1000 บาทกับมิสทีน จะช็อปปิ้งจัดเต็มได้ขนาดไหน มาดูกันค่ะ

สวัสดีคร่าสาวๆ วันนี้ วันนี้ วันนี้ จะมารีวิวผลิตภัณฑ์ของมิสทีนให้ดูกันค่ะ

v
v
V

มาเริ่มกันที่ตัวแรกค่ะ มันคืออออ .... 1.Mistine pore sealer refining magic cream
สอยมาในราคา 69 บาทค่ะ
คุณสมบัติของมันก็คือ ช่วยปกปิดรูขุมขนให้เรียบเนียนก่อนการลงเมคอัพตัวอื่นๆ

ลักษณะของเนื้อครีมจะเป็นสีขาวขุ่น เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมเล็กน้อย ไม่ฉุน
หลังจากตัวครีมเซ็ทตัวแล้วผิวจะลื่นๆขึ้นเล็กน้อย เหมือนมันช่วยเติมเต็มรูขุมขนบนใบหน้าเรา

  

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : พอใช้ได้นะตัวนี้ ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร
ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ และต้องล้างให้ดีๆ ไม่งั้นอุดตันแน่นอนค่ะ
คะแนน : 5/10 ค่ะ ซื้อต่อไหม...ไม่น่าจะนะค่ะ ยังไม่โดนใจ

v
V

ปิดรูขุมขนกันแล้วมาต่อที่เบสค่ะ 2.Mistine spotlight makeup base
สอยมาในราคา 69 บาทเช่นกัน
ตัวนี้เป็นเบสเขียวที่ปรับสีผิวบนใบหน้าให้แลดูกระจ่างใสขึ้น ลดรอยแดงรอยสิวบนใบหน้า

เนื้อครีมเกลี่ยง่ายค่ะ หลังใช้จะรู้สึกว่าหน้าสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ปกปิดอะไรเลย
วันไหนที่ไม่ได้แต่งหน้าก็ทาเบสเขียวแล้วตามด้วยแป้งเลยก็ดูหน้าผ่องในระดับนึงแต่ไม่ถึงกับเด้งเว่อร์
สังเกตุดูจะเห็นวิงค์เล็กๆอยู่ในเนื้อครีมด้วย

   

เนื้อครีมเป็นสีอมชมพูเล็กน้อย เกลี่ยง่าย คือบีบแค่นิดเดียวก็เกลี่ยได้เยอะแล้วค่ะ แต่มันไม่ปกปิดเลยนะ
ยังเห็นผิวเดิมเราอยู่ หลังทาจะให้ความรู้สึกว่าผิวดูสว่างขึ้น ขาวขึ้น
แต่พอทิ้งไว้ซักพักสีมันจะดร็อปลงไปอีกนิดนะคะ
บีบีตัวนี้คนผิวคล้ำอาจจะไม่ชอบ บางคนบอกว่าใช้แล้วหน้าเทา แต่เราไม่เป็นค่ะ

มาลงแป้งกันเถอะ 4.Mistine wings La vie est libre
มิสทีนแบบมีปีก 555 (เรียกตามพี่สายป่าน) สอยมาในราคา 115 บาทจ้าาา ... ถูกเนอะ
ตัวนี้ทางมิสทีนโปรยมาว่าเนื้อแป้งบางเบา เนียนละเอียดถึงขีดสุด
ให้ผลลัพธ์การปกปิดเนียนเรียบ มันปกปิดเรียบเนียนไร้ที่ติ ด้วยเทคโนโลยี AIRCOVER

แป้งรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีนะคะ สีที่เราเลือกมาใช้คือเบอร์ S2 สำหรับผิวกลาง
เบอร์แป้งมีให้เลือกน้อยไปนิด ขนาดเราเลือกสีผิวกลางมาแล้วก็ยังดูขาวไปหน่อย
เราว่าเนื้อแป้งละเอียดเหมือนที่โปรยไว้จริง ปกปิดค่อนข้างดี เนียนไปกับผิวเลย (ดูได้จากรูปค่ะ)

    

