รีวิว Holika Holika: Good cera ultra emulsion แถมตัวอื่นๆในตระกูลนี้ด้วยจ้า

สวัสดีค่ะ^^

ฝ้ายซุ่มอ่านกระทู้ของเพื่อนๆชาวจีบันมาสักระยะแล้วค่ะ ทีนี้ก็เกิดอาการคันไม้คันมืออยากจะเขียนรีวิวกับเขาบ้าง แต่ให้ตายเถอะ ช้านกับงานเขียนนี่มันช่างเคมีไม่ตรงกันสักเท่าไหร่ (ถนัดพูดมากกว่า) ได้รีวิวเก็บไว้หลายตัว แต่เขียนไม่จบสักตัว แป่ว -*- แต่แล้ววันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะได้เอามาลงในจีบันสักที เย้!

พล่ามมาซะเยอะ เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ (บอกเลยค่ะ ทู้นี้อ่านกันยาว 555)

ปกติฝ้ายเป็นคน ผิวธรรมดา-แห้ง แล้วช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาอากาศที่เชียงรายก็เย็นจนหน้าชา รู้สึกว่าสกินแคร์ที่ใช้อยู่มันชุ่มชื่นไม่พอสำหรับหน้าหนาวแล้วหล่ะ ก็เลยไปปรึกษาเพื่อนสาว นางก็แนะนำให้ใช้ตัว Good cera ของ holika holika ประจวบเหมาะกับเพื่อนอีกคนไปเกาหลีพอดีเลยฝากนางหิ้วมาให้ ก็ได้ตัว Good cera ultra emulsion มาพร้อมกับเทสเตอร์ตัวอื่นๆในตระกูลนั้นมาลองอีกนิดหน่อยตามภาพ (ถึงแม้ตอนนี้อากาศจะร้อนแล้วแต่นางก็ยังโอสำหรับผิวเราอยู่นะ)

สำหรับ Good cera ultra emulsion ฝ้ายจะรีวิวให้อย่างละเอียด ทั้งส่วนประกอบและผลลัพธ์ที่ได้ เนื่องจากได้ใช้ต่อเนื่องมา 2 ขวดแล้วค่ะ ส่วนตัวอื่นๆขออนุญาตรีวิวแค่ความรู้สึกตอนทดลองใช้เท่านั้นนะคะ

มาเริ่มกันเลยจ้า

1. Good cera ultra emulsion

ส่วนประกอบทั้งหมด (ตามข้างกล่อง)

water, hydrogenated polyisobutene, clyclopentacyloxane, glycerine, butylene glycol, betaine, neopentyl glycol dicaprate, C14-22 alcohols, C12-20 alkyl glucoside, hydrogenated lecithin, cetearyl alcohol, dimethicone, yeast extract, batyl alcohol, stearic acid, caprylic/caprice triglyceride, lecithin, glyceryl stearate, phytosteryl/isostearyl/cetyl/stearyl/behenyl dimer dilinoleate, ceramide 3, hydrogenated polydecene, butyrospermum parkii (shea) butter, ceteareth-20, glyceryl citrate/lactate/linoleate/oleate, hydroxypropyl bispalmitamide mea, glycosphingolipids, ceramide 6 ii, meadowfoam estolide, glycine soja (soybean) sterols, cetearyl glucoside, ethylhexyl isononanoate, glyceryl polymethacrylate, aleuritic acid, glycoproteins, polyquaternium-51, camellia oleifera seed oil, tocopheryl acetate, sodium hyaluronate, glycine soja (soybean) spout extract, centella asiatica extract, chamomilla recutita (matricaria) flower extract, glycyrrhiza glabra (licorice) root extract, propyl gallate, gallyl glucoside, epigallocatechin gallatyl glucoside, eruca sativa leaf extract, carbomer, arginine, xanthan gum, disodium edta, caprylyl glycol, ethylhexylglycerin, tropolone, caramel, citrus aurantium bergamia (bergamot) fruit oil, dipropylene glycol, lavandula angustifolia (lavender) oil, citrus paradise (grapefruit) peel oil, cymbopogon citratus leaf oil, pelargonium graveolens oil, citrus aurantium dulcis (orange) peel oil, pogostemon cablin oil, santalum album (sanderlwood) oil chamomilla recutita (matricaria) flower oil

โอ๊วววว แค่เห็นส่วนประกอบก็จะเป็นลม อะไรจะเยอะปานนั้น T^T ไหนๆก็ไหนๆละ สู้ค่ะ!

