[มหากาพย์ศาสตร์แห่งความงาม] >> มหากาพย์ Review : SK-II Facial Theatment Essence
Jimmy Phenomenon 16 7
ช่วงเวลา ม.6 เป็นเวลาที่ผมกับเด็กผู้ชายในวัยเดียวกันเกือบทุกคนต้องทำการเรียน รด.
เพื่อหนีทหารเอ้ย ไม่ใช่เพื่อเป็นกำลังพลสำรองต่างหาก (อิอิ) แม่เจ้าอะไรกันวะเนี่ย แดดก็แรง
เรียนตอนเที่ยง ๆ อีกตายแน่ ๆ ตู แถมยังเข้าค่าย รด อีกตั้ง 5 วัน แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ด้วยความที่เป็นคนผิวดีไม่ค่อยมีปัญหาอะไรอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้ดูแลตัวเองเลยแต่ตัวเองเลย
ทำให้เวลาสิวขึนที หรือคล้ำขึ้นนิดหน่อยคนอื่นจะมองออกได้ชัดมาก
หลังจากจบหลักสูตร รด ทุกสิ่งอย่างก็อยากจะหาอะไรมาบำรุงให้มันดีขึ้นหน่อยเหลือบ
ไปเห็นโฆษณา SK-II Miracle water ในทีวี เห้ยอยากได้ว่ะ ตอนแรกก็นึกว่าราคา
ประมาณ Olay พอเสริชในเน็ตเท่านั้นแหละ หงายท้องเลยจ้าา
ตอนแรกก็ไปเจอร้านร้านนึงเค้าบอกว่าเป็นของประมูลมาจากสนามบิน เห้ยมี SK-II ด้วยอะ
เลยจัดการสอยมา ตอนนั้นเป็นตัว Repair C พอมาเสริชในเน็ตก็หงายท้องอีกรอบ เพราะว่าที่
ซื้อมามันเป้นของปลอมอ่าดิ T^T
พอขึ้นปี 1 ก็ได้ไปเจอพวกร้านขายที่พอจะไว้ใจได้ น่าเชื่อถือเลยซื้อตัว 30 mL มาใช้ก่อน
ตัวผมเองใช้เฉพาะก่อนนอน ตอนเช้าจะทาแต่ครีมที่ราคาไม่แพง 30 ml ของผมนั้นอยู่ได้
เกือบ ๆ 3 เดือนเลยนะแต่เห็นผมตั้งแต่ 1 - 2 สัปดาห์แรกแล้วล่ะ (แค่นั้นก็โคตรดีใจแล่ววว)
หลังจากนั้นก็จัดการซื้อไซ์จริงมาเลย คิดไปคิดมาเลยซื้อ 150 ml และกันเพราะว่า
75 ml ถ้าซื้อตามเว็บหรือนอกชอปมันจะแพงกว่าไซส์ 30 (หมายถึงคิดราคาว่ากี่บาทต่อ 1 mL)
แต่ถ้าซื้อในชอปก็คุ้มอยู่เพราะว่ามีจัดเซตให้
ขวด 150 mL ที่เห็นข้างบนเหลือประมาณ 1 ใน 3 ใช้เฉพาะตอนเย็นใช้มา 9 - 10 เดือนได้
ถ้าใช้จนหมดขวดน่าจะใช้ได้ประมาณ 15 - 16 เดือน หรือถ้าใช้เช้าเย็นก็ประมาณ 8 เดือนซึ่ง
ผมเองก็งงเหมือนกันว่าทำไมเค้าใช้เช้าเย็น 4 - 5 เดือนก็หมดขวดแล้ว แต่ผมนี่ใช้นานมากกกก
............................
