ประสบการณ์ลดน้ำหนัก 40 Kg ใน 1 ปี ความรัก ความสุข ความทรมาน ลองผิดลองถูก

26 5
กราบสวัสดีเพื่อนๆ jeban.com ทุกคน แตมป์เป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก และ ความอ้วน มาตั้งแต่เล็กๆคือเรียกได้ว่าพ่อแม่เห็นลูกทานได้เลยปล่อยให้ทานเอาๆ จนเรียกได้ว่าตุ้ยนุ้ยมาตั้งแต่เด็กเลยครับ ด้วยความเป็นเด็กเลยทำให้นิสัยการทานนั้นเสียมาตั้งแต่เด็กชอบๆมากๆ ไอ้พวกทอด มัน ขนมของหวาน คือจัดเต็มแบบในแบบฉบับเด็กสมบูรณ์ พูดแล้วนึกถึงรูปในซีอิ๊ว ฮ่าๆ  
______________________________________
กินจนวันเวลาผ่านไปได้อายุประมาณช่วง ม.3 น้ำหนักตัวเองพุ่งปรี้ดดดด ไป 105 กิโล และส่วนสูงอยู่ที่ 170 เซนติเมตร แต่ก็ไม่เป็นไรรู้สึกมีความสุขกับการทาน ได้เงินไป รร 40 บาท กินหมดตั้งแต่คาบพัก 10 ตอนเที่ยง มายืมตังเพื่อน กินแหลก อีกแล้ว จนน้ำหนักพุ่งมาช่วง ม.3 เทอม 2 สุดๆที่ 115 กิโลกรัม คราวนี้เริ่มไม่ได้การละ แต่เพราะโชคหรืออะไรดลใจชีวิตได้มาพบเจอความรัก (อาจจะดูน้ำเน่าไปหน่อยแต่มันเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งเลย) ดันไปแอบชอบเพื่อนห้องเดียวกันนี่หละ อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเพิ่งจะมารู้สึกแปลกด้วยก็วันนี้เฮ้ยยยยย แบบว่าอะไรกัน ทันใดนั้นชีวิตก็เปลี่ยน รู้สึกว่าเราจะต้องดูดีให้ได้ กะอีแค่ลดน้ำหนักมันจะไปยากอะไรไช่ไหม ถ้าเราตั้งใจ ต้องขอยอมรับเลยว่าการลดน้ำหนักนี้เป็นเรื่องที่ทรมานกายใจที่สุด สำหรับมือใหม่อยา่งพวกเรา (พูดแล้วคิดถึงชีวิตช่วงนั้นเลยครับ) 

รูปก่อนลด ช่วงแรกๆ ขอรบกวนเป็นคลิปเลยเพราะรูปสมัยลง Hi5 มันหายหมดเลยครับ น้ำหนักอยู่ 115 KG 170 cm







ดูจากสภาพแล้วเราคงไม่มีอะไรที่จะเป็นที่่น่าจับตาเลย พอตั้งใจ พูดได้ว่าตั้งใจในการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เราก็เริ่มลงมือตั้งแต่ขั้นแรก ด้วยวิธีการแสนธรรมดา คือ อดอาหาร พูดได้ว่าเป็นวิธีที่ไม่เหมาะในวัยเรียนมาก เพราะบางครั้งเราอด แต่ร่างกายสมองเรายังใช้พลังงานเยอะ ตามวัย ทำให้ช่วงนั้นที่แตมป์อด คือ กินเช้าปกติ ขนมงด ทุกอยา่งเลี่ยงงเน้นน้ำ เที่ยง เย็น ไม่แตะเลย ทรมานสุดๆ ผลที่ได้น้ำหนักลง ช่วงสัปดาห์แรก หายไป 5 KG โอ้วว ทำไมมันไวอย่างนี้คราวนี้เริ่มติดใจใช้วิธีนี้ติดต่อกัน 3 เดือน พูดเลย ทรมานแต่ทุกคืนเวลาที่นอนหลับแล้วรู้สึกหิวจะคิดถึงใบหน้าคนคนนั้นไว้เสมอ มันช่วยได้นะสำหรับแตมป์ พอผ่านไป 3 เดือน โอ้วแม่เจ้า น้ำหนัก จาก 115 มันลดฮวบ เรียกว่าฮวลจริงๆเหลือ 85 KG ช่วงนั้นเป็น Summer พอกลับมาที่ รร เพื่อนๆทักเฮ้ย ไปทำไรมาทำไมดูดีขึ้น ผอมลง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะยังถือว่าหุ่นช่วงนั้นอวบ แถมดำ มีสิว และปัญหาหลายอย่างเกี่ยวกับการลดน้ำหนักโดยอดอาหารโดยไม่ออกกำลังกาย ร่างกายเหี่ยว หน้าหมอง สมองเบลอ หน้ามืดบ่อย คือเดินไปไหน ไม่มีแรงก็ว่าได้เลยช่วงนั้น วิธีการอดมื้อกินมื้อ แตมป์ไม่ขอแนะนำให้ทำกันถึงผลจะเร็วแต่มันต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่าง 

