[Re'View] มหกรรม Makeup Remover ที่คอนโด

สวัสดีครับพอดีวันนี้เป็นวันเสาร์ว่างๆ เลยอยากมานั่งแหมะเขียนรีวิวร่ายกาพย์ยาวๆนิดนิดซึ่งวันนี้พีทก็ได้นำMakeup Remover ที่อยู่ในคอนโดทั้งหมดมารวมกันแล้วก็ทำรีวิวให้ดูตั้งแต่เช้า จนเย็นซึ่งอัพโหลดคลิปนานมากเลยทีเดียวซึ่งพีทก็มารีวิวให้ทั้งแบบคลิปและแบบภาพอีกเช่นเคยนะครับ ซึ่งบอกก่อนว่าMakeup Remover วันนี้มีทั้งแบบถูกจนแบบแพงมาให้เพื่อนๆได้ดูกันทีละตัวแบบเห็นกันจะจะไปเลย เป็นอย่างไรนั้นเราก็ไปดูกันครับ

ซึ่งคลีนซิ่งที่ผมจะนำมารีวิววันนี้มีอยู่ 7 ตัวด้วยกันครับมีทั้งของแถมจากการซื้อเครื่องสำอางและขนาดจริงที่สอยมาเองทั้งถูกและทั้งแพง  ทั้งแบบน้ำ แบบ เจล แบบครีมมีครบเลยจ้าแต่ที่พีชชอบแล้วกรี๊ด!!มีอยู่เพียง 2 ตัวเท่านั้นซึ่งสองตัวนั้นคืออะไรก็ลองติดตามอ่านด้านล่างเอาละกันก่อนอื่นเรามาดูกันดีกว่าว่าMakeupRemover ที่ใช่มีอะไรบ้าง

1.SK II Facial Gentle Cleansing Cream

2.Chanel Le' Blanc

3.Chanel Eau Douceur

4.Dove Oil Moose

5.Biore Cleansing Oil

6.Bioderma Sensibio

7.Bifesta Sebum Cleansing Lotion

ชิ้นที่1 SK II Facial Gentle Cleansing Cream: เป็นครีมล้างเครื่องสำอางของSKII ที่มีส่วนผสมของพิเธร่า อยู่นิดหน่อยอะนะ อันนี้เป็นกระปุกเล็กซึ่งกระปุกจริงก็ใหญ่อยู่ประมาณ100กว่ากรัม สองพันนิดนิด(แพงอยู่นะสำหรับผม)ซึ่งด้านในจะเป็นครีมขาวๆ ข้นเลยหล่ะอยู่ภายในมีความมันอยู่พอสมควร รู้สึกเวลาใช้มันจะหนักๆหน้านิดหน่อย

โดยผมจะเอามาเทสกับเจลไลน์เนอร์ของเมเบอร์ลีนนะครับ ซึ่งก็ลองวนและถูไปนวดนวดซึ่งบอกเลยมันไม่ค่อยออกเท่าไหร่สำหรับการล้างเครื่องสำอางค์ที่ทนน้ำ (แต่แค่รองพื้น หรือเบสธรรมดาล้างออกนะครับ) และล้างจากเราเช็ดออกดูก็สังเกตุได้ว่าล้างออกไม่ค่อยหมดซึ่งผมรู้สึกว่าเก็บเงินสองพันกว่าบาทนี้ไปซื้อคลีนซิ่งดีดีในราคาถูกได้หลายขวดเลยทีเดียวหล่ะซึ่งผมให้คะแนน 6/10ครับ ทั้งมันเหนอะหนะ แพงทำความสะอาดไม่หมดเอาไปแค่นี้พอ

ชิ้นที่2 Chanel Le'Blanc : เป็นคลีนซิ่งเจลจากชาแนลขนาดทดลองได้มาตอนซื้อรองพื้น(นานมากและ) แต่ยังเหลือเหลือเลยเก็บเอามาทำรีวิวให้เพื่อนๆดูครับเป็นเนื้อเจลใสใสที่ช่วยลดการเสียดทานจากการทูของฝ่ามือกับใบหน้าได้ขนาดจริงไม่แน่ใจว่ากี่กรัมแต่ราคาอยู่ที่ประมาณ1500บาทครับ(แพงอยู่สำหรับผมนะ) แต่มันเป็นรองพื้นที่เรียกว่าเป็นระดับ HighEnd ใช้แล้วดูหรูอย่างเดียวซึ่งมันก็นะไร้สาระเกิน ถ้าจะใช้คลีนซิ่งเพราะเหตุผลว่า"มันหรู"

