ไฝ สิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ประสบการณ์จาก 2 สถาบันความงาม EP 1
Khunnu Tonkhow46สวัสดีค่ะ
วันนี้ข้าวเอาประสบการณ์การจี้ไฝมาแชร์ให้ฟังกันนะค่ะ
เผื่อสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหานี้และกำลังหาข้อมูลอยู่ หรือ สาว ๆ ที่ไม่มีปัญหา ก็เอาไว้เป็นกรณีศึกษานะค่ะ
เผื่อสาว ๆ คนไหนที่กำลังมีปัญหานี้และกำลังหาข้อมูลอยู่ หรือ สาว ๆ ที่ไม่มีปัญหา ก็เอาไว้เป็นกรณีศึกษานะค่ะ
กะเทยมี "ไฝ" ทำยังไง อย่างนี้มันต้องถอน
ประสบการณ์จี้ไฝครั้งแรกของข้าวคือตอนมอปลายค่ะ ไฝ 4 เม็ด เจ็บปวดมาก
เพราะมันเกิดขึ้นบนใบหน้า และเห็นชัด ขนาดของมันไม่เล็กเลยจริง ๆ ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ได้สนใจ แต่พอโตเป็นสาวแล้วมันก็ไม่ไหวที่จะทน ฮ่าๆๆๆ สาเหตุที่ตัดสินใจทำเพราะ ช่วงนั้นผิวขาวขึ้นมากค่ะ เพราะหน้าได้ผ่านการซ่อมมาเป็นอย่างดีแล้ว มันก็เลยทำให้ไฝแสดงตัวเด่นชัดมากขึ้นด้วย ก็เลยตัดสินใจทำเลยโดยไม่ต้องคิด ไม่ได้มีการหาข้อมูลก่อนหรือปรึกษาใครก่อนเลย เงินพร้อม ใจพร้อม ก็พุ่งตัวไปเลยค่ะ โรงพยาบาลยันฮี ซึ่งกว่าจะได้พบหมอก็ใช้เวลาค่ะ กว่าจะทำประวัติ กว่าจะต้องโทรมาหาผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองยินยอมเพราะอายุยังไม่ถึง 20 และถึงจะได้พบหมอ และพอได้พบหมอ หมอก็เริ่มต้นอธิบาย สิ่งที่จับใจความได้ตอนนั้นก็คือ สิ่งที่ข้าวมีคือ ไฝ และ ขี้แมลงวัน ซึ่งมากกว่า 4 จุด และไฝจะเริ่มปรากฎให้เห็นตั้งแต่แรกเกิด ไฝจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในวัยเด็ก และเพิ่มมากที่สุดในระยะวัยรุ่น หลังจากนั้นมักไม่เพิ่มขึ้นอีก นี่ขนาดช่วงนั้นข้าวอายุไม่ถึง 20 นะ ยังมีเยอะขนาดนี้ แค่คิดก็เศร้าแล้วค่ะ หลังจากนั้นหมอก็จะบอกว่าวิธีการมันก็จะมีทั้งการผ่าและการยิ่งเลเซอร์ซึ่งถ้าผ่าขนาดของแผลก็อาจจะกว้างกว่าขนาดของไฝ และก็จะมีการเย็บ แต่ไฝจะหายไปเลยโดยไม่ต้องกลับมาทำซ้ำ ราคาต่อจุด 1500 บาท แต่ถ้ายิงเลเซอร์ขนาดของแผลก็จะเท่ากับขนาดของไฝเม็ดนั้น ๆ แผลเล็ก ไม่มีการเย็บ และแผลก็จะหายได้ไวกว่า วิธีนี้แนะนำให้ใช้กับพวกขี้แมลงวัน จุดละ 500 บาท ซึ่งแน่นอน ข้าวเลือกการยิงเลเซอร์ โดยยิง 2 จุดด้วยกัน เลือกเอาที่เด่น ๆ ออกไปก่อนค่ะ และค่อย ๆ ทำไป เพราะหลังจากการทำนั้นแผลจะห้ามโดนน้ำ ซึ่งแผลอยู่บนหน้า และหน้าเราก็ต้องล้าง ถ้าทำพร้อมกันทั้งหน้า ข้าวคิดว่าข้าวคงไม่ได้ล้างหรือเช็ดหน้า คงต้องปล่อยให้หน้าเน่าและก็ต้องซ่อมกันใหม่ ฮ่าๆๆๆ
ขึ้นเตียง และเตรียมหน้า ทายาชา เตรียมตัวถอน
ขึ้นเตียง และเตรียมหน้า ทายาชา เตรียมตัวถอน