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : เราไม่ชอบกลิ่นแป้งเลย กลิ่นมันแปลกๆ คล้ายกลิ่นยากันยุงจางๆบอกไม่ถูกค่ะ
เพิ่งผ่านมา 4 ชิ้นเอง ยังเหลืออีกตั้ง 9 ชิ้น .... ป่ะ ไปต่อกันค่ะ

v
V

บีบีแล้ว แป้งแล้ว ไปเขียนคิ้วกันค่ะ 5.Mistine brows' secret compact eyebrow
ตัวนี้สอยมาในราคา 69 บาทเท่านั้นจ้า
มีให้เลือก 3 โทนสีค่ะ สีที่เอามารีวิวเป็นเบอร์ EB3 เป็นโทนน้ำตาล-เทาดำ
เม็ดสีค่อนข้างชัดนะค่ะ พอเขียนลงที่คิ้วแล้วได้สีที่ธรรมชาติดี โดยเฉพาะสีเทาดำ เราปลื้มมาก

    

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ขึ้นแท่นเป็นลูกรักไปแล้วค่ะตัวนี้ ไม่คิดว่ามิสทีนจะทำได้ดีขนาดนี้
สำหรับเรามันคุ้มเกินราคาค่ะ ติดทนเช้ายันเย็นเลย เดี๋ยวจะไปซื้อให้ครบทุกโทนสีเลยค่ะ
คะแนน : 10/10 ไปเลยค่ะ ซื้อซ้ำแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดีควรปรับปรุงแปรงที่แข็งมากกับกระจกที่ส่องยากหน่อยนะคะ

v
V

ได้เวลาแต่งตาแล้วววว 6.Mistine nudy brown complete eye palette
ชิ้นนี้ได้มาในราคา 129 บาทค่ะ เป็นอายแชโดว์พาเลทมีทั้งหมด 8 สี
ดูไปดูมาแว้บแรกเรานึกถึง Naked Basic เลยค่ะ คล้ายกันเลย แต่อันนี้ถูกกว่ามากเลยค่ะ ^_^

ในพาเลทนี้จะมีทั้งแบบเนื้อมุกและเนื้อด้านนะคะ โทนสีค่อนข้างสุภาพ
สีมันคลาสสิคน่ะ สามารถแต่งได้ทุกโอกาส ทุกวันเลย
โดยส่วนตัวจะชอบสี Paradise Sugar (ช่องแรก) ที่สุด ให้อารมณ์เหมือนไม่ได้แต่ง แต่ดูดวงตามีอะไรๆ
เนื้อของผลิตภัณฑ์เราว่าโอเคเลย เกลี่ยง่าย เม็ดสีค่อนข้างชัด กระจกที่ให้มาใหญ่สะใจดี
ติดนิดเดียว ... ตรงแปรงที่ให้มามันแข็งมากเลย ต้องหาแปรงอื่นมาใช้แทน
  

มาลองปาดสีกันดูค่ะ ในพาเลทมี 8 เฉดสีตามนี้เลย (เรียงจากซ้ายไปขวา)
Paradise Sugar/ Dramatic Party/ Magic Dream/ Wonder Brown/
Beautiful Sparkles/ Creature Brown/ New York Midnight/ Matt Brown

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : สำหรับเราถ้าเอาคุณภาพมาเทียบกับราคา เราให้ 3 ผ่านเลยค่ะ
แต่เนื้อผลิตภัณฑ์จะมีหลุดไปบ้างระหว่างวัน ถ้าใครหนังตามันควรลงอายไพร์เมอร์ก่อนจะอยู่รอดทั้งวันค่ะ
คะแนน : 9/10 ค่ะ หักตรงที่แปรงแข็งไปหน่อย ไม่ซื้อซ้ำค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้หมดเมื่อไหร่

v
V

กรีดตากันเถิดจะเกิดผล 7.Mistine So Black Matte Liquid Eyeliner
ได้มาในราคา 65 บาทคร่า ตัวนี้มีคนรีวิวเอาไว้เยอะเลยค่ะ

