Review Herin Glucan Serum : สิวเรื้อรัง ก็หายได้....>W<

นกเป็นสิวตั้งแต่เป็นสาว ก็รักษาด้วยวิธีต่างๆมาเรื่อย จนเมื่ออายุซัก 20 สิวบนใบหน้าก็น้อยลงจนแทบไม่มี เป็นเพราะรักษาสิวด้วยตัวเอง ก็ใช้ตัวดังๆทั้งหลายนะ ทั้ง BHA ,Clinda M ,BenZac ผลิตภัณฑ์เคาท์เตอร์แบรนด์ทั้งหลาย ช่วงนั้นผิวหน้าแทบไม่มีสิวเรย ปลาบปลื้มสุดๆ  แต่เกิดเหุตการ์ณไม่คาดฝัน อยู่ดีๆ เป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบ...เย่อะมาก!!!!! ไม่รู้ทำไม โดยเฉพาะช่วงใต้จมูกถึงคาง สิวจะเกิดซ้ำที่เดิมๆ ไม่ยอมสุกจนเป็นหนอง แค่บวมแดงขึ้นมาและยุบกลับลงไป นอกจากนี้ยังแพ้เหงื่อตัวเองด้วย เวลาเหงื่อออกมากๆจะเป็นผื่นและแดงมาก (สภาพแวดล้อมที่ทำงานนั้นค่อนข้างจะสกปรก ทำงานร้านวัสดุก่อสร้าง ไม่มีแอร์ ร้านติดทางด่วน โครตฝุ่นและเหงื่อ) พร้อมทั้งเป็นผื่นที่หน้าผากเพราะแพ้เจลแต่งผม....กรรมจริงๆ

คราวนี้ก็กลับไปรักษาเหมือนเดิม สรรหาสารพัดวิธีรักษาไม่ว่าจะเป็นหาหมอ ,เข้าคอร์ส ,บลูไลท์ ,หายามาทาเอง ,ล้างหน้าน้ำเปล่า ,ล้างหน้าตามแนวขน ก็เหมือนจะดีขึ้นได้สักพัก แต่ก็กลับไปเน่าเหมือนเดิม หนักเข้าช่วงหลังๆมานี่ใช้ยาอะไรก็ไม่สามารถงัดสิวที่อุดตันออกมาได้ แม้กระทั้ง BHA9 ของ Puala' s Choice ที่ใช้ร่วม 2เดือน หรือ Retin A ที่ใช้มา 6เดือน ก็ยังแห้วเหมือนเดิมแถมผิวทั้งลอก แดง อุดตันกว่าเดิม อักเสบไปทั้งหน้า

จน มาเจอผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่เค้ามีเคสคนไข้คล้ายๆเรา คือ ใช้ยากลุ่มรักษาสิวมานานต่อเนื่อง แต่สิวกลับยังเรื้อรัง ผิวหยาบกร้านและลอก ซึ่งเค้าแนะนำให้คนไข้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันผิวให้แข็งแรงก่อนที่จะกลับไป ใช้ยารักษาสิว (ทำไมชั้นไม่เคยนึกถึงเลยเนี่ย!!!) แล้วคนไข้เค้าก็มีรีวิวให้ดู เอ้ย...หายอ่ะ ดีขึ้นมาก นกก็เริ่มศึกษาและลองค่ะ

เริ่มจากสาเหตุที่ว่าทำไมทายายังไงสิวก็ไม่หายซักที เป็นเพราะ

1. ฮอร์โมน : ความเครียด นอนน้อย รอบเดือนไม่ปกติ ตกขาว
2. การผลัดผิวไม่ปกติ : ทำให้เกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรกที่ผิวหนัง ก็กลายมาเป็นสิวอีก
3. ใช้ยาฆ่าเชื้อมากเกินไป : ผิวจะอ่อนแอลงเพราะเสียภาวะสมดุลไป แล้วในธรรมชาติก็มีเชื้อโรคเต็มไปหมด เชื้อโรคมันต้องดื้อยาแหละ ทำให้ผิวไม่มีภูมิต้านทาง (เป็นอะไรที่ไม่เคยนึกถึงเลย)
4. ระบบขับถ่ายไม่ดี : ถ้าร่างกายไม่ได้ขับของเสียออกไป ร่างกายก็จะขับออกมาในรูปแบบอื่นๆ
5. ความสกปรก : ก่อให้เกิดสิวอุดตันและก่อตัวกลายเป็นสิวอักเสบ

