[Review] เรื่องเล่าชีวิต: แป้งคุมมันทั้งหมดที่เคยใช้มา

20 13

สวัสดีค่ะ

คราวก่อนจิ๊บทั้งเห่อและรีวิวของใหม่ไปในคราวเดียวกันแล้ว วันนี้จะมานั่งเม้าเล่าเรื่อง *แป้ง* กันบ้าง

คราวก่อนอีกเช่นกันที่บอกกันไว้แล้วนะคะว่าจิ๊บหน้ามันมาก เพราะฉะนั้นอาวุธคู่กายชิ้นสำคัญของเราที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ แป้งควบคุมความมันค่ะ ชอบบ้าง รักบ้าง พลาดบ้าง ชีวิตคือการเดินทาง จะตามหาจนกว่าจะเจอคู่แท้ค่ะ 555

(ต้องขออภัยล่วงหน้า รูปจะมาจากอินเตอร์เนตหมดเลยนะคะ เพราะหลายตัวที่จะพูดกันจิ๊บไม่ได้ใช้แล้ว)

แป้งตัวแรกที่ใช้ในชีวิต บุกเบิกทางสายบิวตี้ได้แก่คุณน้องตลับฟ้าคนนี้ค่ะ

Clear Smooth Extra SPF20 PA+++

ตอนนั้นที่ว่าคือสมัยเอ๊าะๆ ม.ปลาย ยังไม่รู้จักรองพื้นคืออะไร คอนซีลคืออะไร ไพรเมอร์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง รู้แค่ว่าชั้นหน้ามัน ชั้นอยากได้อะไรปกปิดรอยสิวบ้าง(เมื่อก่อนสิวเขรอะอย่างแรง) ที่สำคัญคือคุมมันให้ชั้นด้วย เห็นเพื่อนสาวบางคนใช้ตัวนี้ เลยไปสอยตามเพื่อนมาใช้ดูบ้าง

การปกปิด ★★☆☆☆ ปิดได้เบาๆค่ะ รอยสิวจางๆพอไหว เหมาะกับคนผิวดีอยู่แล้วมากกว่าจะปกปิดรอยสิว

ควบคุมความมัน ★★☆☆☆ ควบคุมได้น้อยนะคะ เทียบกับตัวอื่นๆ

ความเรียบเนียน ★★★☆☆ ใช้แล้วรู้สีกได้ว่าผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นระดับนึงค่ะ แต่ตกบ่ายๆ อากาศร้อนๆก็แอบเป็นคราบอยู่บ้าง

สรุป ★★☆☆☆ ยังไม่โดนเท่าไหร่ค่ะ ตัวนี้ใช้อยู่แค่ตลับเดียวค่ะแล้วก็เปลี่ยนไปใช้ตัวอื่น

ซึ่งก็ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ในแบรนด์นี้ นั่นก็คือ

Clear Smooth BB Silk Poreless

ตอนนั้นนางยังไม่ได้เป็นตลับเงางามแบบนี้นะคะ จิ๊บใช้ตั้งแต่นางเพิ่งเปิดตัวครั้งแรก ครั้งตลับยังกุ๊บกิ๊บคล้ายตัวตลับสีฟ้า(หูยย บอกอายุ) ตอนนั้นก็ใช้เดี่ยวๆ ไม่ได้ลงรองพื้นหรือบีบี ปกปิดได้ดีเลยค่ะ

การปกปิด ★★★☆☆สมเป็นตัวที่ปรับปรุงต่อจากตัวข้างบนมาค่ะ ปกปิดได้มากขึ้น แต่ถ้าลงมากๆ โบ๊ะหน้าชั้นก็จะดูหนาไป ไม่สวยค่ะ เหมือนยังมีข้อจำกัดว่าปกปิดดีอยู่นะ แต่ลงหลายชั้นไปก็ฟ้องออกมาเป็นคราบค่ะ เพราะเนื้อแป้งยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นคงไม่เหมาะจะนำมาเซตรองพื้นค่ะ

ควบคุมความมัน ★★★☆☆ ตัวนี้คุมมันได้ดีพอสมควรเลยค่ะ หน้ามันตามเวลาอันสมควร ไม่ได้ทำให่หน้ามันขึ้น

