Estee : Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher

83
จริงๆ แล้วคอลัมน์รีวิวนี่จะเป็นป้าโฮก ชฎาแหลมดูแลนะจ๊ะ แต่เนื่องจากภารกิจที่ป้าแกกะลังทดลองตัวอื่นอยู่ ยังเหลือระยะเวลาทดลองอีก 7 วันก็เลยมิสามารถเริ่มใช้ Estee ตามกำหนดได้ อิชั้นก็เลยได้รับมอบหมายให้นำทีมรีวิวเองเลยละกัน อิอิ.........ตั้งแต่เปิดเวบกันมา ทีมงานก็ได้ของเล่นใหม่ๆ มารีวิวกันเป็นระยะๆ กันบ้างแล้ว แต่ป้าจีนก็ไม่ค่อยจะได้รีวิว skin care กะชาวแก๊งเท่าไหร่.........แต่ด้วยว่าเดือนนี้ Estee มีผลิตภัณฑ์ใหม่ Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher Repair Serum ที่ช่วยซ่อมแซมผิว ที่เคยรู้มาว่า Estee เป็นแบรนด์แรกที่มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม repair serum ที่ใช้ลงก่อนมอยซเจอร์นี่ล่ะ....ทาง Estee ก็เลยติดต่อมาทางเวบ ให้ทีมงานเอามาลองใช้รีวิวกันหน่อย ในเมื่อเจ้า Idealist นี่เคยได้ยินมาบ้างว่าเริ่ดก็เลยโอเครเรยค่า........

เริ่มจากการสอบถามข้อมูลกันทางโทรศัพท์ หารายละเอียดของสินค้ากันก่อนว่าคุณสมบัติอะไรยังไง แล้วก็ตั้งตารอวันที่เจ้าครีมกาปุกจะเดินทางมาถึง… ทาง Estee ได้ส่งมอยซเจอร์ 3 สูตรสำหรับแต่ละสภาพผิวมาให้แบ่งๆ กันไป ป้าจีนเลือก Future Perfect สำหรับรับมือกับริ้วรอยแรกเริ่ม แล้วก็เลยต้อนรับ staff ใหม่น้องแคล แคนดี้ ด้วยการ บังคับให้เอาสูตร Day Wear ปกป้องผิวจากมลภาวะ มีสาร Antioxidant ไปใช้ซะ แล้วก็เขียนรีวิวมาให้ด้วยนะจ๊ะ ส่วนสูตร Hydra Complete เติมความชุ่มชื่นผิวยาวนาน 24 ชม. ก็จะเป็นมาดามโฮก กลับมาทดลองแบบละเอียดยิบหลังจากทำการทดลองตัวที่แล้วเสร็จสิ้นเจ้าค่ะ
 



การทดลองภาคป้าจีน

ในฐานะที่เป็นคนเปิดประเด็น ก็เลยได้ลองใช้ก่อนชาวบ้านเค้าระยะนึง....... 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา Estee Lauder คู่นี้นับเป็น Skin Care ไม่กี่ตัวที่อิชั้นขยันทาเช้า-เย็น แบบไม่ให้ขาดเลยซักมื้อ หุหุ.....หลังทำความสะอาดหน้าเรียบร้อยก็ใช้ไอ้ตัว Idealist ลงก่อน นวดเบาๆ ซักพัก จะรู้สึกว่านุ่มลื่นขึ้น แล้วก็ตามด้วย Future Perfect ทั้งเช้าแล้วก็ก่อนนอน เค้าบอกว่าต้องใช้คู่กัน ลง Idealist แล้วตามด้วยมอยซเจอร์ 1 ใน 3 สูตรนั่นแล....
สภาพผิวก่อนทดลอง
ผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง แต่แอบผสมบางเวลา (เอ๊ะยังไง) แต่ช่วงนี้หน้าค่อนข้างแห้งเป็นหลักเพราะอยู่แต่ในห้องแอร์ แต่ไม่ค่อยจะมีสิว แล้วก็รอยหลุมไม่มี แต่มีร่องรอยสมรภูมิที่ยังหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่แดงแล้ว

ลักษณะภายนอก
แพกเกจดูหรูไฮโซวมากมาย สามารถวางโชว์ที่หน้าห้องน้ำได้ไม่อายใคร แต่ถ้าเดินผ่านที่เค้าเตอร์อาจจะมองข้ามไปเลยเพราะมันดูเกินกำลังทรัพย์ของข้าพเจ้า ฮ่าๆๆ

ผลิตภัณฑ์โดยรวม
Idealist มีจุดเด่นคือช่วยเรื่องผิวหน้าเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ตัวครีมไม่เหนอะหนะ แห้งเร็วแล้วก็กลิ่นหอมซีทรัสชื่นๆ ส่วนตัวแล้วชอบมากๆเป็นโพลีเมอร์เนียนนุ่มมากๆ ใครนึกไม่ออก ก็ประมาณว่าเป็นเหมือนฟิล์มเนียนๆ บางๆ เคลือบผิว ตามรายละเอียดเค้าว่าเป็นโพลีเมอร์สูตรพัฒนาใหม่ ไม่เป็นแป้งที่จะทำให้อุดตันเป็นสิว แต่เป็นเนื้อโปร่งเบา ที่จะทำให้ครีมที่ทาตามหลังอย่างพวกมอยเจอร์สามารถซึมลงไปทำงานได้ ไม่ต้องห่วงว่าใช้อย่างอื่นตามหลังแล้วไม่คุ้ม ส่วน Future Perfect ชุ่มชื่นดี เนื้อครีมไม่หนักเกินไป แต่อิชั้นไม่ค่อยชอบกลิ่นซักเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องลองกันไปนะก๊า

ราคา
Idealist 2400 บาท (30มล.) 3,400 บาท (50มล.)
Future Perfect 3000 บาท
Hydra Complete 2100 บาท
Day Wear 1900 บาท

