เปิดกรุ Pencil Eyeliner ของหญิงบ้า Pimmypamela

สวัสดีค่าทุกคน อันนี้เป็นรีวิวแรกของพิมในเว็บจีบันนะคะ (ปกติรีวิวให้เพื่อนๆในเฟสบุคดูอย่างเดียวพิมค่อนข้างใหม่กับเว็บนี้ ยังไม่ค่อยชิน ดังนั้น ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยนะคะ มือใหม่มากจริงๆค่า

ทั้งหมดนี่เป็นสิ่งที่พิม ซื้อเอง ใช้เอง เจ็บเอง จนเอง ไม่มีตัวแสดงแทน 555+ (บ๊องละ) และส่วนมากก็เป็นแบรนด์ที่มีขายในไทยนะคะ หาซื้อได้ง่ายทั่วๆไปใน Watsons ในห้าง หรือที่ Eveandboy ราคาน่าคบค่ะ ไม่แพงมาก(ยกเว้นบางตัว) ถือว่าโดยรวมแล้วราคาค่อนข้างเป็นมิตรกับระดับนักเรียน - นักศึกษาเลยค่ะ หามาครอบครองได้ กระเป๋าไม่ฉีกนะจ๊ะ

จะเห็นได้ว่าสีส่วนใหญ่ที่มีจะออกเป็นสีแนว ดำ น้ำตาล ทอง ขาว นะคะ คือเป็นสีกันตายค่ะ เป็นสีที่พิมใช้ประจำ เพราะส่วนตัวพิมจะแต่งตาโทนน้ำตาล ทอง หรือโทนนู๊ดเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เพราะแต่งง่าย สุภาพ เข้ากับทุกโอกาส แต่ก็มีบางทีนะที่เราเบื่อๆ เกิดอาการอยากแต่งตาแซ่บๆ บางวันพิมกรีดตาสีๆออกไปเจอเพื่อนก็มีค่ะ ใช้สีแซ่บๆสีเดียวเลย เอาอยู่มาก บางครั้งมีงานปาร์ตี้ มีอีเว้นต์ที่ต้องแต่งตัวแต่งหน้าเยอะ พิมก็อาจจะแต่งตาเป็นสีต่างๆบ้าง เช่น โทนม่วง น้ำเงิน โทนแดงยังมี 555 แล้วแต่อารมณ์เลยนะบางที ช่วงหลังก็ชอบแต่งเป็นสีๆมากขึ้นค่ะ ตอนนี้ก็กำลังสะสมสีอื่นๆอยู่นะ อาจจะมีการขยายกรุเร็วๆนี้ด้วย รอชมนะคะ

ก่อนอื่นพิมต้องบอกทุกๆคนก่อนเลยว่า พิมเป็นคนที่หนังตามมันมากก มันแบบที่ว่า Etude Oh my eyeliner ที่ว่าติดทนชนะเลิศมากยังแทบเอาไม่อยู่ เลอะตลอดเลย ไม่เลอะก็เลือนค่ะ แล้วพิมเป็นคนตาสองชั้นหลบในค่ะ ซึ่งมันจะทำให้เกิดปัญหาว่าชั้นตามันจะไปเสียดสีทำให้อายไลเนอร์มันลบเลือนได้ง่ายมากๆ บวกกับความที่เป็นคนหนังตามัน ดังนั้นบางทีมันจะเลอะแบบเป็นดำๆเต็มไปหมด บางทีก็ลงมากองอยู่แถวๆหางตา บางทีก็ลงมากองที่ใต้ตา ทำให้แลดูเป็นแพนด้ามากกกก ถึงมากที่สุด ทำให้พิมต้องระวังเวลาแต่งตามากเป็นพิเศษ ซึ่งปัจจุบัน พิมก็ยังพบปัญหาอยู่นะคะ แต่ว่าน้อยลง เป็นเพราะเราแต่งตาเก่งขึ้น ใช้ Primer ช่วยด้วยเป็นต้นค่า