ความเรียบเนียน ★★★☆☆ เจอแดด เจอเหงื่อไม่เป็นคราบค่ะ ชีวิตดีขึ้น

สรุป ★★★☆☆ ใช้เดี่ยวๆได้ดี แต่แอบเป็นคราบ ยังปกปิดได้ไม่เท่าไหร่ และคุมมันไม่ได้มากเท่าไหร่ค่ะ

เลยทำการเปลี่ยนแปลง หนีไปใช้ตัวที่แบรนด์ปล่อยออกมาตามกันนั่นก็คือน้องสาวที่คลอดตามออกมา Clear Smooth All In One SPF25 ค่ะ

ในไลน์แป้งของ Maybelline ทั้งหมดที่ใช้มาชอบตัวนี้ที่สุดค่ะ

การปกปิด ★★★★☆ ส่วนที่ชอบมากของตัวนี้คือปกปิดได้ดีค่ะ รอยสิวจางๆก็หายไป รอยสิวที่ยังไม่ค่อยจางก็จางลงอย่างเห็นได้ชัด

ควบคุมความมัน ★★★☆☆ อยู่ได้นานกว่าเพื่อนค่ะ ใช้ตอนเช้า กลางวันซับหน้านิดหน่อยก็อยู่ได้ยันเย็นเลยค่ะ

ความเรียบเนียน ★★★★☆ ที่ชอบอีกอย่างคืออยู่ไปๆหน้าจะวาวๆนิดนึง แต่ความวาวมาพร้อมความเนียนค่ะ ยิ่งเหงื่อออกยิ่งผ่องขึ้นค่ะ

สรุป ★★★★☆ หักหนึ่งดาวตรงที่เนื้อแป้งยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ค่ะ แอบเป็นคราบได้นิดหน่อย สีดรอปบ้าง และคุมมันได้กลางๆ แต่ก็ถือว่าพอใจ ซื้อรีฟิลซ้ำหลายรอบอยู่ค่ะ

สาย Meybelline จะจบลงที่ตรงนี้นะคะ ทุกตัวของ Maybelline จิ๊บใช้เบอร์ 02 ทั้งหมดเพราะเป็นสีโทนเหลืองที่สว่างที่สุดค่ะ แต่ตัวล่าสุดที่ออกมายังไม่มีโอกาสไปสอยมาเลย เนื่องจากติดใจคุณคนนี้ค่ะ

กระโดดข้ามแบรนด์ และข้ามเรตราคามาหา Za Perfect Fit Two-Way Foundation ค่ะ

คุณคนนี้เอาชนะแป้ง Meybelline ทั้ง 3 ตัวไปได้ด้วยความละเอียดของเนื้อแป้งค่ะ (จิ๊บใช้เบอร์ OC00 ค่ะ เป็นโทนสีเหลืองที่สว่างอยู่ ที่สำคัญคือไม่เหลืองจนเกินไปค่ะ)

การปกปิด ★★★★☆ มีอย่างเดียวที่ยังปกปิดได้ไม่มิดคือรอบคล้ำใต้ตาค่ะ จางลงได้แค่ระดับนึง แต่อย่างอื่นปกปิดได้ดี และลงซ้ำเฉพาะจุดได้ไม่เป็นคราบเพราะเนื้อแป้งละเอียดค่ะ

ควบคุมความมัน ★★★★☆ จิ๊บใช้ในวันขี้เกียจๆ อยากได้ความเบาหน้าค่ะ บ่ายๆซับหน้าหนึ่งที แล้วใช้ชีวิตต่อได้สบายไม่มีปัญหาเลยค่ะ

ความเรียบเนียน ★★★★☆ ได้เอฟเฟกต์คล้ายตัว Maybelline All in One นะคะ ยิ่งอยู่ไปยิ่งเนียนและกลืนไปกับผิวค่ะ ซับหน้าก็ไม่เป็นคราบ

สรุป ★★★★☆ ดีเริ่ดใช้มาใกล้หมดแล้ว พรางรูขุมขนได้จริงตามคำกล่าวอ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้หายไปเลโดยสิ้นเชิงนะคะ เพียงแต่ดูเล็กลงค่ะ แอบหักหนึ่งดาวตรงนี้แอบครอปนิดนึงค่ะ

