[Review] แป้งโปร่งแสง สำหรับสาวหน้ามัน
NoraePL 54 18
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวแป้งฝุ่นโปร่งแสงที่เราใช้อยู่ค่ะ ตัวไหนใช้ดี ตัวไหนคุมมัน วันนี้เราจะมาคุยกันจ้า
ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนผิวมันมากๆ เราผิวผสมค่ะ ระหว่างวันจะมันตรงจมูกและข้างจมูกค่ะ คางและหน้าผากมันบ้างนิดหน่อย ส่วนอื่นๆมีแห้งบ้างแล้วแต่สภาพอากาศค่ะ
มาดูรีวิวกันเลยดีกว่า
Laura Mercier Loose Setting Powder (Translucent)
ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็นคนผิวมันมากๆ เราผิวผสมค่ะ ระหว่างวันจะมันตรงจมูกและข้างจมูกค่ะ คางและหน้าผากมันบ้างนิดหน่อย ส่วนอื่นๆมีแห้งบ้างแล้วแต่สภาพอากาศค่ะ
มาดูรีวิวกันเลยดีกว่า
Laura Mercier Loose Setting Powder (Translucent)
ถ้าพูดถึงแป้งฝุ่นคุมมัน คงหนีไม่พ้นLM เพราะเป็นแป้งที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน
เค้าว่ากันว่าควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม เชื่อว่าสาวๆหลายคนมีไว้ครอบครอง เราเองก็เก็บเงินซื้ออยู่นาน 5555
หลังจากลองใช้แล้ว ตอนแรกไม่ค่อยชอบเนื่องจากทาแล้วหน้าดูเทาๆหมองๆ เลยเลิกใช้ไป ตอนนี้ผิวหน้าเรา
ขาวขึ้นเยอะ เลยลองเอากลับมาใช้ใหม่ รู้สึกสีพอดีกับผิวหน้าแล้ว ไม่หมองแล้ว แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบตรงที่
แป้งมันเนื้อแมตไป แต่ถ้าใครชอบแป้งแมตๆตัวนี้หน้าจะเหมาะสุด สำหรับเรื่องคุมมัน สำหรับเราไม่ได้คุมมันดีเลิศ
ควบคุมความมันได้ระดับหนึ่ง (แอบเจอแป้งที่ราคาถูกและคุมมันดีกว่า) แต่ใช้เซ็ตรองพื้นได้ดีนะ ปริมาณก้เยอะ
ถ้าเทียบกับราคาก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
Innisfree No Sebum Mineral Powder
แป้งฝุ่นโปร่งแสงสีขาว จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในหมู่วัยรุ่นเกาหลี รุ่นนี้เคลมว่าควบคุมความมันโดยเฉพาะ
แป้งตัวนี้ขายดีมากที่ประเทศเกาหลี และราคาก็ถูกมากด้วย เราซื้อมาประมาณ170บาทเท่านั้นเอง
กระปุกเล็กมาก ปริมาณน้อย สมราคา แต่ก็พกพาไปไหนสะดวกดี มีพัฟอันเล็กๆให้ด้วย
ส่วนคุณภาพแป้งถือว่าดีทีเดียว เนื้อละเอียด บางเบา ทาแล้วผิวดูไม่แมตจนเกินไป ดูผิวใสๆธรรมชาติมากๆ
ส่วนเรื่องคุมมัน ไม่ได้คุมมันอะไรมากมาย และไม่ค่อยติดทนนะคะ เหมาะกับวันที่แต่งหน้าเบาๆ เอาไว้เติมระหว่างวันได้
Illamasqua Loose Powder
แป้งฝุ่นสีขาวโปร่งแสง ราคาประมาณพันกว่ามั้ง จำไม่ได้แล้ว ราคาพอๆกับแป้งLM แป้งตัวนี้เราชอบกว่าLMนะ
เพราะเนื้อไม่แมตเท่าLM ดูใสๆธรรมชาติดี ใช้เซตรองพื้นได้ดีค่ะ เนื้อแป้งเบาสบายผิว อยู่ทนปานกลางค่ะ
ปริมาณเยอะอยู่ ใช้ได้นานค่ะ ส่วนเรื่องคุมมัน คุมมันดีพอๆกับLMค่ะ
