ความคุ้มทุนทางเศรษฐศาตร์ของ Cosmatic

39 25
คนที่่มีเงินเหลือกินเหลือใช้อย่ามาอ่านเลยครับ พาลจะทำให้ท่านหงุดหงิดเปล่าๆ


สวัสดี ครับ 

เห็นหัวข้อกระทู้อย่างเพิ่งถอนหายใจกันนะครับ หลายคนคงคิดว่า นี่คงเป็นกระทู้ การขายของหรือ         การขายตรงหรือไม่ก็คิดว่าเป็นกระทู้เรื่องยากๆ ขอบอกก่อนครับว่า


ไม่ใช่อย่าที่ท่านคิด


หลายคนๆ คงคิดว่าการรีวิว จำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์ว่าดียังงั้น หรือ มีข้อเสียอย่างไร
วันนี้ ผมขอ รีวิว
ผลิตภัณฑ์ความงามในมุมที่แตกต่างออกไปครับ

มนุษย์เงินเดือน อย่างเราๆ(เจ้าของกระทู้ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนครับ) การบริหารจัดการเงินนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการดำเนินชีวิต แหละหนึ่งในปัจจัยที่เป็นรายจ่ายทุกเดือนคงหนีไม่พ้น ของจำพวกเครื่องประทินผิว  ท่านเคยได้ลองคำนวนราคาต่อระยะเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์บ้างไหมครับว่าสินค้าที่ท่านซื้อมามีระยะเวลาการใช้งานเท่าไรถ้าเทียบกับราคา

วันนี้ผมขอ แชร์ ประสบการณ์การจัดสันปันส่วนเงินเดือน ในเรื่องเครื่องสำอางครับ




ดังข้อมูลที่ปรากฏในตาราง ผมได้ลงข้อมูล ราคาสินค้า ระยะเวลาที่ใช้สินค้า ราคาต่อวันและราคาต่อเดือน จะเห็นได้ว่าสินค้าแต่ละตัวมีระยะเวลาการใช้ที่แตกต่างกัน เมื่อคำนวนเรียบร้อยเบ็ดเสร็จ ราคาที่ต้องจ่ายต่อเดือนคือ

 

2300 บาท    (เฮ้อ.......น้ำตาจะไหล ครับ)

ดังนั้นผมจะต้องเก็บเงินเดือนไว้อย่างน้อย 2000 บาทครับ เพื่อใช้จ่ายในรายจ่ายส่วนนี้ (ไม่ได้ซื้อ 2000 ทุกเดือนน่ะครับ ของบางอย่างมันก็ไม่หมด) ราคาสินค้าที่นำมาคิด เป็นราคาปกติที่ไม่มีโปรโมชั่นใด้ๆ น่ะ ครับ และระยะการใช้จิงๆต้องขึ้นอยู่กับปริมาณ"หน้า"ด้วยว่า"ใหญ่"แค่ไหน 555
จิงๆ เจ้าของกระทู้ ก็ หน้าใหญ่ใช่เล่นไปดูหน้ากันได้ที่ FB เลยครับ
-- ลบลิงค์โดย แอดมิน --

นอกจากนี้ นะครับผมมีหลักการซื้อของว่า
จะยอมจ่ายราคาแพงกับสินค้าที่มีระยะเวลาการใช้ที่นาน เนื่องจากเวลาที่เรา คำนวนออกมาราคาต่อหน่วยจะถูกครับ ในทางตรงกันข้าม ของที่ใช้หมดเร็วจะต้องมีราคาถูกครับ 

ยกตัวอย่าง
Eye cream ผมยอมลงทุน เพราะระยะเวลาการใช้เกือบปี ครับ 

ด้วยความปราถนาดี ผมคิดว่ากระทู้ น่าจะเป็นการรีวิว ที่ทำให้ คนที่มีเงินจำกัดสามารถ บริหารการเงิน ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนน่ะ ครับ 
มีข้อสงสัยก็ ถามกันได้ น่ะครับ ^^


Wattana

Wattana

ชื่อบีปัจจุบันเป็นอาจารย์และนักศึกษาป.โทที่สจล. ครับ

FULL PROFILE