ตอนนี้กำลังลังเลระหว่างซื้อต่อ กับอีกตัวที่อยู่ในระหว่างทดลองที่จะกล่าวต่อไปค่ะ

พักกลุ่มแป้งผสมรองพื้นไว้ค่ะ เพราะหลังจากนี้เป็นช่วงได้มีโอกาสทำความรู้จักกับบีบีและรองพื้นแล้วค่ะ จึงหันมาหาแป้งฝุ่นหน้าตาเป็นกระปุกทั้งหลายแทน

โดยเริ่มแรกได้แก่ แป้งฝุ่นของ Beauty Buffet ค่ะ ตอนนี้เข้าเวบไปหารูปหาไม่เจอแล้ว ไม่แน่ใจว่าปรับปรุงเป็นรุ่นไหน หรือว่าเลิกผลิตไปแล้ว งั้นจะขอเล่านิดหน่อยละกันนะคะ ว่าตัวนี้ได้มีโอกาสลองใช้ตอนที่ทำงาน Part-time อยู่ที่ร้าน Beauty Buffet ค่ะ ไม่ค่อยคุมมัน แถมหมองค่ะ เลยเปลี่ยน

มาเจอคุณคนนี้ค่ะ Catrice Prime and Fine Translucent Loose Powder

ควบคุมความมัน ★★★★★ ชนะเลิศมากค่ะ คุมมันดีขึ้นขั้นแห้งเลยล่ะค่ะ ไม่มีความมันมาเยี่ยมเยียนตลอดครึ่งเช้าเลยไปจนถึงมื้อกลางวันและตกบ่าย เพิ่งจะมาวาวๆเอาตอนบ่ายแก่ๆ แต่ไม่มันเยิ้มเลยค่ะ

ความเรียบเนียน ★★★★☆ ต้องเกลี่ยดีๆ ใช้พัฟลงดีๆนิดนึงค่ะ เพราะด้วยความที่แป้งนั้นแห้งมาก จึงอาจเกิดการไปตกร่องสิว หรือรูขุมขนแล้วเห็นชัดขึ้นมาได้บ้าง

ความละเอียด ★★★☆☆ เนื้อแป้งยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ค่ะ ต้องอาศัยฝีมือในการลงเล็กน้อย ไม่งั้นเป็นคราบได้ค่ะ

สีของแป้ง ★★★★★ ตอนแรกๆที่ลงอาจจะขาวไปหน่อย เนื่องจากเนื้อแป้งสีขาวล้วน แต่ทิ้งไว้ซักพักจะเริ่มกลืนกับผิวเป็น Translucent ค่ะ

สรุป ★★★★☆ ที่เปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นเนื่องจากคิดว่ามันแห้งเกินไปค่ะ ช่วงไหนมีสิวหรือหน้าหนาวผิวลอกจะเห็นเป็นคราบค่อนข้างชัดค่ะ แต่ตอนนี้ผิวหน้าโอเคขึ้นจากการบำรุง ไม่แน่อาจกลับมาใช้อีกค่ะ

และแล้วก็มาถึงช่วงที่ชีวิตได้มีโอกาสทำความรู้จักกับแบรนด์ Revlon ทั้งรองพื้น และแป้งฝุ่น นั่นคือ Revlon Touch and Glow Loose Face Powder ค่ะ

ที่เคยใช้คือสี Translucent2 เพราะเป็นโทนเหลือง เบอร์1 จะออกชมพู

ควบคุมความมัน ★★★☆☆ ใช้แปรงปัดแป้งตัวนี้เซทรองพื้น Colorstay Whipped ฝาดำ

จะไม่ได้ให้ความแมทท์สนิท แต่หน้าก็จะไม่มัน ให้ความรู้สึกผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งเกินไป แล้วก็ไม่มัน ระหว่างวันถ้าไม่ได้อยู่ห้องแอร์ก็จะเริ่มลดความแมทท์ไป แต่ไม่ถึงกับหน้ามันเยิ้มอะไร ได้ความวาวนิดหน่อย ก็ดูเป็นธรรมชาติ สมเหตุสมผลว่านี่ครึ่งวันแล้วนะ โรงอาหารก็ร้อน ผสมเหงื่อนิดหน่อยก็จะยิ่งเนียน แต่ไม่แมทท์สนิทแล้ว

