My Favorite Mask in UK Summer

วัสดีค่ะ!! ตอนนี้เมมาเรียนที่อังกฤษนะค่ะ อยู่ที่นี้มาปีนิดๆแล้ว
ตั้งแต่ตอนที่อยู่เมืองไทย ปกติแล้วเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางมันโดยเฉพาะช่วงทีโซนค่ะ
มีสิวอุดตันบ้างค่ะ สิวเม็ดใหญ่ก็จะมาช่วงประจำเดือนแค่นั้น เป็นคนมีสีผิวสองสีนะค่ะ ไม่ได้เป็นคนขาวอยู่แล้ว
เป็นคนผิวธรรมดานะ ไม่แพ้มากเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้างตัวถ้ามีน้ำหอมกลิ่นแรงๆ

หลังจากย้ายมาเรียนที่อังกฤษ ตอนแรกแพ้น้ำมาก แบบสิวผดขึ้นเยอะมาก
ส่วนตัวแล้วก็ชอบแต่งหน้าด้วย เลยไม่อาจแก้อาการสิวอุดตันได้หมดเกลี้ยง
แต่ตอนนี้พบตัวช่วยแล้วค่ะ  หน้าเริ่มดีขึ้นด้วยการมาร์คหน้า 
สิวผดเริ่มหาย หน้าเริ่มเกลี้ยงขึ้นค่ะ

ช่วงนี้เป็นช่วงซัมเมอร์ของที่นี้ วันนี้เลยจะมาทำเป็น "My Favorite Mask in UK Summer" นะค่ะ



มาเริ่มรีวิวทีละตัวเลยนะค่ะ :)



ตัวแรกเป็นมาร์คตัวดัง "GlamGlow Supermud Clearing Treatment" เริ่มด้วยแบรนด์ Glamglow กันก่อนเลยนะค่ะ เมรู้จักแบรนด์นี้จากการดูบล็อคเกอร์ชาวต่างชาติรีวิว แล้วว่ากันว่าดีนักดีหนา บวกกับเพื่อนเริ่มซื้อมาใช้ก่อนเราก็ขอลองใ่ช้
แล้วสรุปว่าถูกกะหน้าเรา "Glamglow"เป็นมาร์คที่ค้นพบโดยสามีภรรยาคู่หนึ่งใน Hollywoodค่ะ

"Glenn and Shannon Dellimore" นางทั้งสองเป็นCelebชื่อดัง 
Glamglow ขึ้นชื่อมากกับมาร์คแบบ mud หรือ โคลนนั่นเอง เดิมทีแล้วนางทั้งสองผลิตมาร์คมาเพื่อใช้เฉพาะเบื้องหลังในอุตสาหกรรมการบันเทิง Hollywood เท่านั้น แต่ก้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเริ่มวางขายในช่วงปี 2011
แบรนด์นี้ได้รับรางวัลมากมายเทบัลลังก์ค่ะ เริ่มตั้งแต่ ELLE 
Magazine’s International Beauty Award for Best Mask 'In The World' ตามมาด้วยHarrods Best Seller Award และ Voted Sephora HOT NOW รวมทั้ง Winner of the coveted Neiman Marcus Beauty Awards สามปีซ้อน 
[ใครสนใจ เข้าไปดูได้ที่ www.glamglowmud.com ค่ะ]

สำหรับมาร์คตัวนี้ ช่วยทุกสิ่งเลยค่ะ น้องไวท์แกลม(ชื่อเล่นมาร์คตัวนี้ละกันนะค่ะ
สามารถทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างล่ำลึก ช่วยเรื่องรูขุมขน สิวนาๆชนิด จุดด่างดำ รอยจากการเลเซอร์ ขนคุด
หลังจากลองใช้ครั้งแรกรู้สึกได้เลยว่าหน้าสะอาดมาก ไม่แห้งเหมือนมาร์คชนิดโคลนบางตัว ไม่เกิดอาการแพ้ใดๆ
และสิ่งที่ชอบมากที่สุดคือหน้านุ่มมากกก หลังจากใช้ได้3-4ครั้ง สิวอุดตันเริ่มดีขึ้น จับหน้าแล้วไม่ค่อยสะดุดค่ะ 
น้องไวท์แกลมยังมีส่วนผสมของถ่านซึ่งช่วยดูดสิ่งสกปรกออกได้ดีอีกด้วย เมจะใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งค่ะ นอกจากมาร์คหน้าแล้ว มาร์คตัวนี้ยังสามารถมาร์คจุดอื่นได้ด้วยค่ะ เนื่องด้วยน้องไวท์แกลมช่วยขนคุดได้ด้วย เมก็เอาไปมาร์คที่ใต้วงแขนหลังจากกำจัดขนแล้วค่ะ กังวลเรื่องขนคุดน้องไวท์แกลมก็ช่วยเหลือได้ดีเลยค่ะ

