กระตุ้นต่อมอยาก : ข้ามไทม์โซนไปอเมริกา Salt Lake City, UTAH เมืองใหญ่นี้มีดีอะไร!?

สวัสดีค่า! สำหรับวันนี้ภาจะกระตุ้นต่อมอยากเพื่อนๆ ไปไกลถึงอเมริกา! เนื่องจากเราได้มีโอกาสเดินทาง ไปเยี่ยมอาโก (พี่สาวพ่อ) ที่อเมริกา รัฐ UTAH เมือง ROY เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งเมืองขึ้นชื่อของรัฐยูทาห์ที่น่าจะคุ้นหูใครหลายๆคนคงหนีไม่พ้น Salt Lake City (SLC) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐยูทาห์นั่นเอง

เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยได้สัมผัส เลยถือโอกาสจัด One Day Trip เที่ยวด้วยตัวเองดูซักวัน งั้นอย่าช้า ไปหลงทาง เอ้ย! ไปเดินทางด้วยกันเล้ย!

งานโพยต้องมา...

ขอขอบคุณพี่ ต. (เพื่อนอาโก) ที่ช่วยหา Map จดโพย และให้ข้อมูลการเดินทางของทริปนี้ค่ะ!

เริ่มจากตารางสถานที่ที่ไปก็ค่อนข้างจะเซฟโซนใกล้ๆติดๆกันเดินทางไม่ลำบาก อาจมีหลงบ้างอะไรบ้างตามสไตล์เรา ดังนี้

1. Salt Lake City And County Building : อนุเสาวรีย์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ทางการเมือง เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คของ SLC

2. University Of Utah (U Of U) : หนึ่งในมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่มีชื่อเสียงติดอันดับท๊อป 100 ของมหาวิทยาลัยในประเทศอเมริกา

3. Marcia And John Price Museum Building : มิวเซียมใน U Of U

4. Salt Lake Public Library : ห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดใน SLC

5. The Leonardo : กึ่งมิวเซียมกึ่งศูนย์การเรียนรู้ แสดงงานอาร์ต เทคโนโลยี การทดลองวิทยาศาสตร์

6. Temple Square : แลนมาร์ค SLC ไม่มาคือมาไม่ถึง

7. City Creek Center : ช็อปปิ้งมอลล์ใจกลางเมือง ใหญ่เว่อวีว่าอลังที่กำลังฮิตสุดในเมืองนี้

Let's Go!!

วิธีการเดินทางตามแพลนคือ

1. ขาไป : ติดรถเพื่อนอาโกจาก ROY เข้า SLC มาลงที่ UTA TRAX - Library Station

2. เดินทางระหว่างสถานที่ : นั่ง UTA TRAX (รถราง)

3. ขากลับ : นั่ง UTA FrontRunner (รถไฟ) จาก SLC กลับ ROY

Map พร้อม! Passport พร้อม! UTA Transit Pass พร้อม! (อันนี้พี่ต.ก็ให้ยืม) ถ้าปกติคือต้องซื้อเหมือน BTS บ้านเรานะคะ

แต่พอดีพี่ต.เค้าทำงานที่นี่ เลยซื้อแบบรายเดือนเอาไว้เหมือน BTS มั้ง... (อันนี้ไม่แน่ใจนะคะเดาเอา)

ถึง UTA TRAX - Library Station ปุ๊บ! ก็เห็น Salt Lake City and County Building กระแทกตาปั๊บ! ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ฝั่งตรงข้ามพอดี

Remark :

1. ดูเวลารถวิ่งรอบสุดท้ายให้ดี! เพราะวันวันเสาร์-อาทิตย์ จะไม่เหมือนวันธรรมดา โดยเฉพาะวันอาทิตย์คือรถไฟไม่วิ่งเลย

2. UTA TRAX มีทั้งหมด 3 สาย คือ ฟ้า/ แดง/ และเขียว ฟีลเหมือน BTS บ้านเราที่มี 2 สาย สุขุมวิทกับสีลม ไรงิ

ดูให้ดี ขึ้นให้ถูก ไม่งั้นหลงไปไกล ยิ่งถ้าหลุดออกไปชานเมืองมีร้อง!

