❥ รีวิว all about MASK ขั้นเทพ + DIY MASK
jellyj. 64 26สวัสดีค่าาา ช่วงนี้บ้านเราอากาศร้อนมากๆๆ
ทำให้ผิวเราอ่อนแอและไวต่อการแพ้มากขึ้น
ดังนั้นเราควรหันมาดูแลผิวพรรณกันหน่อย ผิวเราจะได้อยู่กับเราไปนานๆนะคะ
ดังนั้นเราควรหันมาดูแลผิวพรรณกันหน่อย ผิวเราจะได้อยู่กับเราไปนานๆนะคะ
ส่วนตัวแล้วลี่เป็นคนไม่ค่อยมีเวลาไปนวดหน้าหรือพบแพทย์ผิวหนังซักเท่าไหร (ถึงแม้ใจจริงจะอยากมว๊าก) เพราะรถติด เวลานัดไม่ได้ บลาๆ
วันนี้ลี่เลยนำมาส์กที่ลี่ใช้อยู่เป็นประจำมารีวิวให้ดูกันค่ะ รอช้าอยู่ใย ไปดูกันเลยค่า
** Disclaimer : ของทุกชิ้นที่นำมารีวิวในวันนี้เป็นของที่ลี่เลือกซื้อมาด้วยตัวเองทั้งหมดนะคะ :) **
มาส์กทั้งหมดมีอยู่ 8 ตัวด้วยกันดังนี้ค่ะ
สภาพผิวหน้าลี่เป็นคนผสมค่ะ ผิวมันแค่ช่วง T-zone ส่วนช่วงอื่นผิวธรรมดาค่ะ ผิวรวมๆค่อนข้างแพ้ง่าย บางทีก็แพ้เหงื่อตัวเอง แง่ว
อาจจะทำให้มีสิวผดบ้างคะถ้าอากาศร้อนๆ
ปัญหารูขุมขนจะมีตรงบริเวณจมูกกับร่องแก้มเล็กน้อยคะ
ปัญหารูขุมขนจะมีตรงบริเวณจมูกกับร่องแก้มเล็กน้อยคะ
1. มาส์กตัวแรกเป็นของ benefit ค่ะ ลี่เริ่มใช้ตัวนี้ประมาณ 3 ปีที่แล้วค่ะ 1 หลอดใช้ได้ค่อนข้างนานเลยที่เดียวเพราะครั้งนึงเราใช้แค่นิดเดียวก็มาส์กได้ทั้งหน้าแล้วค่ะ เวลาลี่มาส์ก ลี่จะทิ้งในไว้ 15-20 นาที ตอนจะล้างออกลี่เอาน้ำมาแตะๆที่หน้าก่อนซึ่งทำให้ส่วน scrub ค่อยๆละลาย แล้วเราก็ค่อยๆนวดตัว scrub ให้ทั่วหน้าค่ะ แล้วค่อยล้างออกอีกทีด้วยน้ำเปล่าค่ะ
ข้อดี
- เนื้อมาส์กมี scrub นุ่มๆ ผสมอยู่ ทำให้เวลา scrub แล้วไม่ระคายผิว
- มาส์กทิ้งไว้ได้นาน โอกาสแพ้น้อยเพราะส่วนผสมมีความเป็นกรดน้อยค่ะ
- หลังจากล้างหน้าออก จะรู้สึกได้เลยว่าหน้านุ่มขึ้นค่ะ
- กลิ่นไม่ค่อยหอมเท่าไหรค่ะ
- ราคาแอบแรงนิดนึงค่ะ แต่ก็ใช้ได้นาน
2. ตัวนี้ก็เป็นของ benefit เหมือนกันค่ะ จริงๆตัวนี้เป็น scrub อ่อนๆค่ะคือขัดแล้วล้างออกได้เลย แต่บางทีลี่ก็พอกทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีก่อนล้างออกค่ะ
ข้อดี
- เนื้อมาส์กนุ่มดีค่ะเม็ดscrub ก็ไม่หยาบ แทบจะเป็นเนื้อเดียวกันกับครีมเลยค่ะ
- กลิ่นหอมสดชื่น
- ลี่ไม่ค่อยชอบให้หลังจากล้างมาส์กแล้วหน้าจะหนึบๆอะค่ะ เหมือนล้างแล้วไม่หมด
