{Review} Schwarzkopt Fresh Light Premium Beige & Champagne Pink
minimayy1716สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้เมย์มาเขียนรีวิว Schwarzkopt Fresh Light
หลังจากที่เมย์ใช้เปลี่ยนสีผมได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว
เมย์เริ่มเปลี่ยนสีผมครั้งแรกเมื่อประมาณปลายปี 2555
จนถึงตอนนี้เมย์ก็เปลี่ยนสีผมมาเป็นครั้งที่สามถ้วน
ครั้งแรกเพื่อนย้อมให้ ครั้งที่สองย้อมเอง
แต่เมย์พบว่าสีผมไม่ค่อยสม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะว่าผมเมย์ค่อนข้างหนา
ดังนั้น ครั้งที่สามเมย์จึงซื้อน้ำยาเปลี่ยนสีผมไปให้ร้านประจำทำให้
(ร้านที่ต่างจังหวัด ... เข้าประจำใกล้บ้าน)
วันนี้เมย์มาเขียนรีวิว Schwarzkopt Fresh Light
หลังจากที่เมย์ใช้เปลี่ยนสีผมได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว
เมย์เริ่มเปลี่ยนสีผมครั้งแรกเมื่อประมาณปลายปี 2555
จนถึงตอนนี้เมย์ก็เปลี่ยนสีผมมาเป็นครั้งที่สามถ้วน
ครั้งแรกเพื่อนย้อมให้ ครั้งที่สองย้อมเอง
แต่เมย์พบว่าสีผมไม่ค่อยสม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะว่าผมเมย์ค่อนข้างหนา
ดังนั้น ครั้งที่สามเมย์จึงซื้อน้ำยาเปลี่ยนสีผมไปให้ร้านประจำทำให้
(ร้านที่ต่างจังหวัด ... เข้าประจำใกล้บ้าน)
เริ่มจากล้างผมเพื่อทำความสะอาดเส้นผมก่อนเป็นอันดับแรก
เนื่องจากร้านนี้ลูกค้าเยอะมาก ต่อคิวยาว เมย์เลยต้องมานั่งเป่าผมรอคิว
เมื่อถึงคิวพี่ที่ร้านเขาก็แบ่งผมแล้วก็ติดกิ๊บไว้เป็นช่อๆ จะได้ง่ายต่อการชโลมครีมเปลี่ยนสีผม
(ม้วนผมเหมือนอาหมวยเลย ชอบๆ ฮ่าๆ)
ชโลมครีมใส่ผมทีละช่อ ให้หมดทุกช่อ หมดทั้งศีรษะนั่นแหละ
พี่เขาขยี้ครีมใส่โคนผมด้วย ... คันยิบๆ
เสร็จแล้วก็ม้วนผมพักเก็บไว้ ปกติพักไว้ประมาณ 30 นาที ก็พอ
แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเปลี่ยนสีผม ผมหนา หรือผมเยอะ อาจจะมากกว่านั้น
ซึ่งของเมย์ผมหนา ผมเยอะ ... และที่สำคัญคิวเต็มไม่มีคนล้างผมให้
ครั้งนี้เลยใช้เวลาในการพักผม 1 ชั่วโมงเต็มๆ
ระหว่างนี้เราก็ไปดูดีกว่าว่าเมย์ใช้สีอะไรบ้าง
ตามปกติของกล่องน้ำยาเปลี่ยนสีผม ที่จะมีคำเตือนต่างๆ ที่เราควรอ่านและควรปฏิบัติตาม
เมย์เลือกใช้ทั้งสี Premium Beige และสี Champagne Pink ผสมกัน
เนื่องจากตัดสินใจไม่ได้หากต้องเลือกเพียงสีใดสีหนึ่ง
หนึ่งกล่องจะประกอบไปด้วย ครีมเปลี่ยนสีผม ครีมดีเวลลอปเปอร์
ทรีทเม้นท์สำหรับบำรุงผมหลังเปลี่ยนสี ฝาหวี ถุงมือและแผ่นพับวิธีใช้
อย่างที่ทราบกันดีกว่าสมัยนี้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมสะดวกในการบริการตนเองมากขึ้น
ดังนั้น อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใส่มาในกล่องก็จะง่ายสำหรับการเปลี่ยนสีผมด้วยตัวเองเช่นกัน
แต่ถ้าเราจะทำเอง อาจจะต้องเพิ่มในส่วนของผ้ากันเปื้อน (กันสีเลอะเสื้อ)
เบบี้ออยล์หรือโลชั่น เอาไว้ทาบริเวณกรอบหน้า ใบหู และลำคอ
เวลาที่ครีมเปลี่ยนสีผมเลอะ จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมก็ล้างครีมเปลี่ยนสีผมออกด้วยน้ำเปล่าหลายๆ ครั้ง
จนกว่าน้ำที่ไหลออกจากผมเราจะใส ... สระผมด้วยแชมพู 1-2 ครั้ง
แล้วก็ตามด้วยทรีทเม้นท์ที่ให้มาในกล่องค่ะ
รูปสีผม Before & After
เมย์เลือกสีเบจผสมกับชมพู โดยที่ทั้งสองมีพื้นสีน้ำตาลเหมือนกัน
ตอนที่ล้างสีผมครั้งแรก สีผมที่ได้จะออกน้ำตาลทอง น้ำตาลเบจมากกว่า
ไม่ค่อยออกสีชมพูเท่าไหร่ ... แต่เมย์รู้อยู่แล้วว่ากว่าสีจะชัดต้องสระผมไปเรื่อยๆ
ประมาณ 1 สัปดาห์ สีผมที่ได้ก็จะชัดมากขึ้น ...
นี่คือสีผมหลังจากเปลี่ยนสีได้ 2 สัปดาห์
โทนสีออกชมพูมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาออกแดด
หลังจากทำสีผมครั้งนี้แล้วชอบมาก
รู้สึกว่าหน้าขาวขึ้น ... ตอนแรกเข้าใจว่าคิดไปเอง
แต่น้องๆ ทัก แล้วก็บอกว่าผมสีนี้เข้ากับเมย์มาก
แล้วก็หยอดอีกว่า "สงสัยพี่เมย์จะทำสีนี้ไปตลอดแน่เลย" ฮ่าๆ
การใช้เคมีกับเส้นผมเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่าเส้นผมของเราจะต้องอ่อนแอ
และเปราะบางมากยิ่งขึ้น ... หากผมของเราใช้เคมี โดนความร้อน หรือฝุ่นละอองมากเท่าไหร่
เราก็ควรที่จะดูแลและบำรุงเส้นผมของเรามากขึ้นตามไปด้วย ...
เส้นผมของเราจะได้สุขภาพดี เสริมให้เราดูดีมากยิ่งขึ้น
Discussion (16)
สวยมากเลยค่ะ :)
เวลาผสม ผสมทั้งหมดทุกอย่างทั้งสองกล่องเข้าด้ยกันเลยใช่มั๊ยคะ
เปลี่ยนไปเลยค่ะ น่ารัก