**Review** แป้งอัดแข็ง, แป้งฝุ่น ที่มีทั้งหมด และ ไอเทมจากป้าลอร่า ที่เพิ่งสอยมาค่ะ
ueelicious 32 10สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็น กระทู้แรกที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ Jeban นะคะ
ขอประเดิม ด้วยรีวิว คสอ.ของ Laura Mercier ที่สอยมาใหม่
กับแป้งผสมรองพื้น และ แป้งฝุ่น ที่ใช้อยู่นะคะ
ปกติจะแต่งหน้าด้วยแป้งผสมรองพื้น ไม่ค่อยได้ใช้รองพื้น หรือ BB
อาจจะมีใช้คอนซีลเลอร์บ้าง เพราะเป็นคนผิวผสม มันช่วง T-Zone
บวกกับอากาศที่ร้อนของบ้านเรา ก็เลยไม่ค่อยได้ลงรองพื้นเท่าไรค่ะ
พอดีก่อนวาเลนไทน์คุณแฟนเค้าพาไปช๊อปปิ้ง เดินไปเดินมาเผลอเข้าไป
เคาเตอร์ Laura Mercier แบบไม่รู้ตัว แต่ตั้งใจ !!
อยากลองมานานแล้ว Laura Mercier Foundertion Powder
ดูไป ดูมา ก็เลยมีงานงอก ได้นั่น ได้นี่ มาอีกตามภาพด้านล่างเลยค่ะ
ขอประเดิม ด้วยรีวิว คสอ.ของ Laura Mercier ที่สอยมาใหม่
กับแป้งผสมรองพื้น และ แป้งฝุ่น ที่ใช้อยู่นะคะ
ปกติจะแต่งหน้าด้วยแป้งผสมรองพื้น ไม่ค่อยได้ใช้รองพื้น หรือ BB
อาจจะมีใช้คอนซีลเลอร์บ้าง เพราะเป็นคนผิวผสม มันช่วง T-Zone
บวกกับอากาศที่ร้อนของบ้านเรา ก็เลยไม่ค่อยได้ลงรองพื้นเท่าไรค่ะ
พอดีก่อนวาเลนไทน์คุณแฟนเค้าพาไปช๊อปปิ้ง เดินไปเดินมาเผลอเข้าไป
เคาเตอร์ Laura Mercier แบบไม่รู้ตัว แต่ตั้งใจ !!
อยากลองมานานแล้ว Laura Mercier Foundertion Powder
ดูไป ดูมา ก็เลยมีงานงอก ได้นั่น ได้นี่ มาอีกตามภาพด้านล่างเลยค่ะ
ตัวแรกเลยค่ะ ที่อยากลองมานาน Laura Mercier Foundertion Powder
NO.2 ขนาด 7.4 กรัม
(ปกติใช้ Chanel Matte Lumiere Extreme หมดมาประมาณ 7-8 ตลับ)
แป้งของ LM จะไม่ผสมกันแดดนะคะ เค้ามีพัฟให้ 2 แบบ
อยากได้ความละเอียดในการปกปิดขนาดไหนก็เลือกใช้พัฟตามความต้องการได้ค่ะ
หลังจากได้ใช้มาแล้วเกือบ 2 สัปดาห์ แป้ง LM บางเบากว่าของ Chanel
แล้วส่วนตัวรู้สึกว่าคุมมันดีกว่า chanel อีกค่ะ คือทั้งวันหน้ายังผ่องอยู่
