<<Favorite>> สิ้นเดือน+ตรุษจีน มาดูกันดีกว่ามีอะไรน่าใช้บ้าง (17/25)

สวัสดีค่ะ ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนและช่วงเงินเดือนออก
ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ในการจัดเรียงสรรพสิ่งในโซนโต๊ะเครื่องแป้งต้อนรับปีใหม่
และไหนๆก็รื้อแล้ว เลยจัดการเอาสรรพสิ่งที่หมุนเวียนใช้อยู่ทุกวันมาถ่ายรูปให้เพื่อนๆชาวจีบันได้ดูกันค่ะ เผื่อมีชิ้นไหนโดนใจจะได้ชอปปิ้งรับปีใหม่กัน

สภาพผิวหน้า: หน้าแห้ง เหงื่อออกง่าย แต่ไม่มีความมัน เครื่องสำอางค์ไม่ค่อยติดหน้า หน้าเนียน แต่มีกระเนื้อขึ้นบริเวณสันจมูก(อันน้อยนิด) มีรอยดำบ้างเล็กน้อย รอยสิวไม่มี ปีนึงสิวขึ้นไม่เกินสิบเม็ด(โชคดีสุดๆ)


ต้องขออภัยล่วงหน้า พลอยกำลังเขียนต่อจนครบ 25 ชิ้นอยู่นะคะ ลองดูเลขที่ชื่อกระทู้นะคะว่ากี่ชิ้นแล้ว จิรีบปั่น

แต่นนแต๊นนนนน...


ทั้งหมดนี้เป็นของที่พลอยเวียนใช้อยู่ทุกวันนะคะ บอกก่อนว่า ทั้งหมดที่อยู่ในรูปนั้นพลอยชอบทุกอัน มันคืออะไรที่ใช้แล้วชอบก็เลยเก็บไว้ อันที่ไม่ชอบก็จะระเห็จตัวเองไปอยู่ในถังขยะ
เพื่อให้ตรงกับประเภทกระทู้ พลอยก็เลยจะเลือกออกมาภาพละชิ้น เป็น favorite ของประเภทนั้นๆค่ะ เรียงจากบนลงล่าง แถวซ้ายไปขวา

พลอยไม่ได้เอาพวกตัวบำรุงผิวของ CHANEL Dior YSL มารวมนะคะ ถ้าจะใช้พวกนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวมากกว่า บอกได้เลยว่าใช้ดี ใช้แล้วฟินสุด อีกอย่างพลอยชอบใช้ขนาดเทสเตอร์ ไปซื้อเครื่องสำอางค์แล้วค่อยขอเทสเตอร์ครีมมาใช้ แต่ละรุ่นที่มีอยู่นี่ปริมาณเกินไซส์จริงไปแล้วหลายรุ่น

  • ประเภทดินสอเขียนคิ้ว ผู้ชนะคือ CHANEL Crayon Sourcils Scrupting Eyebrow Pencil เบอร์ 50 ประเด็นแรกคือ งานฟิน อ๊ะๆ ไม่ใช่ค่า แท่งนี้พลอยได้มาตอนไปworkshopแต่งหน้าที่เซนทรัลชิดลม Makeup Artist เขาแนะนำมา แล้วก้ลองแต่งให้ ปกติพลอยจะไม่ค่อยใช้ดินสอเขียนคิ้วเลยเนื่องจากมือไม่นิ่ง คอนโทรลสีไม่อยู่ ใช้เวลานาน ไม่ปลื้มค่ะ แต่แท่งนี้เขียนง่าย สีสวย ดูจากตัวแท่งจะเป็นสีน้ำตาลชอคโกแลตอมเทา พอเขียนแล้วจะได้เป็นสีน้ำตาลอ่อน แท่งนี้มาคู่กับแปรงปัดคิ้วแบบเกลียว และกบเหลา ข้อเสียคือ นางอ่อนมาก ถ้าไม่ทับด้วยฝุ่นแล้วล่ะก็ไปไวมากเลย และ เปลืองค่ะ ทั้งเรื่องราคาและการที่เป็นดินสอ เหลาๆไปหดเร็วมาก เจ็บปวด

