สระผมแบบไม่ใช้แชมพู แก้ปัญหาผมมัน มีกลิ่น - เบคกิ้งโซดาและน้ำส้มแอปเปิ้ลหมักทำลายผม? มาพิสูจน์กันเถอะ!

3 2

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะกังวลใจไม่น้อยในเรื่องของการสระผมโดยไม่ใช้แชมพู (สูตรและวิธีใช้แบบละเอียดอยู่นี่นะค่ะ) แต่ใช้เบคกิ้งโซดาและน้ำส้มแอปเปิ้ลแทน เพราะเบคกิ้งโซดามีค่าเป็นด่างสูงมาก และน้ำส้มแอปเปิ้ลหมักที่ค่าเป็นกรดสูง หลายคนกังวลว่าการสระผมด้วยวิธีนี้จะทำลายผมของคุณไหมหากใช้ไปสักพัก บอกตามตรงเราก็กลัวค่ะ แต่พอได้อ่านประสบการณ์ของหลายๆคนที่ใช้(อย่างถูกวิธีนะค่ะ) คนส่วนใหญ่เขาไม่ได้เจอปัญหานั้นกันอ่ะค่ะ หลายคนใช้เป็นสิบปีได้เลยมั้ง (พวกคุณป้าเขายืนยันมา) เราเลยจัดไปค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังกังวลอยู่นะ เลยต้องพิสูจน์ไงค่ะเพราะยังหลงเหลือความเป็นนักวิทย์อยู่ในตัวบ้าง

เกริ่นก่อนว่า เราเคยอ่านมาค่ะว่าคนที่ใช้ไปสักพักแล้วผมเสียก็มี แต่พอเข้าไปอ่านดูจริงๆแล้ว ปรากฏว่าหลายๆคนมักจะใช้ผิดวิธีบ้าง เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นบ้างเช่นฮอร์โมนเปลี่ยนไปตามอายุและสภาพแวดล้อม ยาที่รับประทาน อายุที่เพิ่มขึ้น ระดับความเครียด อาหารการกินและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ คนที่ใช้ถูกวิธีแล้วมันไม่ได้ผลจริงๆก็มีนะ แต่มันน้อยไง พวกนี้เขาก็จะเปลี่ยนไปใช้น้ำผึ้งผสมน้ำสระผมบ้าง ใช้โคลนสระผมบ้าง ( ใช้อะไรแทนได้บ้างอ่านที่นี่ค่ะ)

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนนะค่ะว่า ค่ากรดด่างนี่วัดได้เฉพาะในของเหลวเท่านั้น เช่น น้ำ เหงื่อ น้ำยาสระผม ดูตามรูปข้างล่างเลยนะค่ะ ถ้าวัดออกมาแล้วได้สีเขียวตามภาพ แสดงว่าค่ากรดด่างคือ 7 จัดว่าเป็นกลางค่ะ ไม่เป็นกรดหรือด่าง ถ้าเริ่มออกไปทางสีเขียวอ่อน สีส้ม ความเป็นด่างจะค่อยๆลดลง และถือว่าสิ่งๆนั้นเป็นกรด ถ้าวัดออกมาแล้วไปทางสีเข้มคือพวกฟ้าๆ (ทางขวามือ) แสดงว่ามีค่าเป็นด่างค่ะ

ทีนี้มาดูค่า pH ต่างๆกัน

ค่า pH ของหนังศรีษะที่ดีของเราจะเป็นกรดนิดๆเพราะซีบั่ม (น้ำมันที่ผิวผลิตออกมาตามธรรมชาติ) เป็นกรดค่ะ อยู่ที่ 4.5 ~ 5.5 แล้วแต่คน

ค่า pH ของน้ำอยู่ที่ 7 เป็นกลาง (อันนี้น้ำบ้านเราที่ไม่เป็นน้ำกระด้าง)

ค่า pH ของน้ำจะอยู่ที่ 8 ขึ้นไปและสูงมากขึ้นๆหากคุณมีปัญหาน้ำกระด้าง (เวลาใช้ล้างตัวอาบน้ำจะล้างพวกฟองสบู่ แชมพูออกไปค่อนข้างยาก และรู้สึกสากๆได้)

ค่า pH ของแชมพู ครีมนวดที่เราเคยใช้ และครีมอาบน้ำส่วนใหญ่อยู่ที่ 7 เป็นกลาง

ค่า pH ของแชมพูหลากหลายแบรนด์อยู่ที่ 3.5~9 ซึ่ง 75% จะสูงกว่า 5 (อ้างอิงจาก The Shampoo pH can Affect the Hair : Myth or Reality? ที่มา US National Library of Medicine National Institutes of Health )