Etude House Clear Line BB Finish Powder
แป้งฝุ่นจิ๋วแต่แจ๋วอีกตัว แป้งฝุ่นสีเนื้ออมชมพูนิดๆ แต่ใช้ได้ทุกสีผิวนะคะ ตลับเล็กพกพาง่าย
ตลับเท่ากับแป้งฝุ่น Innisfree ชอบเพราะใช้แล้วหน้าดูผ่องๆใสๆ มีวิ้งนิดๆ แต่ไม่ได้ฉ่ำวาวนะคะ
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้คู่กับบีบีครีมเหมาะมาก ที่สำคัญเนื้อแป้งละเอียดสุดๆ เนียนมากๆ
ผิวจะลื่นๆไร้ความมันเลย ควบคุมความมันได้ดีมากทีเดียว ส่วนตัวคิดว่าคุมมันดีกว่าLMอีก 5555
ในราคาเบาๆกว่าเยอะมาก มีพัฟอันเล็กๆให้ พัฟนุ่มดี ราคาถูกค่ะ ไม่ถึง200บาทไทย
แต่เสียใจมากๆเนื่องจากแป้งรุ่นนี้เลิกผลิตแล้ว
Essence All About Matte Fixing Loose Powder
ตลับเท่ากับแป้งฝุ่น Innisfree ชอบเพราะใช้แล้วหน้าดูผ่องๆใสๆ มีวิ้งนิดๆ แต่ไม่ได้ฉ่ำวาวนะคะ
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้คู่กับบีบีครีมเหมาะมาก ที่สำคัญเนื้อแป้งละเอียดสุดๆ เนียนมากๆ
ผิวจะลื่นๆไร้ความมันเลย ควบคุมความมันได้ดีมากทีเดียว ส่วนตัวคิดว่าคุมมันดีกว่าLMอีก 5555
ในราคาเบาๆกว่าเยอะมาก มีพัฟอันเล็กๆให้ พัฟนุ่มดี ราคาถูกค่ะ ไม่ถึง200บาทไทย
แต่เสียใจมากๆเนื่องจากแป้งรุ่นนี้เลิกผลิตแล้ว
Essence All About Matte Fixing Loose Powder
แป้งฝุ่นที่หลายๆคนแนะนำว่า ทั้งคุมมันดี และราคาถูกมาก แป้งฝุ่นเนื้อละเอียดมาก
เนื้อแมตกำลังดี ดูผิวใสๆ เนียนมากทีเดียว ผิวลื่นๆดีด้วย ราคา180บาท (จากอีฟแอนด์บอย)
ปริมาณก็ไม่น้อย ใช้ได้นานอยู่ ไม่มีพัฟให้ ไม่มีน้ำหอมค่ะ หาซื้อง่าย แต่ส่วนตัวไม่ได้คุมมันดีมากนะคะ
และไม่ค่อยอยู่ทน แต่ไว้เซตรองพื้นได้ดีค่ะ
เนื้อแมตกำลังดี ดูผิวใสๆ เนียนมากทีเดียว ผิวลื่นๆดีด้วย ราคา180บาท (จากอีฟแอนด์บอย)
ปริมาณก็ไม่น้อย ใช้ได้นานอยู่ ไม่มีพัฟให้ ไม่มีน้ำหอมค่ะ หาซื้อง่าย แต่ส่วนตัวไม่ได้คุมมันดีมากนะคะ
และไม่ค่อยอยู่ทน แต่ไว้เซตรองพื้นได้ดีค่ะ
เป็นแป้งฝุ่นสุดเลิฟของเราเลย ติดกระเป๋าไว้ตลอด ค้นพบว่ามีดีกว่าแป้งฝุ่นราคาแพงๆซะอีก
เป็นแป้งฝุ่นสีขาวโปร่งแสง แบบโปร่งแสงจริงๆ เนื้อเนียนละเอียดมาสมชื่อSilky เนียนสนิทกับผิวเลย
ผิวดูผ่องมากๆๆๆ เนื้อไม่แมต ไม่ฉ่ำวาว แต่มีชิมเมอร์เล็กน้อย ที่สำคัญมันคุมมันดีมากกก
สำหรับเรานะ คุมมันดีที่สุดในแป้งทุกตัวที่กล่าวมา ราคาไม่แพงเลยค่ะ หาซื้อง่าย พรีออเดอร์กันไป
Ben Nye Luxury Powder (Buff)
เป็นแป้งฝุ่นสีขาวโปร่งแสง แบบโปร่งแสงจริงๆ เนื้อเนียนละเอียดมาสมชื่อSilky เนียนสนิทกับผิวเลย
ผิวดูผ่องมากๆๆๆ เนื้อไม่แมต ไม่ฉ่ำวาว แต่มีชิมเมอร์เล็กน้อย ที่สำคัญมันคุมมันดีมากกก
สำหรับเรานะ คุมมันดีที่สุดในแป้งทุกตัวที่กล่าวมา ราคาไม่แพงเลยค่ะ หาซื้อง่าย พรีออเดอร์กันไป