วิธีการให้คะแนน
Review คือส่วนของคะแนนที่ให้ตามเนื้อผ้าไม่มีความชอบมาเกี่ยวแบ่งเป็น
1.ส่วนผสม
ให้คะแนนตามส่วนผสมที่มีอยู่ในสกินแคร์ตัวนั้น ๆ ไม่สนเรื่องราคา ไม่สนว่าตัวเองใช้แล้วแพ้รึเปล่า
หรือว่าชอบรึเปล่า ซึ่งจะถ่วงคะแนนมากที่สุดคือ 40 %
2.ผลลัพธ์
ให้คะแนนตามผลลัพธ์หลังจากที่ได้ใช้ว่าดีขึ้นมาน้อยขนาดไหนเพราะว่าบางที
ส่วนผสมดีแต่ว่าเค้าอาจให้มาในปริมาณทีน้อยเมื่อนำมาใช้จริงแล้วกลับไม่ค่อย เห็นผลอะไร
ซึ่งคะแนนในส่วนนี้จะถ่วงรองลงมาคือ 30 %
3. ความคุ้มค่า
สกินแคร์บางยี่ห้อที่มีราคาแพงแต่ส่วนผสมนั้นสามารถหาได้จากในผลิตภัณฑ์ตัว อื่น ๆ
ที่มีราคารองลงมาหรืออาจถูกกว่ามากไปเลยก็ได่ ความคุ้มค่าอาจหมายถึงราคาต่อปริมาณด้วยเพราะว่า
บางอย่างมีราคาแพงแต่ให้ใน ปริมาณที่เยอะก็ยังถือว่าคุ้มค่าอยู่ ถ่วงคะแนน 20 %
4. บรรจุภัณฑ์/ เนื้อผลิตภัณฑ์
สกินแคร์บางชนิดดีทุกอย่างทั้งในเรื่องของส่วนผสม ราคา แต่ว่าเนื้อผลิตภัณฑ์นั้นทาแล้ว
รู้สึกไม่สบายผิวมากหรือว่าบางทีทาไปแล้ว ซึมช้าต้องรอเป็นชั่วโมงถึงจะสามารถทาบำรุงตัวต่อไปได้
บรรจุภัณ์ที่ไม่เหมาะสมก็มีผลต่อความเสถียรของสารเช่นกัน
ทั้งสองอย่างนี้ถ่วคะแนน 10%
Favorite Grade
คือ คะแนนทีให้ตามความชอบ บางอย่างส่วนผสมธรรมดามากก แถมยังแพงอีกแต่เมื่อใช้แล้วชอบ
ใช้แล้วถูกกับหน้าคะแนนในส่วนนี้ก็จะสูงสวน ทางกับคะแนนรีวิวก็ได้
สำหรับ Favorite Grade จะให้เป็นเกรด เช่น A B+ B B- C +.... เป็นต้น
..................................................
Review Score
วิเคราะห์ตามความเป็นจริง
ส่วนผสม (40%) : 5/10
Saccharomycopsis Ferment Filtrate (Pitera), Butylene Glycol, Pentylene Glycol,
Water, Sodium Benzoate, Methylparaben, Sorbic Acid
ส่วนผสมที่มี Pitera มาสูงถึง 95 %และนอกจากพิเทร่าแล้วมันไม่มีอะไรเลยจริงอยู่ครับที่ว่า
เจ้า SK-II Facial Theatment Essence หรือน้ำป้าเจี๊ยบตัวนี้ มันไม่มีอะไรเลยนอกจากพิเทร่า
แต่ก็อย่างว่ามันหาจากที่ไหนไม่ได้นี่นา และยีสต์ก็ได้รับการรองรับในปัจจุบันแล้วว่าช่วยเรื่องความกระจ่างใสได้
เรื่องการผลัดเซลล์ผิวนั่นก็ถือว่าเป็น Natural Peeling เป็นการผลัดเซลล์ผิวที่มาจาก
ธรรมชาติไมได้ใช้สารเคมี และยังทำให้หนังหน้าเราชุ่มชื้นได้ (แต่ใช้แล้วหน้าแห้งจะเหมือนว่า
ใช้แล้วมันจะสดชื้นไรงี้) ถึงแม้จะชอบเจ้าตัวนี้มากแค่ไหนก็คงให้คะแนนในส่วนผสมนี้
ไป 5 และกันนะครับ
ผลลัพธ์ (30%) : 9.75/10
