เห่อ+เปิดถุงชอป สกินแคร์/เมคอัพเกาหลี จากเกาะเจจู

สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆชาวจีบันทุกท่าน วันนี้มี่ไม่ได้มารีวิวอะไรค่ะ แต่จะมาเห่อ และเปิดถุงชอปจากเกาะเจจูที่ไปมาช่วงสงกรานต์ค่ะ

ตอนแรกที่คิดจะไปเกาะเจจู ก็ศึกษามาพอสมควรเหมือนกันค่ะ แต่เนื่องจากการเดินทางภายในเกาะจะค่อนข้างลำบาก ถ้าไม่ใช้ Golden bus ที่วิ่งเป็นเวลา ก็ต้องเรียก Taxi หรือไม่ก็ขับรถเอง ซึ่งเจ้า Taxi ก็หายากพอควรเลยค่ะ จะให้ขับรถเองก็คงไม่ไหว สุดท้ายบังเอิญไปเจอโปรแกรมทัวร์ ก็เลยตัดสินใจช่วยเพื่อนไปลุยมาค่ะ

ก่อนไปก็ไม่คิดว่าจะได้ซื้ออะไร คิดว่าไปบนเกาะ คงไม่มีอะไร แต่ผิดคาดค่ะ ได้มามากมาย

เวลาจะไปเกาหลี สิ่งแรกที่ต้องทำคือ สำรวจราคาและโปรโมชั่นของเครื่องสำอาง ต่างๆ แล้วจดไว้ค่ะ จะได้คำนวณเงินไปถูก

อันนี้เป็นลิสท์ที่เขียนไว้ก่อนไปค่ะ เดี๋ยวมาดูกันว่าได้ครบไหม

ในที่สุดเราก็มาถึงค่ะ

หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเสร็จก็เป็นไปตามโปรแกรมทัวร์ค่ะ

พาไปทานข้าว ไปภูเขาฮัลลา ไปคิตตี้เจจู ไหว้พระ ปากปล่องภูเขาไฟ ชมโชว์ม้า ย้อนรอยแดจังกึม ฯลฯ

ระหว่างที่เราแวะไปแต่ละที่ ก็จะแอบมีร้านเครื่องสำอางมาตั้งประปราย ที่พบบ่อยที่สุดจะเป็น Nature republic ค่ะ ช่วงนั้นนาง Spring sale พอดี

แต่เวลาที่มีจำกัดเราก็เลยไม่ได้ชอปอะไรมากเท่าไหร่ จนกระทั่งวันสุดท้าย ตอนที่เค้าไปปล่อยที่่ Shilla dutyfree

ระหว่างทางไป มี่เหลือบไปเจอหัวมุมทะลายกระเป๋าเข้า

เป็นหัวมุมที่มีร้าน Arituam, Beyond, innisfree และ Etude house ติดกัน 4 ร้าน

ก็เลยตัดสินใจไม่เข้า Shilla แล้วเดินกลับมาที่นี่แทนค่ะ

ในร้าน Arituam จะ เป็นร้านที่ขายสินค้าในเครือ Amore pacific เกือบทั้งเครือค่ะ เช่น O Hui, Laneige, Hanyul, IOPE, Mamonde กับ Arituam ซึ่งเป็นตัวที่ Low cost ที่สุดค่ะ

แน่นอนว่าไปคราวนี้ตั้งใจไปสอยน้ำตบข้าวของ Hanyul ก็จัดมาแล้วค่ะ อย่าให้เสีย

หลังจากนั้นก็ไปที่ Jeju Jungang Shopping center (제주중앙지하상가)

สถานที่นี้แอบเล็งไว้ตั้งแต่ตอนก่อนจะไปแล้วค่ะ ไม่คิดว่าทัวร์จะมาลงตรงนี้จริงๆ หวานเลยค่ะทีนี้

บรรยากาศข้างในเป็นร้านค้าสองฝั่ง คล้ายๆบ้านเราค่ะ ยาวสุดลูกหูลูกตา แต่ มีเวลาเหลือแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็รีบวิ่งแจ้นกันเลยค่ะ แน่นอนว่า ร้านเครื่องสำอางต้องมาเต็ม