แม้มีความมันออกมาบ้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าตอนที่ใช้ chanel
แถมหน้าเด้ง หน้าผ่องกว่า chanel อีก รู้แบบนี้สอยมาตั้งนานละ
ปลาบปลื้มเลย หมดแล้วฟาดต่อแน่นอนค่ะ
ส่วนเรื่องปริมาณถ้าจะคิด LM จะแพงกว่า chanel นะคะ
โอ๊ยแต่ก็อย่าไปคิดให้สิวขึ้นดีกว่า ใช้แล้วดี ชอบแล้วจบ ^^
หลังจากสอยแป้งแล้ว ก็ยังไม่จบ พยายามหาสิ่งที่เราไม่ค่อยจะมี จะได้ไม่ซ้ำ
ก็เลยมาสอยชิ้นที่สอง Laura Mercier Shimmer Bloc สี Peach Mosaic
ฟาดแก้ม ฟาดเปลือกตา ได้หมด โอ๊ยยย เนื้อละเอียดมาก
ฟาดแก้มปุ๊บมิติมาทันที โดดเด่นลอยออกมาเลย ฉะนั้นถ้าใครจะฟาดลงหน้า
เบาๆ มือหน่อยนะคะ เพราะเนื้อสีเค้าแน่น เอามาทาเปลือกตาสีก็สวย
เอาสีอ่อนสุดมาไฮไลท์งัดดั้งได้อีก แตะกลางปากก็ได้ให้ปากพุ่ง
ชิ้นที่สาม ลิปสติก คือสิ่งที่ผู้หญิงอดใจไม่ได้ แม้ว่าจะมีเยอะแค่ไหน
ก็ยังจะต้องสอย กันต่อไป Laura Mercier Creme Smooth Lipstick
เป็นรุ่นใหม่ของ LM สอย สี Creme Coral มาค่ะ สีนี้ใช้ง่ายได้ทุกโอกาส
มีสารบำรุงจาก Pure Olive Oil , Vitamin E , Rose seed Extract
ทาแล้วเนื้อนุ่มมาก กลบสีปากเดิมได้ดี ชุ่มชื้น แต่ก็ไม่มันเว่อร์
(คือไม่ชอบลิปที่ทาแล้วปากดูใหญ่ ไปกว่าเดิม 555)
ตัววัสดุแพคเกจแน่นดี ดูมีราคา แต่เป็นรอยนิ้วมือง่ายหน่อย
ส่วนเรื่อง Swatch สี จะรวบรวมทีเดียวกับกรุลิปสติคที่มีนะคะ
ชิ้นที่สี่ ก็คือแปรงทาลิปสติก นี่แหละค่ะ หลังจากได้ลองจับ
ลองใช้ที่เคาเตอร์ แล้วชอบก็เลย ต้องสังเวยมาอีก ด้วยเหตุผลที่ว่า
เราจะได้ทาลิปสติคให้ได้สีที่สวยแน่นขึ้น นี่ไม่ได้ซื้อแบบไม่มีเหตุผล อืมม ดูดีๆ
แล้ววัสดุเค้าดีนะคะ ไม่ก๊องแก๊ง ทุกวันนี้ก็ได้ใช้ พกพาได้เพราะด้ามเค้าสั้น
ตัวขนแปรงดีมากค่ะ ควบคุมทิศทางในการทาง่าย
ชิ้นที่ห้า ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ซื้อเพิ่มเพราะของเก่าหมดแล้ว ใครๆ ก็ต้องรู้จัก
