Retin a กับ AHA เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

อาจตอบไม่ตรงจุดนะคะ แต่อยากแนะนำให้ไปทำทรีทเม้นท์ผิวจะดีที่สุดค่ะ เคยใช้มาหมดแล้วทั้งคู่ ผลคือไม่เวิร์คอยู่ดี คือถ้าใจเย็นรอไหวก็แล้วแต่ละความชอบบุคคลนะคะ แต่จากประสบการณ์คือ ขณะที่เรารอผิวเก่าเราผลัด ริ้วรอยใหม่ๆมันก้เกิดขึ้นมากวนอารมณ์เราอีก ฉนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกกลุ่มที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ หรือกรดผลไม้ จะให้ผลเพียงแค่ผิวชั้นบน แต่จะไม่ได้ซึมซาบลงผิวหนังทันที ต้องใช้เป็นประจำ ควบคู่กับการดูแลผิวที่ดีน่ะค่ะ

 

แต่ถ้าเราเลือกที่จะไปทำทรีทเม้นผิว มันก็จะซึมซาบเข้าสู่ผิวเร็วกว่า แล้วก็ดูแลผิวหน้าของเราให้ดี คือ หมั่นรักษาความสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคืองผิว ใช้ครีมกันแดด และหมั่นทาครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว ทีนี้ผิวของเราก็จะดีขึ้นทันตาเห็นเลยค่ะ

ทาเรตินเอก่อนนอนค่ะ หน้าไม่เห่อ แต่ว่าคล้ำดำมาก T^T แต่สิวอุดตันมันค่อยๆหลุดไปอะ

 

ตามคห 1เลยค่ะ เรติน A แรงมาก ใช้แล้วพวกกระจุดด่างดำดีขึ้นมากค่ะ แต่ก็ทำให้หน้าบางมากเลย

เราเล่นอาไปทาทั้งหน้า ผลที่ได้ หน้าดำขึ้นเยอะ แต่สิวดีขึ้น ....

retin a ผลัดเซลล์ผิวลึกกว่าคะถึงในรูขุมขนเลยทีเดียว

แต่ aha แค่เซลล์ผิวชั้นนอกคะ

ถ้าต้องการจัดการทั้งสิวอุดตัดและรอยแผลสิวหรือริ้วรอยบางๆและผิวเรียบเนียนใสควรใช้ retin a

แต่ถ้าต้องการแค่ผิวขาวใส และกำจัดรอย เล็กๆน้อยๆก็ aha คะ

ผลที่ได้ retin a ดีกว่าคะ เห็นผลเร็วกว่า แต่ระหว่างใช้ก็ต้องทำใจมากกว่าคะเพราะมัน แร๊ง หน้าลอก สิวผุด หลบแสง หลบแดดสุดชีวิต 5555 แต่ไม่ใช่หน้าบางนะคะ แค่ไวต่อแสงมากขึ้นเท่านั้น 

 

ใช้สลับกันได้คะ แต่เราว่าถ้าจะใช้ retin ก็ใช้ทุกวันเลยดีกว่าจะได้เห็นผลของมันเร็วๆ

ตอนนี้เราก็กำลังใช้อยู่ ผลที่ได้โอเคเลยคะ หน้าเรียบเนียนขึ้นเพราะมันดันสิวอุดตันออกมา ดีที่หน้าเรามีสิวอุดตันไม่มาก เลยไม่ต้องสะพรึงกับสิวที่อักเสบขึ้นมาเท่าไหร่ แต่ก็มีขึ้นมาเรื่อยๆคะ ส่วนรอยสิวก็ค่อยๆจางไปคะ