ซื้อตั๋วที่นี่!

ได้ตั๋วแล้วก็แตะบัตรที่แท่นนี้ แตะก่อนขึ้น และ แตะหลังลง

แต่ละสถานีจะมีป้ายไฟบอกว่าขบวนถัดไปจะมาในอีกกี่นาที ระหว่างรอก็ชมวิวข้างทางเพลินๆ

มาแล้ว!

ที่แรกที่เราไปคือ University Of Utah เราจึงนั่งสายแดงมาลงที่สถานี U. South Campus

ถึงแล้ว! ใหญ่มากกกก กว้างมากกก เดินไม่ไหว จริงๆเห็นมีรถบัสรับส่งตามคณะ แต่ไม่ได้ขึ้นเพราะไม่รู้ว่าเฉพาะนศ.ที่นั่นมั้ย

เลยเอาวะ! เดินๆไปจนถึงตัวมหาลัย

ประตูที่เราเข้ามาได้ป๊ะกับ Marcia And John Price Museum Building เป็นอย่างแรก!

อันนี้ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่เห็นแล้วอดใจไม่ได้ ขอเข้าหน่อย ^^" ส่วนค่าเข้าไม่ฟรีนะจ๊ะ

ต้องเป็นสมาชิก หรือนศ.ที่นี่เท่านั้น เลยโดนไป 9$ ค่ะ...

มิวเซียมมีทั้งหมด 2 ชั้น แต่ละโซนจะไปแต่ละแนวเลย (อย่าถามว่ามีแนวไหนบ้างไม่มีความรู้ด้านนี้ลึกซึ้ง) ส่วนบรรยากาศด้านในจะเก็บภาพได้นิดๆหน่อยๆ ตรงไหนที่มีป้ายห้ามถ่ายเลยไม่ได้ถ่ายนะคะ

หลังจากเดินชมเพลินๆ เพราะคนน้อย ไม่ต้องแย่งกันดูแย่งกันอ่าน ก็กินเวลาไป 2 ชม. พอดี!

ตอนนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. เลยออกมาเดินรอบๆมหาลัยเล่นอีกนิดนึง

อากาศกำลังดีประมาณ 12 °C แดดแรงนิดหน่อย แต่ลมยังหนาวอยู่เลยไม่ค่อยงอแง (ถ้าอากาศร้อนน้องไม่สู้ 55)

เดินไปเดินมาเพลินเกิน เดินจนมาถึงอีกสถานีนึงเฉย! ชื่อสถานี Stadium เลยขึ้น Trax ต่อ พร้อมลุยที่ถัดไป...

สถานีถัดไป... Salt Lake Public Library ^_______^

เพื่อไม่ให้เสียเวลามาต่อกันเล้ย! พอออกจาก U Of U แล้วก็นั่ง UTA Trax สายสีแดงย้อนกลับไปสถานี Library ใช่ค่ะ...

คือสถานีที่เรานั่งมานี่แหละ แต่เผอิญว่า U Of U เป็นสถานีที่เรานั่งลงมาทางใต้ และนับจากนี้ เราจะค่อยๆพาทุกท่านเข้าสู่กลางใจเมืองกัน

พอลงป้าย Library ปุ๊บ! จะเจอห้องสมุดเป็นตึกกระจกแซมผนังสีขาวสะอาดตาอยู่ฝั่งตรงข้าม ให้ข้ามถนนมาโลด

นอกจากจะมีหนังสือหลากหลายประเภทรวมกว่า 500,000 เล่ม ยังมีร้านรวงต่างๆ รวมถึงคาเฟ่ ขายงานอาร์ต ร้านดอกไม้ยังมี!

