[Review] >>เรียงความผลการใช้ Retin A (ไม่มีรูป)

ไม่พูดพร่ำทำเพลงเยอะ เริ่มเลย

(ขอโทษที่ไม่มีรูปก่อนใช้และหลังใช้ให้ดูค่ะ เนื่องจากรูปที่ถ่ายไว้หายกำลังหาวิธีกู้คืนอยู่ค่ะ)
มันยาวไปนิด  อ่านที่ ไฮไลท์สีไว้ได้เลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา

อาการก่อนใช้ (จิ้นตามเอานะคะ)

หน้าผาก สิวอุดตันหัวแข็งๆดำๆ เต็มหน้าผาก ชอบแกะๆเขี่ยๆ หัวหลุด เป็นแผลดำ

แก้มขวา ช่วงหน้าแก้ม สิวอักเสบปูดๆ หัวปิดบ้าง ระเบิดบ้าง แต่สำคัญคืออักเสบ บวม เจ็บ ระบม แกะทีหนองกระจุย

แก้มซ้าย สิวอุดตันที่พอบีบออกมามีขาวๆออกมาเป็นเส้นๆ มองเิผินไกลไม่เห็นแต่เอามือลูบๆดูจะรู้ว่าไม่เรียบบีบออกมามีทั้งหัวอ่อนและหัวแข็ง อยากบอกว่ามันส์มากเวลาบีบ

สรุปคือเราเป็นแบบนี้อยู่ 3 เดือน จากที่ไม่เคยเป็นสิว หน้าใส มาตลอด 3 ปี อยู่ดีดีก็เป็นแบบหาสาเหตุไม่ได้ เศร้าและเครียดมาก เจอใครมีแต่คนถาม ว่าไปทำอะไรมาสิวเยอะจัง

การรักษา ทำทุกวีถีทางค่ะ ยกเว้นหาหมอ ยาแต้มสิวเกือบจะซื้อทุกยี่ห้อที่ว่าดี แต่ยิ่งทายิ่งอักเสบ อักเสบและเจ็บ ไอที่อุดตันก็อุดอยู่ยังงั้น ไอที่อักเสบก็มี 2-3 หัวหนองอยู่ในสิวอันเดียว เจ็บระบมมาก(รอหายดีจะรีวิวใหญ่เรื่องการรักษาค่ะ)
  มาถึง ฮีโร่ ของงานนี้
Retin A (หลายคนคงเคยใช้หลายคนคงกล้าๆกลัวๆอยู่) เริ่มใช้เมื่อวันที่ 19/1/2013 ตอนที่ใช้บนหน้ามีทุกสิวที่บอกไปตอนแรก

ความรู้สึกก่อนใช้ : รู้สึกว่ามันแรงไม่กล้าใช้ ดูรีวิว คนอื่นใช้แล้วสิวเห่อ หน้าไวต่อแดดหน้าไหม้อีก รับไม่ด้ายยยยยยยย
ยอมรับว่าดูรีวิวและหาข้อมูลเยอะมาก

เหตุผลที่ตัดสินใจใช้ : ได้ติดตามเพจของคุณกุ้งอินเตอร์ มีคนถามเรื่องนี้กับเค้าเยอะพอสมควร อ่านคำตอบที่เค้าตอบๆคนอื่น (เราไม่เคยถามเองหรอกเพราะคนอื่นถามกันเยอะแล้ว) แล้วเคลียร์นะ เข้าใจง่าย รู้ว่ามันมีข้อดีข้อเสียยังไง
เลยลองซื้อมา ฉลากที่อยู่ในกล่องก็อธิบายชัดเจนนะ เรื่องสรรพคุณ

หลอดแรกที่ลองใช้
แบบครีม ความเข้มข้น 0.025 ซื้อจากร้านขายยากรุงเทพ 24 ชั่วโมง ราคา 100 บาท ลองเริ่มจากน้อยๆก่อน
วิธีใช้ : ทำตามในฉลากเป๊ะๆ คือทาตอนที่หน้าแห้งสนิท ก่อนนอนทุกวัน ตอนเช้าทากันแดดก่อนแต่งหน้า (แต่เราลืมทากันแดดบ่อยมากๆ เพราะชีวิตประจำวันเราไม่ทากันแดด) และเว้นบริเวณที่อักเสบ หัวที่อักเสบเราจะบีบ แล้วเอาผงพิเศษอุดไว้แล้วใช้แผ่นซับสิวแปะไว้ พอแผลหายค่อยทาเรตินเอทับลงไป
 
