[Review] รองพื้น, BB, Primer, แป้ง สำหรับสาวๆหน้ามันค่ะ :)

26 19

สวัสดีค่าา...

 

กลับมาอีกแล้วกับ review ของเรานะคะ..... หลังจากที่ได้รีวิว

 

>> บรอนเซอร์ และ บลัชออน สีบ่มแดด <<

 

>> ลิปสติก ทั้งหมดในกรุ <<

 

 

วันนี้ เป็นรีวิวผลิตภัณฑ์ประเภท Base Make Up ต่างๆที่ใช้และชอบค่ะ

 

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ โดยเฉพาะพวก แป้ง รองพื้น จะใช้ได้ดี หรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคลจริงๆค่ะ...

อาจจะเป็นที่เค้าเรียกว่า "เคมีเข้ากัน" นั่นเอง...

 

ผลิตภัณฑ์ที่เราจะมารีวิวในวันนี้ คือผลิตภัณฑ์ที่เราลองใช้ ใช้แล้วชอบ จนต้องใช้ซ้ำ นะคะ 

 

 

:: Background ::

- ผิวขาว อันเดอร์โทนชมพู

- ผิวมัน มันทั้งหน้า(ทั้งหน้าจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะ T-zone ค่ะ) แต่มันไม่มาก ไม่ถึงขั้นเยิ้ม

- ผิวปกติ (ไม่ใช่ผิวแพ้ง่าย)

- ไม่มีสิว ไม่มีรอยสิวหรือรอยด่างดำใดๆ

- รูขุมขนกว้างระดับปานกลาง ค่ะ

 

 

 

เริ่มที่ภาพรวมญาตของบรรดาผลิตภัณฑ์ต่างๆของเราก่อนเลยค่ะ 

 

ซ้าย ไป ขวา นะคะ

L'oreal Studio Secret Anti-Shine Mattifying Primer

Revlon Photoready Primer

Revlon Colorstay Foundation

Maybelline Clear Smooth BB Stick

Estee Lauder Double Wear Stay in Place

Estee Lauder Cyber White BB

 

 

เริ่มจากตัวแรก...

 

 

1. L'oreal Studio Secret Anti-Shine Mattifying Primer

 

ตัวนี้เราซื้อที่ duty free จำราคาไม่ได้... ในไทย รู้สึกจะอยู่ที่ราคา 300 บาทค่ะ

เป็นไพรม์เมอร์เนื้อลักษณะซิลิโคน โปร่งใสไม่มีสี ค่ะ 

เมื่อทาลงไปแล้ว จะทำให้ผิวหน้าเรียบลื่น ง่ายต่อการลงรองพื้นและแต่งหน้าในขั้นตอนต่อๆไป

 

เรื่องการคุมมันระหว่างวัน... ช่วยคุมมันได้มากขึ้นกว่าวันที่ไม่ได้ทานิดหน่อยค่ะ

เรื่องช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทน... ไม่รู้สึกแตกต่างกับวันที่ไม่ได้ใช้ค่ะ

เรื่องอำพรางรูขุมขน... ตัวไพรม์เมอร์เองไม่ได้ช่วยในเรื่องนี้ แต่เพราะเค้าทำให้เราลงรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้น จึงเหมือนว่าเค้าช่วยเรื่องอำพรางรูขุมขนไปในตัวด้วยเล็กน้อยค่ะ

 

 

2. Revlon Photoready Primer

 

ตัวนี้ซื้อที่ duty free เช่นกันค่ะ(350 บาท)... รู้สึกเคาน์เตอร์จะอยู่ที่ราคา 550 บาท ค่ะ

จริงๆเค้ามี 2 สีให้เลือก... คือสีนี้(สีขาวนวลๆอมชมพูเล็กน้อย) และสีชมพูอมม่วง ค่ะ

ลักษณะเนื้อไพรม์เมอร์เป็นเนื้อครีม มีสี แต่พิกเมนต์ไม่จัด ไม่สามารถใช้เป็น color corrector ได้ค่ะ

 

เรื่องคุมมันระหว่างวัน... ไม่ช่วยคุมมันค่ะ แต่ทำให้หน้าดูกระจ่างใส เป็นการมันอย่างดิวอี้ โกลว์ ไม่หมองค่ะ

เรื่องช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทน... รู้สึกว่าช่วยเล็กน้อยค่ะ

เรื่องอำพรางรูขุมขน... อำพรางได้เล็กน้อย ประมาณ 30% ค่ะ

 

 

3. Revlon Colorstay Foundation

 