โดยเราจะมุ่งไปที่ประเด็นที่ 3 ก่อน เพราะนอกนั้นดิชั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ทั้งระบบภายใน ประจำเดือนและคิดว่าล้างหน้าสะอาดดีแล้ว (หลังจากรักษาหน้าวิธีนี้ สิวอุดตันก็น้อยลงมาก) แต่ถ้าคุณมีมากกว่าข้อ 3 บอกได้เลยว่าสิ่งที่แนะนำข้างล่างนี้ไม่พอที่จะรักษาสิวคุณแน่

จุดเริ่มต้นของผิวอักเสบ แดง ไม่แข็งแรง?
ผิวหนังของเรานั้น แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยชั้นที่เราจะเน้น คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นผิวชั้นนอกสุด เป็นผิวที่ไม่มีการกำเนิดเซลล์รอเพียงผลัดผิวออกเท่านั้น เป็นชั้นที่เกิดปัญหาในเรื่อง ฝ้า กระ และสิว

ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
องค์ประกอบของชั้นหนังกำพร้า : 
ชั้นหนังกำพร้านั้นไม่มีหลอดเลือดเป็นส่วนประกอบ แต่ได้รับสารอาหารและถ่ายเทของเสียโดยการแพร่ผ่านหนังแท้ เซลล์องค์ประกอบส่วนใหญ่ของหนังกำพร้าคือ คีราติโนไซต์(keratinocytes) , เมลาโนไซต์(melanocytes) , เซลล์แลงเกอร์ฮานส์(Langerhans cells) และเซลล์เมอร์เคลส์(Merkels cells) เซลล์แต่ละชนิดก็มีลักษณะและหน้าที่ของตัวเอง  และ เซลล์ที่มีขบวนการย่อยหรือทำลายแอนติเจนของผิวหนัง (ในการปกป้องสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก เช่น แบททีเรีย เชื้อต่างๆ เป็นต้น) คือ Langerhans cells (เซลล์เม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ที่ผิว) ซึ่งมีแขนขายื่นออกไปเป็นร่างแหในผิวหนังกำพร้า(Epidermis) ซึ่งจะทำหน้าที่จับสารแปลกปลอมแล้วย่อยสลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปไว้ที่ต่อมน้ำเหลือง เพื่อให้เซลล์คุ้มกันตัวอื่น คือ เม็ดเลือดขาว(T-lymphocyte) สร้างภูมิคุ้มกัน(Antibody) แล้วถูกทำลายไปโดย กระบวนการ Macrophage 

Macrophage มักจะกินสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายไม่ต้องการ โดยเลือกกินสิ่งที่ DNA ไม่ตรงกับตัวเอง ฉะนั้น Macrophage สำคัญที่สุดในกระบวนการอักเสบและการหายของแผล หาก Macrophage ทำงานน้อยลง ผิวของเราก็ไม่สามารถทนต่อเชื้อ หรือแบททีเรียต่างๆได้มากนัก ผิวจะมีการอักเสบ และแพ้ง่ายขึ้นมา