Ben Nye Luxury Powder (Buff)
แป้งฝุ่นตัวนี้ฮิตกันอยู่ช่วงหนึ่ง เห็นเค้าว่าดี ก็เลยลองซื้อมาใช้ ราคาประมาณ400ได้
แต่ปริมาณเยอะมากๆๆ มันมีหลายสีมากๆ ไม่รู้จะซื้อสีไหนดี เลยเอาสีเนื้อมา ชื่อสีBuff
รู้สึกสีนี้จะไม่ใช่Translucentหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราผิวขาวเหลือง ใช้ได้ค่ะ อาจจะอมชมพูหน่อย
แต่ก้ยังเข้ากับสีผิวได้ ส่วนตัวเฉยๆกับแป้งตัวนี้ค่ะ แอบรู้สึกว่าเนื้อแมตเกินไป
แต่ก็เนียนดีนะคะ แต่ไม่ค่อยผ่องอะ มีคนบอกว่าแป้งยี่ห้อนี้ถ่ายรูปออกมาแสงจะสวยแต่ปริมาณเยอะมากๆๆ มันมีหลายสีมากๆ ไม่รู้จะซื้อสีไหนดี เลยเอาสีเนื้อมา ชื่อสีBuff
รู้สึกสีนี้จะไม่ใช่Translucentหรือเปล่าไม่รู้ แต่เราผิวขาวเหลือง ใช้ได้ค่ะ อาจจะอมชมพูหน่อย
แต่ก้ยังเข้ากับสีผิวได้ ส่วนตัวเฉยๆกับแป้งตัวนี้ค่ะ แอบรู้สึกว่าเนื้อแมตเกินไป
แต่เราก้ว่าเหมือนแป้งทั่วๆไป แอบคิดว่าเป็นฝาแฝดกับแป้งLMด้วย คล้ายกันอยู่หลายอย่างค่ะ
ส่วนเรื่องคุมมัน คุมมันได้นิดหน่อยค่ะ แพคเกจจิ้งแบบนี้ใช้ยากไปหน่อย เทออกมากะปริมาณยากค่ะ
Chanel Natural Finish Loose Powder (20-Clair-Translucent1)
แต่สีมันเหลืองและเข้มกว่าผิวเราไปหน่อย คุณแม่เลยซื้อแบบTranslucent มาให้ ถูกใจมากๆ เข้ากับสีผิวดี
แป้งเนียนมากๆ เนื้อค่อนข้างแมตเลยค่ะ แต่มีวิ้งอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ทาแล้วไม่ได้เห็นวิ้งชัดมาก ก้ดูผ่องดี
คุมมันดีมั้ย? ก้คุมมันโอเคค่ะ ดีระดับหนึ่ง ชนะเลิศเรื่องความเนียนมากกว่า ติดทนนานค่ะ
ส่วนราคา แน่นอนว่าแพงอะ 5555 แต่ดีที่กระปุกนี้คุณแม่ซื้อมาให้
ถ้าหมดแล้วคงหมดเลย ไม่ซื้อมาใช้ต่อ เพราะไม่มีงบซื้อ 5555 แต่คงอีกนานมากกว่าจะใช้หมด
Rimmel Stay Matte Setting Pressed Powder (001 Transparent)
ถ้าหมดแล้วคงหมดเลย ไม่ซื้อมาใช้ต่อ เพราะไม่มีงบซื้อ 5555 แต่คงอีกนานมากกว่าจะใช้หมด
ตัวนี้เป็นแป้งโปร่งแสงอัดแข็ง ดังกันอยู่พักหนึ่ง เห็นBloggerต่างประเทศนิยมใช้กัน เราก็เอาบ้างซื้อมาลอง
แป้งเนื้อเนียนนุ่มสุดๆเลยค่ะ เนียนดีค่ะ เนื้อแมตจริงสมชื่อ แต่แมตกำลังดีค่ะ ไม่ได้แมตเวอร์ ชอบตรงที่่ทาแล้ว
หน้าผ่องดี หน้าสว่างขึ้นนิดนึง ควบคุมความมันได้โอเค ใช้เซ็ตรองพื้นได้ดี แต่ไม่ค่อยทนนะ ใช้เติมระหว่างวันได้
แพคเกจจิ้งไม่สวย 555 แถมไม่ค่อยแข็งแรงด้วย ลอกง่ายอีก แต่ตลับใหญ่ดีเทียบกับราคาแล้วคุ้ม
ตามร้านที่เค้าหิ้วๆมาขายกันจะอยู่ที่300-400บาท แต่ถ้าซื้อเองจากอังกฤษจะถูกกว่ามาก
ประมาณ200ค่ะ ที่อเมริการาคาก็ถูกเหมือนกันค่ะ
ขอจบรีวิวเท่านี้จ้า หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆทุกคนนะคะ ขอบคุณมากๆที่เข้ามาชมค่ะ