เอาละค่ะ เรามาเริ่มกันที่สองตัวแรกดีกว่าค่า ทั้งสองแท่งนี้เป็นของแบรนด์ Maybelline new york ทั้งคู่เลยนะคะ ตัวแรกเป็นรุ่นที่พิมไปสอยมาตอนที่ไปเที่ยวที่อเมริกา ชื่อรุ่น Maybelline Master drama by Eyestudio เป็นอายไลเนอร์สีน้ำตาลเข้มค่ะ มีประกายวิ้งเล็ก แทบมองไม่เห็นนะ แต่เนื้อไม่นุ่มเลย บาดตามากๆ คือตอนที่พิมซื้อเค้าไม่มีให้ลอง จะแกะลองก้ไม่ได้ด้วยสิ แต่ที่ซื้อมาเพราะว่าโฆษณาล้วนๆค่ะ คือแบบตอนดูในโฆษณาคือมันดูดี ดูเทพมาก สีนี่แบบชัดเจน ติดทน เนื้อนุ่ม น่าลองมากๆ ต่พอซื้อมาแล้วนี่แบบเสียใจอ่ะ ผิดหวังมาก เพราะเนื้อแข็ง เขียนยาก เส้นก็หนา แล้วก็ไม่ได้ติดทนอย่างที่เคลมเลย ส่วนอีกตัวเป็นรุ่น Maybelline Colorshow พิมซื้อที่ไทยเนี่ยแหละค่า คือตอนแรกที่ซื้อมานะ เนื้อมันนิ่มดีนะ สีก็สวยมาก สีแบบดีงาม วิ้งก็สวย ปลื้มอ่ะ แต่พอใช้ๆไป รู้สึกว่าเนื้อมันแข็ง เขียนแล้วบาดตามาก ต้องกดสีมันถึงจะติดอ่ะ เสียใจนะ เพราะชอบสีมาก มันสวยอ่ะ วิ้งก็สวยกำลังดีเลย สรุปคือของ Maybelline เราจะไม่ซื้ออีก เพราะเนื้อแข็ง เจ็บตา ไม่คุ้มกัน

ถัดมาคือก็คือ 12Plus Colorista จ้า พิมมี 5 สีเลยนะ สิ่งที่พิมชอบเกี่ยวกับแบรนด์นี้คือสีผลิตภัณฑ์เค้าชัดเจนมาก ชัดแบบน่าตกใจเลยนะ แบรนด์ดังๆหลายแบรนด์อาจจะสู้ไม่ได้เลย แล้วสีแซ่บมาก โดดเด่น สีเจ็บ สีแรง เห็นชัด ตอนแรกที่ลองแล้วรู้สึกตกใจว่า พระเจ้าอะไรมันจะให้สีดีขนาดนี้ แล้วข้อดีของเค้าคือเป็นดินสอแบบหมุน ค่อนข้างใช้ง่าย ส่วนตัวพิมชอบที่สีมาก แต่ที่ไม่ชอบคือเนื้อผลิตภัณฑ์ ค่อนข้างแข็งค่ะ บาดตา เขียนยากอยู่ประมาณนึงเลย ต้องกดนิดนึงถึงจะติด แต่พอเขียนแล้วแห้งติดเลยนะ ความติดทนนี่ชนะเลิศมาก ทนทั้งวัน ทนยันชาติหน้าเลยทีเดียว พิมเคยลองเขียนไว้หลังมือ ขุ่นพระ! ปรากฎว่าสองวันสียังติดทนอยู่เลย แล้วสียังชัดมากด้วย เวลาล้างต้องล้างด้วยออยอย่างเดียวนะ ไม่งั้นอาจจะออกไม่หมด คือเรื่องสีและความติดทนนี่พิมยกนิ้วเลย กราบด้วยงามๆ แต่ติดเรื่องเนื้อไม่นิ่มเนี่ยแหละ นิดเดียวจริงๆ แต่ถ้าหมด พิมก็อาจจะไปซื้อใหม่นะ เพราสีแรงๆแบบนี้ ไม่ค่อยมีอ่ะ แบรนด์อื่นสียังไม่จัดเท่า เรื่องสีต้องยกให้แบรนด์นี้เลยจริงๆ