ตัวนี้เราชอบนะ ตรงที่มันเป็นเนื้อแมท ดูดำด้านและมันดำสนิทมากจริงๆ
ที่สำคัญเลยคือมันกันน้ำ เขียนตั้งแต่เช้า อยู่รอดจนถึงกลางคืนกันไปเลย
ไม่ใช่แค่นั้นนะ... ลองเอาไปทดลองจุ่มน้ำ ว่ายน้ำ อะไรก็แล้ว นางยังคงสภาพเดิมอยู่เลยค่ะ
ตัวนี้ไม่มีปัญหาเรื่องหลุดระหว่างวันหรือกลายร่างเป็นแพนด้าให้เรารำคาญใจเลย

    

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกินคาดอีกตัวเลยค่ะ ให้ตำแหน่งลูกรักไปครองเลย
ถ้าให้ติคงเป็นเรื่องของแพ็คเกจจิ้งมั้งคะ คือหยิบออกมาใช้นี่เห็นมาแต่ไกลเลยอ่ะ 5555
คะแนน : 100/10 ค่ะ ไม่รู้จะติอะไรจริงๆ ที่สุดของอายไลน์เนอร์ที่เคยใช้มา เราชอบนางมากจริงๆ


ครึ่งทางแล้วค่ะ พักไปฟังเพลงแป็บนึง ฟังด้วยกันนะ คลิ๊กเลยๆ
[Crayon Pop] 크레용팝 '어이' Uh-ee M/V


v
V

มา.....ต่อ

ดัดขนตาม่ะ ? 8.Mistine eyelash curler
ได้มาในราคา 39 บาทค่ะ เป็นอะไรที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อ แต่งบเหลือเลยหยิบมาลองใช้ดู

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : จะบอกว่ามันดัดขนตางอนดีนะ แต่มันไม่ค่อยเข้ากับรูปตาเราเท่าไหร่
ถ้าไม่คิดอะไรมาก มันก็เป็นที่ดัดขนตาอีกอันนึงที่โอเคและราคาถูก แต่ในกล่องไม่มีแถมยางมาให้นะคะ
คะแนน : 5/10 แล้วกัน เราเฉยๆกับเจ้านี่ ซื้อต่อไหม ไม่ซื้อค่ะ

v
V

ปัดขนตากัน 9.Mistine iron curve love mascara
ได้มา 65 บาทค่ะ
แพคเกจจิ้งแดงเด่นชัดสุดๆ หยิบออกมาใช้นี่รู้เลย เห็นมาแต่ไกล
ตัวนี้มิสทีนโปรยมาว่าเป็นสูตรกันน้ำ ทำให้ขนตาโค้งงอนขึ้นถึง 7 ระดับด้วยขนแปรงแบบ C-curve 
ช่วยเพิ่มความหนาให้กับขนตาสูงสุดถึง 12 เท่า และยาวขึ้นสูงสุด 180 %
โอ้โห .... อ่านดูแล้วคุณสมบัติมันยอดเยี่ยมจริงๆ มาลองใช้กันดูดีกว่า

แปรงที่ให้มามันงอนดีจริงๆ ปัดง่าย ไม่ต้องดัดขนตาก็ปัดงอนนะ ถ้าดัดแล้วปัดก็เด้งเลยค่ะ
แต่เราว่าไม่เหมาะกับปัดขนตาล่าง มันเลอะง่ายไปหน่อยอ่ะ
เนื้อมาสคาร่าก็ดำดีนะคะ ปัดแล้วขนตาดูหนาขึ้น แต่ถามว่ายาวขึ้นไหม อันนี้เฉยๆ ไม่เท่าไหร่
ตัวนี้กันน้ำมากๆๆๆค่ะ และแน่นอนว่ามันล้างออกยากมากเช่นกัน

    

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : สำหรับตัวนี้เราชอบอย่างเดียวเลยคือขนแปรงที่ปัดแล้วงอนสมใจ
แต่เรื่องของความหนาและยาวก็ยังเฉยๆอยู่ ถ้าปัดไม่ดีตัวนี้เป็นก้อนเลยค่ะ เนื้อมันแห้งไวด้วย
ถ้าปัดช้าเวลาปัดซ้ำแล้วมันจะหนืดๆ แล้วเรามีปัญหาเนื้อมาสคาร่ามันร่วงเป็นผงระหว่างวันด้วยอ่ะ
คะแนน : 5/10 พอค่ะ ไม่ชอบตรงที่ล้างออกยากมากๆๆ ยากที่สุด และแอบเหนียวด้วยค่ะ


