Swatch & Review :: เปรียบเทียบกันแดดแบบสเปรย์ 8 รุ่น ยี่ห้ออะไรดี ยี่ห้ออะไรไม่เวิร์ค !!
Jip 23 11
ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน สำหรับประเทศไทยตอนช่วงแดดออกนั้นคือ ฤดูที่เพลียที่สุด
นอกจาก ร้อน ร้อนมาก และร้อนมากกกกกกกกก แล้ว ยังทำให้ผิวเสีย ผิวดำ ผิวกร้าน อีกด้วย
แต่ครั้นจะพกครีมกันแดดชะโลมทาตลอดวัน คนขี้ร้อน ขี้รำคาญ ผิวเหนียวเมื่อไร หงุดหงิดกันที
ทางเลือกที่จิ๊บใช้มาหลายปี เห็นจะเป็นกันแดดแบบที่ฉีดทับระหว่างวันแล้วเหนียวตัวน้อยที่สุด
ก็คือกันแดดแบบสเปรย์นั่นเอง แต่ทีนี้ตอนเริ่มต้นจะซื้อยี่ห้ออะไรดีก็ปวดหัวเหลือเกิน
ตอนนี้ออกมาวางจำหน่ายกันเพียบบบบบ เลยซื้อมาลองมันทุกยี่ห้อนั่นแหละ ( ซื้อที่ละขวดสองขวดนะคะ )
และในที่สุดก็มีโครตเยอะเลย หมดนี่สะสมมา ปีกว่าๆ เลยเอามาแชร์กันสำหรับใครที่มองหาสเปรย์กันแดดค่ะ
มีทั้งฉีดแล้วเหนียว ฉีดแล้วเนียน ฉีดแล้วเย็น ลองอ่านกันดูนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ค่า
วันนี้จะเริ่มทำการทดลองความเหนอะหนะผิวเริ่มจากการฉีด
โรยกากเพชร และปิดท้ายด้วยกระดาษซัมมันนะคะ ส่วนวัดว่าประสิทธิภาพอันไหนดีที่สุด
คงยังตอบไม่ได้เพราะจิ๊บไม่ได้ทดลองตากแดดเป็นเวลานานๆ ความเห็นส่วนตัวล้วนๆค่ะ
Fracora placenta UV whitening Spray
SPF 50+/PA+++
สเปรย์กันแดดกระป๋องจิ๋วสุด แต่ราคาพอๆกับยี่ห้ออื่นๆ รู้สึกจะ 490 บาท
จากญี่ปุ่น ( อันนี้หาซื้อไม่ได้ตามร้านขายยา รู้สึกจะมีขายในเวปเท่านั้น ที่ไทยมีขายตามวัตสัน )
มีส่วนผสมของพลาเซนตา เน้นเรื่องความขาว มีส่วนผสมของบำรุงผิว
ใช้ได้ทั้งหน้า และ ตัว ( แต่อันนี้เก็บไว้ใช้แค่กับหน้าเพราะราคาสูง )
ฉีดแล้วบางเบามากกกกกกก ไม่เหนียวหนึบ เหนอะหนะผิวเลย ตอนแรกที่ฉีดลงผิวจะมีสีขาวๆ
แต่จะซึมเข้าผิวไวมาก ไม่ทำให้ผิวเป็นด่างๆ หลังใช้งานประจำรู้สึกเบาๆว่าผิวหน้าดีขึ้นด้วย
สังเกตได้ว่าความมันก็ไม่ทิ้งไว้เลย ยกนิ้วให้ยี่ห้อนี้เลย แต่ข้อเสียของนาง หาซื้อยาก และแพงเบาๆ ( แต่เวลามีโปรก็คุ้มนะ )
Suncut essence in UV protect spray
SPF 50+/ PA++++
กันแดด Suncut อยู่ในเครือของ KOSE ตัวนี้มีอีก 2 สี จะแตกต่างที่กลิ่น ราคาประมาณ 300 บาทปลายๆ
เป็นกันแดดสัญชาติญี่ปุ่นอีกเช่นกัน หลังจากฉีดเข้าผิวแล้วมีเอสเซ้นขาวๆติดผิว
