ขอสอบถามเรื่อง diffarin vs. Benzac ค่ะ

สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้มีเรื่องมารบกวนถามหน่อยน่ะค่ะ

 

พอดี จขกท. เป็นคนหน้ามันหน่อยๆ แต่งหน้าเยอะ แล้วเกิดสิวอุดตันมาตลอดปลายๆปี 

แต่ช่วงนี้รักษาผิวหน้าเองเพระาไปเจอเคล็นซิ่งที่เหมาะกับผิวมา + ใช้ perfect wip แล้วเหมาะมากๆ

 

ก่อนนอนก็ทา benzac 5% ทานอนไปลยค่ะ (ไม่แห้ง ไม่แสบ ไม่แพ้ ) ตอนแรกๆทาทุกคืน หลังๆทาวันเว้นวัน

เช้ามาก็ทากันแดดตามปรกติ จนสิวลดลงเกือบหมดแล้ว  สิวอุดตันแทบจะหมดแล้วนะคะ ลูบหน้าแล้วเรียบขึ้นเยอะมากๆๆๆ  สิวอักเสบมีขึ้นบ้างนิดหน่อยตามแต่ไปเจออะไร (อย่างตอนนี้ขึ้นทีไรผมเม็ดนึง สันนิษฐานว่าเพราะลีฟออนทาผม)

แล้วเราไปอ่านเจอมาว่า ดิฟฟารีน หรือ เรตินเอ ช่วยให้รอยหายดี มีการป้องกันตีนกา รอยย่นได้ด้วย?? แต่ทาแล้วสิวอาจจะปะทุขึ้นมาอีก

 

เราเลยอยากจะถามว่า ควรเสี่ยงลองมั้ยคะ?  เพราะตอนนี้หน้าก็เรียบเนียนดีอยู่แล้ว แสดงว่าเบนแซคผลักสิวเราหลุดออกมาหมดแล้วหรือเปล่า ถ้าใช้ดิฟฟารินมันจะมีอะไรโผล่มาอีกมั้ยคะ 

 

เหตุผลที่อยากใช้ดิฟฟารีนด้วยก็เพราาะเรื่องริ้วรอยนั่นแหละค่ะ หน้าเรียบแล้วแต่อยากหน้าใสด้วยอ่ะ >,.<

 

Discussion (5)

ใช้เบนแซค2.5%อยู่ค่ะ แต่ทาแค่ก่อนล้างหน้าตอนเย็นแค่ 5 นาที -0-" แต่คิดว่าคงค่อยๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อยไ ค่ะ ค่อยๆ ให้หน้าชินกับยาก่อน เพราะกลัวว่าต่อไปจะดื้อยาค่ะ แต่จขกท. ทาทิ้งไว้ทั้งคืน ไม่แสบ? น่าสนแฮะ 5555' ขอถามหน่อยนะคะ คือสิวหาย แล้ว รอยจางลงบ้างมั้ยคะ? หรือหายแต่สิว? จริงๆ อยากรู้เหมือนดันว่าใช้เบนแซคอล้วสิวหาย แต่พวกรอยดำ รอยสิว กับ สิวอุดตันนี่ จะใช้ไรดีหว่า >
differin เป็นกลุ่มกรดวิตามินเอที่ใช้รักษาสิวอุดตัน ที่ใช้แล้วสิวเห่อ เป็รเพราะทำให้ผิวบาง ไวต่อแดด เกิดการระคายเคืองก่อให้เกิดสิวเพิ่มได้นะคะ ทางที่ดีควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์นะคะ

ขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลยนะคะ 

งั้นส่วนตัวเราคิดว่าเบนเซคต่อไปน่าจะดีกว่าเพราะตอนนี้หน้าก็เรียบแล้ว เหลือแต่รอบดำต่างๆ

