ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการทำงานผ่านเน็ต
Melory Neena 1 0
สวัสดีทุกคนนะคะที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ (มันต้องมีผิด มีถูกกันบ้าง ถ้าผิดถูกยังไงต้องขออภัยล่วงหน้าเลยค่ะ)
*** ต้องบอกตรงนี้เลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวถึง, โปรโมทและโฆษณาถึงบริษัทไหนหรือเว็บไหนทั้งสิ้นค่ะ ***
เริ่มเลยดีกว่า..
ตอนแรกเราหางานผ่านเน็ตนะ อยากลองทำดูเพราะเห็นพวกที่แท็กๆกันในเฟซบุ๊ค คำถามแรกคือ..
"ได้เงินจริงมั๊ย" อันนี้คือเราอยากรู้มากๆ จนถามคนอื่นว่ามันได้เงินจริงมั๊ย เพราะเราก็ยังไม่กล้าที่จะทำ มันเสี่ยงรึเปล่า? เค้าหลอกเรามั๊ย?
ความคิดพวกนั้นเต็มหัวค่ะ จนวันนึงเรามีเพื่อนที่เคยทำงานแบบนั้น เราเลยถามว่า "งานนี้ดีมั๊ย? ได้เงินจริงมั๊ย? ทำอะไรบ้าง?" เราได้คำตอบกลับมาว่า..
" มันเรียกให้เราไปอบรม เสียเงินค่าสมัคร แล้วก็ต้องซื้อของจากเค้า ต้องรักษายอด ต้องขายของ ต้องหาลูกค้า รู้งี๊ก็ไม่ไปให้เสียเวลาหรอก "
ตัวเราก็งง อ่าว..? ไหนบอกงานผ่านเน็ต ทำไมไปขายของซะได้ล่ะ..? เอ๊อ.. แปลกดี..
หลังจากนั้นมาเราก็ไม่เคยเลยที่จะสนใจอะไรกับงานพวกนี้ เพราะเรารู้แล้วว่ามันหลอกเราไปขายของ
แต่เราก็ยังหางานผ่านเน็ตนะ เพราะเราเชื่อว่ามันต้องมีสักเว็บ สักบริษัทอะที่จะให้เงินจริงๆ
(งงปะ? ภาษาง่ายๆก็คืออยากทำ อยากลอง แต่ไม่กล้า ได้แต่เก็บข้อมูล ประมาณนั้นอะค่ะ)
พยายามที่จะหาเงิน หารายได้ให้ตัวเองยามว่าง ไม่อยากใช้เงินพ่อแม่มาก จะได้ช่วยท่านแบ่งเบาภาระบ้าง เพราะค่าใช้จ่ายมันเยอะขึ้น
คุณคนอ่านอาจจะสงสัยว่า "แล้วทำไมไม่ไปหางานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารตามห้างฯหรือร้านไอศครีมหรือร้านอะไรก็แล้วแต่ที่มีชื่อเสียงดู?"
นี่พูดเลยค่ะว่า ไม่มีเวลา เรียน 08.00-15.30น. กลับบ้านมาอ่านหนังสือทบทวนสิ่งเรียนมา เพราะตอนเรียนมันไม่เข้าใจในเนื้อหาอะค่ะ
บางท่านอาจจะงงว่า ขยันขนาดนั้นเลยหรอ? ขอตอบเลยว่าบทเรียนเป็นอังกฤษล้วน เรียนภาษาอังกฤษ คุยภาษาอังกฤษ เราเป็นคนไม่เก่งอังกฤษ
ต้องทบทวนเนื้อหาอยู่ตลอดว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเราเรียนไม่ทันเพื่อนจริงๆ
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เราก็จะเก็บผ้ามาซัก ผ้าเรา ผ้าน้อง ผ้าน้า ผ้าพ่อ-แม่ ผ้ายาย ซึ่งเยอะทีเดียวค่ะ เพราะเก็บรวบยอดซีกทีเดียว
แม่ทำงานกลับมาก็ทุ่มนึง ส่วนพ่อก็กลับดึกหน่อยเพราะทำโอด้วย ก็ 4-5ทุ่ม น้องก็เป็นผู้ชายแถมยังเล็กมาก ยังทำงานบ้านไม่ได้ (3ขวบ)
ยายก็รับจ้างตัดผมอยู่ร้านกลับมาก็ 2ทุ่ม คือง่ายๆว่าเราไม่มีเวลาทำกิจกรรมครอบครัวหรือแม้แต่จะทำงานบ้านร่วมกันเลย