***** ปล.อายไลเนอร์แบบน้ำและมาสคาร่ามีอายุการใช้งานที่เหมาะสมคือ 3 เดือน
เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียดายเลยค่ะ 

ควรจะเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของดวงตาเรานะคะ *****

v
V

หน้าแล้ว คิ้วแล้ว ตาแล้ว ไปแก้มกันดีกว่า 10.Mistine Betty in Forest Cheek Color
สอยมา 79 บาท
ตัวนี้ไม่ได้ซื้อตามรีวิว แต่ชอบแพ็คเกจสีชมพูเลยซื้อมาลองดูค่ะ

ในตลับจะมี 6 เฉดสีด้วยกัน ซึ่งถ้าจะปัดแยกเป็นสีๆไปเราว่ามันคงลำบากน่าดู
เพราะช่องสีมันไม่ได้ใหญ่อะไรเลย แต่ถ้าปาดสีทีละฝั่ง ฝั่งซ้ายจะออกโทนส้ม ฝั่งขวาออกโทนชมพู
แล้วถ้าปัดรวมกันเราว่ามันออกชมพูแดงๆ พีชๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน
บรัชออนตัวนี้มีวิ้งด้วยนะคะ ใครชอบแก้มแบบวาวๆน่าจะชอบนะ เดี๋ยวมาลองปาดสีให้ดูดีกว่า

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ยังไม่ชอบค่ะตัวนี้ เราว่าวิ้งมันเยอะไปนิด แล้วก็ไม่ติดทนนะสำหรับเรา
ตัวเนื้อบรัชออนเวลาใช้แปรงจิก สีมันไม่ค่อยติดที่แปรงอ่ะ ร่วงเป็นผงได้ง่ายด้วย
แปรงที่ให้มาก็ไม่สามารถเอามาปัดแก้มได้เลยค่ะ มันเล็กมาก จับก็ไม่ถนดมืออีกตะหาก
คะแนน : 5/10 ค่ะ ไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร ไม่ซื้อต่อค่ะ
ตัวนี้คงเก็บเข้ากรุเป็นของสะสมไปโดยปริยาย

v
V


ใกล้หมดแล้วค่ะ เริ่มรู้สึกว่ามันยาวไปมั๊ย จะมีใครอ่านมั๊ยนะ


เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาต่อกันที่ลิปสติกดีกว่า
11.Mistine wings extra smooth lipstick และ Mistine Matte Avenue lipstick
ตัว wings ได้มา 59 บาท และตัว matt avenue ได้มา 49 บาทค่ะ

 

เอาตัว wings ก่อน ...
ที่ซื้อมาเป็นเบอร์ 04 (น้ำตาลนู้ด) กลิ่นคล้ายๆใบชา แพ็คเกจสวยงาม
เนื้อลิปเกลี่ยยากไปนิดสำหรับเรา แต่ไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ แต่ทาแล้วปากแห้ง
เม็ดสีเขาชัดดีค่ะ ทาข้างบนแล้วเม้มปากทีนึงสีก็ติดปากล่างไปด้วยแล้วอ่ะ

มาต่อที่ตัว Matt avenue ...
ได้เบอร์ 05 มาค่ะ เขาบอกว่าเป็นเนื้อแมท แต่ทำไมเราว่ามันดูวาวๆนิดๆ
เกลี่ยง่ายนะตัวนี้ เกลี่ยง่ายกว่าตัวแรกอีก เม็ดสีมันชัดมาก คือทาแล้วปากดูเด่นชัดมากเลยค่ะ
กลิ่นน้ำหอมแรงมากๆ กลิ่นเหมือนซูกัสรสราสเบอรี่เลยค่ะ (นึกว่าเอาซูกัสมาทาปาก)
ตัวนี้เราใช้แล้วตกร่องอ่ะ แค่ลองทาทิ้งไว้แค่ชั่วโมงเดียวเอง เป็นคราบและแห้งอีกตะหาก
มาดูสีกันค่ะ