บรรยากาศรวมๆนะคะ

อีกที่ที่ชอบมาก แล้วแอบหนีทัวร์ไปคือ Innisfree Jeju house

เป็นสถานที่ที่อยากไปมาก ถ้ามีเวลา มีโอกาสได้ไปเอง จะไปนั่งทำสบู่ค่ะ

Innisfree เป็นแบรนด์ที่มี่รักเป็นอันดับต้นๆเลยค่ะ

ในร้านจัดและตกแต่งได้อย่างสวยงามฟรุ้งฟริ้ง

แต่คราวนี้ไปทัวร์ก็เลยได้แค่หยิบๆๆๆ และก็จ่ายตัง

ขอบอกว่า สินค้าที่นี่จะไม่ได้ลดราคา หรือมีโปรแบบในเมืองนะคะ

แต่จะมีสินค้าพิเศษที่มีขายที่แค่ Jeju เท่านั้นอย่างพวกน้ำมันหอมระเหย เทียนหอม และก็คลาสทำสบู่กับทำมาสค์ค่ะ

ตรงนี้เป็นซุ้มน้ำมันหอมระเหย Diffuser และเทียนหอม ค่ะ

อันนี้เป็นถุงพลาสติคใส่น้ำ และถุงผ้ามุ้งมิ้งค่ะ

ตรงนี้เป็นมุม DIY ให้เลือกส่วนผสมเองมาทำสบู่กับมาสค์ค่ะ

เสียดาย เวลาไม่พอ ไม่งั้นคงได้ทำเวิคชอปสบู่ กับ มาสค์สวยๆค่ะ

มาดูของที่ชอปมาดีกว่านะคะ

เรียกได้ว่า มูลค่าการทำลายล้างสูงมาก เพียงแค่ ประมาณ 2 ชั่วโมง ซื้อมาได้ขนาดนี้

แบ่งตามแบรนด์นะคะ

เริ่มจาก It's Skin มี่ซื้อ GF effector มา แอบร้องไห้ เพราะเค้าขึ้นราคาจาก 9800 วอน เป็น 12000 วอน

ตัวนี้ใช้เป็นประจำอยู่แล้วเลยสอยมา 4 ขวดค่ะ กะให้ใช้ได้เกือบปี

ถัดมาเป็นของ Arituam เป็นสินค้า Low cost ในเครือ Amore pacific ค่ะ

ซื้อ Cushion blusher มาสองสี

Ginger sugar lip ที่แอบทำมาคล้ายๆลิปของยี่ห้อหนึ่ง (ขออนุญาตไม่บอกนะคะ ว่ายี่ห้อไหน) แท่งละประมาณ ร้อยกว่าบาทค่ะ

Primer อันนี้ติดอันดับสินค้าขายดีด้วยค่ะ

และก็สุดท้ายคือ กรรไกรเล็มขนคิ้วที่ตรงปลายมีแปลงไว้รองหวีขนด้วย รู้สึกจะ 2500 วอน (ประมาณ 75 บาท) ดีงามค่ะ

ต่อไปเป็นของ Etude house

มี่ไม่ค่อยได้ใช้อะไรของแบรนด์นี้มากค่ะ เลยจัดมาแค่ Magic any cushion สีพีช ใช้เป็นเบสปรับสีผิวก่อนลงรองพื้น รีฟิลรู้สึกจะ สามร้อยกว่าบาทค่ะ

ส่วนมาสค์ชีท มาสค์มือ มาสค์เท้า นั้นเอามาลองอย่างละห่อเฉยๆค่ะ

แบรนด์ถัดมาเป็น Beyond ค่ะ

แบรนด์นี้ตอนมี่ไปโซลเมื่อเดือน มิย. รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดู ของเค้าก็มีหลายๆอย่างน่าสนใจเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะเจล Apple-mint

มาสค์ชีทนั้น ซื้อ 10 แถม 10 และก็กันแดด ซื้อ 1 แถม 1 ค่ะ

แบรนด์ต่อไปเป็นของ Nature republic แสนรักเหมือนกัน

แบรนด์นี้ส่วนมากจะซื้อมาลองค่ะ

ตัวสเปรย์น้ำแร่ไม้ไผ่ อันนี้ซื้อ 1 แถม 1 ส่วนที่เหลือก็เป็นพวกครีม เอสเซนส์ เจลกระบองเพชร สลีปปิ้งแพค ครีมทาเท้า Primer และโทนเนอร์

