Review : กระดาษซับมันจ๋า ฉันลาก่อนนนนนน.
maftaa 9 3อากาศร้อนนนนนนอย่างงี้ สาวๆคงมีไพรเมอร์เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยใช่มั้ยคะ
และไพร์เมอร์ที่ฮิตตตตตต กันมาในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาก็คงจะเป็น
the pore fessional by Benefit
แต่วันนี้ นี้ นี้ นี้ รุมีอีกตัวนึงมาแนะนำค่ะ
Pore Minimizer skin refining matte primer
(ชื่อยาว 7 กิโล จ้าาา)
และไพร์เมอร์ที่ฮิตตตตตต กันมาในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมาก็คงจะเป็น
the pore fessional by Benefit
แต่วันนี้ นี้ นี้ นี้ รุมีอีกตัวนึงมาแนะนำค่ะ
Pore Minimizer skin refining matte primer
(ชื่อยาว 7 กิโล จ้าาา)
ทั้ง 2 ตัวนี้มีเนื้อสัมผัสเหมือนกันค่ะ ลื่นๆ นุ่มๆ
ทาแล้วหายวับไปกับผิวเลย เบาๆ ไม่หนักหน้า
การปกปิดรูขุมขนทำได้ดีพอๆกันค่ะ แต่รุรู้สึกว่าตัว Dior จะควบคุมความมันได้นานกว่า
ประสบการณ์ตรงจากการไปเชงเม้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หลังจากไหว้ 3 รอบ และเผากระดาษเงินกระดาษทองเรียบร้อย
เห้ยยยยยย แก หน้าก็ยังเมานิดดดดดเดียวเท่านั้นค่ะ
อีกคุณสมบัตินึงของ Dior ที่อยากจะประกาศให้โลกรู้ก็คือ
วันไหนที่เราแต่งหน้างานผิว ไม่โบกหนามากเกินไปเนี่ย
คุณสามารถแต้ม Pore minimizer นี้ทับแป้งลงไปได้เลยค่ะ
แต่ถ้าโบกหน้าฉ่ำโป๊ะบางโป่งมากไปแล้วทาทับ อาจจะเป็นคราบได้ค่ะ
แนะนำให้ลงเฉพาะส่วนทีโซนก็พอนะคะ ไม่ต้องลงทั้งหน้าจ้า
ด้าน packaging ค่ะ Dior จะใช้ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากเป็นจุกปั๊มค่ะ
ปกติรุก็จะใช้แค่ครั้งละปั้มก็โอเคละ
ส่วน benefit จะเป็นหลอดบีบๆ ฝาเกลียวปกติจ้าาาา
ราคาจ๊ะ ราคา the pore fessional 22ml ราคา 1,250.-
ส่วน Dior pore minimizer 30ml ราคา 1,800.-
อาจจะราคาค่อนข้างสูงไปสำหรับใครหลายๆคน
อาจจะราคาค่อนข้างสูงไปสำหรับใครหลายๆคน
แต่แอบเห็นว่าที่เคาทเตอร์เค้ามี sample เป็นซองๆ นะคะ
ลองไปสอบถามดูมาลองกันก่อนก็ได้เน๊อะ