 
  • ประเภทมาสคาร่า อันนี้เลือกยากมาก ชอบทุกอัน นางดีกันคนละแบบ เหมาะกันคนละงาน แต่ถ้าเอาแบบฟังก์ชั่นครบ ก็คือ Bourjois Volumn Glamour MAX รุ่น Waterproof งานยาว งานงอน งานหนา งานเข้ม งานกันน้ำ งานถูก เหย...แบบว่ามันดีจริงๆนะ โดนมาเพราะโมเมพาเพลินเลยค่า เสียแต่ว่านางไม่ค่อยเหมาะสำหรับวันเบาๆ ถ้าอยากได้เบาๆ เชียร์ Dior ขาดใจ ส่วน YSL ดีตรงกันน้ำ

 
  • ประเภท Eye Liner บอกเลยว่าพลอยหาอายไลเนอร์ที่ถูกใจยากมาก เมื่อเจอแล้วก็ต้องจัดมาให้เต็ม แต่ทั้งหมในภาพนั้นก็ชอบทุกอันนะ แต่ที่ดีที่สุด(ส่วนตัว) คือ Sephora Crayon contour yeux 12H แนะนำพวกสี matte คือมันเป็นรุ่นเดียว(เท่าที่เคยลอง) ที่เขียนตาล่างแล้วมันไม่ย้อย ไม่เลอะ เปรอะบ้างเล็กน้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่แบบ ดี๊ ดี จริงๆ สำหรับมนุษย์หน้าแห้ง แต่เปลือกตามันระดับร้อย อย่างพลอยแล้วมันเริ่ดมาก ที่สำคัญคือ สีเยอะมว๊ากกกกก ราคาแอบเปลือง 350 บาทแน่ะไม่เข้าใจเหมือนกันแต่สีเดียวที่เลอะแบบรับไม่ได้คือ สีดำ นอกนั้นดี ส่วนของ Clinique ก็ดีนะ แห้งไวมาก ลอกแค่หางๆ ต้องใช้อายรีมูฟเฟอร์โปะถึงล้างออก แต่เขียนตาล่างแล้วเอาไม่อยู่ ตาบนแน่นมากจริงๆ
    ประเภทนี้มีอีก 1 อัน คือ NARS Carpates Eyeliner Stylo สีดำ พลอยได้มาแบบแพ็คคู่กับรุ่นที่เป็นดินสอหมุนๆ ถือเป็นผู้กันที่ทนมาก แต่ลอกง่ายไปหน่อย เหมือนกับอันของ Majorica Majorca นั่นก็ดีเหมือนกัน(หมดแล้วเลยไม่มีในรูป)

 
  • ประเภท concealer งานลดเลือนจุดด่างดำต้องมา งานหน้าสว่างต้องมานะคะ ที่สุดในดวงใจ เห็นได้ชัด ในรูปมี2แท่งเลย YSL TOUCHE ECLAT เบอร์ 2 แท่งเก่าเป็น limited edition (แท่งลาย) ใกล้หมดแล้วก็เลยซื้อมาตุนไว้ก่อน ขาดไม่ได้ จะขาดใจ นางเป็นทุกอย่างเลย งานคอนซีลเลอร์ งานไฮไลท์ งานแก้ความผิดพลาด แต่นางบางมาก เหมาะกับงานผิว ถ้าจะปิดใต้ตาพลอยต้องป้ายหลายๆชั้นหน่อย เรื่องราคาถือว่าไม่แรงมากนะคะ ถ้าเทียบกับคุณภาพและแบรนด์แล้ว ถ้าวันไหนอยากให้ปกปิดจริงๆจะใช้ Happy Light สี Ivory ของ Bourjois แทนค่ะ

 
  • ประเภท Base & primer นั้น ยอมรับค่ะว่า smashbox ของเขาดีจริง แต่พลอยไม่ได้จำเป็นใช้ทุกวัน ก็เลยขอเลือก Burberry Fresh Grow Nude Radience No.01 ค่ะ นางบอกว่านางเป็น Luminous Fluid Base เพราะฉะนั้นนางช่วยกระจายแสงบนใบหน้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ พอทาทับด้วยรองพื้น หน้าจะดูสว่างอย่างไม่มีสาเหตุ สุขภาพดี ดิวอี้สุดๆ ใช้แค่นิดเดียวเอง แถมไม่ต้องรอแห้ง ก็ลงรองพื้นทับได้เลย มนุษย์หน้าแห้งอย่างพลอยปลื้มมากค่ะ ส่วน Make Up Forever สีเขียวนี่ก็ดีนะคะ ช่วยลดรอบแดงบนใบหน้า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพลอยเลย แถมยังช่วยให้อะไรต่อมิอะไรอยู่ในที่ที่มันควรอยู่ แต่มันไม่ฟินเท่า Burberry อะค่ะ 