สาเหตุทีทำให้ Langerhans cells ลดลงหรือไม่ทำงาน มีดังนี้ 

1. แสงแดด เป็นตัวทำลายเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนัง คือ ทำให้ Langerhans cells มีจำนวนลดลง จึงทำให้คนที่ตากแดดนานๆ จึงมีโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนัง หรือติดเชื้อที่ผิวหนังได้ง่ายขึ้นซึ่งครีมกันแดดในท้องตลาด ไม่สามารถป้องกันการทำลาย Langerhans cells ของแสงแดดได้ (แต่ปัจจุบัน มีการผสม Beta-glucan ลงในครีมกำแดดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพป้องกัน)
2. การใช้ยาสเตียรอยด์ ทำให้ Langerhans cells หยุดการทำงาน นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวมากมายหลังผู้ใช้หยุดยาเสตยรอยด์
3. ผิวเกิดภาวะไม่สมดุล อยู่ในภาวะใช้ยายาปฏิชีวนะมากเกินไป หรือร่างกายอ่อนแอ
4. อายุ ยิ่งอายุมากเซลล์ในร่างกายก็เสื่อมสภาพไปตามวัย

Herin Glucan Serum : ฟื้นฟูภูมิคุ้มกันผิว เริ่มต้นรู้จักแบรนด์สินค้า :
ผลิตภัณฑ์นี้ เป็นงานวิจัยของสถาบันนวัตกรรมสุขภาพ นำทีมโดย ผศ.ดร.ไชยวัฒน์ ไชยสุต อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าโครงการศึกษาวิจัยพืชสมุนไพร
จุดเด่นของผ

ลิตภัณฑ์นี้ นำเห็ดที่ชื่อว่า "ภู่มาล่า" หรือ "ยามาบูชิทาเกะ" มาสกัดเป็นส่วนผสมหลักหรือตัวชูโรง เห็ดภู่มาล่านั้นเริ่มเป็นที่รู้จักและใช้ในวงการการรักษาทางแพทย์มาสัก 20 ปีได้แล้ว เริ่มแรกนั้น แพทย์นำมาใช้ในการรักษาโรคผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นสะเก็ดเงิน เซปเดิร์ม หรือผู้แพ้สเตียรอยด์ ต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น นำมาใช้ในวงการความงามกันมากขึ้น 

ผลิตภัณฑ์ ของเฮรินทั้งหมด เน้นเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวในกลุ่มคนที่ผิวแพ้ง่าย จึงไม่ใส่น้ำหอมและสารที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองต่างๆ การฟื้นฟูจะมุ่งเน้นให้เซลล์ผิวรักษาด้วยตัวเอง จนมีความแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวที่เหมาะกับเฮรินจึงสามารถใช้ได้ทุกประเภทผิว 


คำเคลมผลิตภัณฑ์ :
เซรั่มที่อุดดมไปด้วยสารเบ้ต้ากลูแคนเข้มข้นและสารสกัดจากเห็ดภู่มาล่า มีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันบนผิวหน้าและสร้างสารเคลือบผิวตาม ธรรมชาติ เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของผิวอย่างเป็นธรรมชาติ แก้อาการผิวบางจากการใช้ยาหรือใช้เสตียรอยด์รวมถึงการใช้เลเซอร์ ลดการอักเสบและอาการผื่นแพ้ต่างๆ  นอกจากนี้เซรั่มขวดนี้ยังใช้ นาโนเทคโนโลยี คือ การใช้นาโนโซมหรือถุงนาโน เป็นตัวบรรจุพาสารสำคัญเข้าสู่โครงสร้างผิวหนังแต่ละชั้นและค่อยๆ ปลดปล่อยสารออกมาบำรุงทุกชั้นเซลล์จนถึงชั้น Dermis ซึ่งเป็นชั้นหนังแท้ที่มีการสร้างผิวใหม่ รวมทั้งผนังของนาโนโซมยังช่วยทดแทนการขาดน้ำหล่อเลี้ยงผิว ช่วยให้ออกฤิทธิ์ในผิวได้ยาวนานขึ้น จึงให้ผลการใช้และรักษาที่ดีและรวดเร็วกว่าทั่วไป 6 เท่า

