ผ่า "ไฝ" ครั้งแรกที่โรงพยาบาลยันฮี EP2
Khunnu Tonkhow 3 27สวัสดีค่ะสาวๆ ... วันนี้ข้าวเอาประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้ฟังค่ะ เกี่ยวกับการผ่าตัดไฝที่โรงพยาบาลยันฮีไปฟังกันเลย
ผ่าไฝครั้งแรก ... หนูเสียวนะค่ะหมอ !!
ข้าวไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 10 โมงเช้า ก็เดินเข้าไปทำเรื่องที่เคาร์เตอร์ของโรงพยาบาล หลังจากนั้นพนักงานก็ส่งข้าวขึ้นไปชั้น 2 เพื่อไปพบแพทย์ผิวหนัง ซึ่งคราวก่อนที่มาจี้ไฝก็มาที่ชั้นนี้ซึ่งเป็นแผนกโรคผิวหนังค่ะ จนได้พบกับคุณหมอก็มีการพูดคุยกันซึ่งคุณหมอเองก็บอกว่าไฝเม็ดนี้ไม่สามารถจี้ออกได้ต้องทำการผ่าออกเท่านั้น ข้าวก็เลยถามคุณหมอถึงเรื่องของแผลเป็นเพราะข้าวกลัวมาก คุณหมอก็ถามข้าวว่าข้าวเป็นแผลเป็นง่ายไหม ? ซึ่งข้าวเองก็ไม่ทราบ คุณหมอก็เลยขอดูที่หัวไหลก็พบว่าข้าวมีแผลเป็นอยู่ คุณหมอก็เลยบอกว่าไฝอยู่ที่หน้าถ้าเป็นแผลเป็นก็อาจจะไม่ดี ก็เลยส่งข้าวไปให้หมอศัยกรรมตกแต่งจะดีกว่าเพราะแผนกศัยกรรมตกแต่งจะผ่าตัดและแต่งแผลได้ดีกว่าลดโอกาสการเกิดแผลเป็นด้วย ก็เลยส่งตัวข้าวไปที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นแผนกศัยกรรมตกแต่ง คนเยอะมาก ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะมาทำจมูกกันเยอะค่ะ นั่งรอนานมาก ๆ กว่าจะได้เข้าพบคุณหมอ คิดดูนะข้าวไปตั่งแต่ 10 โมงเช้า กว่าจะได้พบหมอก็หลังเที่ยงค่ะ และคนก็เยอะจริง ๆ พอถึงคิวพบคุณหมอก็ไม่มีอะไรมากค่ะ คุณหมอก็แค่อธิบายวิธีการผ่าตัด อาการหลังผ่าตัด และก็เรื่องของแผลเป็น ซึ่งคุณหมอรับประกันเลยว่าไม่เป็นแผลเป็นแน่นอน ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรกอาจจะมีรอยแดงอยู่เป็นรอยผ่าตัด หลงจากนั้นก็จะค่อย ๆ จางไป ข้าวก็อุ่นใจค่ะเพราะหมอบอกแบนั้น หลังจากนั้นก็ไปจ่ายเงินที่ช่องจ่ายเงิน ค่าเสียหายก็คือ 2500 บาท รวมค่ายาแล้วนะค่ะ และเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดค่ะ มีรูปไฝบริเวณที่จะทำการผ่าตัดมาให้ดูด้วยนะค่ะ
เข้าไปในห้องเตรียมตัวพยาบาลก็ให้เราใส่เสื้อคลุมแล้วก็เก็บผมใส่หมวกคลุมไว้และล้างหน้าให้สะอาด หลังจากนั้นก็พาเราไปที่ห้องผ่าตัด ขึ้นเตียง พยาบาลก็จะมามัดแขนเราไว้ทั้งสองข้าง มีผ้ามาโพกหัว ทำความสะอาดใบหน้าเราอีกที แล้วก็มีเครื่องเหมือนผ่าตัดใหญ่เลยค่ะ มีเครื่องวัดความดัน มีเครื่องวัดชีพจร เยอะจนกลัว ฮ่าๆๆๆ และพยาบาลก็จะจัดเตรียมยาชาและเครื่องมือในการผ่าตัดอื่นๆ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมากๆ น่าจะเป็นคนไข้ที่มาทำจมูกค่ะ กรี๊ดอยู่พักใหญ่ ข้าวก็นอนรอจนคุณหมอมา พอคุณหมอมาก็ไม่พูดอะไรค่ะ บอกให้เรายิ้มแล้วก็เอาปากกามาเขียนบริเวณที่จะผ่าตัด และหลังจากนั้นก็ฉีดยาชา เจ็บนะค่ะแต่ไม่มาก ชาไปทั้งเหงือกทั้งปากเลยค่ะ และหลังจากนั้นมันก็เร็วมาก คุณหมอผ่าตอนไหนไม่รู้เลยค่ะ แต่ได้ยินคุณหมอบอกพยาบาลให้ซับ ซับ เป็นระยะ และก็มีกลิ่นไหม้จากการยิงเลเซอร์ร่วมด้วย ทำแบบนี้ไปสักพักรู้ตัวอีกทีคือตอนคุณหมอเย็บแผลค่ะ ที่รู้ก็เพราะคุณหมอเอาไหมเย็บแผลมากองอยู่ที่หน้าเรา แล้วก็สั่งพยาบาลให้ตัด แล้วก็เห็นข็มที่คุณหมอถือ แล้วพยาบาลก็คอยตัด ประมาณ 4 - 5 ครั้งได้ค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็เดินออกไปเลยเหมือนทุกครั้ง เหลือแค่เรากับพยาบาลที่มาใส่ยาให้ค่ะ หลังจากนั้นพยาบาลก็พาเราไปรับยา ยาที่ได้รับมาก็จะมียาทา 1 หลอด ยากินแก้ปวดแก้ไข้ และก็ยากินฆ่าเชื้อค่ะ จากนั้นก็กลับบ้านได้ อีก 7 วัน หมอนัดตัดไหมค่ะ มีรูปแผลหลังผ่าตัดมาให้ดูด้วยนะค่ะ
ขนาดของแผลประมาณครึ่งเซ็นค่ะ อาการหลังผ่าตัดก็มีเจ็บๆแผลนิดหน่อยและก็มีไข้ในวันแรกค่ะ ไม่มีอาการปวดแผลแต่อย่างใด วิธีการดูแลคุณหมอก็แนะนำว่าอย่าให้แผลโดนน้ำ แต่พยาบาลบอกว่าสามารถโดนน้ำได้แต่ห้ามโดนสบู่หรือโฟมล้างหน้า และห้ามถูแผลค่ะ เอ๊ะ !! เชื่อใครดี ฮ่าๆๆ หลังจากนี้ภายใน 6 เดือน คุณหมอจะดูแลแผลให้เผื่อมีการติดเชื้อหรืออื่นๆโดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ราคา 2500 บาท แพงนะในความคิดข้าว แต่ก็ถือว่าซื้อความสบายใจได้ส่วนหนึ่งค่ะ ข้าวหวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับคนที่สนใจนะค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ
ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมก็ถามกันเข้ามาได้นะค่ะขอบคุณค่ะ
Comment
เขียนความเห็นได้เลยจ้า..
Recent comments ความคิดเห็นล่าสุด