เอ่อ ส่วนเรื่องคอลลาเจน เราจะบอกยังไงดี

คือ ตอนนี้เราเป็นิสิตปอโท ที่ทำวิจัยเรื่องคอลลาเจนอยู่เลยค่ะ แต่เป็นในเชิงการสร้างกระดูกใหม่ คือ สำหรับการกิน "ไม่มีงานวิจัยใดๆ หรือ ความรู้จากแพทย์ และ นักวิทยาศาสตร์ท่านใด ให้การยอมรับอ่าค่ะ" อาจจะว่าเราเน้นวิทยาศาสตร์มากไปหน่อย แต่เราทำวิจัยคร่าวๆแล้ว ไม่มีผลจริงๆค่ะ (อย่าว่าเค้าน้าา)  เราทดลองกินเนื้อสัตว์มากกว่าเดิม เพื่อชดเชยโปรตีนที่ขาดไปพร้อมวิตามินซีเพื่อเร่งสร้างคอลลาเจนจากโปรตีนที่กินไป ได้ผลดีเลยค่ะ    ส่วนที่ว่าคอลลาเจนบางยี่ห้ออาจจะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยมากทำให้เข้าไปในร่างกายแล้วไม่ย่อยเป็นกรดอะมิโนแต่ดูดซึมเลย เราไม่อยากบอกเลยว่า ยังไม่มีบริษัทใดหรือมหาลัยใดในโลกทำได้อ่ะค่ะ แหะๆ 
 

ต้องถาม จขกท ว่ารับไหวรึเปล่าเวลาตอนสิวประทุ แล้วถ้าหยุดกลางทางก็จะหนักกว่าเดิมคะ ระยะในการรักษาด้วยดิฟฟารีนประมาณ 4-12สัปดาห์คะ เราลองแล้วอาทิตย์เดียวเห่อเต็มเลยคะ หยุดใช้ ต้องรักษาด้วยbenzac 5% อยู่นานเลยคะ แต่ผลรับของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน อาจจะไม่เห่อก็ได้คะ แต่ถ้าผลออกมาเหมือนเราจิตตกไปเลยคะ เพราะผลที่บอกว่าลดริ้วรอย ผิวหน้าเนียนขึ้นมันจูงใจ แต่ถ้า จขกท หน้าเนียนเรียบแล้วเราไม่แนะนำคะ ระยะในการรักษาจิตตกคะ

พวกที่ว่ามาเป็นตัวผลัดผิวหมดเลยค่ะ พอมันผลัดผิว สิวเลยหลุดออกมาง่ายเพราะผิวมันบาง มันแห้ง เราใช้มาหมดแล้วนะคะ เริ่มจากเบนเซค พอใช้เบนแซคแล้วมาใช้ดิฟฟารีนนี่ไม่รู้ผลเลยค่ะ เหมือนกันไปหมด แต่เรติดเอจะแรงกว่ามาก เราใช้ทารอยดำรอยด้านเลยค่ะ เพราะบอกได้เลยว่าลอกกระจายยย แต่สิวไม่บุกเราเลยนะคะเพราะเราทานยาคุมค่ะ ที่เค้าว่าว่ามันช่วยเรื่องริ้วรอย ก็คือการผลัดเซลล์ผิวให้เซลล์ใหม่มันขึ้น ริ้วรอยเลยดูจางลงค่ะ ก็เหมือนให้เซลล์ใหม่มันขึ้นมา มันก็จะใส จะเนียน โดยที่ต้องยอมผ่านการหน้าลอก(หากใช้เรตินเอ เพราะขนาดเราหน้าหนามากๆทาวันเดียวบางๆยังลอกเลย) ส่วนตัวไม่แนะนำให้ใช้น้ะคะ มันป้องกันรอยตีนกาได้เหรอ เราไม่เคยได้ยิน รู้แต่ว่าผิวมันจะบางลงค่ะเพราะผลัดมันเรื่อยๆ ถ้าผลัดแล้วไม่บำรุง เช็ดถูหน้าแรงๆ ตีนกาก็มาได้ค่ะ ถ้าจะป้องกันตีนกาจริงๆให้เน้นทาม้อยส์เจอไรเซอร์ เพราะจะทำให้หน้ามีความยืดหยุ่น เหมือนขยำผ้ากับขยำกระดาษนั่นแหละค่ะ รอยกระดาษยับมันจะมากกว่าอยู่แล้ว และทานคอลลาเจนค่ะ ทานนะคะ ไม่ใช่ทาคอลลาเจนมันไม่ซึมเข้าผิวค่ะ ช่วยได้ค่ะ วิตามินดีทั้งทาและกินก็ช่วยค่ะ

เหล่านี้เป็นยาออกฤทธิ์เหมือนกัน แต่โครงสร้างและราคาไม่เหมือนกันค่ะ ดิฟเฟอรินแพงกว่าเพราะแพ้ยากกว่า เรตินเอถูกสุดเพราะแพ้ง่ายสุด เบนเซคกลางๆคะ