งานบ้านทุกอย่างเลยมาตกอยู่ที่เรา ไหนจะกรอกน้ำ ทำกับข้าว บลาๆๆๆ ไปจนถึงทำโปรเจ็คส่งอาจารย์ด้วยซึ่งการบ้านก็มีเยอะแยะเลยต่ออาทิตย์
นี่คือเหตุผลของเราที่เราไม่ได้ไปทำงานข้างนอกแบบคนอื่น เมื่อก่อนเราเคยเป็นพริตตี้แจกขนม, คำชิม, ถ่ายแบบผลิตภัณฑ์ค่ะ
ได้ทีก็วันละ 300-600บาท แล้วแต่ที่ ตอนนี้งานพวกนั้นเราไม่ได้ทำแล้ว คือมันเป็นงานที่.. ก็เหนื่อยนะคะ.. ไม่ใช่ว่าแต่งตัวสวยแล้วยืนเริดๆเชิ่ดๆไปวันๆ เราต้องพรีเซนต์
ก็เหนื่อยนะ เหนื่อยพูด เหนื่อยยืนและเดินด้วย งานพวกนี้ต้องใช้คำพูดให้ดูดี ต้องฉลาดพูด
เอาล่ะ โม้เยอะเลยทีเดียว.. 55555
จนวันนึงเพื่อนเราที่มหาลัยเค้าทำงานผ่านเน็ต แล้วเค้าได้เงินจริงๆ เค้าเลยมาแนะนำเราต่อ
เราก็คิดนานนะ 555 จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเดือน เพื่อนเราก็ชอบพูดว่าได้เงินมาใช้ละ ทางบริษัทโอนเงินให้ละ อะไรเงี๊ย
เราเลยเกิดความสนใจอยากลองดู ด้วยเงินที่ลงทุนแค่หลักร้อยบาท ก็สมัครดู ลองทำดู
แรกๆก็ยากนะ คือเรารู้สึกเสียเวลากับงานนี้มาก คิดว่าตัวเองคิดผิดรึเปล่าที่มาทำ สงสัยจะเสียเงินฟรีๆแน่ๆ
จากนั้นจู่ๆเงินก็เข้ามาในระบบของเรา เราก็ทั้งดีใจ ทั้งงง และเริ่มมีความหวังมากขึ้นกับงานนี้ *ตื่นเต้นๆ*
หลังจากนั้นเวลาเราได้ยินคนเค้าคุยกัน เราก็ยังได้ยินกับคำเดิมๆที่ว่า "งานผ่านเน็ตมีจริงที่ไหนอะ มันหลอกชาวบ้านเค้าก็แค่นั้น ทำไปก็เสียเวลาเปล่า"
เราเกิดความอยากเถียงอะ คือเราทำงานนี้อยู่ไง ฟังแล้วมันขัดๆอะ เลยอยากเปลี่ยนความคิดเห็นของคนที่ยังเชื่ออยู่ว่างานผ่านเน็ตเป็นการหลอกลวง
คือเราว่ามันก็อยู่ที่เรานะ ว่าเราจะรอบคอบในการหาข้อมูลแต่ละเว็บ แต่ละบริษัทรึเปล่า บางคนเชื่อง่าย หูเบา ก็สมัครไป กรอกรายละเอียดของตัวเองครบเลย
ทั้งที่บริษัทนั้นเค้าหลอกเก็บข้อมูลของคนอื่นอยู่ นี่คือการทำอย่างไม่ลืมหูลืมตาค่ะ
แนะนำนะว่าจะงานอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราสนใจบริษัทไหน เราควรพิมพ์ชื่อบริษัทนั้นๆในอากู๋ หรือ Google ดูก่อน เพราะมันเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่หาได้ 100%
ว่าบริษัทไหนอะไรยังไง ถ้ามันดี ถ้ามันได้จริง คนก็ออกมาโพสว่าได้เงินจริง มีหลักฐานการออกเงินให้เรามั่นใจ แต่ถ้ามันเป็นเครือข่ายเว็บลวงหลอก
คนก็จะโพสแนวประจานเพื่อให้คนอื่นไม่ถูกหลอกเหมือนตัวเองค่ะ สิ่งง่ายๆเลยที่คนเราไม่รู้แล้วทำลงไปอย่างไม่ตรวจสอบและไม่หาข้อมูลให้ดีก่อน
แล้วก็ไปว่า เหมารวมว่างานผ่านเน็ตไม่จริง มันก็มีทั้งจริง ทั้งหลอกแหละค่ะ
ไปละ เยอะละ เริ่มเมื่อยมือ 5555
อย่าลืมนะๆ จะทำอะไรควรหาข้อมูลให้ดีก่อนว่าอะไรยังไง ไปละน้าาา บัยยยยยส์ ^^
*** ต้องบอกตรงนี้เลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวถึง, โปรโมทและโฆษณาถึงบริษัทไหนหรือเว็บไหนทั้งสิ้นค่ะ ***
เริ่มเลยดีกว่า..
