เครียดจังตกงาน...อยากให้แชร์ ปสก.การทำงานกันหน่อยค่ะ

อยากทราบว่าพี่ๆเพื่อนๆกว่าจะได้งานที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้ใช้เวลานานเท่าไหร่คะ ตั้งแต่เรียนจบมา

แล้วมีวีธีฟันฝ่าอุปสรรคแต่ละครั้งอย่างไรบ้าง

และสำหรับใครที่ยังตกงานอยู่ เข้ามาคุยมาแชร์กันดีกว่าค่ะ

เราจบปีการศึกษา 2553 จบจริงก็ มิถุนายน 2554 จนถึงวันนี้ก็ปีกว่าแล้วค่ะ

เราจบคณะวิทย์สาขาที่เราจบมันค่อยข้างประยุกต์ จึงหางานยากกกก

ไม่เหมือนพวกวิทย์-คณิต ฟิสิกส์ เคมี จุล ฟู้ดซาย ฯลฯ ที่มันมีงานรองรับง่ายกว่า

เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำงานในสาขานะ เพราะไม่ค่อยชอบงานวิทย์สักเท่าไหร่

แต่ถ้าได้ทำมันก็โอเคแหละ แต่ยังไงงานสายนี้มันก็หายากอยุ่ดีค่ะ

 

เราเพิ่งเริ่มหางานจริงจังเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ มกราคม 2555

เพราะก่อนหน้านี้มีภารกิจที่บ้านนิดหน่อย+พักซะหน่อยเพิ่งเรียนจบ

หามาได้2เดือนก็ไม่ได้สักทีค่ะ บางทีมันก็ได้มาแต่เราไม่ไหวแน่ๆ

 

อย่าว่าเราเลือกงานเลยนะ ถ้าเราไม่เลือกป่านนี้เราคงเป็นสาวโรงงานในฝ่ายผลิตไปแล้วค่ะ

ซึ่งตอนไปสมัครมีคนใช้วุฒิป.ตรีเข้าทำงานด้วย คือบางคนเค้าก็ทำได้ไง

แต่เราไม่อยากทำเพราะไม่ได้แต่งหน้า บังคับทำโอทุกวัน ต้องเข้าทุกกะ

เราคงไม่มีเวลาไปหางานอื่นแน่ๆ

 

เราก็เลยตัดสินใจทำงานเพื่อรองานค่ะ ตั้งใจว่าจะทำไปหาเงินใช้+ฆ่าเวลา+ปสก.พอดีอยากเรียนรู้เกี่ยวกับขนมด้วยค่ะ

ก็เลยตัดสินใจไปทำ S&P ได้ทำในแผนกเบเกอรี่ ก็ได้ทำเหมือนเป็น พนง.ธรรมดาทุกอย่าง

ทดลองงาน3เดือน หลังจากนั้นเราก็จะได้เงินตามวุฒิ เท่าไหร่ไม่รู้นะ

ก็ทำไปหางานอื่นไปด้วย ทำไปได้2เดือนก็ได้งานที่ใหม่ ก็เลยออกจากที่นี่ค่ะ

 

ต่อมาที่ห้างดอกบัวค่ะ งานนี้ถือเป็นงานแรกในชีวิตเนอะ เราได้เป็นเลขานุการ ผจก.เขตเลยค่ะ

ได้มาแบบฟลุคจริงๆ ตำแหน่งนี้เค้าต้องไต่เต้าต้องการสเปคสูงมากๆ แต่เราก็ได้มันมาค่ะ

พอทำไปได้2เดือนเค้าก็ให้ออกค่ะ เพราะเราไม่เหมาะกับงานนี้ ทดลองงานมัน4เดือนค่ะ

เค้าให้เราออกแบบไม่บอกว่าเราทำอะไรพลาดแบบตรงๆ แต่เค้าก็คอยเทสงานเราตลอดการทำงานอยุ่แล้ว

เรายอมรับเราเองก็ทำตัวแย่เองจริงๆแหละ แต่มีแต่คนเข้าใจเราเพราะเจ้านายคนนี้เค้าเรื่องมากกกก

ลักษณะงาน+เงิน เราชอบงานนี้มากๆเลยค่ะ...

ร้องไห้ในใจก็พอค่ะ

 

รวมๆแล้วในเวลาไม่ถึงปีที่ผ่านมานี้เรามีถ่ายเอกสารประมาณ50ชุด ถ่ายรูปไป5รอบ

ยังไม่รวมสมัครทางเว็บและที่ไม่ใช้เอกสารอีกนะคะ

ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้คะ เพ่อนๆ+รุ่นน้องเค้ามีงานมีการทำกันหมดแล้ว เราทำอะไรอยู่

ล่าสุดเราอกหักดังเป๊าะกับงานที่ ais ตำแหน่ง Customer care officer ค่ะ

ร้องไห้ได้ในใจอีกแล้วค่ะ

เป็นงานที่เราคาดหวังที่สุดตั้งแต่สมัครงานมาค่ะ ตอนสัมภาษณ์มี3คนค่ะ

มีเราคนเดียวที่ไม่ผ่าน ทำไมเราไม่ได้อ่ะ ทั้ง3คนก็อยากทำงานร่วมกันจะตาย มันรู้จักกันแล้วอ่ะ

เราเป็นคนไม่ฉลาดตอบคำถามค่ะ บุคลิกดูจะงกๆเงิ่นๆ(ใช้ภาษาไรเนี่ย) มันก็คงไม่ได้มา

เรามีข้อจำกัดเรื่องภาษาอีก ถ้าเราพูดภาษาได้นะ เราก็ได้งานไหนต่อไหนไปนานแล้วค่ะ

 