หลังจากที่พูดคุยกับหมอเสร็จ พยาบาลก็พาเราไปที่ห้องเตรียมตัว ซึ่งจะให้เราล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าของยูเซอริน ฮ่าๆๆๆ จำได้แม่นเลย และก็ทายาชาโดยทาทิ้งไว้และให้เรานั่งรอ สักพักก็ให้เราขึ้นเตียง ห่มผ้า และปิดตา และเหตุการณ์หลังจากนั้นมันเร็วมาก คือ ข้าวได้ยินเสียงพยาบาลจัดเตรียมของอะไรสักอย่าง หลังจากพร้อมแล้วหมอก็เดินมาจากไหนไม่รู้ เปิดเครื่อง ได้ยินเสียงดังมาก และก็เหมือนมีอะไรสักอย่างมาเป่าที่หน้าเรา ไม่เจ็บนะค่ะ เหมือนเอาลมเป่า แล้วกลิ่นไหม้ก็มา กลิ่นเนื้อย่าง เนื้อเราเนี่ยแหละ ฮ่าๆๆๆ แล้วหมอก็ถูตรงจุดที่เราได้บอกหมอว่าจะเอาออกนั่นแหละค่ะ ยิงเลเซอร์ แล้วก็ถู ซับเลือด ยิงเลเซอร์ แล้วก็ถู ซับเลือด ทำแบบนี้อยู่สักพัก ซึ่งเราไม่รู้สึกเจ็บเลย และพอเสร็จแล้วหมอก็เดินออกไปเลย พยาบาลก็ทำหน้าที่ต่อคือมาเปิดตาเราแล้วก็ทำแผลใส่ยาติดพลาสเตอร์กันน้ำบริเวณที่เกิดแผล ซึ่งแผลมีขนาดไม่ใหญ่ค่ะเป็นเหมือนแผลแกะสิวนะ แล้วหลังจากนั้นก็พาเราไปรอรับยาและจ่ายเงิน ยาที่ได้มาก็เป็นแค่ยาที่ใช้ทาบริเวณแผล ทาเช้าเย็นค่ะ ป้องกันการเกิดแผลเป็นและทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น ค่าเสียหายในวันนั้นก็จะมีค่าหมอ ค่ายา และก็ค่ายิงเลเซอร์ รวม ๆ แล้ว 1000 กว่าบาทค่ะ + - นิดหน่อย และมันก็จบไป ไม่ได้มีการกลับไปทำอีก และก็ไม่ได้มีการกลับมาขึ้นใหม่ แล้วแผลที่หมอกำชับนักหนาว่าห้ามโดนน้ำก็ไม่สามารถทำได้ค่ะ ฮ่าๆๆๆ ฉีกทุกกฏ ทุกข้อห้าม เวลาผ่านไป 2 ปี ไม่เกิดแผลเป็น แต่ก็ยังมีรอยให้เห็นอยู่บ้างจาง ๆ ถ้าไม่สังเกตุก็แทบจะไม่เห็น หรือนั่นแหละที่เขาเรียกว่าแผลเป็น ฮ่าๆๆๆ
โอ๊ยยย !! คุณพระ ไฝเก่ายังไม่หมด ไฝใหม่ขึ้นมาอีก ไม่ไหวจะทน
ตามหัวข้อเลยค่ะ ไฝนี้เกิดขึ้นเมื่อวาน สด ๆ ร้อน ๆ ส่องกระจกแล้วเห็นสะดุดตามาก ๆ แต่เธอคงจะอยู่บนหน้าฉันไม่ได้หรอกนะเพราะเธอเด่นมากจริง ๆ เช้าวันรุ่งขึ้นก็พุ่งตัวออกไปหาสถานที่กำจัด ก็ได้เข้าไปทำที่ รมย์รวินท์คลินิก ซึ่งกว่าจะหาที่ทำได้ก็ยากเพราะไม่รู้จะไปทำที่ไหนดี คลินิกเสริมความงามบ้านเราก็มีเยอะเหลือเกิน เดินไปไหนก็เจอ ขึ้นอย่างกับดอกเห็ด ฮ่าๆๆๆ ก็ตกลงทำที่นี่แหละ เพราะได้เข้าไปสอบถามพนักงานและได้พูดคุยกับคุณหมอแล้วก็ตกลงที่จะทำ ครั้งนี้ไฝสีเข้มมากคุณหมอบอกว่าอาจจะต้องมีการทำซ้ำหลายครั้งหน่อยซึ่งต่างจากครั้งแรก ๆ ที่ทำนะ วิธีการทำไม่ต่างกันค่ะ แต่ที่นี่จะใช้วิธีฉีดยาชาแทนซึ่งข้าวว่าก็ง่ายดีนะ ฉีดแล้วก็ชาเลย ถึงจะใช้ไป 2 เข็มก็ตาม ฮ่าๆๆๆ ชายากนิดนึง แต่สำหรับคนที่ไม่กลัวเข็มอย่างข้าวแล้ว สบายมาก เพราะกะเทยผ่านเข็มมามาย ฮ่าๆๆๆ ไม่เจ็บหรอกค่ะ หลังจากนั้นวิธีการทำเหมือนกับยันฮีเป๊ะ กลิ่นไหม้ วิธีการ ยิง ถู ซับ ยังเหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ดีกว่านิดนึงคือคุณหมอมีเวลาให้เราได้สอบถามอะไรมากกว่า ซึ่งคุณหมอก็แนะนำได้ดีมาก มีรูปหลังทำมาให้ดูด้วยนะค่ะ