หลังใช้หมดไป 1 หลอด ประมาณ 3 เดือนกว่าๆ  ต่อด้วยหลอดที่ 2 เพิ่มความเข้มข้นเป็น 0.05 ซื้อร้านเดิม 120 บาท
ปัจจุบันหลอดที่ 2 ยังไม่หมด และเปลี่ยนเป็นทาก่อนนอน วันเว้นวัน (ปัจจุบันยังใช้อยู่) รวมระยะเวลาประมาณ 4 เดือนกว่าๆ

หน้าผาก : สิวหายหมดเลย เรียบขึ้น แต่เหลือรอยแผลเป็นจางๆ ถ้าไม่นับรอยแผลเป็นที่เหลืออยู่ เราถือว่ามันให้ผลดี 100%

แก้มขวา : หัวไหนมีหนองเอาหนองออก บีบให้หนองทะลัก รอแผลแห้งใกล้ตกสะเก็ดทาทับลงไป สะเก็ดนุ่ม จะลอกเป็นแผ่นๆ แผลเป็นไม่นูน ส่วนแผลเป็นนูนๆ ก็เรียบขึ้น คือเรียบจนพี่ที่ออฟฟิสตกใจว่า ที่ปูดๆอยู่หายไปเยอะมาก ดีใจด้วย ทีเหลือคือรอยดำจางๆ ถ้าแต่งหน้าลงรองพื้นดีดีก็มองไม่เห็น เราให้ 100% เหมือนกัน

แก้มซ้่าย : ที่อุดตันอยู่กลายเป็นอักเสบทะลักออกมาเยอะมาก แต่เราไม่กังวล เพราะในฉลากบอกไว้ว่ามันคือการทำงานของตัวยา เหลือแค่รอให้มันหาย ตอนนี้แผลเริ่มแห้ง สิวอุดตันระเบิดออกมาหมดแล้ว เหลืออีก 20% ก็จะเท่าแก้มขวา

อาการข้างเคียงที่เคยกังวล
1.สิวจะเห่อ : เกิด แต่ไม่ซีเรียสเพราะในฉลากบอกว่าเป็นการทำงานของยา ให้ใช้ต่อไปเรื่อยๆจะหาย มันจริง
2.หน้าจะไว้ต่อแดดอาจทำให้หน้าคล้ำขึ้น : ไม่เกิด สีผิวยังเท่าเดิม เหมือนจะดีขึ้นด้วยซ้ำ แม้ไม่ค่อยทากันแดด ส่วนนึงคิดว่า การทาตอนหน้าแห้งสนิทช่วยได้
3.หน้าแห้ง : เกิดบริเวณมุมปาก ซอกข้างจมูก และบริเวนแผลสิว จะลอกๆ แสบๆ ตอนเช้าๆต้องโบกครีมบำรุงเยอะหน่อย

ลืมบอกว่า 0.05 หน้าลอกแรงมาก แต่สิวหายไวกว่า ตอนนี้เลยใช้วันเว้นวัน ถ้าหมดคงกลับไปใช้ 0.025 เหมือนเดิม เพราะทาเหมือนทาครีมปกติก่อนนอน ไม่ค่อยมีผลไรมาก แต่คงทาแค่วันเว้นวันพอค่ะ คงใช้ๆไปเรื่อยๆแต่จะลดความถี่ในการทาเอาค่ะ และตลอดเวลาที่ทาครีมก็มีสิวฮอร์โมนขึ้นตลอดนะคะ อันนี้เป็นเพื่อนซี้เรา แต่มันหายเร็วขึ้น

 

** ที่ชอบสุดๆและรู้สึกว่ามันเป็นฮีโร่สำหรับชีวิตสิวของเรา คือ สิวหายไว   ทำให้หน้าเราเรียบเนียนขึ้นมาก มากๆ
ผิวดูกระชับละเีอียดขึ้น แผลเป็นปูดๆก็หาย รอยก็จางลงเร็วมากๆ มันฟินมากๆสำหรับเรา เดี๋ยวนี้ล้างหน้ามา ดูผิวเงาๆ ตอนนี้รออีก 20% ของแก้มซ้ายเท่านั้น ค่ะ ก็จะไม่มีสิวแล้ว ทีเหลือรักษารอยกันต่อไปค่ะ ดีใจมากที่มันหายไป และค่อยๆดีขึ้น ความมั่นใจเวลาแต่งหน้าเริ่มกลับมาแว้ววววววว


หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่หาข้อมูลอยู่ บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ  นี่คือผลที่เกิดกับเราจริงๆ ยังไงก็ต้องลองเทสดูก่อนว่าตัวเองแพ้รึป่าว เพราะหลายคนใช้แล้วก็ไม่เวิร์คค่ะ