เพื่อนเราจบ ม.6 ปวส. พวกเค้าดิ้นรนที่จะทำงานออฟฟิตเท่านั้น ซึ่งเค้าก็ได้มันมา

แต่คนที่จบ.ปตรี กลับไปทำงานโรงงานก็ได้ งานร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารก็ได้

เพราะเราคุยกับเพื่อนพวกนี้แหละความเป็นตัวเองเลยหายไป เราเลยไม่อยากทำงานรองานอีก

ตอนนี้เราเลยว่างงานมาแล้วเข้าเดือนที่3ค่ะ ไม่งั้นเราคงไปทำงานรองาน และหางานไปค่ะ

บางทีงานรองานเนี่ยอาจได้เจออะไรดีๆนะคะ เช่นได้เลื่อนตำแหน่งจนติดใจก็เป็นได้

แต่นี่มันเสียเวลามานานแล้วค่ะ เราคงเดินหน้าไปก่อนดีกว่า

อ้อ งานรองานสำหรับเรา เราก็อยากทำแต่ในสิ่งที่เราสนใจนะคะ เช่นทำขนมไปแล้ว

ต่อไปเหลือกาแฟ สบาบัคก็น่าทำจะตาย ต่อมาไอติมอยากทำฮาเก้นดาซ

หรือจะเป็นกาแฟ+ไปติมแบรนด์อื่นๆก็ได้ค่ะ แต่เราคิดทำแค่รอเวลาเองค่ะ

 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบค่ะ ขอพื้นที่เล็กๆในการระบายเท่านั้นค่ะ

อยากแลกเปลี่ยนกับคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนๆกันด้วย

รู้แต่ว่าต้องสู้ต่อไปค่ะ

 

Discussion (14)

เราอยากรุ้ว่า ไม่ผ่านaisนี้ สัมภาษรอบ2ช่ายไหมค่ะ
สวัสดีค้า จบปีเดียวกันเลย ตอนนี้ก็กำลังหางานเหมือนกันค่ะ หมายถึงหางานที่สนใจค่ะ ตอนนี้ทำงานอยู่แล้ว ไม่ได้ตกงานค่ะ แต่ก็เครียดนะ เพราะเบื่อแล้ว อยากหางานใหม่เต็มที่
อยากทำงานเยอะๆเงินแน่นๆ เราไม่กล้วลำบากค่ะ กลัวอย่างเดียวไม่มีตัง

พี่เป็นเลขาค่ะ อยู่โรงงานหน้าไม่แต่งใส่ชอปทำงาน ยูนิฟอร์มโรงงาน ไม่มีปัญหาเป็นกฏที่ทุกคนต้องทำตามเท่าเทียมกัน อยู่ได้นานหลายปีปัจบันก็ยังทำอยู่ ทำงานให้โดนใจนายนี่แหละสำคัญ

 

งานเลขาเงินกลางๆนะคะ แต่พี่โชคดีนายน่ารักเป็นคนดี (ต่างชาตินะคะ) จบด้านภาษามาทำได้ทุกงานขอแค่ให้ได้ใช้ภาษาก็พอใจ

 

เคยทำงานออฟฟิสกรุงเทพค่ะ สนุกมากเพื่อนร่วมงานเฮฮา แต่งตัวสวยกินหรูตลอด ก็สนุกไปอีกแบบ รับได้ทุกงาน สังคมมันก็ต่างกันไป ปรับตัวค่ะ ไม่ว่าที่ไหนเราก็จะอยู่ได้

 

ตอนหางานพี่เริ่มจาก sales-co/ operator เก็บประสบการณ์ไปก่อนค่ะ ^^

จากความเห็นของเรานะคะ เจ้าของกระทู้ดูขาดความมั่นใจในการสอบสัมภาษณ์นะคะ

เราเองทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมาคะ จบรัฐศาสตร์แต่มาที่งานเกี่ยวกกับห้องสมุด ฮ๊ะ ฮ่า ไม่ตรงกันเลยแถมพ่วงมาด้วยคืองานเลขานุการ ปัจจุบันทำมา4ปีแล้วคะ  จากประสบการณ์ในการสอบสัมภาษณ์งานมานะคะ คณะกรรมการมักจะั้ตั้งคำถามเพื่อเรียกความมั่นใจจากเราคะและจะสังเกตพฤติกรรมเราด้วยว่าพร้อมจะร่วมงานกับเค้าไหม (สังเกตจากการสอบรับพนักงานใหม่ในที่ทำงาน) เจ้าของกระทู้ต้องพูดจาให้ฉะฉานคะ ยืดอกแล้วพูดว่า ทำได้คะ พร้อมเริ่มงานได้ทุกเมื่อคะ  งานนี้ดิฉันสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากคะ ลองพูดหน้ากระจกดูนะคะ

 

 

 

ถ้าคิดว่าตัวเองไม่เก่งภาษาแล้วทำไมไม่เรียนภาษาเพิ่มล่ะค่ะ

 

ตอนเราจบโท เรารองานอยู่ 3 เดือน สัมภาษณ์ทั้งบริษัทอสังหารายใหญ่ เล็ก กลาง มาจบที่บริษัทต่างชาติขนาดกลาง ส่วนบริษัทข้ามชาติอีกบริษัทก็โทรมาอ้อนวอนเราอยู่ และเราก็ได้งานก่อนเพื่อนคนอื่นในรุ่น เพราะเราได้ภาษา เราจบอินเตอร์ แค่นั้นเองอ่ะค่ะ แต่ภาษาไทยเราห่วยมากเราทำงานเอกสารไม่ได้ ตอบคำถามงงๆ มาได้ดีกับบริษัทที่สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