ราคาผลิตภัณฑ์ :
ราคาตกขวดละ 2,500 บาท/30ml. หรือถ้าเป็นสมาชิก ราคา 1,800 บาท  บรรจุภัณฑ์ :
เป็นขวดแก้วขุ่น แบบปั้มเซรั่มขึ้นมา พบว่าไม่เหมาะอยากยิ่งที่จะพกไปข้างนอก มันต้องแตกแน่ๆ เลยต้องแบ่งใส่ขวดพลาสติกเอา และพอใช้ไปใกล้จะหมดขวดฝาเริ่มปิดไม่สนิท.... แต่ก็ไม่มีปัญหาอันใด เพราะใช้หมดเร็วมาก!!! ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ :
Ingredients : Aqua,Beta Glucan,Hericium Erinaceus Extract,Glycerine,Glycolic Acid, Niacinamide, Xanthangum Beta-glucan
เป็น น้ำตาลเชิงซ้อน เกิดจากน้ำตาลเชิงเดี่ยว คือ กลูโคสมาต่อกันเป็นกลุ่มกลายเป็นน้ำตาลที่ใหญ่ขึ้น จึงเรียกว่าน้ำตาลเชิงซ้อน ส่วนใหญ่เจอในยีสต์และพืช (เช่น โอ๊ต ข้าวสาลี เห็ด เป็นต้น) รายงานการวิจัยเกี่ยวกับ Beta-glucan มากกว่า 1,000 ชิ้น จากสถาบันที่มีชื่อเสียงทางวิชาการต่าง ๆ ซึ่งทุกแห่งสรุปว่า Beta-glucan มีคุณสมบัติเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายให้สูงขึ้น ผลการศึกษาล่าสุดโดย P.Mansell M.D. อาจารย์แพทย์มหาวิทยาลัย Mc Gill พบว่า Beta-1,3-glucan ไม่ได้กระตุ้นเพียงเซลล์  Macrophage เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นเซลล์เม็ดโลหิตขาวชนิด B Lymphocyte และ T-cell อีกด้วย

ใน ปี ค.ศ.1985 Dr. Joycl Czop จาก Harvard University ได้ศึกษาการทำงานของ Beta-1 ,3-glucan ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายพบว่า Macrophage มักจะกินสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายไม่ต้องการ โดยเลือกกินสิ่งที่ DNA ไม่ตรงกับตัวเอง บนผนังของ Macrophage จะมี receptor อยู่ 7 ที่ด้วยกัน ซึ่ง Macrophage จะทำงานได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อ receptor ทั้ง 7 แห่งมีน้ำตาลเชิงซ้อนมาเกาะโดยจับพอดีกันเหมือนแม่กุญแจกับลูกกุญแจ นอกจากกำจัดด้วยตัวมันเองแล้วยังส่งสัญญาณโดยปล่อย Cytokine หลายชนิดไปยังอวัยวะและเซลล์ภูมิคุ้มกันทั่วร่างกายให้ช่วยกันออกมาต่อสู้ กับผู้บุกรุก.... 

ประโยชน์ของ Beta-glucan ในผิวหนัง

1. ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เมื่อ Langerhans cell ถูกกระตุ้น มันจะไปกัดกินเซลล์เสื่อมสภาพและทำให้ basal cell ที่อยู่ลึกลงไป แบ่งตัวให้เซลล์ใหม่ๆขึ้นมาแทนที่
2. รักษาสิว ผลจากกระบวนการ ที่ Langerhans cell จะกินเศษเซลล์ตาย ในแผลสิว (เศษเซลล์ หรือ cell debris เป็นซากเซลล์ที่ตายหมักหมมในหัวหนอง ถ้าไม่ drain หรือเจาะเอาหนองออก แผลสิวก็จะไม่หาย)
3. รักษาผิวหนังอักเสบ โดยคุณสมบัติเพิ่มภูมิต้านต้านให้เข็มแข็งรักษาแผลทุกชนิดรวมทั้งแผลจาก ศัลยกรรม รักษาผิวแห้ง โดยสรรพคุณของเส้นใยที่อมน้ำทำให้ผิวชุ่มชื้น
4. ช่วยลดริ้วรอย เนื่องจากไปกระตุ้นให้ Langerhans cells และ Growth Factor ทำงาน ส่งผลกระตุ้นให้เซลล์สร้างสร้างเส้นใย(Fibroblast) ทำงานผลิตคอลลาเจน(Collagen) อิลาสติน (Elastin) และสารไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic acid) ออกมา 