ราคาประมาณ 400 บาท ค่ะ

เป็นรองพื้นเนื้อลิขวิดครีม... ค่อนข้างหนาและหนัก... ต้องลงด้วยฟองน้ำหรือแปรงเท่านั้นค่ะ

ปกปิดได้ดี คุมมันดีเยี่ยม และช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนได้ดี ไม่เป็นคราบไม่หมองคล้ำระหว่างวันค่ะ

ใช้เป็น daily makeup ได้ไหม... ได้ค่ะ... แต่ต้องมีเวลาแต่ง

เพราะอย่างที่บอก เนื้อเค้าหนัก ถ้ารีบๆลงจะทำให้แลดูหนา ดูหลอก ดูโบ๊ะเกินไปได้ง่ายๆ

แต่ถ้าค่อยๆเอาฟองน้ำแตะๆ ก็สามารถลงให้บางเบา ดูเป็นธรรมชาติได้ ไม่มีปัญหาค่ะ

(ถ้าค่อยๆลง แตะๆ จะ "ดู" ไม่หนาแน่นอนค่ะ... แต่จะยังรู้สึกหนักหน้า รำคาญหน้าหรือเปล่า อันนั้นก็แล้วแต่คนค่ะ)

 

 

4. Maybelline Clear Smooth BB Stick

 

ราคา 200 นิดๆค่ะ

เป็น BB แบบแท่ง ที่เค้าเคลมว่า เป็นกันแดด เป็นบีบี และเป็นแป้งคุมมันในหนึ่งเดียว

ส่วนตัว สำหรับเรา มันเป็นได้แค่ BB ค่ะ~!! 5555

คุมมันได้ไม่มาก แต่ก็ไม่ทำให้หน้าหมองเมื่อมัน.... เนื้อไม่หนา ไม่หนัก... ใช้สะดวก รวดเร็ว

ปกปิด ได้ระดับนึง แต่เพราะเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องปกปิดอยู่แล้ว... จึงไม่มีปัญหาค่ะ

ส่วนมาก ใช้ในวันที่ต้องการแต่งหน้าอย่างเร่งรีบ (ตื่นสายแล้วต้องรีบไปมหาลัย 555)

หรือวันที่อยากพักหน้า ไม่อยากแต่งหน้าเต็มๆค่ะ

 

 

5. Estee Lauder Double Wear Stay in Place


ราคา 1,700 บาท... เคาน์เตอร์เมืองไทยค่ะ

เป็นรองพื้นเนื้อลิขวิดครีม... หนาแต่ไม่หนัก...

("หนา" ของเรา แปลว่าปกปิดได้,, "หนัก" เป็นความรู้สึก หนักๆ เหนอะๆ ที่หน้า หรือการมองแล้วดูโบ๊ะ ค่ะ)

 

ถ้าต้องการการปกปิดสามารถลงด้วยมือได้ ไม่หนาเกินไปค่ะ

แต่ถ้าไม่ได้ต้องการการปกปิด ลงด้วยฟองน้ำหรือแปรง ก็จะได้ลุคที่บางเบาเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ

คุมมันได้ดีมาก ปกปิดดี ช่วยทำให้เครื่องสำอางค์ติดทนได้ดีค่ะ

 

เอฟเฟคของเค้า จะเหมือนกับของ Revlon ค่ะ

แตกต่างกันตรงที่ว่า เนื้อของ estee จะบางเบากว่า เนียนกว่า ลงได้ง่ายกว่า revlon

คือ estee หลับตาเอานิ้วตบๆๆๆลงไป ก็ยังเนียนสวย ไม่โบ๊ะ ไม่หนาไปมาก

แต่กับ revlon ถ้าจะให้สวยเป็นธรรมชาติต้องค่อยๆตั้งใจลงดีๆค่ะ

 

 

 

ก่อนจะไปรีวิวตัวต่อไป... ขอทำการเปรียบเทียบ Revlon VS. Estee ค่ะ

 

 

 

:: Texture :: 

Revlon เนื้อหนาและหนัก เกลี่ยยากกว่า

Estee เนื้อหนาแต่บางเบา เกลี่ยให้เรียบเนียนบางเบาได้ง่าย

 

 

 

ทดสอบความสามารถในการปกปิด... รูปนี้เป็นรูป before เอาปากกาขีดไว้ค่ะ

 

 

 

Apply เจ้ารองพื้นลงไปในปริมาณเท่าๆกัน (กะจากสายตา)

แล้วทำการกดๆตบๆ ด้วยนิ้วค่ะ

 