เพราะเมื่อทดสอบกับเจลไลน์เนอร์แล้วมันก็ล้างออกได้เยอะนะครับ แต่มันก็ยังล้างได้ไม่ดีขนาดที่หายไปได้หมดนะครับยังเหลือคราบอยู่บ้างและติตรงที่กลิ่นเพราะว่ามันมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ขอชาแนล บางคนอาจฉุนได้ก็มีนะจ๊ะ โดยรวมผมให้ 8/10ครับหักที่ราคาแพงเกินและ ล้างยังสะอาดได้ไม่ดีพอเท่าที่ควรครับ

ชิ้นที่3 Chanel Eau Douceur : เป็นคลีนซิ่งวอเตอร์ของชาแนล(ได้ตัวทดลองมาตอนซื้อ แป้งแมทลูมิแอร์)เป็นที่ล้างเครื่องสำอางเนื้อน้ำ ที่ต้องเทใส่สำลีขนาดจริงใหญ่อยู่ราคาก็ประมาณ1500 มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณืของชาแนลเช่นเดิม ซึ่งชีก็บอกเหมือนเดิมว่าไม่ใช่น้ำหอมนะคะ แต่เป็นกลิ่นของสารสกัดจากธรรมชาติของชาแนลซึ่งผมก็ให้เพื่อนๆก็พิจารณากันดูละกันครับว่ากลิ่นนั้นมันถือเป็นน้ำหอมหรือไม่ สำหรับผมมันคือน้ำหอมอย่างนึงนี่แหละครับ

เวลาเช็ดก็เทใส่สำลีพอประมาณแบบแปะไปบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดและค่อยๆเช็ดจากด้านในออกไปด้านนอกนะจ๊ะ ซึ่งมันสามารถทำความสะอาดได้ดีกว่าเจลนะในความคิดเห็นส่วนตัวและมันให้ความรู้สึกสดชื่นไงไม่รู้ ซึ่งผมให้คะแนน8/10หักที่มันมีกลิ่นของน้ำหอม(จากธรรมชาติ)และราคาที่แพงเกินความจำเป็นครับ

ชิ้นที่4 Dove Oil Moose : เป็นคลีนซิ่งออยแบบมูสของโดฟที่ข้างในเป็นน้ำมันแต่ปั๊มออกมาแล้วเป็นฟองมูสขาวๆน่ากิน ไม่มีน้ำหอมเจือปนราคา 350กว่าบาทซื้อได้จากวัตสันนะจ๊ะ ซึ่งบางทีมันอาจมีโปรโมชั่นลดราคาด้วยนะจ๊ะ แต่พีทใช้แล้วแสบหน้าเลยโยนให้แม่ใช้จนใกล้หมดเนี่ยแหละ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่อ่ะนะ=w=

เมื่อลองวนวนดูอายไลน์เนอร์เราค่อยๆหายไปกับโฟมอันนี้ ซึ่งทำความสะอาดได้ดีทีเดียว มิน่าแม่เราถึงชอบ(แต่พีทใช้แล้วแสบหน้า) เมื่อเช็ดออกมันก็สะอาดดีในระดับนึงและราคาน่าคบหาด้วยครับผมให้คะแนน 8/10 ครับหักที่มันแสบหน้าสำหรับผม เวลาใช้ต้องบีบเยอะแลดูเปลืองเลยขอหัก ^^

ชิ้นที่5 Bioderma Sensibio : เป็นคลีนซิ่งเนื้อน้ำใสใส(น้ำอัมฤทธิ์จากฝรั่งเศสเชียวนะเธอ) ที่ราคาที่นู่นขาย350-500ML แต่เมืองไทยอัพราคา1250- 500ML แพงไปนะบางทีซื้อหิ้วก็ยังแพง750บาทแงแง แต่เอาเถอะค่าขนส่งค่าอ่ะไรรให้อภัยแต่ที่วัตสันไม่ให้อภัยจริงๆ น้ำฝรั่งเศสนี่ไม่มีกลิ่นไม่มีสี ไม่มีสารกันเสียจึงปลอดภัยแม้แต่คนที่แพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ และที่สำคัญพีชใช้แล้วรู้สึกว่าสิวผดได้ลดจางลงไปด้วยนะ (ปลื้มมมม)