ค่า pH ของเบคกิ้งโซดาผสมน้ำตามสูตรอยู่ที่ 9 เป็นด่างสูง

ค่า pH ของน้ำส้มแอปเปิ้ลหมักผสมน้ำอยู่ที่ 4 เป็นกรด ไม่ต่างจากหนังศรีษะมากนัก

แต่ๆๆ ใครจะรู้ว่าพอเราสระผมแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงค่ากรดด่างบนหัวเรายังไงบ้าง จริงไหมคะ? เพราะพวกฝ่ายค้าน (ขอเรียกง่ายๆเลยล่ะกันนะ) เขาบอกมาว่า ค่า pHที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสูงไปต่ำโดยฉับพลันนี่แหละ ตัวทำลายผมคุณ! ถ้าหัวเราอยู่ๆเปลี่ยนจากค่า pH 9 ของเบคกิ้งโซดาผสมน้ำ ไปเป็น 4 ของน้ำส้มหมักในทันทีจริง อย่างนี้มีสยองค่ะ! เย้ยยยย แล้วในความเป็นจริงมันเป็นไหมล่ะ? ตรงนี้แหละค่ะที่การทดลองของเราเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่เราก้าวเข้าไปในห้อง น้ำเลยค่ะ การนี้ต้องขอขอบคุณคุณสามีที่มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก เพราะดิชั้นอาบน้ำแบบปกติอ่ะค่ะคุณ ต้องมีคนมือแห้งๆมาคอยวัดคอยจดผลลัพธ์ 555+มาดูผลการทดลองกันเลย

- ก่อนอาบน้ำ ค่าpH ของหนังศรีษะปกติ 4.5 ~ 5.5

- ล้างผมด้วยน้ำในจากฝักบัวก่อนสระ ค่าpH ของหนังศรีษะและผมไปอยู่ที่ 7

- ใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสระผม ค่าpH ของผมบนศรีษะไปอยู่ที่ 9 (เราพยายามใช้เบคกิ้งที่หัวค่ะ ไม่ใช่เรือนผม)

- ล้างผมด้วยน้ำเปล่าเพื่อเอาเบคกิ้งโซดาออกจนหมด ค่าpH ของหนังศรีษะและผมกลับไปอยู่ที่ 7

- ใช้น้ำส้มหมักผสมน้ำราดผมและศรีษะ (ในกรณีของเรา เราใช้ราดศรีษะด้วยค่ะ) ค่าpH ของหนังศรีษะและผมเปลี่ยนไปอยู่ที่ 5 ซะงั้น (ซึ่งจัดว่าเป็นบาลานซ์ที่ดี)

- ล้างผมด้วยน้ำอีกครั้งเพื่อเอากลิ่นออก ค่า pH ของหนังศรีษะและผมกลับไปอยู่ที่ 7 อีกแล้ว

สรุปเลยนะค่ะ ลองสังเกตุค่า pH จากที่ตอนที่เราอาบน้ำข้างบนดูจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขดังนี้ 5.5 --> 7 --> 9 --> 7 --> 5 --> 7

จากการทดลองจะเห็นได้ว่าแค่เราอาบน้ำ ใช้แต่น้ำนะค่ะ ยังไม่ได้ใช้อย่างอื่นเลย ค่า pH ของหนังศรีษะและผิวทั้งตัวก็หลุดจากความสมดุลที่ 5.5 ไปอยู่ที่ 7 เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ 7 จะถือว่าเป็นกลางแต่ถ้าเทียบกับผิวเราตามธรรมชาติแล้วก็จัดได้ว่าเป็น ด่างกว่าผิวเรา

ถ้าการเปลี่ยนแปลงค่า pH ของผิวหนังเราที่เกิดอย่างรวดเร็วอันตรายจริงอย่างที่พวกฝ่ายค้านว่ามา อย่างนี้แค่ใช้น้ำล้างหน้า อาบตัว สระผม --> ผิวตัว ผิวหน้า ผมของคนทั้งโลกมันไม่เจ๊งกันไปหมดแล้วหรือคะ? แต่เราทุกคนยังใช้น้ำอาบอยู่นี่ค่ะ มีใครใช้น้ำกรดที่ 4.5 ~5.5 อาบน้ำเพราะบอกว่าค่า pH ต้องเท่ากับผิวเราเท่านั้นบ้างไหม? 555+ เท่าที่รู้ยังไม่มีใครทำนะค่ะ