ความประทับใจเมื่อลองใช้
นานๆ ทีจะเจออะไรที่ไม่แพ้ ก็คิดว่าถ้าหมดจะใช้ต่อ (ถ้าช่วงนั้นมีตังอ่ะนะ)
ไม่ได้โม้ ไม่ได้อวย (แม้ว่าจะได้ของเค้ามาลองก็เหอะนะ ถ้าหมดมีหวังเสียเงินแน่ๆ เลยชั้น) Idealist เนี่ย แค่ทาก็ทำให้หน้านุ่มขึ้นแบบค่อนข้างชัดเลยทีเดียว เดี๋ยวอีก 2 อาทิตย์มาลองดูอีกทีว่าผิวจะดูละเอียดขึ้น รูขุมขนจะเล็กลงได้แค่ไหน แล้วจะมาอัพเดทอีกทีนะจ๊ะ.... ส่วนอีก 2 สูตร หนูแคลกับป้าโฮกจะทยอยทดลองแล้วมารีวิวเร็วๆ นี้จ้า

ปล.การทดลองนี้อาจจะใช้ได้ผลกับผิวบางคน และไม่ได้ผลกับบางคนนะคะ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยจ้า

 
การทดลองภาคโฮกศรี
ลองของภาค 3 กับ Estee Lauder ฮิ๊วๆ : โดย โฮกศรี ชฎาแหลม

มาแว้วๆ ปล่อยให้ป้าจีน กะ แคนดี้ ปั่นไปก่อนล่วงหน้า ห่างไปหลายช่วงตัว แต่อิชั้นก็ไม่หวั่น กะย่องๆ ไปเรื่อยๆ อ่า…เนื่องมาจาก ติดภารกิจ ลองของเพิ่งจบ ขอส่งการบ้าน เฟสแรก มาพรีวิวเซรั่ม และ ครีมไฮโซวก่อน ยั่วๆ ตัวเองต่อไป ดีใจได้ทดสอบของไฮโซวในแล็บบ้านๆ ของอิช้าน

หลังจากป้าจีนแม่ลูกอ่อนส่งของมาให้ลองได้ร่วมอาทิตย์ วันนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดผอบ ล้วงตับผลิตภัณฑ์แล้วนะก๊าบ ว่าแต่อิชั้นได้อะไรมาทดลองกันหนอ ย่องๆ มาดูกัน ผลิตภัณฑ์ของ Estee Lauder ที่ได้มาทดลองได้แก่

1. Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่มฟื้นฟูสภาพผิวสูตรพัฒนา ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ลดเลือนรูขุมขน แก้ปัญหาผิวขาดความสว่างสดใส กระตุ้นให้เกิดการกระบวนการผลัดผิวตามธรรมชาติ ใช้ได้ทุกสภาพผิว แล้วตามด้วยมอยส์เจอร์ที่เหมาะกับคุณ
2. Hydra Complete Multi-Level Moisture Creme มอยส์เจอร์ที่ควรใช้คู่กับตัวบน อันนี้ตามแต่สภาพผิวว่าใครจะใช้มอยส์เจอร์ตัวไหน สำหรับตัวนี้ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวในทันที อิชั้นเองผิวผสมแต่บางส่วนของผิวหน้าก็แห้งแปลกๆ เช่น หน้าผาก ก็เลยเลือกสูตรนี้อยากเติมน้ำให้ผิวจะได้เต่ง เปล่งปลั่ง ก๊ากก

ว่าแล้วหมู่เฮามาลากไส้ เซรั่ม Pore Minimizing Skin Refinisher มากินก่อนดีกว่าเน้อออ ขอทำการย่อรวบลัดจากข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์ได้ดังต่อไปนี้

สโลแกน
ภายใต้ผิวที่มองเห็น คือผิวสวยในอุดมคติดั่งที่คุณต้องการ มาเผยผิวแบบที่ใผ่ฝันด้วย
Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher สูตรพัฒนาใหม่ จากเอสเต ลอเดอร์

สรรพคุณ
- Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่มฟื้นสภาพผิวสูตรพัฒนาใหม่ ปรับผิวให้เรียบนวลเนียน เปล่งประกายสุขภาพดี ดั่งผิวในอุดมคติ และ รูขุมขนแลดูเล็กลง คุณสมบัติ Non-Acid Technology คือ ไม่ได้ใช้ส่วนผสมของกรด และเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เอสเต ลอเดอร์เคยมีมา (อู๊วววว ป๊ะจ๊าวววว อ่านแล้วขนลุกเลย ก๊ากกก นะโมๆ รีบขอพรให้เป็นดังว่านะก๊า)
- ส่วนผสมสำคัญ กลูโคซามีน เข้มข้น 3 เท่า มากกว่าสูตร Idealist เดิม พร้อมสารสกัดจากผลเชสท์นัท ให้การผลัดเซลล์ผิวชั้นบน สลายสิ่งอุดตันอย่างรวดเร็ว อ่อนโยน ทำงานถึงในรูขุมขน รูขุมขนจึงดูเล็กลงและช่วยลดการรวมตัวของเซลล์ผิวที่ม่องเท่งแล้ว
“กลูโคซามีน” (Glucosamine) หรือสารสกัดจากน้ำตาลมาช่วยเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกแทน เพื่อผิวเนียนสวยอย่างเห็นผลรวดเร็ว ลึกล้ำยิ่งขึ้น (อ๊ากก ตื่นเต้นกะคำว่า เห็นผลรวดเร็วเนี่ยแหละ เอิ๊กๆๆ)
- Smoothing Polymer สารโพลีเมอร์พิเศษ เนื้อบางเบาทำหน้าที่แทรกตัวเติมเต็มร่องและรูขุมขน แต่ไม่ทำให้อุดตัน ช่วยเรื่องจุดบกพร่องของผิว เช่น ผิวหยาบกร้าน และ เส้นริ้วรอย
- Pore Diminishing Technology เทคโนโลยีการกระชับรูขุมขนพิเศษเฉพาะเอสเต ลอเดอร์ โดยใช้ NDGA (Nordihydraguaiaretic Acid) มาลดการสะสมตัวของน้ำมันส่วนเกินจึงช่วยลดการอุดตัน ขนาดรูขุมขนจึงแล แล แล ดูเล็กลง (ต้องแลด้วยนะ คิๆๆๆ ตรงนี้แอบงง ทีแรกบอกว่าไม่ใช่ส่วนผสมกรด แล้วอันนี้ใช่กรดป่ะ ใครรู้บอกอิชั้นทีจิ่ Nordihydraguaiaretic Acid คือ อะไรก๊ะ)
- สารสกัดจากสาหร่ายทะเล และ Saw Palmetto ช่วยควบคุมสมดุลของกระบวนการผลิตน้ำมันผิวตามธรรมชาติ
- ใช้เทคโนโลยีการกระจายแสง Light Diffusing Technology จะหักเหแสงออกจากผิวชั้นนอก ลดการเกิด “แสงเงาขนาดเล็ก” (โอ๊วว ก๊อด อะไรมันจะลึกล้ำขนาดน้าน กรั่กก อึ้ง…)
- มีสาร Anti-Oxidant จากสารสกัดจากใบหม่อน สมุนไพรจีนเป่าจื้อเหลียน และ ยีสต์ วิตามินอี และ ซี