Highlight น่าจะอยู่ที่ Help me ceramide ที่อยากได้มาซักพักใหญ่ๆแล้ว

แบรนด์ถัดไป Innisfree ลูกรักค่ะ

ตอนนั้นนางพึ่งออก Line ใหม่ คือ Line sparkling water ไว้จะเอาส่วนผสมมารีวิวจัดเต็มอีกทีนะคะ

กับลิปบาล์มแสนรัก ที่ใส่น้ำผึ้งด้วย หอมหวานมาก

แบรนด์ถัดไป ของ The face Shop ซื้อมาแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลเท้าค่ะ

เป็นสครับเท้า กับ ครีมบำรุงเท้าค่ะ

กำลังจะแกะใช้เร็วๆนี้ แล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ

แบรนด์ถัดไปเป็น Tono moly

ตั้งใจไปซื้อนมแพะนี่เลยค่ะ เพราะมีโปรซื้อขวดใหญ่แถมขวดเล็กด้วยพอดี

แล้วจะเอาส่วนผสมมาจัดเต็มอีกทีค่ะ

อย่างอื่นที่ได้มาคือ โฟมล้างหน้า Shea butter ซื้อ 1 แถม 1 ครีมทาเท้า และมาสคาร่าค่ะ

แบรนด์ถัดไป เป็นน้ำตบข้าวที่ไฝ่ฝันหาของ Hanyul ค่ะ

รุ่นนี้เป็น Limited edition (มั้งคะ)

ราคาอยู่ที่ 35000 วอน

ถัดไปเป็นของ Mamonde

ในที่เกาหลีจะมีสินค้าเยอะกว่าไทยมาก โดยเฉพาะ Line rose water สตรีผู้คลั่งไคล้กุหลาบไม่ควรพลาดค่ะ

ราคาจับต้องได้ ไม่ได้สูงมาก

ตัวที่ได้มาเป็น Rose water gel, Rose honey sleeping pack มาสค์หน้ากุหลาบ และ 7 Days projects ที่เป็น Sleeping pack ในห่อเล็กๆ ใช้ห่อละวัน ติดกัน 7 วัน จะฟรุ้งฟริ้ง (จริงรึเปล่าไม่รู้ ยังไม่ได้ลองค่ะ)

แบรนด์ถัดไปเป็นของ The saem ค่ะ

แบรนด์นี้เน้นไปที่ความเป็น Eco รักษ์โลกเหมือนกันค่ะ

ตัวที่ไฝ่ฝันหามานานคือ Power ampoule hydra ที่เหมือนจะใส่ Hyaluron มาเยอะมาก

ตัวอื่นๆที่เอามาก็เป็นพวก Blusher ลิปสักปาก สเปรย์จั๊ก

และก็ตัว Ice land ที่ซื้อโทนเนอร์ แถมอิมัลชั่นค่ะ

สุดท้ายเป็น แบรนด์ Skin food

มี่ไม่ค่อยได้ใช้อะไรของเค้า แต่ที่ชอบมากคือมาสค์งาดำ ก็เลยซื้อมาอันนึงค่ะ

สุดท้ายขอปิดด้วยรูป Jeju mokgwana ที่เป็นที่ว่าราชการสมัยโบราณของขุนนางค่ะ อันนี้แอบหนีทัวร์ไปเองตอนเค้าปล่อยให้ชอปปิ้ง

ชอบมากกกกกกกกกกกก

แล้วพบกันใหม่คราวหน้านะคะ ขอตัวไปทำงานหาเงินเก็บตังก่อนค่ะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

Discussion (20)

@LadyMiyeon สอบถามค่ะ It's skin ชอปอยู่ที่ไหนคะ ไปกับทัวร์เหมือนกันค่ะ บินคืนนี้
@rainbowindeww 

กล่าวเกินไปค่ะ เดี๋ยวลอย 
 

ในที่สุดก็สมัครจีบันมาตามรอยบล๊อกเกอร์ชื่นดัง 
กุหลาบ กุหลาบ กุหลาบ