พลาสเตอร์นี้ข้าวแปะเองนะ ดูไม่เรียบร้อยไปสักหน่อย เพราะที่พยาบาลแปะให้ข้าวแกะออกเพราะข้าวอยากเห็น ฮ่าๆๆๆ หน้าก็สดมากจริง ๆ ไม่ได้แต่งหน้า แนะนำนะค่ะ ถ้าจะทำ ไม่ต้องแต่งหน้าไปนะค่ะ เพราะยุ่งยากในการล้างค่ะ
ส่วนไฝอีก 1 เม็ดที่เห็นข้าง ๆ นั้น สงสัยคงต้องผ่าเพราะหมอแนะนำอย่างนั้น เพราะถ้าใช้การยิงเลเซอร์คงจะต้องทำหลายครั้ง ซึ่งผ่าดีกว่า ฮ่าๆๆ และสิ่งที่สำคัญก็คือห้ามโดนน้ำ ซึ่ง !! ข้าวทำไม่ได้หรอกค่ะบอกเลย เพราะจะให้เช็ดหน้าแทนล้างข้าวคิดว่ามันไม่ค่อยสะอาด เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ ก็ตามนั้นเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ ส่วนยาที่ให้มาก็เหมือนกัน ทาเช้าเย็นค่ะ มีรูปมาให้ดูด้วยค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังการทำนะค่ะ คือ เลี่ยงการโดนน้ำประมาณ 5 - 7 วัน ถ้าโดนน้ำให้เป่าให้แห้งแล้วทายาฆ่าเชื้อ ทายาเช้าเย็น การทำความสะอาดก็ให้ใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วเช็ดทำความสะอาดได้ ไม่จำเป็นต้องแปะพลาสเตอร์เมื่ออยู่บ้านเพราะจะทำให้เกิดการอับชื้นแต่ถ้าออกไปนอกบ้านก็ควรปิดเนื่องจากอาจจะเจอฝุ่นและความสกปรกได้ แผลจะเป็นสะเก็ดประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ ห้ามแกะเพราะอาจจะทำให้เกิดแผลหรือรอยคล้ำแดงได้ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยเฉพาะ 2 อาทิตย์ - 1 เดือน เพราะอาจจะทำให้เป็นแผลรอยดำได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ข้าวก็หวังว่าประสบการณ์ของข้าวน่าจะมีประโยชน์กับใครหลาย ๆ คนนะค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดข้าวก็ขออภัยด้วยนะ และสามารถติดตามตอนที่ 2 ได้นะค่ะแต่อาจจะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์การผ่าก่อนแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ ขอบคุณทุกคนนะค่ะที่เข้ามาอ่านกัน อาจจะยาวไปสักหน่อย พยายามย่อแล้วนะจริง ๆ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณค่ะ
Discussion (6)
ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ ^^
555 ค่ะ พรุ่งนี้กำลังจะไปผ่าไฝที่ยันฮี เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังนะค่ะ กลัว ๆ ๆ ไม่ได้กลัวเจ็บนะ แต่กลัวเป็นแผลเป็น ฮ่าๆๆๆ
ไปครั้งแรกก็เสียประมาณ 800 อ่ะค่ะ ไม่ใช่ราคาต่อจุดนะ รวมค่ายาด้วย ยาชาและยาทา หลังจากนั้นราคาก็จะลดลงเมื่อทำครั้งต่อไปค่ะ ลองเข้าไปสอบถามก่อนก็ได้ค่ะ