ความเรียบเนียน ★★★☆☆ เติมระหว่างวันได้ ไม่เป็นคราบ

มีกลิ่นนิดหน่อย แนะนำให้ลองดมก่อน ถ้าไม่ถูกใจก็ข้ามไปเถอะค่ะ แป้งมันต้องอยู่กับหน้าเราไปอีกทั้งวัน

ความปกปิด ★★★☆☆ความปกปิด ตัวนี้ไม่ได้เน้นการปกปิดนะคะ เหมือนจะโชว์ผิวหรือต้องการความธรรมชาติมากกว่า ถ้าต้องการการปกปิดหรือมีปัญหาผิวหน้า ตัวนี้จะช่วยได้ไม่มาก ต้องลองดูเป็นแป้งผสมรองพื้นน่าจะโอเคกว่าค่ะ

ความละเอียด ★★★★☆ ละเอียดพอใช้ได้ ไม่เป็นคราบค่ะ

สีของแป้ง ★★☆☆☆ สี มี2สี ตอนนี้ใช้เบอร์2 โทนเหลือง ถ้าใช้แปรงปัดเบาๆก็จะได้ความ translucent อยู่ แต่เคยลองใช้พัฟเซทแป้งหลังทากันแดด(แบบไม่ลงรองพื้นเลย) สีเนื้อจะเห็นชัดเลยค่ะ ยิ่งเราเป็นคนขาว ทำให้หน้าดูหมองไปเลย แต่ถ้าใช้แปรงปัดเบาๆทั่วหน้าก็ไม่เป็นไรค่ะ

สรุป ★★★★☆ แป้งตัวนี้ไปได้ดีกับรองพื้น colorstay ค่ะ เพราะ colorstay คุมมันดีอยู่แล้ว มีแป้งตัวนี้เซทแล้วไม่เป็นคราบ ได้ความธรรมชาติ ถือว่าพอใจค่ะ แต่หัก 2 ดาว เพราะสีนี่ล่ะค่ะ ใช้พัฟลงแล้วจะเข้มกว่าเลย แต่ถ้าใครผิวสองสีหรือผิวน้ำผึ้ง(ไม่ได้มีปัญหาว่าจะเข้มกว่าผิวเกินไป) ตัวนี้ก็น่าสนใจค่ะ

เริ่มเข้าสู่ปัจจุบันกันแล้วนะคะ แป้งตัวถัดไปคือตัวที่ปัจจุบันใช้อยู่ และให้ผลลัพธ์ดีเหลือเกิน ราคาก็น่ารัก ใช้มาหลายเดือนแล้ว กระปุกใหญ่มากกก ไม่หมดซักที สีคือใช่ ถ่ายรูปมาหน้าผ่องมาก นั่นคือ Covermark Finishing Powder S JQ สี y3 ค่ะ

ควบคุมความมัน ★★★★☆ คุมมันได้ดีทีเดียวเลยค่ะ ตกบ่ายอาจวาวๆบ้าง เย็นๆก็มันนิดหน่อย แต่ถือว่าโอเคค่ะ ไม่ได้แห้งจนเกินไปด้วย ซับหน้านิดหน่อยก็อยู่ค่ะ

ความละเอียด ★★★★★ ตัวได้ใจเรื่องความละเอียดของเนื้อแป้งไปเต็มๆเลยค่ะ ละเอียดมากกก มากถึงขึ้นเคาะฝาแป้งก่อนเปิดนิดหน่อย เปิดมาก็ฟุ้งกระจายแล้ว(แอบเสียดาย 5555) ตัวแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆดี จะห้องแอร์หรือเดินตลาดนัดก็ไม่เป็นคราบเลยค่ะ

สีของแป้ง ★★★★★ ถือว่าเป็นแป้งฝุ่นมีสีที่สีสวยค่ะ เนื่องจากแป้งสีเหลืองอ่อนๆจะช่วยทำให้หน้าดูผ่องขึ้นค่ะ ผ่องในที่นี้ไม่ใช่ขาวขึ้นนะคะ แต่ช่วยให้หน้าดูสดใสขึ้น สว่างขึ้นนิดหน่อย จิ๊บผิวอันเดอร์โทนเหลืองอยู่แล้ว สีนี้เลยไม่มีปัญหาเลยค่ะ แต่งหน้าถ่ายรูปหมู่ หน้าเราผ่องกว่าเขาเห็นชัดเลยค่ะ ปลาบปลื้ม สีไม่ดรอประหว่างวันด้วยค่ะ