สามแท่งนี้เป็นของ NYX ค่าาา เป็นแบรนด์ราคาถูกและดี พิมชอบสินค้าแบรนด์นี้อยู่หลายตัว หลายตัวใช้ดีและคุณภาพอาจเทียบเท่าแบรนด์ดังๆบางตัวได้เลยค่ะ สีให้เลือกก็ค่อนข้างเยอะ หลากหลายมาก ในอเมริกาแบรนด์นี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ราคาถูกมากแบรนด์หนึ่ง ราคาไม่แรงเลยอยู่ที่หลักร้อย บางตัวไม่ถึงร้อย แต่ที่เมืองไทยขายแพง (บางเจ้าขายโก่งราคามาก แพงกว่าตั้ง 2-3เท่าของราคาจริง แย่ค่ะ) อันนี้พิมไปสอยมาที่เคาเตอร์นะคะ ที่สยามสแควร์วัน เพราะส่วนตัวไม่ชอบซื้อกับร้านหิ้ว เพราะเป็นคนที่ชอบลองก่อนซื้อ ถ้าไม่ชอบก็จะไม่ซื้อค่ะ คือต้องลองสี ลองเนื้อของผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ถ้าไม่ได้ลองก็จะไม่ซื้อ กลัวซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ ไม่ได้ใช้ก็เสียดายเงินเนอะ สำหรับ NYX รุ่นนี้ พิมลองแล้วชอบค่ะ เนื้อนิ่มดี เขียนง่าย ไม่เจ็บตา สีก็มีให้เลือกเยอะ สีแปลกๆก็เยอะค่ะ เช่น สีฟ้าเหลือบๆเขียว สวยมากค่ะ แต่ที่ไม่เอามาเพราะไม่ค่อยแต่งโทนฟ้าเท่าไหร่ NYX เค้าเป็นแบรนด์ที่มีสีสันหลากหลายนะคะ แล้วที่สำคัญเค้ามีสีแมทด้วยค่ะ! อย่างสีขาวที่เห็น เป็นสีแมทนะคะ ซึ่งหายากมากที่จะมีแบรนด์ไหนทำสีขาวเป็นสีแมท ส่วนมากชอบทำเป็นสีวิ้งๆกัน แล้ว NYX เค้าก็มีสีแมทสีอื่นเยอะนะคะ เข้าไปลองดูได้ค่า สำหรับแบรนด์นี้เค้ามีหลายรุ่นนะคะ อย่าง NYX Jumbo pencil ก็เป็นรุ่นที่ขายดีของเค้าค่ะ แต่สิ่งน่าเสียดายอย่างหนึ่งก็คือ เคาเตอร์ที่ไทยนำเข้ามาไม่ครบทุกสีอะค่ะ หรือไม่บางทีของก็ขาดตลอด กว่าจะเอาเข้ามาเติมก็ค่อนข้างนาน

ตัวต่อมาคือ Cosluxe กับ Canmake ค่ะ พิมเพิ่งซื้อมาเมื่อไม่นานมานี้เอง พอมาลองใช้แล้วรู้สึกว่าไม่ชอบของ Cosluxe มากๆ คือไม่ชอบที่สุดน่าจะว่าได้นะ ตอนที่ซื้อมาเป็นเพราะเห็นรีวิวของหลายๆคนว่ามันถกและดี ตอนแรกที่ไปลองที่เคาเตอร์ในร้าน Lashes ก็ไม่รู้สึกชอบเท่าไหร่ แต่คือราคาถูก ก็เลยลองสอยมาเล่นดู ปรากฎว่า เนื้อแข็งมากกก เขียนแล้วหนืดๆ รู้สึกสะดุด เส้นที่ได้ไม่เรียบเนียน สีไม่คมชัดเท่าไหร่นะ คือผิดหวัง แม้ว่าราคาจะถูกมาก ประมาณ 169-199 แต่เนื้อแข็ง บาดตา แย่ที่สุดในบรรตาอายไลเนอร์ทั้งหมดในนี้เลยก็ว่าได้ เสียใจมากค่ะ ตอนนี้ก็ทิ้งๆเอาไว้ ไม่ค่อยได้ใช้ เอามาเขียนหน้าเล่นบ้างเป็นบางเวลา อีกแท่งนึงของ Canmake ต้องบอกเลยว่า พิมชอบมากกกกกกกก เป็นอายไลเนอร์ที่เส้นเล็กมาก สีชัดเจน เข้มมาก ดำก็ดำสนิท ที่สุดของที่สุด เนื้อดี นิ่ม เขียนง่าย เวลาเขียนต้องหมุนออกมาน้อยๆเพราะของอันนี้พอหมุนออกมาแล้วหมุดกลับคืนไม่ได้นะจ๊ะ แล้วก็ต้องระวังมันหัก เพราะด้วยความที่เนื้อค่อนข้างนิ่ม มันจะหักง่าย แต่เรื่องความเนื้อสัมผัส ขนาดความเล็กของเส้นที่ได้ และสีที่คมชัดของผลิตภัณฑ์ พิมยังหาตัวไหนมาแทนไม่ได้เลยค่า เป็นลูกรักมากๆเลยตัวนี้ แล้วค่อนข้างติดทน มีลงมากองตรงหางตานิดหน่อย พอรับได้ ปาดๆออกแล้วเอาแป้งตบๆก็สวยละ รักมากกกก กราบงาม

