กๆๆ ขอไปะพักสายตาจากหน้าคอมแป้บ คราวหน้ามีอะไรเด็ดๆดีๆมาฝากสาวๆอีก ไว้รอชมนะค้า

บ้ายบายค่า

By ผู้หญิงบ้าลิป XOXO


paatalee

paatalee

I love all the beauty products, fashion and sharing things I love with others. It makes me happy. Hope you happy and love it, too. xoxo

FULL PROFILE