    

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ถ้าทาเดี่ยวไม่รอดอย่างแรง ทาแล้วปากเราแห้งทั้งสองตัวเลย
แต่พอเอาลิปมันรองพื้นไปก่อน แล้วทาทั้งสองตัวบางๆ (ย้ำว่าบางๆพอมีสี) มันก็โอเคขึ้นเยอะเลย
คะแนน : 6/10 ค่ะ พอรู้เทคนิคแล้วก็โอเคขึ้น แต่หักเรื่องน้ำหอมได้ไหม จะฉุนไปไหนคะเนี่ย


ที่รีวิวมาด้านบนเราว่าแต่งหน้าได้ค่อนข้างครบแล้วนะ (มั๊ย)
พอแต่งเสร็จก็ต้องล้างออกใช่ม่ะ ป่ะ ... พาไปล้างหน้ากันค่ะ

v
V

เริ่มล้างกันเลย 12.Mistine touch out eye make up remover
ได้มา 49 บาทเท่านั้นเองจ้า
เป็นขวดสีชมพูใสๆ แยกชั้นระหว่างน้ำและน้ำมัน
มิสทีนโปรยมาว่าตัวนี้สามารถทำความสะอาดผิวที่บอบบางได้อย่างอ่อนโยน
สามารถล้างเครื่องสำอางค์ที่กันทั้งน้ำและน้ำมันออกได้อย่างหมดจด และช่วยให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื่นด้วย

เรามาทดลองเช็ดของจริงกันเลยดีกว่า
โดยจะลองเช็ดที่เขียวคิ้ว อายไลน์เนอร์ (รุ่นโซแบล็ค) และมาสคาร่า (ไอรอนเคิร์ฟ) กันนะคะ

จะเห็นว่ากว่าจะเช็ดสะอาด ต้องออกแรงกันถึง 6-7 ครั้งเลยทีเดียว
ซึ่งตัวนี้สามารถล้างที่เขียนคิ้วได้ดีค่ะ แต่ยังล้างมาสคาร่าและอายไลน์เนอร์ออกยากไปนิด
อาจเป็นเพราะมาสคาร่าและอายไลน์เนอร์มันกันน้ำมากไปหน่อยรึป่าว 555
เดี๋ยวเรามาลองล้างอายแชโดว์กับลิปสติกดูกันเนอะ

ผลการล้างอายแชโดว์ก็สะอาดหมดจดดี แต่ตัวลิปยังเหลือรอยจางๆ ถ้าปาดอีกครั้งก็สะอาดค่ะ

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ชอบค่ะ ถึงแม้จะล้างมาสคาร่ากับอายไลน์เนอร์ออกยากไปนิด
แต่เราไม่ค่อยกรีดตาและปัดมาสคาร่าค่ะ นานๆจะทำที เลยเอาไว้ลบคิ้ว ลบอายแชโดว์ก็โอเคแล้วค่ะ
คะแนน : 8/10 แต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อซ้ำดีไหม อยากลองตัวอื่นๆก่อน

v
V

ต่อไปทำความสะอาดผิวหน้ากัน 13.Mistine aquaclear cleansing water
ถูกอีกแล้วอ่ะ 69 บาทเองค่ะ
เป็นผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวหน้าสูตรน้ำ ไร้ความมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน และน้ำหอม ด้วยเทคโนโลยี make over clear

*** มันชนะเลิศตรงคำว่าปราศจากน้ำหอมนะ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ดูจากส่วนผสม ตัวนี้มีแอลกอฮอล์ ***
เพราะฉะนั้นใครที่แพ้แอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยงเลยนะคะ
แต่สำหรับเราตัวนี้ถือว่าผ่านค่ะ ทดลองแล้วไม่แพ้ เดี๋ยวจะมาทดสอบให้ดูกัน