รูปช่วงที่ลดลงมาเหลือ 80 KG  173 CM ส่วนสูงเพิ่มขึ้นงงเลย




เวลาผ่านไปเราก็ลืมที่จะลดน้ำหนักแต่น้ำหนักก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงมากนักอยู่ที่ 80 มาตลอดๆ (วิธีลดจะอยู่ด้านล่างนะครับ) แต่พูดได้เลยตอนนี้ก็รู้สึกพอใจกับตัวเองมากที่สุด จนมาถึงช่วง ม.6 จะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วนี่หละ คือตอนนั้นตัดเรื่องความรักไปแล้ว เหมือนเธอเข้ามาเพียงช่วงหนึ่งแล้วหายไป ตอนนั้นชีวิตก็ไม่ได้มีอะไรมาก มีชีวิตแบบเด็กหาที่เรียนทั่วไป ทั้งยุ่ง แต่ก็จะมุ่งเรื่องการลดน้ำหนัก ฮึดอีกครั้ง เข้า ม ไปจะได้ไม่อายใคร ลดน้ำหนักแบบเดิมจ้า อดอาหาร ออกกำลังเรียกได้ว่าออกกำลังบ่อยๆ แบบทีละ 20 นาที วันนึง 4 - 5 ครั้ง ชอบเต้น ก็เลยเต้นอยา่งเดียวไม่มีการเล่นกิจกรรมอยา่งอื่น แตมป์ว่าการออกกำลังในสิง่ที่ชอบมันสนุกดีนะทำได้นาน เคยออกกำลังกายตามเซ็ต หรือ แอโรบิคที่เขากำหนดได้สักพักก็เบื่อสู้เต้นๆๆๆ มันส์ๆไม่ได้ 

น้ำหนักช่วงเข้ามหาวิทยาลัยลงไป อยู่ที่ 72 เรียกได้ว่าเออเฮ้ยยย แต่ผิวและหน้าตาดูโทรมมากคือ ดำ ผิวนี่แบบไม่ดูดีเลย พูดเลย การอดอาหารและการออกกำลังกายหักโหม มันไม่ดี เข้าเว็ปอ่าน แต่ก็ไม่ทำตามคือถ้าไม่อดน้ำหนักก็ขึ้น หรือที่เขาว่าเรียกว่า ระบบเผาพลาญมันเริ่มพัง