 
  • ประเภทรองพื้น รักทุกชิ้นเลยค่ะ รักพี่เสียดายน้อย โดยเฉพาะแม่นางฝาดำทั้งสาม แต่พลอยขอเลือก Bourjois Foundation Radiance reveal Healthy Mix  เบอร์ 52 vanilla ข้อแรกเลยคือ นางถูก เนื้อดี กลิ่นหอม บางเบา ไม่เหนอะ ปกปิดกลางๆ เหมาะกับวันสบายๆ วันรีบๆ จะได้งานผิวสุขภาพดี และหน้าสว่างๆ แถมหาซื้อง่ายมาก พลอยชอบใช้วันที่อึมครึมกับชีวิต นอนดึก ตื่นสาย อะไรพวกนั้น แต่ถ้าไม่นับเรื่องรา คากับหาซื้อง่ายแล้ว พลอยยกทั้งใจให้ YSL Youth Liberator Serum Foundation เบอร์ B20 ตัวนี้เป็นรองพื้นที่ผสมเซรั่มตัวดังของแบรนด์ค่ะ ใช้แล้วหน้าฉ่ำโกรวทั้งวัน แถมยังมีตัวบำรุงอีก แต่ก็ต้องลงมอยส์เจอร์ก่อนใช้นะคะ พลอยว่าใช้ไปใช้มาสีมันเพี้ยนอะค่ะ คือสีมันดรอประหว่างวัน แต่แค่นิ๊ดเดียวจริงๆ ลงแป้งทับก็เรียบร้อย สวยเด้งเหมือนเดิมค่ะ

 
  • ประเภท BB ที่สุดในดวงใจ ทั้งคู่ คือ YSL Top Secret UV 50 ไม่มีเบอร์ บอกไว้แต่ BB shade กับ CHANEL Les Beiges พลอยใช้เบอร์ N20 นางดีกันคนละแบบนะ ถ้าอยากได้หน้าgrow ต้อง YSL อยากได้งานผิวสุขภาพดี งานบางเบาต้อง CHANEL คือ 2 ตัวนี้ไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไงดี เพราะนางดีมาก กลิ่นหอม มุ้งมิ้ง ใช้แล้วฟิน  ข้อเสียของ YSL คือ นางเงาไป วันก่อนแต่งหน้าตอนเช้า ตอนบ่ายไปเดินห้าง ดูเครื่องสำอางด้วยความไร้สติเช่นเคย BA ของ shu ถามว่านี่เหงื่อออกหรอคะ นึกว่าไฮไลท์ เอ่อม...มันคือ BB เพราะฉะนั้น เบามือกับนางหน่อยไม่ก็ใช้แบบเว้นกรอบหน้าเอาไว้นะคะ

 
  • ประเภท ปัดแก้มแบบฝุ่น ดูปริมาณก็น่าจะรู้นะคะ ผู้ชนะคือ Bourjois Blush ค่ะ สีชัด มีเยอะ ราคาถูก เลยไร้สติซื้อมา 6 สีแน่ะ แพคเกจเล็กดี พกพาสะดวก กลิ่นหอม ข้อเสียคือ ไม่มีค่ะ พลอยชอบมาก สาบาน นางดีจริง ไว้จะทำ รีวิวแยกต่างหาก swatch สีให้ดู

 
  • ประเภท ปัดแก้มแบบครีม มียี่ห้อเดียวคือ Le Brush Crème de CHANEL พลอยมี 2 สี เบอร์ 65 AFFINITE และ 69 INTONATION เบอร์ 65 จะเป็นโทนชมพูสด ส่วนเบอร์ 69 จะออกส้มแดง สีนี้เป็นสี collection ใหม่ พลอยเพิ่งได้มาเมื่อต้นเดือนนี่เอง ครีมบรัชของชาแนลพลอยชอบใช้กับแปรงค่ะ มันคอนโทรลง่ายกว่านิ้ว หรือถ้าจะใช้นิ้วก็ควรเอามาแปะๆที่มือเพื่อให้สีมันน้อยลงก่อน นางชัดมาก และทนสุดๆจริงๆค่ะ ข้อเสียคือ ราคาค่ะ จัดว่าแพง