ข้อสังเกตและข้อแตกต่าง
* Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher ไม่มีส่วนผสมของแป้งจึงไม่อุดตันรูขุมขน
* การศึกษาล่าสุดพบว่า เมื่ออายุมากขึ้น สาเหตุของรูขุมขนกว้างขึ้น เพราะรูขุมขนหย่อยคล้อยลง เกิดเป็น “เงาดำขนาดเล็ก” ผสมกันน้ำมันและสิ่งสกปรกอุดตัน จึงแลดูดำคล้ำยิ่งขึ้น (กึ๋ยๆ มะม่ายยยย…)

สูตร : ใช้ได้ทุกสภาพผิว โดยลงเซรั่มก่อนหลังจากทำความสะอาดใบหน้าแล้ว จึงตามด้วยมอยส์เจอร์สูตรที่เหมาะกับผิวคุณ

ปริมาณ : 30 ml.

รูปโฉมผลิตภัณฑ์ : เฉิดฉาย สวยงาม ด้วยขวดแก้วสีเขียวฟ้าน้ำทะเล ฝาสีทอง หัวปั๊มเจ้าค่า ถ้าใช้ไปใกล้หมดปั๊มไม่ขึ้นนี่ เปิดล๊อกตรงคอขวดได้ด้วยนะ กรั่กก นะขวดนี้ตั้งที่ไหนก็ได้ในบ้าน ไม่อายใคร แต่อย่าเผลอตั้งนอกบ้านนะ หายไม่รู้ด้วย ฮิฮิ

คุณลักษณะเนื้อของผลิตภัณฑ์/ กลิ่น/ สี : เนื้อเซรั่มสีขาวขุ่น หลังจากลองเกลี่ยดูแล้วเนื้อเซรั่มออกจะลื่นๆ ซิลิโคนนิดนึง แต่ไม่หยุ่นติดผิว สังเกตจากภาพ เนื้อเซรั่มกำลังจะย้อย ซึมเข้าผิวได้รวดเร็วดีค่ะ คาดว่าคงใช้ไม่เยอะก็สามารถเกลี่ยได้ทั่วหน้า โฮะๆ หมดปัญหาเรื่องเปลืองครีมไปหนึ่ง กรั่กก ไม่ทิ้งคราบมันบนผิวจะแห้งไปเลย กลิ่นหอมสดชื่นสไตล์ Citrus หอมผ่อนคลายด ี


แล้วก็ล้วงตับต่อด้วย Hydra Complete Multi-Level Moisture Creme อันนี้สั้นๆ กระชับเดี๋ยวหลับ

สรรพคุณ
เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ทีคืนความชุ่มชื้นสู่ผิวทันทีทันใด โดยเฉพาะส่วนที่แห้งที่สุด ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง ช่วยปรับสภาพผิวเพื่อต่อต้านการสูญเสียน้ำ ช่วยให้ผิวปรับตัวกับอุณหภูมิและความชื้นที่เปลียนแปลงอย่างฉับพลัน รับมือกับเส้นริ้วรอยเล็กๆ จาก ความแห้งกร้าน และผิวแห้งเป็นขุย มีทั้งเนื้อเซรั่มและเนื้อเจล อันนี้ที่ได้มาเป็นเนื้อเจลเด้อ

สูตร Normal/ Combination Skin ผิวธรรมดา และ ผิวผสม

ปริมาณ 50 ml.

รูปโฉมผลิตภัณฑ์ : กระปุกแก้วสีฟ้าใส หรูเลิศ ตามระเบียบพัก ฝาสีทองอร่าม เปิดออกมาก็เจ๊อะกลับเนื้อเจลเลยฮ่ะ จกง่าย

คุณลักษณะเนื้อของผลิตภัณฑ์/ กลิ่น/ สี : เนื้อเจลขาวขุ่น ทาแล้วซึมไวเช่นกัน ไม่ทิ้งคราบมันบนผิวจะแห้งไปเลย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้หวานๆ ตัวนี้มีน้ำหอมผสมหน่อยนึง คนแพ้ง่ายก็ลองเทสก่อนนะคะ


หมดละยาวไปนิดเพราะว่ารีวิวสองตัวเลย ระหว่างนี้อิชั้นขอพักหน้าซัก 3 วัน หนนี้ใช้เป็นคู่ หลังทำความสะอาดใบหน้าทั้งเช้าและเย็นแล้ว ตามด้วยโทนเนอร์ ก็จะลง Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่มแล้วตามด้วย Hydra Complete Multi-Level Moisture Creme

ระบุวันเริ่มลองของ: เริ่มใช้วันที่ 10 กันยายน 2550 - วันที่ 29 กันยายน 2550

การทดลองภาคแคนดี้

รีวิว Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher and Day Wear Plus
ถึงเวลารีวิว เอสเต้ ที่มีวาสนาได้รับมาทดลองใช้ สักที ขอบอกว่า ตอนที่อาสารีวิว ก็ปอดๆเหมือนกัน เพราะแคนดี้กำลังแพ้แชมพู แบบว่าแพ้อย่างแรงนะฮ้า รูปเริบไม่คิดจะถ่ายหรอก ถ้าได้ไปเจอคนเยอะๆ ก็เมคอัพกลบเข้าไปสิ skin care ไม่อยากจะเปลี่ยนเท่าไร เพราะถ้าแพ้ซ้ำเติมไปอีก แต่พอลองไปเช็คเรตติ้งของ product ที่กำลังได้รับในเว็บฝรั่ง ก็ดูแล้วน่าสนใจทีเดียว เอาไงเอากันเด้อค่า
 