สารสำคัญ…ใส่มาให้หลายตัวมากกกก

จุดขายของผลิตภัณฑ์นี้ก็คือ การเสริมสร้างและฟื้นฟูความแข็งแรงของ skin barrier จะเห็นได้ว่าใส่กลุ่มของไขมันที่เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างชั้นผิวและสารที่จำเป็นต่อเซลล์ผิวมาหลายตัว ได้แก่ ceramide 3, ceramide 6 ii, lecithin, hydrogenated lecithin, glycosphingolipidsและglycoproteinหรือแม้กระทั่งไขมันสังเคราะห์อย่าง hydroxypropyl bispalmitamide mea สารเหล่านี้บางตัวนอกจากจะเสริมโครงสร้างผิวแล้วยังช่วยให้สารซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีขึ้นด้วย เนื่องจากมีโครงสร้างเป็น lipid bilayer เหมือนกับผิวหนังของเรา นอกจากนี้ยังมีไขมันและน้ำมันจากพืชดีๆอีกหลายตัว เช่น meadowfoam estolide, glycine soja (soybean) sterols และ camellia oleifera seed oil

สารสำคัญอื่นๆที่เสริมเข้ามา (ดูจะเน้นเรื่องการลดการระคายเคืองและต้านอนุมูลอิสระซะเป็นส่วนใหญ่)ได้แก่

  • Yeast extract สารสกัดจากยีสต์ที่ใช้ไม่ได้ระบุสายพันธุ์ จึงไม่แน่ใจว่าจะมีส่วนประกอบอะไรอยู่บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้ว สารสกัดจากยีสต์มักจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโน เพปไทด์คาร์โบไฮเดรตและวิตามินต่างๆ ซึ่งน่าจะมีผลในการบำรุงผิวของเราตามคุณสมบัติของการแต่ละตัวที่เป็นองค์ประกอบ
  • Tocopheryl acetate เป็นอนุพันธ์ของวิตามินอี ทำหน้าที่เป็น antioxidant แต่คาดว่าน่าจะใส่มาแค่ช่วยเรื่องความคงตัวของสารใส่สูตรซะมากกว่า
  • Glycine soja (soybean) spout extract ตัวนี้ฝ้ายหาข้อมูลไม่ได้ค่ะ (ใครหาข้อมูลได้เอามาแชร์กันบ้างนะคะ^^) เป็นสารสกัดจากถั่วเหลื่องก็น่าจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระหล่ะค่ะ
  • Centella asiatica extract สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยรักษาบาดแผล หรือรอยแดง/ดำ ที่เกิดจากสิวได้
  • Chamomilla recutita (matricaria) flower extract สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยลดการระคายเคือง การอักเสบ การแพ้ และมีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย
  • Glycyrrhiza glabra (licorice) root extract มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านแบคทีเรีย ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (เอนไซม์ที่เปลี่ยนไทโรซีนให้เป็นเมลานิน)
  • Eruca sativa leaf extract สารสกัดจากใบ rocket salad (ผักชนิดหนึ่งที่ใช้ใส่ในสกัด ถ้าใครไม่รู้จักลองเซิร์ท google ดูนะคะ) สารตัวนี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
  • Propyl Gallate, Gallyl Glucoside และ Epigallocatechin Gallatyl Glucoside คาดว่าน่าจะเป็นส่วนประกอบผสมภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Unisooth EG-28 เป็นสารออกฤทธิ์ที่เป็นส่วนประกอบในชาเขียวและต้นโอ๊ค มีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอย รอยคล้ำใต้ดวงตา และลดสีผิวไม่สม่ำเสมอที่เกิดจากการระคายเคือง
ส่วนประกอบอื่นๆ