 
  • ประเภท Eye Shadow จากที่มี พลอยชอบของ Clinique All About Shadow Quad เบอร์ 06 Pink Chocolate ถึงจะไม่มีเนื้อด้านมาในพาเลท แต่สีไฮไลท์ก็ไม่ได้วิ้งมาก และสีอื่นๆด้วย จริงๆในพาเลทมีสีที่วิ้งแบบเด่นชัดสุดๆแค่ สีเดียวคือสีที่ 3 จะเป็นชมพูวิ้งๆเลยค่ะ พลอยว่าพาเลทนี้ดีตรงนี้เขาคิดมาให้เสร็จสรรพว่าอะไรควรทาตรงไหน ปกติถ้าไม่มีอะไรพิเศษพลอยจะไม่ทา eye shadow เลยค่ะ ที่เห็นเยอะๆนี่ก็มีแต่งาน hi-street กับ drug store เท่านั้น แพงสุดคือ GIVENCHY ค่ะ Dior ก็แถมมากับมาสคาร่า ว่าจะไปซื้อพาเลทที่เป็นสีม่วงของ Clinique เพิ่มอยู่

 
  • ประเภทที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น พลอยมีแค่ 2 อันเอง แต่เทใจให้ Bobbi Brown ค่า อันนี้เป็น Bobbi Brown Eye Shadow สี Rich Brown เบอร์ 11 มันคือ eye shadow สีน้ำตาลเข้มสุดๆที่ใช้คู่กับพู่กันแบบหัวตัด เอามาเขียนคิ้วได้เริ่ดสุดๆ สามารถคอนโทรลความหนาบางของสีได้ง่ายมาก หรือพลอยชินกับแบบนี้ก็ไม่รู้ วันปกติ พลอยจะใ้แค่ตัวนี้ตัวเดียวเลย เขียนหางได้คมกริ๊บ จุ่มน้ำหน่อยก็ได้ถ้าอยากได้ค๊ม คม ส่วนหัวคิ้วก็ปัดบางๆแล้วเอาแปรงมนๆมาเบลนลากสีลงมาเป็นสันจมูกง่ายๆ ในชิ้นเดียว เริ่ดมากกก

 
  • ประเภทบรอนเซอร์ พลอยยกให้ Bobbi Brown เลยค่ะ ตัวดังมานานมากแล้วนี่นา กับ Bobbi Brown Brozing Powder สี Golden Light เบอร์ 1 บรอนเซอร์เนื้อด้านที่ปัดแล้วดูสุขภาพดี หน้าไม่ส้ม ใช้ตั้งนานแล้วไม่หมดสักที คุ้มค่า คุ้มราคามาก ส่วน Lola geisha ก็ชอบมาก แต่พลอยไม่ชอบที่มันวิ้งอะค่ะ ถ้าเอาไว้ใช้พกเดินทางถือว่าดีค่ะ
  • ประเภทไฮไลท์ พลอยชอบ SKIN FOOD All Over Muffin Cake Finish ตัวนี้ได้มาจากเกาหลีเป็นของฝาก ชอบที่สุดตรงที่มันเป็นกลิ่นชอคโกแลต ตอนได้มาใหม่ๆพกดมตลอด โรคจิตสุดๆ แต่มันหอมมาก ปัดแล้วหน้าดูวิ้งเบาๆ จะใช้เป็นบรอนเซอร์ก็ได้ แต่จะได้ลุควิ้งๆหน่อยนะ ดูตาเปล่าแล้วดูไม่ค่อยออกว่ามันวิ้ง แต่ถ้าลองปัดดูจะรู้เลย ถ้าใช้ NARS พลอยว่ามันวิ้งไป ชัดไป ดูลอยมาก คือNARSเขาดี ถ้าเป็นงานกลางคืน แต่ถ้า day light คงไม่ไหวอะนะ

 
  • ประเภทแป้งนี่พลอยรวมทั้งแป้งอัดแข็ง แป้งผสมรองพื้น และแป้งฝุ่นเข้าไว้ด้วยกันนะคะ อันนี้พลอยลังเลระหว่าง YSL (ไม่รู้ชื่อรุ่นอะค่ะ มันต้องแงะตลับออกมาดู) กับ CHANEL LES BEIGES Healthy Glow Sheer Powder สี N20 ถึงจะบอกว่า glow แต่มันไม่มีวิ้งใดๆเลยนะคะ เป็นแป้งอัดแข็งเนื้อบาง ไม่ผสมรองพื้น ใช้เซตรองพื้นก็ได้ พกไว้เติมระหว่างวันก็ได้ ยิ่งใช้กับตัว Les Beiges ครบคู่กันยิ่งดีใหญ่ เหมือนมีฟิล์มบางๆอยู่บนหน้าเลยค่ะ เนียนมาก ข้อเสียคือนางหลุดค่ะ ต้องเติมตลอดเลย และอย่าได้เผลอฟาดนางลงไปขณะมีเหงื่อนะคะ พังค่ะ นางจะจับตัวกันเป็นก้อน เป็นคราบอยู่บนหน้า ชีวิตพังมาแล้วค่ะ