สภาพผิว
เป็นคนผิวมันนิดๆ ไม่ถึงกับมันย่องจนลนไฟปลายคางเอาน้ำมันพรายได้ รูขุมกว้างบริเวณข้างจมูก ปกติแล้วไม่ค่อยมีสิว ริ้วรอยไม่ค่อยมีมากเท่าไร แต่ตอนนี้เป็นทั้งสิวอักเสบ + อุดตันตามไรผม กลางหน้าผาก ข้างแก้ม คาง เรียกว่าทั้งหน้าดีกว่า ไปหาหมอแล้วรู้สึกจะแย่กว่าเดิม รอยแดงดำที่เห็นก็คือรอย(แฟน)แกะนั่นเอง รูปนี้ถ่ายไว้เพราะกะว่าจะทำรีวิวแต่งหน้ากลบสิว แต่เห็นแล้วปวดใจเลยไม่ได้รีวิว สุดท้ายก็ต้องเอามาเปิดเผยให้ชาวบ้านชาวช่องสะดุ้งกันจนได้
 
วิธีใช้product ทั้งสองตัวนี้
- ใช้ Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher หลังล้างหน้า ทั้งเช้าและก่อนนอน
- ใช้ Day Wear เป็น day cream เพราะมีสารกันแดดด้วย (SPF15)
 
มาวิจารณ์กันซิ
Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher
ตัว Idealist นี่อยากจะก็อปปี้ที่พี่โอ๋กับพี่จีนรีวิวไว้มาให้หมด ฮ่ะๆ แบบว่าเห็นด้วยหมดเลย มีเสนอนิดนึงว่า เนื้อซีรั่มที่ซึมง่ายและเคลือบผิวโดยไม่ทำให้ผิวมันแบบนี้ เหมาะกับการทาปรับสภาพผิวให้เรียบลื่นก่อนแต่งหน้ามากเลย เหมาะกับคนผิวมัน ที่ทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์แล้วหน้ามัน+หมอง ตอนบ่ายๆ ส่วนสรรพคุณที่พี่โอ๋ได้โพสต์ไว้ก่อนหน้านี้ ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่เห็นเป็นสะเก็ดดำๆ จากการแกะสิว หลุดลอกเร็วขึ้น ปกติแล้ว ถ้าแคนดี้เป็นสิวเม็ดเป้งๆ กว่าที่รอยจะจางลงจนไม่สังเกตก็ต้องอาศัยเวลาเป็นเดือน แต่หลังจากที่ใช้ Idealist ติดต่อกันเป็นประจำ บรรดารอยสิวก็ดูจางเร็วขึ้นอย่างน่าพอใจ (แต่เหลือบไปมองราคาแล้ว ถ้ามันไม่ได้ผลคงปวดใจน่าดู!) ส่วนคำโฆษณาที่ว่าทำให้ผิวเรียบลื่นดุจผ้าไหม เอ รู้สึกมันจะลื่นเฉพาะหลังทานะค้า ส่วนเรื่องเทคโนโลยีการกระจายแสง Light Diffusing Technology จะหักเหแสงออกจากผิวชั้นนอก ลดการเกิด “แสงเงาขนาดเล็ก” ที่พี่โอ๋ได้ระบุในตอนต้น ผลลัพธ์มันจะคล้ายกับตอนที่เราเช็ดโทนเนอร์แล้วรูขุมขนดูเล็กลงชั่วคราวมากกว่า แต่ก็จะขอเวลาให้ตัวนี้อีกสักหน่อย เพราะเพิ่งใช้มาแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้นเองค่ะ
 
มาดู DayWear Plus กัน
ก็เป็นครีมปกป้องผิวจากมลภาวะ SPF15 เหมาะสำหรับผิวธรรมดาและผิวผสม มีสโลแกนว่า “มากกว่าความชุ่มชื่น มากกว่าการปกป้อง” อ่าฮ่า! และเห็นว่าตัวนี้เป็น best buy ของ InStyle UK ซะด้วย น่าลองซะนี่กระไร
 
สรรพคุณ
- ปกป้องริ้วรอยที่มาเร็วเกินควรด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ ชาขาว ชาแดงจากแอฟริกา เมล็ดองุ่น Vitamin E และ C
- ป้องกันสาร UVA และ UVB ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ทำให้ผิวชุ่มชื่นและมีสุขภาพดี
- มีกลิ่นหอมสดชื่นของแตงกวา ให้สัมผัสบางเบา เพราะ oil free ทดสอบแล้วไม่ทำให้แพ้และเกิดสิว
 