เวลาเปิด-ปิด ตามนี้ : จ-พฤ 9.00–21.00, ศ-ส 9.00–18.00, อา 13.00-17.00 ใครมีโอกาสขอให้มาโดน อ้อ! ค่าเข้าฟรีนะคะ

ร้านค้าต่างๆในห้องสมุด

คาเฟ่ในห้องสมุด

เดินออกมาประตูหลังห้องสมุด จะเจอลานกว้าง มีที่จอดจักรยานและน้ำตกกลางลาน คือร่มรื่นมากเดินเพลิน (อีกแล้ว)

หลังออกมาจาก SLC Public Library แล้ว ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นคนหลายๆกลุ่ม (ส่วนมากเป็นครอบครัว) เดินเข้าไปในตึกดำๆที่อยู่ข้างๆห้องสมุด มองข้างนอกไม่รู้ว่าคืออะไร คนไทยใจเผือกอย่างเราจึงต้องเข้าไปดูซะหน่อย! พอเดินไปถึงได้รู้ว่า อ๋อ... นี่มัน The Leonardo นี่นา... ฟีลคือไม่เชิงว่าเป็นมิวเซียม แต่เป็นอารมณ์หอศิลป์ บวกกับศูนย์การเรียนรู้

มีทั้งจัดแสดงงาน และมีที่ให้ผู้เข้าชมได้ทำ Workshop เกี่ยวกับงานศิลปะ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ด้วย (ส่วนมากจะเป็นเด็กๆ) บางคนเลยเรียกว่า Museum บ้าง Exhibit บ้างนั่นเอง มีทั้งหมด 3 ชั้น แต่เปิดให้เข้าชมแค่ 2 ชั้น ชั้น 3 เป็นเหมือนห้องจัดอีเว้นท์

เวลาเปิด-ปิด : เสา-พ 10:00-17:00, พฤ & ศ 10:00 – 20:00 ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 9.95$

จริงๆข้างล่างมีเยอะกว่านี้ แต่เด็กค่อนข้างเยอะมากเลยไม่พยายามเข้าไปเบียดแทรก ให้น้องๆหนูๆเค้าฟินกันไป ป้าขึ้นชั้น 2 หล่ะ!

ขึ้นมาปุ๊บก็เจอกับนิทรรศการ No Fixed Address อันนี้ชอบมากกกก! เล่าคร่าวๆแล้วกันว่านี่คือนิทรรศการที่จัดขึ้น เพื่อให้คนได้รู้ถึงปัญหาคนจรจัด (Homeless) ของรัฐยูทาห์ ด้วยประโยคสุดอิมแพคว่า "1 in every 213 people in Utah is homeless" หรือแปลได้ว่า 1 ใน 213 คนของประชากรรัฐยูทาห์... ไม่มีที่อยู่อาศัย! แล้วคิดดูว่าประชากรในรัฐนี้มีกี่ล้านคน!?

เปิดด้วย VDO ที่ถ่ายทอดสภาพความเป็นอยู่ของคนจรจัดเหล่านี้ (อิมแพคกันตั้งแต่โซนแรกเลยขรั่บ)

โซนถัดไป... (นี่น้ำตาเริ่มคลอ T_T)

คือตอนที่ได้ไปยืนจ้องตาแต่ละคน ในบรรยากาศเงียบๆนี่แบบ... ทำไมบางคนเค้าไม่เห็นดูเศร้านะ!?