แต่น้อยกว่าของ Fracora หนึบๆผิวนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นระดับที่น่ารำคาญ พอสักพักก็ซึมเข้าผิว
แต่ถ้าซับมันทันที ก็จะมีนิดๆ สำหรับกระป๋องขาวไม่มีกลิ่น เมื่อเทียบราคาแล้วฉีดขำๆ
สามารถฉีดได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ฉีดทับได้ ไม่เป็นคราบ แนะนำว่าฉีดแล้วถูๆๆ เกลี่ยๆ ก็ไม่เหนียวผิวค่ะ
Solanoveil UV Spray
SPF 50+/ PA+++
สัญชาติญี่ปุ่นอีกเช่นกัน ภายใต้ยี่ห้อ OMI ราคาประมาณ 400ปลายๆ
กระป๋องพอๆกับของ Suncut แพคเกจก็คล้ายๆกันค่ะ ดูดีๆก่อนซื้อนะคะ
ยี่ห้อนี้จิ๊บก็ใช้บ่อยรองๆจาก Fracora เลยก็ว่าได้ เพราะฉีดแล้วไม่เหนียวผิว แห้งไว
คือดี๊ดี ฉีดตัวก็หมดไวเล็กน้อย แต่ฉีดทับไม่มีปัญหาเช่นกัน ค่อนข้างเทใจไปทางฝั่งญี่ปุ่น
สังเกตได้ที่กระดาษซับมัน แทบไม่มันเลย ปลื้มปลิ่ม
SUNPLAY UV Body Mist Sunblock
SPF80/ PA+++
เป็นเครือเมนโทลาทัม ส่วนราคาอยู่ที่ประมาณ 400 ปลายๆ เช่นกัน แต่ปริมาณเยอะกว่าด้านบนๆ
แค่เห็นค่า SPF ก็กริ๊ดแล้ว มันดูน่าจะเหมาะกับอากาศที่ไทยมากสุด
พอลองฉีดแล้วเนื้อรุ่นนี้จะให้สัมผัสเคลือบๆผิว ทำให้หนึบๆหน่อย เนื้อเหมือนหนัก แต่ไม่มาก
แต่ก็ยังหนึบน้อยกว่ายี่ห้อที่จะพูดถึงต่อไป เหมาะสำหรับไปกิจกรรมกลางแจ้ง ทะเล
ถ้าฉีดอยู่บ้าน ไปทำงานอาจจะหนึบผิวเกินไปนิดนึง เน้นว่าฉีดที่ตัวเท่านั้นตามชื่อเลย
SUNPLAY watery cool UV Body Mist Sunblock
SPF50+/ PA+++
รุ่นนี้เพิ่งออกมาขายได้สักพัก มันเริ่ดตรงที่ฉีดแล้วเย๊น เย็น สบายผิว
เนื้อสัมผัสแนวๆเดียวกับรุ่นกระป๋องแดงส้มด้านบน แต่เย็นกว่า
หนึบผิวมากกว่านิดนึง แต่ฉีดแล้วเย็นจึงอารมณ์ดี ให้อภัยได้เบาๆ
เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งเช่นกัน ออกแดดจัด รุ่นนี้ช่วยได้เลยค่ะ
ETUDE HOUSE sunprise face&body sun spray
SPF 50 +/ PA +++
เปลี่ยนโซนกันบ้างแต่ยังเป็นเพื่อนบ้านกันอยู่กับกันแดดสเปรย์ของเกาหลี
ของอีทูดี้เฮ้าส์อันนี้ยังไม่มีขายในไทยค่ะ เลยไม่ทราบราคาไทยเช่นกัน ซื้อที่ Shop Etude House เกาหลี
สเปรย์ตัวนี้แห้งๆกว่า Sunplay แต่เนื้อจะออกแป้งๆมากกว่าการเคลือบผิว
ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว ซึมไม่เร็วมาก ทำให้หนึบๆผิวนิดๆ แต่ก็น้อยกว่า Sunplay ค่ะ
กระป๋องใหญ่ ราคาไม่แพงมาก แต่หาซื้อยาก ใช้ได้นานอยู่