หลังจากที่ใช้ไปในอาทิตย์แรก สัมผัสได้ว่าผิวเนียนนุ่มขึ้น แต่ไม่มัน ช่วงนี้แคนดี้งดแต่งหน้า เพราะยังมีปัญหาสิว เรื่องเบส หรือ แป้งคุมมันนี่ลืมไปเลย ใครมาเจอแถวขอนแก่นอาจจะคิดว่านี่ผีลืมหลุมที่ไหน แต่ไม่เป็นไร มันทำให้เราได้รู้ว่าเจ้าครีม DayWear นี่ ทำให้ผิวชุ่มชื่น แต่ไม่มัน! เป็นอะไรที่มองหามานานแล้ว เพราะคนผิวมันแบบแคนดี้ มักมีปัญหาหน้าหมองตอนบ่ายอยู่ตลอด บางครั้งรู้สึกเหนอะหนะแม้ว่าจะอยู่ในห้องแอร์ ถ้าไม่ทาอะไรเลยผิวก็จะขาดน้ำ ปลายจมูกลอกเป็นขุย เวลาแต่งหน้าทำให้ดูเป็นคราบ ใช้ DayWear คู่กับ Idealist แล้ว ไม่ต้องซับหน้า หรือล้างหน้าตอนเที่ยง ที่สังเกตเห็นได้ชัดอีกอย่างคือ ตอนนี้แคนดี้ใช้ BP ทารักษาสิวอยู่ เมื่อก่อนก็ทำใจเลยว่า ถ้าทา BP ผิวก็จะแห้งลอกเพราะฤทธิ์ความเป็นกรด ปัญหานี้ไม่มีอีกเลยพอใช้ DayWear
การทดลองผลิตภัณฑ์ครั้งนี้เราบังคับให้แฟนใช้ด้วยเพื่อดูความแตกต่างให้แน่ชัด เสียดายที่เจ้าตัวยืนกรานไม่ยอมให้ถ่ายรูป บอกว่าจะเซ็นเซอร์หน้าตาไม่ให้ใครเห็นก็ไม่ยอม บอกว่าเผื่อใครมาเห็นคิดว่าเป็นแต๋วจะว่าไง เออ..! แต่ที่เซอร์ไพรส์คือ แฟนแคนดี้ใช้แล้วได้ผลดีเยอะกว่าแคนดี้มากๆ แอบสงสัยว่าเป็นเพราะในชีวิตไม่เคยใช้ skincare รึเปล่า reaction มันเลยสุดยอดขนาดนี้ โดยเฉพาะ Idealist เมื่อก่อนรูขุมขนบูจังจะกว้างขนาดยุงบินเข้าไปกลับก่อนมาไม่ได้อีก (เว่อร์ๆ) แต่ตอนนี้แค่กว้างนิดๆ ประสาผู้ชาย อิอิ ตอนนี้ก็ไม่ต้องบังคับให้ใช้แล้ว แต่มางอแงให้เราทาให้เอง ผีเมโทรเซ็กชวลเข้าสิง แต่ยังไงก็อย่ามากขนาดขอมาแชร์อายลายเนอร์ละกัน!
มาชมรูป after กันเนาะ
 
ยังมีรอยสิวประปรายค่ะ เพราะแพ้ค่อนข้างหนักทีเดียว แต่ช่วงนี้ก็ดีขึ้นค่อนข้างมากแล้ว ที่หน้าผากรอยลดลงไปเยอะมาก แต่ที่แก้มก็ยังมือบอนไปบีบอยู่ทำให้เป็นรอยแดงๆขึ้นมา สรุปก็คือ พอใจกับ product 2 ตัวนี้ทีเดียวเจียวล่ะ

← Before & After →



ทดลองใช้ วันที่ 28 สิงหาคม 2550 – 11 กันยายน 2550

รายงานผลการทดลองทั้ง 3 สูตร

สรุปผลการทดลองภาคโฮกศรี

สรุปผลแล้วขอร๊าบบ Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่ม และ Hydra Complete Multi-Level Moisture Creme

1. Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่มฟื้นฟูสภาพผิวสูตรพัฒนา ปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น ลดเลือนรูขุมขน แก้ปัญหาผิวขาดความสว่างสดใส กระตุ้นให้เกิดการกระบวนการผลัดผิวตามธรรมชาติ ใช้ได้ทุกสภาพผิว แล้วตามด้วยมอยส์เจอร์ที่เหมาะกับคุณ

2. Hydra Complete Multi-Level Moisture Creme มอยส์เจอร์ที่ควรใช้คู่กับตัวบน อันนี้ตามแต่สภาพผิวว่าใครจะใช้มอยส์เจอร์ตัวไหน สำหรับตัวนี้ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวในทันที อิชั้นเองผิวผสมแต่บางส่วนของผิวหน้าก็แห้งแปลกๆ เช่น หน้าผาก ก็เลยเลือกสูตรนี้อยากเติมน้ำให้ผิวจะได้เต่ง เปล่งปลั่ง ก๊ากก

 

ระบุวันเริ่มลองของ: เริ่มใช้วันที่ 10 กันยายน 2550 - วันที่ 29 กันยายน 2550
วันรายงานผล: วันที่ 02 ตุลาคม 2550 ขอภัยในความล่าช้า งานแยะมาก สลบเหมือด

บันทึกวิธีการใช้แต่ละวัน ก็จะมีขั้นตอนเดิมๆ ดังต่อไปนี้
ตอนเช้า
- เหมือนเดิมตื่นเช้ามาวิ่งไปส่องกระจกก่อนเลย ก๊ากก สำรวจๆ
- ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า สำรวจรายละเอียดให้ถี่ถ้วน แล้ว แปรงฟัน อาบน้ำ
- หลังซับหน้าให้แห้งแล้ว ก็กด Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่ม อิชั้นใช้ประมาณ 1 ครึ่ำง ถึง 2 ปั๊ม แล้วแต่ความเพลินของแรงกด กั่กก
- ตามด้วยมอยส์เจอร์ Hydra Complete Multi-Level Moisture Creme ทั่วหน้า
- ตามด้วยโลชั่นกันแดด spf 50 pa+++
- ตามด้วยเบส รองพื้น แป้งฝุ่น/ แป้งผสมรองพื้น อันนี้แล้วแต่ว่าสายแล้วหรือยัง
- แต่งหน้าตามปกติ

ระหว่างวัน
- ธรรมดาจะพยายามซับหน้าแค่ 2 หน คือ เที่ยงและตอนเลิกงานกลับบ้าน
- ถ้าออกไปข้างนอกตอนเที่ยง กลับมาก็จะฉีดน้ำแร่ ให้ผิวหน้าสดชื่น เย็นๆ ดี แก้ง่วง จะได้ตื่น

ตอนเย็น
- ล้างทำความสะอาดรอบดวงตาด้วย eye remover
- ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางบนผิวหน้าด้วยครีมล้างเครื่องสำอาง และ บาล์มล้างหน้า
- ล้างความมันด้วยโฟมล้างหน้า
- สครับผิวหน้าอาทิตย์ละ 2 หน/ มาร์คหน้าแบบล้างออกอาทิตย์ละ 2 หน
- ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ซับหน้าให้แห้ง
- เช็ดโทนเนอร์
- ทาครีมละลายสิวเสี้ยนวันเว้นวัน หรือ แล้วแต่อารมณ์บางทีก็ลืม
- ทา Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher เซรั่ม
- ตามด้วย มอยส์เจอร์ Hydra Complete Multi-Level Moisture
- ทาอายครีม
- ทาลิปบำรุง