 

 

After... จะเห็นว่า Estee นั้น เนื้อบางเบากว่าก็จริง แต่ความสามารถในการปกปิดนั้นสูงกว่าค่ะ

(อันนี้ก็เพิ่งทราบเหมือนกัน เพราะปกติไม่มีรอยอะไรอยู่บนหน้า เลยไม่เคยรู้ความสามารถการปกปิดของรองพื้นเลย)

 

ส่วนเรื่องเนียน ติดทน คุมมัน ไม่หมองไม่เป็นคราบนั้น... สำหรับเรา ทั้งสองตัวแทบไม่ต่างกันค่ะ

 

 

 

ไปรีวิวตัวต่อไปเลยดีกว่านะคะ 

 

 

6. Estee Lauder Cyber White BB

 

ราคาจำไม่ได้ แต่น่าจะราวๆ 1,000 บาท ค่ะ

เป็น BB ที่พี่ BA แนะนำมาว่า

"ถ้าคุณน้องอยากแต่งเบาๆ ก็ใช้แทนรองพื้น... ถ้าอยากจัดเต็ม ก็ใช้เป็นเบสนะคะ"

ก็ตามนั้นเลยค่ะ... 

เนื้อบางเบา ใสแจ๋ว... ช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทน ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย ไม่ปกปิด ไม่คุมมัน ค่ะ

ถ้าใช้แทนรองพื้นในวันที่แต่งเบาๆก็พอไหว... มันช่วยให้ คสอ. ติดทนได้... แต่ไม่ช่วยคุมมันค่ะ

ถ้าแต่งหน้าจัดเต็ม ก็ใช้ตัวนี้เป็นเบส แล้วค่อยลงรองพื้นทับ... เลิศมากกก ค่ะ

เพราะเค้าช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส,, ช่วยเสริมประสิทธิภาพของรองพื้น ทั้งเรื่องคุมมัน และช่วย คสอ.ติดทน ค่ะ

 

 

 

หมดไปแล้วกับตระกูล Primer และ Foundation...

ต่อกันที่แป้งนะคะ

 

 

 

 

 

แป้งที่ใช้แล้วชอบ (ใช้แล้วรอด) ของเรา มีเท่านี้ จริงๆค่ะ...

 

ขอเริ่มที่

 

 

1. Revlon Photoready

 

ราคาประมาณ 400 บาท ค่ะ

แป้งพัฟของ Drug Store Brand เราลองมาแล้ว หลายยยยยย ยี่ห้อ ค่ะ

ทั้ง L'oreal True Match,, L'oreal White Perfect Pearl Du-o,, Maybelline ตลับชมพู,, Cute Press ฯลฯ

 

มีแค่ Revlon จริงๆค่ะ ที่เอาหน้ามันๆของเราอยู่ (คือ คุมมันได้ระดับนึง... ที่สำคัญคือไม่หมองและไม่เป็นคราบ)

 

เนื้อค่อนข้างแข็ง ทาแล้วเนียนประมาณ 80% ....แต่เพราะผิวเราไม่มีอะไรต้องปกปิด จึงเทใจให้เต็มร้อยค่ะ

คุมมันได้ดีปานกลาง สีไม่ดรอประหว่างวัน หน้ามันแล้วไม่หมอง

ใช้เติมระหว่างวันได้ ไม่เป็นคราบ (แต่ส่วนตัวไม่ชอบทำเท่าไหร่ ถ้าเติมชอบเป็นแป้งฝุ่นมากกว่าค่ะ)

 

แป้งของ Revlon มีคุมมันได้ดีอยู่ 2 รุ่นนะคะ (ตามที่พี่ BA บอก)

คือ รุ่นนี้(photoready) และ รุ่นตลับแดงค่ะ

แต่ว่า ตลับแดงเค้าจะเน้นปกปิดมากมาย จะหนามาก... ไม่เหมาะกับแต่งประจำวันค่ะ

 

 

2. Estee CyberWhite

 

อันนี้คุณแม่ทำเราเคยตัว 5555

คุณแม่ได้แถมมาเลือกเบอร์ไม่ได้ หรือซื้อมาผิดเบอร์ อะไรประมาณนั้น... แล้วเลยเอามาให้เราใช้ค่ะ

สารภาพว่าเป็นแป้งพัฟ counter brand ตัวเดียว ที่เราเคยใช้นะคะ...