อีกอย่างที่อยากให้เพื่อนๆสังเกตุคือ ค่า pH บนหัวตอนสระผมค่อยๆเปลี่ยนไปทีละขั้นค่ะ ไม่ใช่อยู่ๆจาก 5.5 ที่บาลานซ์ไปเป็น 9 แล้วจาก 9 ปุปปับไปเป็น 4 อย่างที่ฝ่ายค้านคิดกันเองนะ เพื่อนๆจะสังเกตุเห็นด้วยซ้ำว่าหลังจากล้างด้วยน้ำส้มหมักแล้วค่า pH เปลี่ยนไปอยู่ที่ค่าสมดุลที่สุดแล้วคือ 5 นั่นเองค่ะ (แต่พอล้างน้ำก็กลับไปเป็น 7 ซึ่งจัดว่าด่างกว่าผิวธรรมชาติเรา)

แล้วค่ากรดด่างนี่ส่งผลต่อผมเราอย่างไรบ้าง ง่ายๆเลยคือเมื่อผมเรามีค่า pH มากกว่า 5.5 (คือเป็นด่างกว่าตอนผมปกติ) เกร็ดผมจะเปิดทำให้ผมอ่อนแอ ผมหักง่าย สูญเสียควาชุ่มชื่นตามธรรมชาติได้ ดังนั้นทุกครั้งที่เราผมเปียกเพราะน้ำผมเราก็เสียสมดุลและอ่อนแอแล้วค่ะ แต่ๆๆๆๆเมื่อผมเรามีค่าเป็นกรดอีกครั้งที่ 4.5 ~5.5 เกร็ดผมก็จะปิดค่ะ เป็นการเก็บกักความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ผมไม่หักง่าย ไม่อ่อนแอ ดังนั้นหลายๆครั้งเราใช้น้ำส้มหมักแล้วทิ้งไว้เลยค่ะ ไม่ได้ล้างน้ำต่อเพราะต้องการให้หนังหัวเรามีค่าใกล้บาลานซ์ตามธรรมชาติ แต่บางคนบอกว่าล้างแล้วรู้สึกผมมันหลังจากแห้ง เขาก็ล้างออกกันค่ะ แล้วแต่คนอันนี้

จบแล้วค่ะการทดลองของเรา หวังว่าจะทำให้เพื่อนๆหายกังวลกันได้ ส่วนตัวแล้วมันทำให้เราสบายใจขึ้นด้วยค่ะ ก่อนจากกันมีเคล็ดลับ No 'Poo ให้ได้ผลมาบอกค่ะ

1.ล้างผมให้สะอาดจากเหงื่อไคลอย่างดีก่อนเริ่มใช้เบคกิ้งผสมน้ำทุกครั้ง เหมือนก่อนใช้แชมพูทั่วๆไปแหละค่ะ มันทำให้ No 'Poo ได้ผลเร็วขึ้น

2.เบคกิ้งโซดาคนละอย่างกับเบคกิ้งพาวเดอร์นะค่ะ ย้ำ

3.ใช้น้ำผสมเบคกิ้งโซดาสระนวดเฉพาะศรีษะเท่านั้น แค่ 1 นาทีแล้วล้างเลย

4.ล้างน้ำหลายๆรอบจนมั่นใจว่าเหลือเบคกิ้งโซดาบนหัวอีก ไม่งั้นเป็นสิวเม็ดเล็กๆได้

5.อย่าสระผมทุกวัน อย่าหวีหรือสางผมในห้องน้ำ หรือที่ไหนก็ตามเวลาผมเปียก รอจนแห้งค่อยหวี ถ้ารอไม่ได้ ใช้ไดร์เป่าจนแห้งค่อยหวีค่ะ

หวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาผมของใครหลายๆคนได้นะค่ะ หรือถ้าผมคุณดีอยู่แล้วแต่อยากหลีกเลี่ยงสารเคมีและช่วยอนุรักษ์ธรรชาติก็ ลองมาใช้วิธีนี้ดูได้ค่ะ


MeekPeakThailand

MeekPeakThailand

ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกดูดเข้ามาในโลกของธรรมชาติและออร์แกนิคแบบไม่รู้ตัว สนุกที่ได้ทดลองสูตรบำรุงผิวแบบปลอดสารพิษด้วยวัตถุดิบจากตู้เย็น และสวนสมุนไพรออร์แกนิค

FULL PROFILE