สภาพผิวหน้าอิชั้น :

- ผิวธรรมดา ถึง ผิวผสม ผิวหน้ามีน้ำมันเคลือบบนใบหน้า
- มีรอยแผลเป็นจางๆ มีหลุมสิว
- มีจุดด่างดำบางบริเวณ
- สีผิวหน้าออกขาวเหลือง มีชมพูเลือดฝาดที่แก้มนิดๆ แต่ว่าไม่ได้กระจ่างใสกิ๊ก
- บริเวณหน้าผากมีสีเข้มกว่าผิวหน้า ผิวบริเวณหน้าผากแห้ง
- มีริ้วรอยจางๆ บริเวณระหว่างคิ้ว และ ใต้ตา ร่องแก้ม
- รูขุมขนกว้างตรงช่วงแก้มข้างจมูก

จากการเฝ้าสังเกตการณ์ขอสรุปการลองหลังการใช้ 3 เริ่มใช้วันที่ 10 กันยายน 2550 - วันที่ 29 กันยายน 2550 ดังนี้

อิอิ ใช้มาครบสามสัปดาห์ แล้ว หนนี้ใช้ไม่ครบสี่สัปดาห์ ก็เพราะติดลองของกับผลิตภัณฑ์ตัวก่อนหน้านี้ แล้วก็อยากจะสรุปผลพร้อมกับสองสาว ป้าจีน กะ แคนดี้ด้วย จริงๆ ตอนที่ได้เซ็ทนี้มาลอง พออ่านสรรพคุณ และ ส่วนผสมแล้ว แอบหวังเล็กน้อยว่าจะเห็นผลเร็วดังสรรพคุณ คิๆๆ ส๊าธุ อ่ะพล่ามมาก มาฟังเกริ่นกันซักนิดก่อน

หลังจากเริ่มใช้เซรั่ม Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher อย่างแรก ชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่น ผ่อนคลาย ส่วนเนื้อของเซรั่ม เหลว เบา ซึมเข้าผิวง่ายและเร็วดีค่ะ คนที่ไม่ชอบทาอะไรเหนอะหนะ จำพวกเนื้อข้น คงจะพอใจทีเดียวนะ เรื่องกลิ่นหอมอ่อนๆ นั้น ไม่แน่ใจว่าคนขี้แพ้จะระคายเคืองไหม ยังไงก่อนซื้อก็ลองขอเทสดูก่อนละกันนะคะ

พอใช้แล้วเห็นได้ชัดเจนเลยเรื่องผิวหน้าเรียบเนียน รู(ขุมขน)กระชับขึ้น ส่องๆ จ้องๆ ดูแล้วเหมือนผิวมันละเอียดขึ้น พวกรอยแดงก็จางไวเลย ไม่ได้เว่อร์นะ แต่มันแสดงอิทธิฤทธิ์ไวดีแท้ และตอบโจทย์ได้อย่างสรรพคุณเค้า อิชั้นบอกได้เต็มปากสำหรับหน้าอิชั้น อิชั้นพอใจค่ะ แต่ อิอิ ก๊ากก นะ คนชอบลอง ก็คงหาลองของไปเรื่อยอะ + ไหว้พระไปด้วยนะกันหน้าแหก แฮะๆ

และมันไม่เปลืองด้วยอ่ะคือ กดปั๊มครึ่ง สองปั๊ม ก็สามารถปาดได้ทั่วหน้าแล้ว ลองคำนวณเล่นๆ คาดว่าขวดเล็ก 30 ml. นี่ คงใช้กับหน้าป้านๆ อย่างอิชั้นได้น่าจะซัก 2 เดือนครึ่ง อืม ถ้าเราไปถอยอีตอนห้างมีโปรฯ ก็ได้ลดอีก ก๊ากก สมเหตุสมผลดี ขอเก็บไว้คิดตอนเซรั่มหมดอีกทีฮ่ะ


หลังจากเริ่มใช้มอยส์เจอร์ Hydra Complete Multi-Level Moisture ตัวนี้ชอบกลิ่นค่ะ หอมอ่อนๆ แบบดอกไม้ เนื้อออกเจลนะ เนื้อเบาซึมง่ายดี อิชั้นโรคจิตทาทีก็โบกซะชุ่มเลยเหมือนกันนะตอนกลางคืน แต่ตอนกลางวันเนี่ยแตะแต่พอดีทั่วหน้าค่ะ เรื่องกลิ่นหอมอ่อนๆ นั้น ไม่แน่ใจว่าคนขี้แพ้จะระคายเคืองไหม ยังไงก่อนซื้อก็ลองขอเทสดูก่อนละกันนะคะ

มอยส์เจอร์ hydra complete ทำหน้าที่เสมือนตัวเติมน้ำผิว แบบให้ผิวชุ่มชื่นตลอดเวลา อิชั้นชอบนะ แต่บางครั้งเวลาทาแล้วรู้สึกร้อนวูบๆ บนผิวหน้า แต่ไม่กี่วินาทีอาการร้อนๆ ก็หายไป ทีแรกแอบตื่นเต้น ฤ ตรูจะแพ้หรือเปล่า สุดท้ายไม่เป็นไร ก๊ากก ต๊กใจโหมะ ฮ่วย สภาพผิวหน้าดูดีขึ้น ไม่แห้ง แล้วผิวมันดูเต่งหน่อยนึงนะ

สรุปสั้นๆ คู่นี้ ขอเก็บไว้ใจลิสเลยฮ่ะ รับรองต้องวกกลับมาใช้อีกแน่ๆ เมื่อกำลังทรัพย์อำนวยในภายภาคหน้า ก๊ากกก มาดูรูปกันเด้อ