3. ลี่ชอบมาส์กตัวนี้มากๆเลยค่ะ หลอดนี้เป็นหลอดที่ 2 แล้ว ทั้ง texture ทั้ง กลิ่นเลยค่ะ มาส์กทิ้งไว้ซัก 15นาทีนะคะ พอล้างออกจะรู้สึกสดชื่นมากๆค่ะ แต่ถ้าใครหน้าแห้งอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหรนะคะเพราะมันจะดูดความมันออกมาทำให้หน้าแห้งขึ้นนิดนึงค่ะ แต่ถ้าใครหน้ามันละก็ ลุยพอกไปเลยค่า
ข้อดี
- มาส์กเนื้อเนียน
- หอมสดชื่นมากๆค่ะ
- รู้สึกได้ว่ารูขุมขนกระชับขึ้น
- หน้ากระจ่างใส่ขึ้น
- ถ้าสำหรับคนผิวแห้ง หลังจากล้างออกแล้วหน้าอาจจะแห้งเกินไป ถ้าใครอยากลอกแต่ผิวแห้งก็อาจจะมาส์กทิ้งไว้แค่ 5 นาที หรือไม่ก็มาส์กไว้แค่จุดที่มันและมีปัญหาเรื่องรูขุมขนค่ะ
4. ลี่อยากลองใช้ยี่ห้อนี้มานานมากแล้วค่ะ
พอได้มีโอกาสก็เลยซื้อมาหลายตัวเลย
แห่ๆ ตัวแรกของ LUSH นี่เป็นตัวที่เขาบอกว่าจะช่วยทำให้เราผ่อนคลาย เป็นตัว distressed ส่วนผสมจะมี cinnamon แล้วก็ น้ำมันจากข้าวโพด และที่สำคัญมี popcorn ผสมอยู่ด้วยค่ะ !
คือเห็นเป็นชิ้นๆเลยค่ะว่ามีอยู่ด้วย 55+ ตื่นเต้นเลยซื้อมาลองแล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ
ข้อดี
ข้อดี
- หอมข้าวโพดคั่ว! 555+ (นี่คือข้อดี
)
หลังจากล้างออกหน้าจะนุ่มขึ้นค่ะ
มี % การแพ้ต่ำ เพราะทุกอย่างทำมาจากของธรรมชาติคะ organic สุดๆ
Vegan
มี scrub บางๆ
ข้อเสีย
- ควรมาส์กตอนอยู่ในห้องแอร์นะคะไม่งั้นมันอาจจะเยิ้มๆเบาๆ
- แพงไปหน่อยค่ะถ้าเทียบกับปริมาณ แต่ถ้าเอาคุณภาพมาวัดด้วยก็ถือว่าคุ้มค่า
5. ตัวนี้ส่วนผสมหลักคือถ่านค่ะ ซึ่งสรรพคุณของถ่านก็คือการดูดของเสียและน้ำมันออกจากใบหน้าเรา ลี่ใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าหน้าสะอาดขึ้น ลี่เคยลืมมาส์กไว้เกือบ 1 ชม
หน้ายังไม่แพ้เลยคะ
(หรือหน้าเราหน้าแล้ว 555+) แต่กลิ่นมันอาจจะแปลกๆนิดหน่อยอะคะกลิ่นเหมือนๆกับข่าเลยอ่า 55 เพราะมันไม่ได้ใส่หัวน้ำหอมเลยค่ะ ลี่เช็ด toner หลังจากมาส์กแล้วไม่มีอะไรติดออกมาด้วยเลย แสดงว่าหน้าเราสะอาดแล้วค่ะ ลี่ชอบตัวนี้มากที่สุดจากทั้ง 8 ตัวค่ะ
ข้อดี
ข้อดี
- หน้าสะอาดมากหลังใช้
- ดูดซับความมัน
- รู้สึกผิวสดชื่น
- Vegan
- มี scrub บางๆ