สรุป ★★★★★ ชอบมากค่ะ ใช้อยู่ ใช้มาหลายเดือนยังไม่หมดซักที คุ้มมากจริงๆ ถอยมาจากเคาท์เตอร์ราคาสองร้อยกว่าๆเองค่ะ แต่ถ้าใช้พัฟต้องซื้อต่างหากนะคะ ไม่มีพัฟมาให้ในตัวกระปุก แต่จิ๊บใช้คู่กับแปรง Real Techniques Powder Brush ค่ะ

ที่เลือกสี y3 มาเพราะตอนนั้นหา y2 ไม่ได้ค่ะ แป้งมี 3 สี

y1 สีชมพู

y2 สีเหลืองอ่อน (ความจริงคิดว่าตัวเองอยู่แถวๆเบอร์นี้ แต่ตอนนั้นตามหาไม่เจอ เสียใจ)

y3 สีเหลืองอ่อน แต่จะเหลืองมากกว่า y2 นิดหน่อย (เลยมาพบว่าคุณคนนี้เราก็เข้ากันได้ดีนะ เพราะสีมันก็ไม่ได้เหลืองชัดอะไรมากด้วยน่ะค่ะ)

*ใครมีแหล่งหาซื้อแป้งตัวนี้แบบลดราคา มีสีครบ เม้นบอกกันด้วยนะคะ คราวหน้าอยากลอง y2 ดูบ้าง

และสุดท้าย ลูกรักคนใหม่ 12 plus Miracle Summer Diva Luminous Loose Powder ค่ะ

ตัวนี้สอยมาจาก eveandboy ได้ซักพักแล้วค่ะ แต่ช่วงนั้นยังเห่อ covermark อยู่ เลยยังไม่มีโอกาสได้ลองแป้งกระปุกน้อยนี้ จนกระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมาไม่รู้อะไรดลใจหยิบนางมาเซตรองพื้นค่ะ

ควบคุมความมัน ★★★☆☆ ระดับการคุมมันอยู่ระหว่าง Revlon Touch and Glow กับ Covermark ค่ะ บ่ายๆ ขอซับหน้าหนึ่งที แล้วใช้ชีวิตได้จนถึงเย็นค่ะ

ความเรียบเนียน/ปกปิด ★★★★★ ที่ประทับใจคือนางเป็นแป้งที่เบาบางสมคำกล่าวอ้าง แถมยังเนียนได้ระดับแป้งผสมรองพื้นชั้นดี อยู่ๆไปยิ่งเนียนค่ะ ชอบบบ

ความละเอียด ★★★★★ เนื้อแป้งละเอียดมากค่ะ พอๆกับ covermark เลย ดีไม่ดีจะละเอียดกว่าด้วยซ้ำ เผลอใช้พัฟจิ๋วที่มาด้วยกันลงแป้งเยอะไปหน่อย แต่เกลี่ยแล้วไม่เป็นคราบเลยค่ะ น่ารักจริง

สีของแป้ง ★★★★☆ แป้งมีสีนิดหน่อยค่ะ ดูจากแพคเกจออกชมพูด้วยซ้ำ แต่พอทาแล้วก็กลืนไปกับผิวดีค่ะ แต่เจอเหงื่อก็แอบดรอปอยู่บ้างนะคะ

สรุป ★ ★★★☆ ชอบค่ะ เบาบาง แต่ปกปิดเรียบเนียนด้วย วันไหนอยากเพิ่มความปังเป็นพิเศษขึ้นมาหน่อยก็เหมาะเลยค่ะ พัฟพอดีกระปุก เล็กๆ จุ๋มจิ๋ม แต่กระปุกเล็กไปหน่อยค่ะ แอบหงุดหงิดหัวใจว่าเอาแปรง Powder Brush จุ่มลงไปวนไม่ได้เหมือน Covermark อะ TT #เป็นชะนีต้องอดทน

จบแล้วค่ะ การนั่งเล่ามหากาพย์นิยายชีวิต ถือว่ามาแบ่งปันประสบการณ์กัน แล้วก็เป็นตัวช่วย/ตัวเลือกให้สาวๆอีกหลายๆคนที่กำลังตามหาแป้งอยู่แล้วกันนะคะ

JiBfy


jibfynapim

jibfynapim

FULL PROFILE