จากภาพไม่ได้ทำการตกแต่งใดๆ เด้อ อิชั้นถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิม่อน ใช้โหมดมาโคร และยิงแฟลชทุกรูปเพื่อให้แสงกระทบหน้าให้เห็นรูขุมขนชัดๆ ไปเลย จะได้วิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น แต่การกะระยะใกล้ไกลนี่อิชั้นขยับเข้าออก จากหน้าเองนะ ฉะนั้นระยะใกล้ไกลแสงแฟลชอาจแรงหรือเบา อันนี้ต้องขออภัยไม่สามารถควบคุมได้เด้อ แต่ก็พยายามยืดแขน ยืนตรงมุมเดิมๆ ทุกหนที่ทำการทดลองนะขอร๊าบ

จากภาพซ้ายมือทั้งภาพบนและล่าง ก่อนใช้เด้อ ตอนมาลองก็ยังคิดว่าหน้าชั้นดีแล้วคิดเหมือนทุกครั้งเลยเนาะ ก๊าก ดีพอแล้ว พอใจแล้วได้แค่นี้ก็บุญหน้าแล้ว ก๊ากก จะเห็นว่ารูขุมขนดูเล็กแล้ว ผิวหน้าดูโอเคดีออกจะแนวแมทเล็กน้อย ผิวหน้าผากที่ว่าแห้งก็ดูโอเคดี ถ้าสังเกตุตรงหน้าผากดีๆ จะมีเม็ดสิวแดงๆ ที่ยุบไปแล้ว + รอยแดงเล็กๆ ใกล้ๆ ปาก และถ้าจ้องดีๆ ริ้วรอยตรงหว่างคิ้วกับหน้าผากยังอยู่จ้า

จากภาพขวามือทั้งภาพบนและล่าง หลังการใช้เป็นเวลา 20 วัน อย่างแรกสังเกตรอยสิวอันเก่าตรงหน้าผาก หายไปเลย และ รอยแดงเล็กๆ ตรงปากก็หายไปเลยเหมือนกัน สภาพผิวหน้าเรียบดี รูขุมขนเล็ก ผิวหน้าโดยรวมดูเต่งขึ้น และดูชุ่มชื่นกว่าเดิม เออ เกือบลืม หน้ามันน้อยลงด้วยยังคงสภาพที่ซับแผ่นเดียวตอนเลิกงาน สีผิวหน้าเสมอกันกว่าเดิมหน่อยนึง แต่ถ้าจ้องดีๆ ริ้วรอยตรงหว่างคิ้วกับหน้าผากก็ยังอยู่ครบเช่นกันจ้า อีกนิดสำหรับการใช้เซ็ทดูโอคู่นี้ อันนี้เห็นๆ เลยธรรมดาพอตกเย็นแล้ว จะรู้สึกว่าหน้ามันหมอง แล้วก็ล้าๆ เหี่ยวๆ ใช่ป่ะ แต่ใช้คู่นี้แล้วหน้ามันดูเต็มอยู่ไม่ต่างจากตอนเช้าด้วย หุหุ

แต่ก็ไม่แน่ใจว่าถ้าเลิกใช้แล้วผิวยังจะคงสภาพนี้ หรือ ผิวจะกลับสู่บ้านเก่าก็ไม่รู้ ฮิฮิ แค่นี้นะ แค่ก (เสียงวางหูโทรศัพท์) ก๊ากก จบมันห้วนๆ เลยเดี๋ยวยาวอีกสงสารคนอ่านฮ่ะ

ส่วนเรื่องความรู้สึกต่อครีมภาพคงไม่สามารถแสดงได้นะ เอาเป็นว่าตอนนี้กรี๊ดดด คู่นี้มากละกัน ก๊ากก

xxx ก่อนจะเชื่อ จะซื้อตาม อยากให้ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านให้ละเอียด การที่ครีมจะได้ผลดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน บางคนอาจใช้แล้วดี บางคนอาจไม่เวิร์ค แต่อิชั้นขอให้ทุกคนค้นพบครีมที่เหมาะกับตัวเองนะคะ จ๊วบๆ xxx



สรุปผลการทดลองภาคป้าจีน

มาสรุปช้าไปสักนิดขออภัยๆ.... หลังจากได้ทดลองใช้ติดต่อกันเป็นเวลาเดือนกว่าๆ (ไม่เคยใช้อะไรติดกันได้นานขนาดนี้เลยนะเนี่ย) ก็ได้ผลสรุปเป็นที่น่าพอใจกับคู่ซี้ Estee Lauder Idealist + Future Perfect….ประเด็นหลักๆ มาดามโฮกศรีก็เขียนไว้ละเอียดแล้ว อย่าเขียนซ้ำเลยเนอะ ขี้เกียจอ่านกันใช่มั้ยล่า ฮ่าๆๆ (มุขขี้เกียจ)
มาสรุปกันทีละตัวก่อน
Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher Repair Serum:
เซรั่มชื่อยาวเป็นกิโลตัวนี้เลิฟมากกกกกกกกก อาจเป็นเพราะว่าสภาพผิวหน้าก่อนทดลอง แทบจะเป็นคนไม่ค่อยใช้ skin care ใดๆ นอกจากเวลาฮึดอยากจะลองของใหม่อ่ะนะ ก็เลยทำให้เห็นผลค่อนข้างชัดเจน จนชาวแก๊งทักกันแทบทุกคน........ จากที่ใช้เซรั่ม Idealist ครั้งละ 2 ปั๊ม 2 ครั้งต่อวันหลังทำความสะอาดหน้า เช้าและก่อนนอน 4 สัปดาห์ ผลที่ได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้ตอนแรก ร่องรอยสิวที่ทิ้งเอาไว้จางลง รูขุมขนละเอียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้อดีที่ชอบมากๆ คือกลิ่น ทำให้ผ่อนคลาย สดชื่น ไม่ฉุน ส่วนตัวเนื้อเซรั่มก็ซึมเข้าผิวง่ายมาก แต่จะเรียบลื่นช่วงหลังทาแค่ช่วงสั้นๆ ไม่เหนอะหนะ ซึ่งก็ทำให้สามารถทาม้อยซเจอร์ทับลงไปได้เลยโดยไม่รู้สึกว่าจะโบกจนครีมไม่ซึมหรือเปล่า เหมือนอย่างที่เค้าโฆษณาไว้จริงๆ แฮะ
 