บางคนสายตาเค้าดูเข้มแข็งกว่าเราอีกว่ะ! อ่ะ... ก็ดราม่ากันไป (สารภาพว่าอ้อยอิ่งอยู่โซนนี้เกือบ 40 นาที -.,- )

โซนต่อมาจะเป็นโซนที่แปะบทความของนักเขียนทั้ง 5 คน ที่ออกมาถ่ายทอดเรื่องราวหลังจากที่แต่ละคนได้มีโอกาสไปสัมผัสคนจรจัดอย่างใกล้ชิด

โดยเล่าผ่านมุมมองของพวกเค้าเอง งานนี้เห็นฝรั่ง 2-3 คน นั่งร้องไห้ออกมาเลยก็มี ส่วนเราได้อ่านเรื่องที่ไม่ได้ดราม่ามาก ออกแนวอ่านแล้วอมยิ้มมากกว่า แต่ได้อ่านอยู่แค่เรื่องเดียว เพราะมัวแต่ทำความเข้าใจไหนจะไม่รู้ศัพท์ต้องเปิดดิคอีกก็ปาไปเกือบ 17.00 แล้วเลยต้องรีบไปต่อ T_T

ถัดมาเป็นโซนภาพถ่ายภายใน SLC ผ่านมุมมองของช่างภาพแต่ละคนที่ถ่ายผ่านกล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สถานที่ อาหาร อีเวนท์

บลาๆที่พวกเค้าสนใจใน SLC โดยที่ภาพเหล่านี้ไม่เคยมีใครได้เห็นที่อื่นมาก่อนแน่นอน

และปิดท้ายนิทรรศการด้วยกล่องบริจาคจากมูลนิธิต่างๆที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนจรจัด ใครใคร่ใส่มากน้อยก็หยอดไป

พอผ่านนิทรรศการนี้ไปก็จะมีอีกนิทรรศการหนึ่งชื่อ "Water" แต่ไม่ได้เข้าไปดูอะไรมาก เวลาไม่พอ T_T

บรรยากาศโซน Workshop ต่างๆก่อนมุ่งหน้าสู่สถานีถัดไป...

เป๊งๆ... นาฬิกาบอกเวลา 17.00น. พอดีเป๊ะ! ช้าอยู่ทำไมมูฟไป Temple Square กันเถอะ!

วิธีไปก็ง่ายแสนง่าย ข้ามถนนกลับมาขึ้น UTA Trax ที่สถานี Library สายสีแดงดังเดิม แต่ Temple Square ที่เราจะไป ต้องนั่งสายสีเขียวหรือฟ้า

ดังนั้นเราจึงต้องนั่งสายสีแดงนี้ไปลงสถานี Courthouse เพื่อเปลี่ยนสาย แล้วค่อยนั่งต่อไปลงสถานี Temple Square ค่ะ

แลนมาร์คของ SLC แห่งนี้ส่วนมากคนจะมาเพื่อชมดอกไม้ ชมธรรมชาติ (นอนกลางสวนเลยก็มี) ถ่ายรูปคู่กับโบสถ์ ซึ่งต้องบอกเลยว่า

สถานที่นี้แอบปราบเซียนตากล้องอยู่เหมือนกัน เนื่องจากองค์ประกอบต่างๆมันเยอะมากกกก แล้วจุดที่จะถ่ายภาพให้ออกมาสวยนั้นต้องหามุม

หมุนหาองศาจนเอวเคล็ด ใครมีเลนส์ Wide ก็โชคดีไป สำหรับเราคือถ่ายมาเยอะมากนะ แต่รูปดีๆแทบไม่มี ที่เลือกมาลงก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ T_T

แต่ช่างมันเถอะ ไปดูรอบๆกันดีกว่า!

งานดอกไม้ใบหญ้าก็มา...

งานนางไม้ก็มานะ...

มุมแหงนในโบสถ์มั่ง...

ด้วยความที่คนก็เยอะมาก รองเท้าก็กัด เอวก็ปวด ท้องก็หิว เดินรอบๆที่นี่ได้ประมาณ 30 นาทีเลยยอมแพ้ ไปสถานีสุดท้ายของเราดีกว่า...