- กลิ่นแปลกๆ แต่ใช้ๆไปก็ชินค่ะ เพราะของเขาดีจริง
- ราคาแรงไปนิดนึงค่ะ
6. ตัวนี้คือสุดท้ายของ lush ค่ะ ตัวนี้จะมี น้ำหล่อๆอยู่ พอพอกแล้วมันจะแห้งไปกับหน้าเราเลยแต่ไม่ทำให้หน้าแห้งจนเกินไป ถ้าใครเป็นคนหน้าแห้งแล้วอยากใช้มาส์กแบบพอก ลี่แนะนำตัวนี้เลยค่ะ เนื้อมาส์กจะนุ่มๆเนียนๆ มีส่วนผสมของผลไม้ ทำให้กลิ่นหอมเบาๆค่ะ
ข้อดี
- เนื้อนุ่ม
- Vegan
- Scrub อ่อนๆ
- เหมาะกับคนทุกสภาพผิว
- Packaging ไม่ค่อยเหมาะกับผลิตพรรณที่มีน้ำเป็นส่วนผสม ลี่ว่าเหมือนฝามันไม่ค่อยแน่นถ้าวางนอนมันจะไหลออกมาได้ค่ะ (ถ้ามันหกมันจะเปลืองมากค่ะ 555+)
- ตัวนี้ก็ราคาแรงไปนิดนึงค่ะ ทั้ง 3 ตัวนี้ราคาเท่ากันเลยค่ะ
7. อันนี้เหมาะสำหรับใครที่มีผิวหน้ามันและมีปัญหารูขุมขนค่ะ ส่วนตัวแล้วลี่ว่าตัวนี้ทำให้หน้าลี่แห้งมากไปหน่อยค่ะ ลี่ใช้มาส์กแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้นค่ะแล้วก็มาส์กแค่ส่วน T-zone เคยพอกทิ้งไว้ทั้งหน้าแล้วรู้สึกแสบนิดๆ อาจจะเป็นเพราะลี่พอกหนาเกินไปด้วยอะค่ะ ครั้งแรกเราจัดเต็มไปหน่อยค่ะ แห่ๆ
ข้อดี
- ดูดซึมความมันได้ดี
- ราคาน่าคบค่ะ
- ทำให้หน้าแห้งไปหน่อยค่ะ
8. ตัวสุดท้ายคือมาส์กเต้าหู้สุดฮิต บอกตรงๆว่าเห็นเพื่อนๆใฃ้กันเลยอยากได้บ้าง 55+ แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ เนื้อมาส์ก นุ่มมากๆ หยุ่นๆ กลิ่นหอมเย็นๆ พอกแล้วสบายหน้ามากๆค่ะ
ข้อดี
- กลิ่นหอมเย็น
- ทำให้หน้านุ่มหลังใช้
- กระปุกเล็กไปหน่อยค่ะสำหรับราคา
สุดท้ายก่อนจบรีวิว ลี่มีสูตร DIY mask ทำเองง่ายๆมาฝากกันค่ะ พอกแล้วรู้สึกหน้านุ่มขึ้น ลดอาการแพ้ราคาย่อมเยา ส่วนผสมหาได้ตามซุปเปอร์ทั่วไปเลย่ค่ะ
ผสมทุกอย่างให้เข้ากันคะ
พอกทิ้งไว้ 15-20 นาทีค่ะ
D O N E !!
จบแล้วค่า
แอบยาวนิดนึงนะคะ 55+ แต่ก็หวังว่าการรีวิวในครั้งนี้จะมีประโยชน์แก่ทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ อย่าลืมว่าผิวหน้าของทุกๆคนคงจะไม่เหมือนกันนะคะยังไงก็ลองเลือกตัวที่คิดว่าเหมาะกับสภาพผิวของเพื่อนๆดูนะคะ
ถ้าเพื่อนๆมีคำถามอะไรเพิ่มเติมหรือแค่อยากแวะเข้ามาทักทายให้กำลังใจ
ก็เข้ามาพูดคุยกันได้เลยนะคะ ig : @jellyj ค่า
ขอบคุณที่รับชมนะคะ
บ๊ายบาย