Laura Mercier Loose Setting Powder สี Translucent
แป้งฝุ่นเนื้อบางเบา โปร่งแสงละเอียด สำหรับวันที่มีเวลาลงรองพื้น นั่น นี่
ก็ฟาด LM แป้งฝุ่นนี้เข้าไป หน้าสวยผ่องทั้งวันเช่นกัน
แต่ส่วนตัวจะใช้ในวันที่ออกช่วงเย็น - ค่ำค่ะ
เพราะช่วงเช้า - บ่าย ใช้รองพื้นทีไร รู้สึกอึดอัด อย่างบอกไม่ถูก
ส่วนพัฟที่เห็นนี่ เพิ่งได้มาเป็นของแถมจากที่ซื้อของรอบนี้
เพราะปกติซื้อแป้งตัวนี้ไม่มีพัฟมาให้นะคะ
มาถึงบรรดาแป้งที่ใช้อยู่กันบ้างค่ะ
1. Chanel Matte Lumiere Extreme SPF20 สี Beige Clair ขนาด 13g.
แป้งผสมรองพื้น สำหรับสตรีหน้ามัน ตัวนี้ใช้มา 7-8 ตลับแล้วค่ะ ด้วยความที่ใช้แล้วรู้สึกว่าปกปิดดี ระหว่างวันมีมันบ้าง แต่ก็ยังผ่องไม่หมอง เติมแล้วไม่เป็นคราบ แต่ทาแล้วจะหนาหน่อย
ตลับก็สวยหรูดูดี มีซองกำมะหยี่ ( ซึ่งฝุ่นเกาะตลอด)
2. GIORGIO ARMANI Luminessence Bright Perfect Makeup Veil SPF 35
เค้าบอกว่าแป้งรุ่นนี้จะเน้นความผ่องกระจ่างใสในแบบ “The Radiant Armani Glow” โดยอาศัยเทคโนโลยี Micro-Fil Stretch ซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ทำหน้าที่กระจายและสะท้อนแสงตามการหักเหของแสง พร้อมกับเคลือบและยึดเกาะความผ่องสว่างกระจ่างใสให้แนบเนียนไปกับผิวหน้า ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ใบหน้าแลดูขาวใส ผ่องสว่าง กระจ่าง เหมือนผิวมีออร่าอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างยาวนาน
เป็นแป้งผสมรองพื้นค่ะ โดยส่วนตัวหลังจากได้ใช้แล้วแป้งตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวดี
แต่ต้องการความเป็นธรรมชาติ กระจ่างใส บางเบา
คือเค้าจะไม่ค่อยปกปิดริ้วรอยอารยธรรมใดๆ ได้เท่าไรนักค่ะ T_T
3. Lunasol Skin Fusing Powder Foundation
แป้งผสมรองพื้น ที่ปกปิดดีอีกตัวค่ะ ทาแล้วไม่หนาเท่า chanel
ใช้เติมระหว่างวันได้ไม่เป็นคราบ แต่จะผ่องสู้ chanel และ LM ไม่ได้
แพคเกจก็ดี แข็งแรง สวยงาม คุมมันได้ดีในระดับนึง
4. Laura Mercier Foundertion Powder NO.2 ขนาด 7.4 กรัม
อย่างที่รีวิวไว้ข้างบนค่ะ ตอนนี้แป้ง LM มาเป็นอันดับหนึ่งในใจแล้ว
5. MAC Mineralize Skinfinish Natural สี Light Plus ขนาด 10g.
แป้งตัวนี้สำหรับเราไว้ใช้เติมระหว่างวันค่ะ ก็เลยไม่ค่อยพร่องเท่าไร
เพราะใช้ไม่เยอะก็ผ่องแล้ว ไม่เป็นคราบด้วย แต่ต้องใช้กับแปรงเท่านั้นนะคะ
ของเราใช้กับแปรงคาบูกิของ Bobbi brown พกง่าย
6. SK-II Facial Treatment Advanced Protect Loose Powder SPF18
แป้งฝุ่นตัวนี้ได้มาแบบไม่ตั้งใจ คือไปซื้อครีมบำรุง BA แนะนำมาก็เลยลองๆมาใช้
อืมมม... ก็กลางๆ นะคะ มันเป็นแป้งฝุ่นจึงไม่ค่อยปกปิด
แต่มันก็มีสีนะคะ พอเราจะเอามาลงหลังลงรองพื้นมันก็ทำให้สีเปลี่ยน
ไปๆมาๆ ก็เลยเอาไว้ใช้วันที่อยู่บ้าน วันหยุดไปตลาด แถวๆนี้แหละค่ะ ^^
7. Ettusais Night time Defense Powder ขนาด 8g.
ไว้ทาก่อนนอนค่ะ หน้าจะได้ไม่มัน ฝันสวยๆ หน้าผ่องๆ
เอาจริงๆ คือไว้ทาไม่ให้หน้ามันแค่นั้นเอง ใช้แล้วสิวไม่ขึ้นค่ะ ^^
8. Laura Mercier Loose Setting Powder สี Translucent
ที่สุดของแป้งฝุ่น ต้องตัวนี้เท่านั้นค่ะ ถ้าช่วงไหนผิวดีๆ ไม่มีสิว
แค่ลงตัว tinted moisturizer ของ LM แล้วตามด้วยแป้งก็ได้ลุคใสๆ เกาหลี
หรือจัดหนัก จัดเต็มลงรองพื้น แล้วเซตด้วยแป้งก็สวย
เป็น Review ครั้งแรก ถ้ามีผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ
ไว้คราวหน้าจะมา swatch Lipstick กับ Blush on นู่น นี่ นั่น อีกค่ะ
ขอบคุณค่า
^^
