HOW TO & REVIEW เมื่อฉันย้อมผมสีนกแก้ว

(เรียงจากซ้ายไปขวา)

1. LifeFord Paris Salon Artist Hair Wax Color Treatment Conditioner สีลาเวนเดอร์ (85 บาท)
ข้อดี – หาซื้อง่าย/ ราคาไม่แพง/ สีติดชัด/ มีสีให้เลือกพอสมควร
ข้อเสีย – มันหลุดง่ายมากที่สุดในสามโลก ถ้าลงเพียวๆ แบบไม่ผสมยี่ห้ออื่นคงได้ย้อมทุก 3 – 4 วัน

2. Starlist สี Grape purple (250 บาท)
ข้อดี – สีเข้มข้นมากถึงมากที่สุด/  ติดทนนาน (สระวันเว้นวันก็ยังอยู่ดีเป็นเดือน) 
ข้อเสีย – ราคาสูง (เมื่อเทียบกับปริมาณ)/ หาซื้อยาก

3. ERC Treatment Hair Color Cream สีน้ำเงิน (80 บาท)
ข้อดี – หาซื้อง่าย/ ราคาไม่แพง/ สีติดชัด/ มีสีให้เลือกพอสมควร
ข้อเสีย – หลุดง่ายปานกลาง (ติดทนกว่า Lifeford แต่ยังสู้ Starlist ไม่ได้)

ทั้งสามยี่ห้อนี้ เราซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์ทำผมแถวๆ บ้านค่ะ
 
มาดูขั้นตอนการแว็กซ์ผม
ตอนแรกไม่ได้กะจะรีวิว แต่มีคนถามถึงหัวประหลาดมาเยอะว่าทำยังไง
ไอ้เรารึก็ไม่ได้ถ่ายรูปขั้นตอนไว้ วันนี้เลยขอวาดรูปให้ดูนะคะ
**ต้องกัดสีผมก่อนนะคะ แนะนำให้ไปกัดที่ร้าน จะได้ไม่ด่างเนอะ แล้วพักผมไว้วันนึง ค่อยลงแว็กซ์**

ขั้นตอนทั้งหมด เราก็ครูพักลักจำจากในเว็บบ้าง ร้านทำผมบ้าง
แล้วก็ลงมือทำโดยการใช้เพื่อนทำ ทำไปด่าไป สนุกดี ฮ่าๆๆ
(ยังใช้เม้าท์ปากกาไม่คล่อง รูปไม่ค่อยสวย ทนๆ ดูไปหน่อยเนอะ)

เท่านี้เราก็จะได้หัวประหลาดล้ำสมใจ!!!



ปลาบปลื้ม ตบมือๆๆๆๆๆ
(เพื่อนมันบอกว่า สีเหมือนนกแก้ว!! เอ้า! จะดีใจหรือเสียใจดีล่ะทีนี้!)
จริงๆ ตรงสีเขียวๆ เราลงสีน้ำเงินค่ะ แต่เพราะกัดผมรอบเดียว พื้นผมเป็นสีเหลือง (เหลือง + น้ำเงิน = เขียว)
สาวๆ ก็อย่าลืมเช็คตารางสี พวกคู่ตรงข้าม พวกผสมสีด้วยนะ จะได้ได้สีที่ตรงใจกันทุกคนค่ะ

หลังจากแว็กซ์มาได้เดือนนึง จะเห็นว่าไม่ได้ลงสีตรงผมด้านหลัง เพราะกลัวสีติดเสื้อค่ะ
เวลาสระผมนี่น้ำเป็นสีม่วงเลยนะ ผ้าเช็ดผมเปื้อนหมด จะใส่เสื้อต้องรอให้ผมหมาดๆ ก่อนนะคะ
ส่วนตอนเหงื่อออกก็มีเลอะบ้างนิดหน่อย
ขาแว่นเรากลายเป็นสีเขียวไปด้วยเลย
 
หวังว่าทุกคนคงชอบนะคะ ลาด้วยภาพพรีเซนเตอร์ของเรา
ขอบคุณมากค่ะ