ไม่สามารถเปรียบเทียบกับอะไรให้ได้ทั้งนั้น....  แต่ชอบ มากกกกกกกกกก ค่ะ

 

เนื้อเนียน นุ่ม ไม่แข็ง... ลื่น ทาง่าย... พัฟที่ให้มาก็นิ่ม... ปกปิด เนียน มากๆค่ะ

คุมมันได้ดีปานกลาง(ดีกว่า revlon นิดนึง)... 

สีไม่ดรอประหว่างวัน หน้ามันแล้วไม่หมอง เติมได้ไม่เป็นคราบ ค่ะ

 

 

3. Revlon Touch&Glow Loose Powder

 

แป้งฝุ่นของ Revlon... ราคา จำไม่ได้ น่าจะ 300-400 ค่ะ (ตลับใหญ่ ซื้อที่เคาน์เตอร์นะคะ.. วัตสันมีแค่ไซส์เล็กค่ะ)

มีแบบ translucent ก็มี... แต่ของเราเป็นสี Misty Rose ค่ะ (ออกอมชมพูนิดนึง)

เอาไว้ใช้เซตรองพื้นได้ดี... ใช้เดี่ยวๆ ก็คุมมันได้ดีในระดับของแป้งฝุ่น...

ถ้าใช้เซตรองพื้น-เมคอัพที่แต่งมาเต็มๆ จะช่วยคุมมันได้ดีมากอย่างเห็นได้ชัด (เทียบกับวันที่ไม่ได้ใช้ค่ะ)

เติมระหว่างวันได้ ไม่เป็นคราบค่ะ

 

แป้งฝุ่น เราเคยใช้ของ Covermark และ Cute Press Evory เท่านั้น... ที่ซื้อใช้นะคะ

และเคย(แอบ)เล่น Estee ของแม่อยู่ 2-3 ครั้ง ฮ่าๆๆ,, และเคยใช้ LM อยู่ระยะนึง(เพื่อนเอามาให้ลองใช้)

ไม่เคยใช้ยี่ห้ออื่น คงเปรียบเทียบได้ไม่มาก

แต่พอมาลองของ Revlon ก็ เลิฟ เลิฟ มากแล้วค่ะ

 (ของ estee ดีค่ะ แต่ส่วนตัวก็ไม่รู้สึกต่างกับ revlon มากขนาดนั้น... ที่เหลือ ไม่ค่อยชอบ ด้วยเหตุผลต่างๆกันไปค่ะ)

 

ข้อเสียที่หลายคนพูดถึงสำหรับแป้งฝุ่นเรฟล่อนตัวนี้ คือ น้ำหอมค่ะ

เค้าใส่น้ำหอม ค่อนข้างชัด...

แต่ส่วนตัวไม่มีปัญหา เพราะไม่แพ้... และมันก็หอมดี 55555

 

 

************************************

 

 

ส่วนตัว ในวันสบายๆ หรือวันไปมหาลัย ไม่อยากแต่งหน้ามาก ก็จะใช้

L'oreal anti-shine Primer + BB Stick + แป้งตลับหรือแป้งฝุ่น แล้วแต่ ค่ะ

จะเป็นการแต่งหน้าบางๆ คุมมันได้ไม่มาก บ่ายๆเย็นๆก็จะมัน แต่ก็ไม่หมองมากมายค่ะ ยังรับได้อยู่

 

ถ้าไปเที่ยว แต่งหน้าเต็มๆ

Primer(ตัวไหนก็ได้) + รองพื้น(ตัวไหนก็แล้วแต่อารมณ์) + แป้งตลับ แล้วแต่งหน้า เสร็จแล้วใช้แป้งฝุ่นเซตอีกที

เท่านี้ก็อยู่ได้ทั้งวัน แบบไม่ต้องเติมแล้วค่ะ... เย็นๆ อาจจะมันหน่อยๆ แต่ก็ดูดิวอี้ๆ ไม่มันมาก ไม่เติมก็ได้ค่ะ

 

 

 

************************************

 

 

 

ก่อนไป ขอแอบเห่อเล็บ เพิ่งทำเองวันนี้ค่ะ อิอิ

 

 

  
  

มือซ้ายและมือขวา ค่ะ 

 

 

 

รีวิวของเราวันนี้ก็ขอตัดจบเพียงเท่านี้...

มีข้อสงสัย ติ ชม แนะนำประการใด... คอมเมนท์ได้เต็มที่เลยค่ะ

 

ฝากรีวิวกระทู้นี้ด้วยนะค๊าา 

 


MaeMhor

MaeMhor

Beauty IG :: @destinyglamour

Personal IG :: @kamoljanok

FULL PROFILE