สุดท้ายแล้วจ้า พิมเริ่มเหนื่อยละ 5555 อันนี้ถือว่าเป็นที่สุดของที่สุด ทั้งราคา ความนิ่ม ความติดทน คือแรงมากกกกกกก ราคาแรง ราคาจริงคือ 499 ขุ่นพระมาก! แต่พิมสอยมาตอนที่มันมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่ที่ร้าน Eveandboy เหลือแท่งละ 299 คือตอนนั้นสติคือไม่มีแล้วค่ะ สติปลิวหายไปกับป้ายราคา 555 แล้วแบบยืนวอแวเลือกสีอยู่นานมากกกก จนเพื่อนรำคาญ สีแรกที่สอยคือสีม่วงพาสเทล อย่างที่เห็นค่ะ สีแบบสวยมาก เป็นสีที่ไม่เห็นมีใครทำนะสีแบบนี้ สวยแบบน้ำตาไหลอ่ะ ตอนแรกแบบลังเลอยู่นะระหว่างสีนี้กับสีเขียวมิ้น สรุปเพื่อนเชียร์สีนี้ค่ะ เลยได้สีนี้มา สีเขียวมิ้นต์รอไปก่อน พิมคิดว่าสีมิ้นต์มันหาได้ง่ายกว่าสีม่วงแบบนี้นะ ไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนทำสีม่วงอ่อนอ่ะ มีแต่ม่วงเข้ม ส่วนอีกสามสีเป็นสีที่ออกมาเป็นรุ่นแรกๆค่ะ เป็นสีแนววิ้งๆ แต่วิ้งสวยมาก สวยแบบพูดไม่ออก สวยไฟไหม้ (อะไรของมัน 555) เวลาฟาดไปบนหัวตา หรือ วอเตอร์ไลน์นี่คือชนะขาด สวยแพง งามมาก น้ำตาจิไหล สรุปคือฟินมากกกก แล้วพอพิมได้ใช้ไปสักพักแล้วแบบโอ้ยยยย ดีงาม ที่สุดของความนิ่ม เนื้อนุ่มมาก แทบไม่ต้องออกแรง แล้วสีคือชัด ติดทนมาก ติดกันแบบยันมืดค่ำ พระเจ้า มันดีมว้ากกกก ข้อเสียมีอยู่สองข้อค่ะ คือ เราจะต้องรอให้มันแห้งสักพักใหญ่ๆก่อนนะ แล้วค่อนข้างใช้เวลาผิดหับแบรนด์อื่นที่แห้งเร็วกว่ามาก แต่พอมันแห้งแล้วแบบเอาออกยากมากกก ต้องใช้ออยล้าง ไม่งั้นก็แทบจะขูดหนังตากันเลยทีเดียว อีกอย่างคือมันเป็นแบบเหลาค่า ไม่ใช่แบบออโต้หมุนๆ ฉะนั้นมันจะเสียเวลามาก แล้วก็วุ่นวาย เลอะเทอะด้วย ด้วยความที่มันเนื้อนิ่มมาก เละอ่ะบอกเลย แถมเวลาเหลามันชอบกินเนื้อผลิตภัณฑ์อีก เสียดายอ่ะ เพราะมันราคาแรง หักสองข้อค่ะ ที่เหลือคือความดีงามล้วนๆ บอกเลย

จบละค่า เวิ่นเว้อมานาน ต้องขอบคุณทุกคนที่ติดตามความเยอะของพิมนะคะ ไว้วันหลังพิมจะมารีวิวเปิดกรุใหม่ค่ะ มีอีกหลายอย่างมาก ไว้รอติดตามนะคะทุกคน