ที่สุดท้าย ท้ายสุด ก่อนจะเดินทางกลับ ROY ก็คือ... City Creek! แค่นั่ง UTA Trax จาก Temple Square สายเขียวหรือฟ้า มาลงสถานี City Center ก็ถึงเลย หรือใครอยากเดินเล่นชมวิวโต๋เต๋ จะเดินมาก็ยังได้ ไม่ไกลจากกันมากแค่สถานีเดียวเอง ที่นี่เปิดตั้งแต่ จ-ส เวลา 10.00-21.00 น. ปิดวันอาทิตย์ มี 2 ฝั่ง 2 ชั้น เรียกได้ว่าใหญ่มากกกก ร้านที่น่าจะคุ้นหูกันก็มี Apple Store, Sephora, H&M, Forever 21, Coach, Michael Kors, GAP, Macy's, Nordstorm, American Eagle Outfitters, Banana Republic, BCBGMAXAZRIA, J. Crew, ALDO, Tiffany & Co., Swarovski, Disney Store, etc. (นี่แค่ 17 ร้านใน 110 ร้านนะ)

หลังจากโดนร้านต่างๆดูดเข้าไปจนหมดพลังแล้วขอพักกินข้าวเย็นแป๊บ...

โอ้! แป๊บๆดูเวลาจะ 19.00น. แล้ว!! ต้องรีบนั่ง UTA Trax ไปสถานีรถไฟ (UTA FrontRunner) เพื่อเดินทางกลับ ROY แล้วล่ะ

สำหรับสถานีรถไฟก็มีอยู่ทั้งหมด 2 ป้ายใน SLC นั่นก็คือสถานี Salt Lake Center (สายสีฟ้า) และ North Temple Bridge (สายสีเขียว)

แต่พี่ต. แนะนำให้ไปสายเขียว เนื่องจากสายฟ้าจะมีพี่ๆ Homeless อยู่เยอะพอสมควร เพื่อความปลอดภัย เราเลยไปสายเขียวฮะ!

ไปถึงก็หยอดเงินซื้อตั๋วที่ตู้เหมือน UTA Trax ได้เลย แต่เราใช้ Transit Pass ของพี่ต. อยู่แล้วเลยไม่ต้องซื้อ ^^"

Remark : เช็คเวลารถไฟออกให้ดี และไม่ควรไปถึงก่อนเวลาเกิน 5 นาที ใช่แล้ว ไม่ควร! เนื่องจากที่สถานีค่อนข้างเปลี่ยว

และมักมี Homeless หรือพวกแก๊งวัยรุ่นรวมตัวกันเอะอะโวยวาย ดังนั้นไปสแตนบายซัก 5 นาทีพอ

รถไฟจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที จาก SLC มา ROY ภาพด้านล่างคือถึงสถานีของเราเวลา 19.45 น. เป๊ะ!

พอถึงก็เจออาโกมารอรับที่สถานีรถไฟพอดี และขับรถกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ...

จบแล้วค่า! หวังว่าจะ กระตุ้นต่ออยาก ให้ใครหลายๆคน อยากออกเดินทางไปเที่ยวกันนะคะ ^^

สุดท้ายนี้... ใครมีคำถามดีเทลละเอียดๆ คอมเม้นถามได้เลยนะคะ

พบกันใหม่ทริปหน้า ขอให้เที่ยวกันให้สนุกค่า!

Discussion (12)

@Alittlegift  ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวจะมากระตุ้นต่อมอยาอีกเรื่อยๆเลยน้า 555 ^^
โง้ยยยยยยยยยยยยย ฟินไปอี๊กค่า
ภาพสวย ชอบบบบบบ
กระทู้นี้กระตุ้นต่อมอยากได้จริงๆนะคอนเฟิร์ม

@พะยูนน้อยเกยตื้น ได้มีโอกาสไปมาแล้วค่า สวยมากๆจริงๆ น้ำตาไหลปลื้มปริ่มด้วยคน ><
@wwhiterose ต้องหาโอกาสไปสักครั้งในชีวิตค่า เอาใจช่วยนะคะ ^___^
อยากไปบ้าง แต่เก็บตังค์แป๊บ...ใหญ่ๆ เนอะ