ตอนแรกเราหางานผ่านเน็ตนะ อยากลองทำดูเพราะเห็นพวกที่แท็กๆกันในเฟซบุ๊ค คำถามแรกคือ..
"ได้เงินจริงมั๊ย" อันนี้คือเราอยากรู้มากๆ จนถามคนอื่นว่ามันได้เงินจริงมั๊ย เพราะเราก็ยังไม่กล้าที่จะทำ มันเสี่ยงรึเปล่า? เค้าหลอกเรามั๊ย?
ความคิดพวกนั้นเต็มหัวค่ะ จนวันนึงเรามีเพื่อนที่เคยทำงานแบบนั้น เราเลยถามว่า "งานนี้ดีมั๊ย? ได้เงินจริงมั๊ย? ทำอะไรบ้าง?" เราได้คำตอบกลับมาว่า..
" มันเรียกให้เราไปอบรม เสียเงินค่าสมัคร แล้วก็ต้องซื้อของจากเค้า ต้องรักษายอด ต้องขายของ ต้องหาลูกค้า รู้งี๊ก็ไม่ไปให้เสียเวลาหรอก "
ตัวเราก็งง อ่าว..? ไหนบอกงานผ่านเน็ต ทำไมไปขายของซะได้ล่ะ..? เอ๊อ.. แปลกดี..
หลังจากนั้นมาเราก็ไม่เคยเลยที่จะสนใจอะไรกับงานพวกนี้ เพราะเรารู้แล้วว่ามันหลอกเราไปขายของ
แต่เราก็ยังหางานผ่านเน็ตนะ เพราะเราเชื่อว่ามันต้องมีสักเว็บ สักบริษัทอะที่จะให้เงินจริงๆ
(งงปะ? ภาษาง่ายๆก็คืออยากทำ อยากลอง แต่ไม่กล้า ได้แต่เก็บข้อมูล ประมาณนั้นอะค่ะ)
พยายามที่จะหาเงิน หารายได้ให้ตัวเองยามว่าง ไม่อยากใช้เงินพ่อแม่มาก จะได้ช่วยท่านแบ่งเบาภาระบ้าง เพราะค่าใช้จ่ายมันเยอะขึ้น
คุณคนอ่านอาจจะสงสัยว่า "แล้วทำไมไม่ไปหางานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารตามห้างฯหรือร้านไอศครีมหรือร้านอะไรก็แล้วแต่ที่มีชื่อเสียงดู?"
นี่พูดเลยค่ะว่า ไม่มีเวลา เรียน 08.00-15.30น. กลับบ้านมาอ่านหนังสือทบทวนสิ่งเรียนมา เพราะตอนเรียนมันไม่เข้าใจในเนื้อหาอะค่ะ
บางท่านอาจจะงงว่า ขยันขนาดนั้นเลยหรอ? ขอตอบเลยว่าบทเรียนเป็นอังกฤษล้วน เรียนภาษาอังกฤษ คุยภาษาอังกฤษ เราเป็นคนไม่เก่งอังกฤษ
ต้องทบทวนเนื้อหาอยู่ตลอดว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเราเรียนไม่ทันเพื่อนจริงๆ
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เราก็จะเก็บผ้ามาซัก ผ้าเรา ผ้าน้อง ผ้าน้า ผ้าพ่อ-แม่ ผ้ายาย ซึ่งเยอะทีเดียวค่ะ เพราะเก็บรวบยอดซีกทีเดียว
แม่ทำงานกลับมาก็ทุ่มนึง ส่วนพ่อก็กลับดึกหน่อยเพราะทำโอด้วย ก็ 4-5ทุ่ม น้องก็เป็นผู้ชายแถมยังเล็กมาก ยังทำงานบ้านไม่ได้ (3ขวบ)
ยายก็รับจ้างตัดผมอยู่ร้านกลับมาก็ 2ทุ่ม คือง่ายๆว่าเราไม่มีเวลาทำกิจกรรมครอบครัวหรือแม้แต่จะทำงานบ้านร่วมกันเลย
งานบ้านทุกอย่างเลยมาตกอยู่ที่เรา ไหนจะกรอกน้ำ ทำกับข้าว บลาๆๆๆ ไปจนถึงทำโปรเจ็คส่งอาจารย์ด้วยซึ่งการบ้านก็มีเยอะแยะเลยต่ออาทิตย์