ในส่วนนี้จะทดสอบกับแขนที่ทาไพร์เมอร์+เบส+บีบี+แป้งพลอย+อายแชโดว์ ไว้แล้วนะ
เรากดคลีนซิ่งตัวนี้จนชุ่มสำลี แล้วปาดเบาๆที่แขน ปรากฏว่ามันทำงานได้ดี
เครื่องสำอางค์ที่ทาไว้ก่อนหน้านี้ก็หลุดออกมาดีค่ะ
แต่เพื่อความชัวร์ ควรใช้แผ่นใหม่เช็ดซ้ำอีกรอบนะคะ อันนี้ลองให้ดูแค่แผ่นเดียวเองค่ะ

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ชอบอีกแล้วอ่ะ มันทำความสะอาดได้ดีไม่แพ้ของแพงๆเลย
ใช้แบบไม่ต้องกลัวเปลืองกันเลยทีเดียว ก็จะใช้สลับกับยี่ห้อที่มีอยู่ จะได้ไม่เบื่อ
คะแนน : 8/10 จะซื้อซ้ำค่ะ เพราะถูก ใช้ได้นาน ไม่ต้องกลัวเปลืองกันเลย
ที่สำคัญคือมันพกง่ายดี ขวดมันเล็ก เวลาเดินทางมันเหมาะที่จะพกพาไปด้วยจริงๆ
แต่มันจะดีกว่านี้มากๆถ้ามันไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นี่แหล่ะ


หมดแล้วคร่าาาาาา ไม่รู้จะมีใครอ่านถึงตรงนี้ไหม
ทั้งหมด 13 รายการนี้ หมดไป 1000 บาทถ้วนเลยค่ะ ไม่ขาดไม่เกิน
ลองมาสรุปยอดกันหน่อย


1.Mistine pore sealer refining magic cream     69 บาท
2.Mistine spotlight makeup base                   69 บาท
3.Mistine BB baby face cream                        75 บาท
4.Mistine wings La vie est libre                       115 บาท
5.Mistine brows' secret compact eyebrow     69 บาท
6.Mistine nudy brown complete eye palette   129 บาท
7.Mistine So Black Matte Liquid Eyeliner       65 บาท
8.Mistine eyelash curler                               39 บาท
9.Mistine iron curve love mascara               65 บาท
10.Mistine Betty in Forest Cheek Color       79 บาท
11.Mistine wings extra smooth lipstick        59 บาท
     Mistine Matte Avenue lipstick                 49 บาท
12.Mistine touch out eye make up remover 49 บาท
13.Mistine aquaclear cleansing water            69 บาท
                                     รวมเป็น 1,000 ค่ะคุณครูขา


v
v
V

วันนี้ขอลากันไปด้วยภาพนี้ค่ะ
พอดีเห็นกระเป๋าแล้วชอบ มันน่ารักดี แลกซื้อมาในราคา 29 บาท
(ซื้อของในร้านครบ 100 บาทจะแลกซื้อกระเป๋าได้ค่ะ)
ของทั้งหมดที่ซื้อมาลอง เรายัดใส่กระเป๋าใบนี้ใบเดียวเลย อิอิ พกง่ายดีด้วยค่ะ

ไปแล้วคร่าาาาาา ขอบคุณ Jeban สำหรับพื้นที่ในการรีวิวนะคะ

----- แก้ไขเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ -----
มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมถูกจัง ราคานี้จริงหรอ 1000 ซื้อได้หมดนี่เลยหรอ
เอาใบเสร็จมายืนยันให้ดูคร่าาา

ที่อื่นจะซื้อได้ถูกหรือแพงกว่านี้เราก็ไม่แน่ใจ อันนี้ก็ซื้อตามพี่สายป่านรีวิวมาอีกรอบอ่ะค่ะ
แล้วบังเอิญว่าร้านที่ไปซื้ออยู่ไม่ไกลจากบ้านเราพอดี เวลากลับบ้านก็จะผ่านประจำ
แต่เท่าที่พอจะรู้ถ้าซื้อตามร้านขายส่ง หรือร้านบิวตี้ทั่วไป ส่วนมากจะถูกกว่าในแคตตาล็อกอยู่แล้ว
แต่ถึงจะซื้อตามราคาในแคตตาล็อก เราก็ยังว่ามันเป็นอะไรที่ไม่แพงอยู่ดี (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

(ขออภัยหากรูปมืดไปนิดนึงค่ะ)