จากสภาพหน้าที่เรียกได้ว่าหมองและคล้ำมาก หลังจากได้ใช้ไปมันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ที่
ไม่ให้เต็มเพราะว่าเมื่อใช้ไปได้ซักพักมันจะเริ่มคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเท่าตอนแรกแต่ยังไงมันก็ดีขึ้นอยู่บ้าง
มันไม่ได้ขาวขึ้นเหมือนกับพวกอาร์บูติน แต่มันดูใสขึ้น อธิบายไม่ถูก
อาจเป็นเพราะผมไม่เคยผลัดเซลล์ผิวเลยมั้ง ตอนนั้นใช้คู่กับ AHA ลงน้ำป้าเจี๊ยบ ทา AHA
แล้ว นอนใช้แค่นั้นจริง ๆ ใสขึ้นมาก แต่ตอนนี้ใช้คู่กับฮาดะก็ดูใสแบบอิ่ม ๆ สุขภาพดี
หน้าไม่แห้งเกินไปด้วยล่ะครับ
ความคุ้มค่า (20%) : 7/10
ผลลัพธ์ที่ได้ บวกกับการที่ตัวผมเองใช้เจ้าน้ำป้าเจี๊ยบตัวนี้ขวดนึงตั้งเกือบปีครึ่งถึงจะหมด
แต่คะแนนที่ได้ก็คงหักลบกับราคาที่แพงกว่าเครื่องสำอางค์ที่มียีสต์เป็นส่วนประกอบหลัก
(แต่ไม่ใช่Pitera นะ) อยู่หลายขุม คะแนนเลยออกมาอย่างที่เห็น
บรรจุภัณฑ์ + เนื้อผลิตภัณฑ์ (10 %) : 8.5/10
ขวดแบบเทอย่างนี้ใช้ยากไปหน่อย แค่ด้วยความที่เป็นน้ำลิควิดเลยไม่มีปัญหาที่จะลงบำรุง
ตัวต่อไป จริงอยู่ที่อาจมีผลกับคนหน้แห้งบ้าง (แต่ยังไงก็ลงบำรุงตัวอื่นตามอยู่แล้วหนิ)
ถ้ามีแบบขวด Dropper มาคงจะดีกว่านี้ และด้วยความที่เป้นขวดแก้วทำให้้เวลาเทมันไม่ค่อย
สะดวกสักเท่าไหร่ (แต่ได้ข่าวว่าเปลี่ยนเป็นพลาสติกแล้ว ถ้าเป็นขวดพลาสติกให้ 9/10)
คะแนนรวม 71.75% (ขวดเป็นพลาสติกเพิ่มคะแนนบรรจุภัณฑ์ให้เป็น 72.25%)
............................................
Favorite Grade : A
ถึงแม้ว่าจะได้คะแนนรีวิวไปไม่สูงมากแต่ถ้าถามว่าความชอบสูงมากมั๊ย บอกได้เลยว่า
ชอบมาก เอา A ไปเลยสำหรับตัวนี้ ใช้มันทุกวันใช้ต่อจากโทนเนอร์ วันไหนโทรมมากหน่อยก็ใช้
มากหน่อยตื่นมา ใสปิ๊ง ๆ และยังสามารถเอาไปทาใต้ตาได้อีก บวกกับความที่ตัวผมเองไม่ได้แพ้
Pitera ด้วยแหละ ตัวนี้ไม่ใช่แค่ Favotire Of The mount หรือ Of the year แต่มันคงเป็นแนว
พวก I Would Purchased หรือที่เค้าฮิตเรียก ๆ กันว่า Item ที่หมดแล้วต้องซื้อมาใช้ใหม่ ต้องมี
ติดตัวไปตล๊อด ตล๊อด
...................................................
สำหรับใครบางคนคงเคยเห็นรีวิวนี้กันบ้างแล้วนะครับเคยเอาไปลงในบลอคส่วนตัวไว้ แต่ผมคิดว่าเมันเป็นประโยชน์กับ
เพื่อน ๆ ในเว็บจีบันนี้พอสมควรเลย
สุดท้ายนี้ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับในจีบันรีวิวนี้เป้นรีวิวแรกเลย ชอบไม่ชอบก็บอกกันได้นะครับ
Jimmy Phenomenon by Jimmy Return
สำหรับวันนี้ "สวัสดีครับ"