นี่คือเหตุผลของเราที่เราไม่ได้ไปทำงานข้างนอกแบบคนอื่น เมื่อก่อนเราเคยเป็นพริตตี้แจกขนม, คำชิม, ถ่ายแบบผลิตภัณฑ์ค่ะ
ได้ทีก็วันละ 300-600บาท แล้วแต่ที่ ตอนนี้งานพวกนั้นเราไม่ได้ทำแล้ว คือมันเป็นงานที่.. ก็เหนื่อยนะคะ.. ไม่ใช่ว่าแต่งตัวสวยแล้วยืนเริดๆเชิ่ดๆไปวันๆ เราต้องพรีเซนต์
ก็เหนื่อยนะ เหนื่อยพูด เหนื่อยยืนและเดินด้วย งานพวกนี้ต้องใช้คำพูดให้ดูดี ต้องฉลาดพูด
เอาล่ะ โม้เยอะเลยทีเดียว.. 55555
จนวันนึงเพื่อนเราที่มหาลัยเค้าทำงานผ่านเน็ต แล้วเค้าได้เงินจริงๆ เค้าเลยมาแนะนำเราต่อ
เราก็คิดนานนะ 555 จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเดือน เพื่อนเราก็ชอบพูดว่าได้เงินมาใช้ละ ทางบริษัทโอนเงินให้ละ อะไรเงี๊ย
เราเลยเกิดความสนใจอยากลองดู ด้วยเงินที่ลงทุนแค่หลักร้อยบาท ก็สมัครดู ลองทำดู
แรกๆก็ยากนะ คือเรารู้สึกเสียเวลากับงานนี้มาก คิดว่าตัวเองคิดผิดรึเปล่าที่มาทำ สงสัยจะเสียเงินฟรีๆแน่ๆ
จากนั้นจู่ๆเงินก็เข้ามาในระบบของเรา เราก็ทั้งดีใจ ทั้งงง และเริ่มมีความหวังมากขึ้นกับงานนี้ *ตื่นเต้นๆ*
หลังจากนั้นเวลาเราได้ยินคนเค้าคุยกัน เราก็ยังได้ยินกับคำเดิมๆที่ว่า "งานผ่านเน็ตมีจริงที่ไหนอะ มันหลอกชาวบ้านเค้าก็แค่นั้น ทำไปก็เสียเวลาเปล่า"
เราเกิดความอยากเถียงอะ คือเราทำงานนี้อยู่ไง ฟังแล้วมันขัดๆอะ เลยอยากเปลี่ยนความคิดเห็นของคนที่ยังเชื่ออยู่ว่างานผ่านเน็ตเป็นการหลอกลวง
คือเราว่ามันก็อยู่ที่เรานะ ว่าเราจะรอบคอบในการหาข้อมูลแต่ละเว็บ แต่ละบริษัทรึเปล่า บางคนเชื่อง่าย หูเบา ก็สมัครไป กรอกรายละเอียดของตัวเองครบเลย
ทั้งที่บริษัทนั้นเค้าหลอกเก็บข้อมูลของคนอื่นอยู่ นี่คือการทำอย่างไม่ลืมหูลืมตาค่ะ
แนะนำนะว่าจะงานอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราสนใจบริษัทไหน เราควรพิมพ์ชื่อบริษัทนั้นๆในอากู๋ หรือ Google ดูก่อน เพราะมันเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่หาได้ 100%
ว่าบริษัทไหนอะไรยังไง ถ้ามันดี ถ้ามันได้จริง คนก็ออกมาโพสว่าได้เงินจริง มีหลักฐานการออกเงินให้เรามั่นใจ แต่ถ้ามันเป็นเครือข่ายเว็บลวงหลอก
คนก็จะโพสแนวประจานเพื่อให้คนอื่นไม่ถูกหลอกเหมือนตัวเองค่ะ สิ่งง่ายๆเลยที่คนเราไม่รู้แล้วทำลงไปอย่างไม่ตรวจสอบและไม่หาข้อมูลให้ดีก่อน
แล้วก็ไปว่า เหมารวมว่างานผ่านเน็ตไม่จริง มันก็มีทั้งจริง ทั้งหลอกแหละค่ะ
ไปละ เยอะละ เริ่มเมื่อยมือ 5555
อย่าลืมนะๆ จะทำอะไรควรหาข้อมูลให้ดีก่อนว่าอะไรยังไง ไปละน้าาา บัยยยยยส์ ^^