 
  • ประเภทจับฉ่ายและอื่นๆนะคะ เอ๊ะ! ทำไมมาอยู่ตรงนี้ คิดซะว่านางไปได้หมดแล้วกันค่ะ เรื่องจับฉ่ายนี่ยังไงก็ต้องยอมรับ บัวหิมะ ค่ะ ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ มันคือ บัวหิมะที่เอาไว้ทาแผลไฟลวกเนี่ยแหละค่ะ อันนี้พลอยลองกับตัว สำหรับบุคคลที่ผิวหน้าไม่บางนะคะ สามารถใช้เป็น whitening ได้ค่ะ มันขาวขึ้นจริงๆนะคะ แถมหน้าเนียนเวอร์ ทาโปะสิวก็แห้งไวมาก คือมันสารพัดประโยชน์ ขอแค่อย่าเข้าตาและปากก็พอค่ะ คำเตือนค่ะ ถ้าไม่มั่นใจแบบเกินล้าน%ว่าที่มีอยู่นั้นเป็นของแท้แน่นอนจากรัฐบาลจีน กรุณาอย่าได้ลองกับหนังหน้าค่ะ กรุณาใช้เป็นครีมทาส้นเท้าแตกต่อไปค่ะ

 
  • ประเภท cleanser อันนี้เพิ่งได้มาใหม่เลยค่ะ เพิ่งได้ลองตอน sephora มาเปิดเมืองไทยสดๆร้อนๆ คือพวก waterproofต่างๆนาๆเนี่ย นางลบได้หมด คือ SEPHORA Triple Action Cleansing Water ลบได้เกลี้ยงมาก แล้วพลอยก็เป็นพวกชอบคลีนเซอร์แบบน้ำ แต่ที่ชอบมากที่สุดเลยคือ มันเป็นขวดแบบปั๊ม แบบที่กดสำลีลงไปแล้วน้ำมันก็จะขึ้นมา ชอบบบบบ ใช้ง่าย ไม่เลอะ ไม่หก ปลื้ม 
  • ประเภท eye remover นั้น พลอยปลื้ม Clinique take the day off makeup remover for lids, lashes & lips (ขวดม่วง)ที่สุดค่ะ ขวดในรูปเป็นของแถมมาค่ะ พลอยมีขวดไซส์จริง แต่ลำบากในการถ่ายรูปเลยเอาเจ้าจิ๋วนี่มาถ่ายแทน นางลบได้หมดเกลี้ยงแบบสุดๆ พลอยใช้ของ bobbi brown แล้วพลอยแสบตาค่ะ แถมเคยพกเจ้าจิ๋วของbobbi brownไปเที่ยวด้วย ผลคือ นางซึมเต็มกระเป๋าเลยค่ะ เซงจิต แต่ขวดของ clinique นี่ไม่มีซึมเลยค เป็นผาเกลียวกดเปิดเหมือนกัน

 
  • ประเภท Toner ในรูปเป็นไซส์เล็กทั้งคู่ เคยใช้ของ Clinique ที่เป็นขวดฟ้าๆอยู่แต่เหม็นแอลกอฮอล์แถมใช้แล้วหน้าแห้งกว่าเดิม ตอนนี้อินเลิฟกับ Bioderma Sensibio H2O สีแดง ตัวดังสุดๆ ค่ะ ในรูปหมดแล้วแต่เก็บขวดไว้ถ่ายจากขวดใหญ่พกไปเที่ยว บางคนใช้เป็นคลีนเซอร์เลย แต่พลอยชอบใช้หลังล้างหน้ามากกว่าเพราะทำให้รู้สึกสะอาด ไม่เหนียวหน้า หน้าไม่แห้ง