ความดีงามของน้องทำให้คว้ารางวัล Insiders' Beauty Award 2013 และ 2014 อีกด้วย 
ไม่แน่ใจว่า Sephora ที่ไทยจะมีขายไหม ลองดูกันนะค่ะ
ราคา £45 --30 ML ค่ะ



ตัวต่อไปก็เป็นของ Glamglowค่ะ "Glamglow Youthmud Tinglexfoliate Treatment" 
ตัวนี้เนื่องจากชื่อของน้องแบล็คแกลมคือ Youthmud นางเลยทำหน้าที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส  ดูอ่อนเยาว์ และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวอีกด้วย นอกจากนั้นน้องแบ็คแกลมยังช่วย exfoliate เซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้การบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้ผลมากยิ่งขึ้น ตัวนี้ชอบมากเหมือนกันค่ะ หน้านุ่มขึ้น ผิวละเอียดขึ้น เมจะใช้อาทิตย์ละ1-2ครั้ง 

น้องแบล็คแกลมก็ไม่น้อยหน้านะค่ะ ได้รางวัล Insiders' Beauty Choice New Beauty Winner 2014 อีกด้วยค่ะ
ราคา £49 --50 ML ค่ะ



ผ่านจากมาร์คโคลนมาทั้งสองตัว ตัวนี้เป็น Sleeping Mask ค่ะ เพื่อนแนะนำให้ใช้ หลังจากมาที่อังกฤษได้ประมาณครึ่งก็กลับไปไทยประมาณ 1เดือนค่ะ หลังจากได้มาใช้ ตอนแรกกลัวมากค่ะเนื่องด้วยเป็นมาร์คข้ามคืนก็กลัวเรื่องสิวอุดตัน สรุปสิ่งที่กลัวก็ไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใดค่ะ หน้าขาวกระจ่างใสแบบข้ามคืนกันเลยทีเดียว
เมจะใช้ช่วงที่ต้องการใช้หน้ามากๆ ปาร์ตี้เยอะแล้วรู้สึกโทรมก็จะหยิบมาใช้ทันที หลังจากที่กลับอังกฤษแล้ว
เมก็ยังใช้ตลอดเพราะซื้อมาตุนถึง8กระปุก

มาร์คตัวนี้เป็นเนื้อครีมเข้มข้นค่ะ มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน ซึมเร็วมาก นอนไม่ต้องกลัวติดหมอนเลย ตื่นมาแนะนำให้รีบล้างหน้าเลยค่ะ อย่าค้างทิ้งไว้ เนื่องด้วยนางเป็นมาร์คทิ้งไว้นานเกินไป สิวอุดตันนี้เลี่ยงไม่ได้ค่ะถ้ามันเกิดค่ะ
[สนใจ search ชื่อแบรนด์ทาง facebook  หรือ Instagram ได้เลยค่ะ]

ราคา: จำไม่ได้จริงๆนะค่ะ ซื้อมานานมากแล้ว​ (ไม่ว่ากันเหนาะ)





มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วค่ะ เป็นมาร์คแบบ sheet
เมจะติดมาร์คแบบนี้มาก เพราะรู้สึกว่าให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากที่สุดในบรรดามาร์คหน้าชนิดต่างๆ
 ถึงเราจะเป็นคนผิวแห้งมากหรือมันมาก ความชุ่มชื้นก็ยังจำเป็นอยู่ดีค่ะ ถ้าผิวขาดน้ำเมื่อไหร่ หน้าจะเหี่ยวได้ง่ายนะค่ะ

ตระกูล Depsea Hydrability ของ Shu Uemura จะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึกค่ะ หลังจากมาร์คแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าหน้านิ่ม เป็นผิวมากขึ้น หน้าแน่นขึ้น มีสัมผัสที่ดีขึ้น ไม่แห้งแตกเป็นขุ่ย 
และเหตุผลที่ชอบตัวนี้เป็นพิเศษคือหลังจากมาร์คไปแล้ว 2-3วันให้หลังก็ยังรู้สึกว่าหน้ายังโอเคอยู่ ชุ่มชื้นดี ไม่ขาดน้ำ
ช่วงหน้าหนาวที่นี้ก็ยังเอาอยู่ค่ะ
เมจะใช้ตัวนี้ประมาณ 1-2ครั้งต่ออาทิตย์ค่ะ
ราคา: 2900 บาท มี6แผ่นค่ะ


ยังไงใครมีสภาพผิวหน้าแบบเมลองใช้ดูนะค่ะ ไม่น่าจะผิดหวังกันค่ะ

 

Discussion (4)

ตอนนี้เราก็ยังใช้ GlamGlow อยู่ค่ะ หิ้วมาเหมือนกันน 555
ชอบ glamglow มากเหมือนกันค่ะ ใช้ดีเวอร์ๆ
ลองดูในเว็บไซด์ของแบรนด์นะค่ะ www.glamglowmud.com...เมเคยเห็นร้านออนไลน์ที่ไทยก็มีหิ้วกันอยู่ค่ะ
ไม่เคยเห็นแบรนด์ GlamGlow เลยค่าา น่าเล่นจังงง