อันนี้เป็นรูปช่วง เข้า มหาลัยใหม่ๆ



พูดได้เลยว่าช่วงนั้นทั้งเหนื่อยทั้งโทรมน้ำหนักก็ไม่ค่อยจะลดเรียกได้ว่าคงที่ ทั้งอดอาหารออกกำลังน้ำหนักก็ไม่ยักจะลด กินเดวเพิ่มอีกละ ผิวก็เสีย คือบ้าคลั่งอยากจะลดลงอีก จนมาได้สำรวจข้อมูลการลดความอ้วนเรียกได้ว่า กูเกิ้ลคือพระเจ้า ร่วมทั้ง jeban ด้วยที่มีเรื่องดีๆในการลดน้ำหนักให้อ่าน จนเราเข้าใจจริงๆว่าการลดน้ำหนักจริงๆไม่ได้เกี่ยวกับการอดอาหาร ออกกำลังกายมากเกินไป แต่คือการสังเกตุร่างกายของเราก่อน เพราะร่างกายของเราและการใช้ชีวิตนั้นมันแตกต่างกัน จะไปอดๆๆ หักโหมมันไม่ได้ประโยชน์เลย มันมีแต่โทษกับโทษ แตมป์ศึกษาข้อมูลต่างๆ เรียกได้ว่านั่งอ่านทั้งเว็ปแพทย์ รีวิว ประสบการณ์ แล้วมาจัดเป็นเทคนิคเฉพาะตัว อันนี้ใครจะไปทำตามก็ได้นะครับ ซึ่งทำวิธีนี้แล้วเรียกได้ว่า ช่วยซอมแซมระบบเผาพลาญ ช่วยเรื่องผิว ช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก ได้สำหรับแตมป์ 


หลักการลดของแตมป์คร่าวๆ
1.ให้กินมื้อเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ อันนี้มันได้ผลจริงๆ แต่ควรเลือกอาหาร ปลาทูทอดมันๆนี่ไม่ไหว ของทอดๆกินได้พอประมาณ แต่ใหท้านให้หลากหลายที่สำคัยครบ 5 หมู่ เน้นผักได้จะดีมาก คือกินยัดๆๆจนอิ่มมหนำกันเลยทีเดียว 
2.หัดดื่ม ชาเขียว (ชงร้อนๆ) ทานหลังมื้ออาหารมื้อเช้าและเที่ยง และให้ดื่มน้ำมากๆลองสังเกตุเวลาดื่มช้าเขียวเราจะปัสสาวะบ่อยทำให้ร่างกายกำจัดของเสียออกมาได้มาก
3.ดื่มน้ำทุกชั่วโมง ชั่วโมงละ 1-2 แก้วได้จะดีมาก อย่าลืมดื่มน้ำ น้ำสำคัญมากเลย แตมป์เคยลดโดยลืมเรื่องการดื่มน้ำทำให้ผิวพรรณไม่ดีแล้วยังทำให้ระบบเผาพลาญทำงานช้าลงด้วย
4.มื้อเที่ยงจัดให้เบาลงกว่าตอนเช้า ทานพออิ่มนิดๆก็พอ เช่นเกาเหลาสักชามก็โอเคนะ
5. มื้้อใกล้เย็น ช่วง 3-4 โมง ควรหาของกินเข้าท้องๆที่ย่อยๆง่ายๆเช่นขนมปังแซนด์วิซซักอันจากเซเว่นกำลังดี
6.ไม่แตะอะไรเข้าปากแล้วตั้งแต่ 5 โมง. ถ้าหิวในช่วงนั้นให้แนะนำดื่มน้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำเชื่อมทรงเครื่องได้ 
7.หลับก่อน 4 ทุ่ม อันนี้สำคัญคือการพักผ่อน การนอนร่างกายก็ใช้พลังงานเหมือนกันนะ นอนน้อยอ้วนแถมโทรมเคยเป็นเพราะมหาลัยงานเยอะ
8. เต้น แอโรบิค เป็นประจำทุกวัน วันละ 20 - 30 นาที วันไหนว่างหน่อยแตมป์ก็จัดยาวๆ เปิดผับในหอเลยทีเดียว ใส่หูฟังนะ 555

ปัจจุบัน 65-68 KG 176 cm หลังจากที่เริ่มตาสว่าง 







สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีปัญหา
แบบนี้ สู้ต่อไป ที่สำคัญจงมีความสุขกับมัน และมีความสุขกับชีวิตให้มากที่สุด เพราะความสุขทำให้อะไรๆดีขึ้น ขอบคุณครับ

instagram : stampkzc
facebook : Siwakorn Swkz

 


Stampswk

Stampswk

FULL PROFILE