Banana Boat UltraMist Clear Sunscreen Spray
SPF50/ PA+++
สิ่งนี้เป็นยี่ห้อแรกที่เริ่มลองเลย เพราะใครๆก็ว่าดี ต้องใช้ ราคาเต็มอยู่ 700 กว่า แพงด้วย
มาไกลจากอเมริกาค่ะ เป็นกันแดดที่เค้าบอกว่ากันน้ำด้วย อันนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้
แต่หลังจากฉีดแล้ว เอามือถูๆๆๆ ยังหนึบๆผิวเลย เค้าบอกว่ามีส่วนผสมของอโลเวร่า ช่วยประโลมผิว
แต่จิ๊บว่าเหมาะกับไปทะเลมากกว่านะ เพราะถ้าฉีดใส่เสื้อผ้าไปทำงาน หนึบหนับเลยละ
ผิวจะเหมือนโดนเคลือบ เงาๆ ชัดเจนนิดนึงค่ะ ซึมผิวยากหน่อย และก็มันๆผิว
Nivea sun Protect & refresh invisible cooling mist SPF 50
สเปรย์กันแดดจากนีเวีย อันนี้เป็นเวอร์ชั่นแรกที่เค้าออกมาเลยนะคะ เหมือนตอนนี้มีปรับสูตร
แต่ไม่ได้ลองค่ะ ฉีดแล้วเย็นซ่าเลยตอนแรก แต่ความรู้สึกต่อมาคือ แฉะผิว
เคลือบผิวจริงค่ะ แต่ค่อนข้างมัน ทำให้หนึบๆที่ผิว และซึมช้า เลยยิ่งเหนอะไปเลย
ใช้ได้เฉพาะกับตัว ไม่แนะนำให้ใช้กับผิวหน้า เลยทำให้ไม่ได้ลองสูตรใหม่ค่ะ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหรนัก
เทียบความหนึบที่แต่ละยี่ห้อทิ้งไว้ที่ผิว โดยโรยกากเพชรหลังฉีด
ตามที่เห็นเลยค่า เข้าวินชนะเลิศเป็นของญี่ปุ่นล้วนๆ ><
ต่อมาความมันที่ทิ้งไว้ที่ผิว หลังฉีดทันที ( ไม่ได้เกลี่ย ไม่ได้รอซึม )
อันนี้อาจจะตัดสินยากหน่อยเพราะบางยี่ห้อซึมไว มีบำรุงผิวเพิ่มมา
แต่ก็ยังพอเห็นชัดว่าทิ้งความมันไว้มากหรือน้อย
สรุป ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ
ชอบที่สุดยกให้ Fracora เลยค่ะ ฉีดได้ทั้งตัวและหน้า เน้นฉีดหน้า บำรุงผิว
ฉีดแล้วรู้สึกผิวดี เหมือนบำรุงไปในตัว ฉีดซ้ำ ได้ดี เพราะกันแดดควรซ้ำเพิ่มต่อวันอยู่แล้ว
รองมา Solanoveil เลยค่ะ จิ๊บไว้ใช้ฉีดตัวเวลาทำงานหรือไปงาน สบายๆผิวดี
ส่วนถ้าออกแดดจัดๆ กลางแจ้ง ไปเที่ยว ไปทะเล เลือก Sunplay SPF 80 อัดผิวไว้เลยค่ะ ^^
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ละคนนะคะ ถ้าไม่กังวลเรื่องเหนอะหนะผิว แนะนำ
Suncut และ Etude House อีกยี่ห้อนึงเลย ดีและราคาไม่แพง
แต่ถ้าเน้นกันน้ำ แนะนำ Sunplay SPF 80 เช่นกันค่ะ
ตอนนี้มีอีก 2 ยี่ห้อที่เพิ่งออกมา เลยปักหมุดไว้ว่าจะซื้อมาลอง
มีใครได้ลองแล้วมาแชร์กันได้นะคะ ของ Fasio และ Anessa ญี่ปุ่นทั้งคู่จ้า