 
  • ประเภทมอยส์เจอไรส์เซอร์ ตัวที่ใช้ทุกวันคือ Hadalabo ขวดสีฟ้าฝาขาวคล้ายๆ kose แต่ไม่ใช่ชิ้นที่ชอบที่สุด ชิ้นที่ชอบที่สุดคือ Clinique moisture surge intense พลอยลืมหยิบมาถ่ายรูปด้วย กระปุกที่ใช้อยู่เป็นเทสเตอร์ไซส์ครึ่งนึงของขนาดจริง ได้เป็นของแถมมา รุ่น intense นี้พลอยจะใช้ตอนกลางคืน เพราะเนื้อจะค่อนข้างเหนอะ ส่วนรุ่น Clinique moisture surge จะใช้กลางวัน ก่อนแต่งหน้า ข้อเสียคือรอนานกว่าจะซึมจนแห้ง ถ้ารีบๆพลอยจะใช้กระดาษเช็ดหน้าซับๆ ส่วน Skin rescue ของ KIEHL'S นี่ก็ดีนะ ใช้ตอนกลางคืนตื่นมาหน้าดูสดใส ชุ่มฉ่ำ ข้อเสียคือมันเหนอะมากกกกก ใช้นานๆครั้ง วันไหนที่นั่งรถเมล์ร้อนจะถึงจะใช้ค่ะ เหมือนพวกมาร์กที่ทาค้างคืนยังไงยังงั้น แต่ของเค้าดีนะ
วันนี้คงพอแค่นี้ก่อนค่ะ ทำมาตั้งแต่ตะวันแรงจ้า ตอนนี้ตะวันตกดินไปแล้วค่ะ
แล้วจะมาต่อนะคะ ส่วนรีวิวลิปสติกที่ยังค้างคาอยู่ก็จะรีบทำรีวิวเช่นกันค่ะ
ถ้าอยากดูรีวิวกลุ่มไหน เม้นมาบอกกันนะคะ จะพยายามทำให้ดูกันค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ช่วยแนะนำ และฝากติดตามด้วยนะคะ 

ปล. พิกัดในการชอปปิ้ง: ที่สุดคือ เซนทรัลชิดลม รองมาก็ สยามพารากอน สยามเซน สยามดิส แล้วก็ watson กับ boots ค่ะิ eve and boy บ้างเป็นครั้งคราว งานออนไลน์ขอผ่าน ตัวเดียวที่มาจากออนไลน์คือ smashbox หลอดจิ๋วน่ะแหละค่ะ ทำใจอยู่นานกว่าจะซื้อออนไลน์ ผลคือเปิดกล่องออกมา นางเก่ามาก สภาพฝุ่นจับ สาบานเลยจะไม่มีวันซื้ออะไรที่ไม่เห็นของอีกแล้ว ผิดหวัง เซงจิตสุดๆ นอยค่ะ 
แนะนำว่า ซื้อจากร้านที่จ่ายปุ๊ปของมาอยู่ในมือเราเลย ไม่ว่าจะซื้อจากเคาน์เตอร์ หรือร้านที่มั่นใจว่าของแท้ แบบว่าระบบชัดเจน มีที่มาที่ไป ไม่ใช่บอกของหิ้ว อะไรอย่างงี้ หิ้วจากไหนคะ จีนหรอ?! หนังหน้าตัวเองนะคะ พังมาไม่คุ้ม ลงทุนหน่อย อย่าเขียม budget ไม่ถึง ก็ใช้พวกแบรนด์ลูกที่เขาทำมาตีตลาดซื้อง่ายขายคล่องก่อนก็ได้ค่ะ 
ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับหนังหน้าเราด้วยนะคะ บางทีใช้แพงแสนแพง แพ้ซะงั้น พูดยากค่ะเรื่องแบบนี้

Discussion (19)

โห้ แต่ละเซ็ต น่าใช้ทั้งนั้นเลยค่ะ 

ขอบคุณค่ะ เราฝากเพื่อนซื้อจากฮ่องกง ขวด 500 ml 521 บาทเอง เลยซื้อที่วัตสันไม่ลง แพงเฟ่อ ^^

อลังค่ะ แต่ทำให้อยากไปสอยรองพื้นบองจัวสุดๆ แล้วก็แอบรอ swatch สีบรัชของบองจัวนะคะ สารภาพเลยว่าไปลองแล้วจัดสินใจยากมาก 55555

งงมัก อ่านยากจัง
ว๊าววววว น่าสนใจคะ แต่มันแพงไปสำหรับเราอ่า TT