มีสารที่ช่วยดึงน้ำให้ผิวได้ดี เช่น butylene glycol, betaine, sodium hyaluronate เป็นต้น มีไขมันและน้ำมันช่วยป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว ซึ่งน้ำมันหลายตัวก็เป็นตัวที่มีคุณสมบัตินุ่มลื่น บางเบา ไม่เหนอะหนะ เช่น neopentyl glycol dicaprate มีซิลิโคนอยู่บ้างเพื่อให้เนื้อสูตรมีสัมผัสที่ดี ไม่มี alcohol (หมายถึง Ethanol นะคะ) สารกันเสียที่ใช้ก็เป็นตัวที่ค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว มีน้ำมันหอมระเหย ได้แก่ Citrus aurantium bergamia (bergamot) fruit oil, Lavandula angustifolia (lavender) oil, Citrus paradise (grapefruit) peel oil, Cymbopogon citratus leaf oil, Pelargonium graveolens oil, Citrus aurantium dulcis (orange) peel oil, Pogostemon cablin oil, Santalum album (sanderlwood) oil, Chamomilla recutita (matricaria) flower oil เข้าใจว่าน่าใส่มาเพื่อจุดประสงค์เรื่องกลิ่นหอมมากกว่า แต่น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ก็มักจะมี therapeutic properties อยู่แล้ว เช่น ลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง ต่อต้านแบคทีเรียฯลฯอย่างไรก็ตามอาจไม่เหมาะกับคนที่แพ้น้ำมันหอมระเหย และต้องระวังเรื่องการไวต่อแสงด้วย เนื่องจากมีน้ำมันหอมระเหยตระกูล citrus

มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์และความรู้สึกหลังใช้ดีกว่าค่ะ

ลักษณะผลิตภัณฑ์

เนื้อครีมสีขาว ไม่ข้นมาก เกลี่ยง่าย เนื้อไม่หนักค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆแนว Citrus-Herb

ความรู้สึกหลังจากใช้

ซึมเร็วปานกลาง ไม่เหนอะหนะ แต่มันนิดหน่อย (อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนผิวมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าอยากใช้ ceramide แนะนำให้ลองดูตัวอื่นเช่น good cera toner ซึ่งจะมันน้อยกว่าค่ะ) รู้สึกผิวนุ่มมากกกกทันทีที่ใช้ เด้งๆ ฟูๆ ฟินมากคร่าาาาา ^___^ ตอนนี้ใช้ต่อเนื่องมาแล้ว 2 ขวดค่ะ

ถึงเวลาให้คะแนนแล้วคร่าาา (เห็นเขาชอบให้คะแนนกัน เราก็เอามั่ง 555)

ส่วนประกอบ 9/10

ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น 9/10

ความคุ้มค่า 10/10 (ฝากเพื่อนหิ้วมาราคาสี่ร้อยบาทกว่าๆ ปริมาณ 200ml)

มาต่อกันที่ตัวถัดไปเลยค่ะ ได้ลองแค่เทสเตอร์เท่านั้น เลยจะรีวิวแค่เนื้อและความรู้สึกหลังใช้นะคะ

2. Good Cera Ultra Toner

ลักษณะผลิตภัณฑ์

ตัวนี้จะเป็นเหลวๆใสๆค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆแนว Citrus-Herb

ความรู้สึกหลังจากใช้

ทาไปไม่ค่อยมันนะ ก็โอเคอยู่ค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าฝ้ายผิวค่อนข้างแห้งเลยรู้สึกว่ามันยังไม่สะใจ ^^

ฝ้ายว่ามันซึมช้ากว่าตัว emulsion นะ

สำหรับคะแนนของตัวนี้ (ดูโดยรวมละกันเนอะ) ให้ 7/10 ค่ะ

3. Good Cera Ultra cream (ขออภัยฝ้ายลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ นึกได้อีกทีมันก็หมดไปละ แหะๆ)

ลักษณะผลิตภัณฑ์

ตัวนี้เนื้อครีมสีขาวข้น ข้นกว่าตัว emulsion ค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆแนว Citrus-Herb เช่นกัน

ความรู้สึกหลังจากใช้

ตัวนี้ฝ้ายว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับอากาศบ้านเราค่ะ มันเหนอะและหนักมาก แห้งช้าด้วย นี่ขนาดฝ้ายผิวแห้งนะ แต่ผลที่ได้หลังทามันก็ทำให้ผิวนุ่มดีค่ะ

สำหรับคะแนนของตัวนี้ (โดยรวม) ให้ 5/10 ค่ะ ตัดคะแนนเรื่องความหนักไปนิดเนอะ

ยังไงวันนี้ก็เอาพอหอมปากหอมคอกันไปก่อนเนอะ ชอบไม่ชอบยังไงติชมกันได้นะคะ ^^

Discussion (3)

@LadyMiiyeon @rainbowindeww ขอบคุณคร่าาาา^^



Line นี้ มี่ใช้ Toner อยู่ค่ะ ฟินเว่อร์ ส่วนตัวครีมมี่ว่าเหมาะมากเลยค่ะกับหน้าหนาว 

ปล. ได้ความรู้ใหม่ด้วย พึ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับ "Unisooth EG-28" ที่คุณฝ้ายกล่าวถึง น่าสนใจมากเลยค่ะ