Future Perfect Anti-Wrinkle Radiance Cream:
ส่วนตัวแล้วแต่ก่อนก็ไม่ค่อยเห็นว่าผิวจะแตกต่างอะไรมากกับการทาครีมบำรุงหรือไม่ทา แต่พอตั้งใจใช้คู่กันทุกวัน มันก็เห็นผลกะเค้าบ้าง ตอนแรกก็ยังสับสนว่าที่ดูว่ามันร่องรอยริ้วหายไปนี่มันจากตัว Idealist หรือตัว Future Perfect กันแน่ แต่ถ้าเจาะไปที่คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แล้ว ก็คงจะตัวนี้แหละ เป็นช่วยลดริ้ว ที่ทำให้รอยตะเกียบคู่ที่หัวคิ้วอิชั้นจางลงได้ โอ้วววว ข้อดีของตัวนี้ที่ชอบ คือไม่เหนอะหนะเลย สามารถทำให้มนุษย์ขี้รำคาญอย่างอิชั้นทาก่อนนอนได้สบายๆ
 
ทีนี้ก็จะสรุป สรุป สรุป กระชับฉับไวในส่วนที่ได้ลองแอนด์รู้สึกก็ละกันจ้า
ไม่ได้ทำ Before – After เอาไว้เพราะแรกเริ่มทดลองก็ไม่คิดว่าจะเห็นผลกันชัดขนาดนี้ เอาเป็นว่าถ้าจะให้เลือกซื้อเซรั่ม + ครีมบำรุงซักเซทนึง คู่นี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ไม่อาจจะปล่อยผ่านได้เหมือนกัน.... ที่สำคัญตอนนี้ป้าจีนแต่งหน้าโดยใช้แค่แป้งฝุ่นปัดๆ ไม่ก็แค่ลงรองพื้นบางๆ ได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์ลบรอยเลยอ่ะคร๊า!!! ภูมิใจนำเหนอมากมาย ลองคลิกดูรูปใหญ่ก็ละกันนะ no retouch – no concealer – just basic makeup!!!
↓

Jeban'

Jeban'

Makeup is magic!!!!

FULL PROFILE

Discussion (83)

เป็นขาประจำ Estee อยู่แล้วค่ะ  อย่างน้อยๆ ในปีนึงเนี่ย  ต้องมีขั้นต่ำสองถึงสามรายการที่เป็นของเจ้านี้

สำหรับเจ้า Idealist Pore Minimizing Skin Refinisher สูตรใหม่เนี่ย  เป็นตัวล่าสุดที่ลองมาเลยสดๆ ร้อนๆ ค่ะ  ใช้อยู่ประมาณเดือนนึงได้  รู้สึกว่าสัมผัสที่ได้จะเบากว่าสูตรเดิมนะคะ(ตัวเก่าที่เคยใช้มา  โดยส่วนตัวแล้วแอบรู้สึกว่าแรงไปนิดส์  ทั้งกลิ่นและความรู้สึกตอนทา)  เท่าที่ลองมาก็ทาเจ้าเนี่ยตัวเดียวโดดๆ เลย  เพราะจะได้เห็นผลกันชัดๆ ไปเลย  รู้สึกว่าทำให้ผิดละเอียดดีค่ะ  ลื่น เรียบ เนียนขึ้น  สรุปได้ว่าชอบเลยค่ะ  คงเป็นเพราะเรามีผิวผสมที่ค่อนข้างมันด้วย  ตัวนี้ช่วยได้เยอะค่ะ

ใช้ได้เดือนเดียวหยุดแระค่ะ  ท้อที่ขวดมานใหญ่มากคงอยู่ด้วยกันไปอีกนาน  เพราะขวดนี้ฝากแฟนซื้อใน duty free มาอ่าค่ะ  พ่อคุณเค้าเล่นซื้อขวดใหญ่ 100 ml. มาเลยไม่รู้ว่าประชดป่าว  แต่ก็คุ้มนะคะ  เพราะถ้าเป็นราคาตามที่รีวิวไว้ข้างบน  30 ml. = 2,400 บ.  50 ml. = 3,400 บ.  แต่ที่ duty free เห็นว่า 100 ml. ราคา 4,000+ บ. (เท่าไหร่ไม่กล้าถามละเอียดมากค่ะ  เห็นแต่แฟนบ่นๆ ว่า 4,000+ ถามมากเดี๋ยวได้จ่ายตังค์ อิ อิ)

p.s. ตอนนี้กำลังรอลองตัว CyberWhite Extra Concentrated Brightening Essence  อยู่ค่ะ  ฝากแฟนซื้อเสาร์นี้  ไม่รู้จะได้รึเปล่า  เพราะรอบนี้แอบฝากไปหลายอย่างแระค่ะ


 

ได้ตัวทดลองมาใช้ 3 ตัว Advanced Night Repair, Idealist Pore Minimizing และ Hydra Bright และซื้อครีมทาใต้ตา Advanced night มาด้วย รู้สึกว่า 3 ตัวแรกใช้ดีมากๆ ค่ะ หน้าดูขาวเนียนขึ้น กะว่าถ้าตัวทดลองหมดก็จะไปซื้อขนาดใหญ่มาใช้ค่ะ ส่วนครีมใต้ตายังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
Day Wear ใช้แล้วเปงผื่นใต้ตาแบบเปงเม็ดแดง ๆ น่ากัวมาก ส่วน idealist นี้ ทาใกล้ตาไม่ได้เหมือนกัน จะเปงผื่น ลำบากจิง ๆ แต่ idealist นี้ดีจิง ๆ ทำไงได้แพ้ก้อแพ้ แต่ก้อยากใช้ เลยทาให้ห่าง ๆ ตาไว้ซักนิ้วหนึ่ง - -'
มาดูๆๆ รักเอสเต้ แต่เกืบโฉดไปชิเซโด้

โอว น่าลองมากๆค่ะ แต่กลัวแพ้จังเยยอ่ะ มันแพงอ่ะเนอะ