เรามาลองดูดีกว่าว่ามันทำความสะอาดได้ดีไหมอันนี้ก็ทดสอบกับเจลไลน์เนอร์เช่นเดิมนะครับสรุปว่า เช็ดออกได้หมดจดเช่นเดียวกันนะครับ แถมสิวผมยังลดลงด้วยขอบคุณน้ำฝรั่งเศสตัวนี้มากมากเลยผมให้คะแนน 9/10 หักที่ราคาถือว่าสูงและหาซื้อในราคาหิ้วได้ยาก เลยขอหักละกันนะจ๊ะถ้าราคาถูกเนี่ยจะให้สิบเต็มไปเลย

ชิ้นที่6 Biore Cleansing Oil (น้ำพระเอกของเรา) : บอกตรงๆว่าชอบมาาากราคาถูกประมาณ 350- หาซื้อง่าย ล้างสะอาดหมดจดถึงแม้มีกลิ่นแต่มันเป็นกลิ่นอ่อนๆไม่แรงเท่าชาแนล และสามารถล้างออกได้ด้วยน้ำโดยไม่ต้องใช้สำลีเช็ดออกล้างได้แม้แต่รอบดวงตามันเก๋จริงอะไรจริง พอโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม(คล้ายDHCแต่ไม่เหมือนซะทีเดียว)ซึ่งประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมกับภาพด้านล่างได้เลยคราฟผม

เอามาทดสอบให้ดูสังเกตุได้ว่าแม้แต่เครื่องสำอางกันน้ำอย่างเจลไลน์เนอร์เมื่อโดนออยวนวนแค่แป๊บเดียวก็หลุดออกง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งบอกตรงๆชอบมาก ไม่ระคายเคืองผิวและทำให้ผมแสบหน้าเหมมือนโดฟอีกด้วยผมให้คะแนน 10/10 ไม่มีอะไรจะหักจริงๆ เป็นของที่แนะนำให้เพื่อนๆลองซื้อมาใช้ดูนะครับ

ชิ้นสุดท้าย Bifesta  Sebum Cleansing Lotion (นางเอกของเรา) : เป็นโลชั่นเช็ดเครื่องสำอางที่กรี๊ดดดมากเพราะคุณสมบัติคล้ายกับBiodermaเลยแต่เมื่อเทียบกับตัวSebumของBiodermaแล้วแตกต่างกันตรงที่ไบโอเดอร์ม่าจะมีกลิ่นเล็กน้อยแต่บิเฟสต้าไม่มี(ปรับมือจ้าาา) และที่สำคัญราคาประมาณ350บาทซึ่งอาจจะมีโปรในบางช่วงซึ่งก็ถูกลงมาอีก หลังจากเช็ดหน้ารู้สึกสะอาดและเกลี้ยงเกลา พร้อมความสดชื่นใช้แล้วไม่แสบหน้าด้วยครับ

เมื่อลองเช็ดเครื่องสำอางกันน้ำอย่างอายไลน์เนอร์ดูแล้วก็สามารถเช็ดรอบเดียวออกได้หมดเช่นกันครับประสิทธิภาพเท่ากับไบโอเดอร์ม่าเลย เช็ดแล้วไม่แสบผิวช่วยกระชับรูขุมขนด้วยสารtea tree ที่เป็นส่วนประกอบด้วยครับ ใช้แล้วสิวไม่ขึ้นด้วยอิอิปลื้มและชอบให้คะแนน 10/10หมดซื้อใหม่ครับ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยากแนะนำแก่เพื่อนๆครับ

สุดท้ายเป็นอายไลน์เนอร์Mabelline นะครับที่นำมาแต้มเพื่อทดลองคลีนซิ่งทั้งเจ็ดตัวในครั้งนี้เขียนดีเขียนเลิศอิอิ