ปริมาณ ของ Beta-glucan ที่ใส่มานั้นควรจะมีปริมาณที่ 2-4% ถึงจะมีผลต่อการรักษาผิวได้ ซึ่งดิชั้นก็ลองสอบถามไปทางบริษัท เค้าบอกว่า "เป็นความลับ" ....................................... (- -") 
ก็เลยไม่สามารถบอกได้ว่ามันมีปริมาณมากพอหรือเปล่า

Hericium Erinaceus Extract
สารสกัดจากเห็ดภู่มาลา ประกอบไปด้วย Erinacine เป็นตัวสารเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังเนื่องจากอาการแพ้ ต่างๆ ส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อและระบบประสาทผิวหนัง รวมทั้งการเรียงจัดตัวของคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินที่ผิวหนังโดยตรง
 

ผลลัพธ์ :
นก ใช้ระยะ 3 อาทิตย์ในการใช้เซรั่มขวดนี้ โดยใช้เป็นตัวบำรุงตัวเดียว ไม่มีการใช้ครีมหรือยารักษาสิวอื่นๆร่วม ฉะนั้น ผลที่ได้มาจากเซรั่มขวดนี้เท่านั้น และต้องการดูว่าแก้อับเสบได้จริงหรือไม่ 
อย่าตกใจ กับหน้าบานๆของอิชั้น...  นอกจากที่ระบุไว้มีสิ่งหนึ่งที่สัง เกตุได้ คือหน้าดิชั้นเงาขึ้นค่ะ ภาพที่ถ่ายนี้เป็นเวลาเดียวกันทั้งหมด ตอน 19.00 น. โดยประมาณ เป็นผลมาจากที่ผิวหน้านั้นสามารถเริ่มปกป้องตัวเองได้แล้วด้วยการผลิตสาร เคลือบผิวออกมา ถึงแม้หน้าจะมันแต่ก็ไม่เยิ้มนะ รู้สึกแปลกดี เพราะปกติหน้าจะมันจนเอาทิชชู่มาแปะทิ้งบนหน้าได้อะ (ก่อนหน้าจะลอก) ก็รู้สึกดีนะ แลดูฉ่ำวาวกำลังดีเลย

ข้อดี

• ได้ผลดีในด้านการรักษาการอักเสบและสมานแผล พบว่าแผลเป็นและรอยแดงจากสิวหายเร็วขึ้นมาก
• ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น ความกร้านลดลง หน้าไม่แห้งลอกจากยารักษาสิว
• พบว่าเมื่อกลับมาใช้ยารักษาสิว มันออกผลได้ดีกว่าตอนผิวอักเสบ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีมาก
• เนื้อเซรั่มทาง่าย ไม่เหน่อะหนะ
• ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

ข้อเสีย

• บรรจุภัณฑ์เป็นขวดใส ไม่เหมาะกับสารที่ไวต่อแสง
• หาซื้อค่อนข้างลำบาก ต้องสั่งกับบริษัทโดยตรง 
• หมดไวมาก เพราะเซรั่มซึมไว้เกิ้น..ทาหน้าที 2-3 ปั้ม (หน้าใหญ่อ่ะ -3-)

ปล. ที่บอกเล่ามาทั้งหมดนั้น ไม่ใช่ว่าใช้ขวดเดียวแล้วสิวหายหมด เพราะหลังจากผิวหน้าลดอักเสบแล้ว นกก็เริ่มกลับมาใช้ยากลุ่มสิว และได้ผลดี สึวจึงทุเลาลงได้