เคล็ดลับ เข้าเคาท์เตอร์ แบรน แล้วไม่โดนบีเอเหวี่ยงใส่

ผมในฐานะที่เคยเป็น Ba มาก่อนจะมาบอกเคล็ดลับดี ๆ นี้

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าบีเอก็เป็นคนเหมือนพวกคุณ มีชีวิต มีจิตใจเหมือนพวกคุณ ถ้าคุณอยากได้รับการบริการที่ดี ควรให้เกียรติพวกเราด้วยครับ ให้นึกถึงคำว่า ใจเขา ใจเรา เหมือนที่เราคิดกับคุณเช่นนั้น

 

เคล็ดลับ

1. ยิ้มแย้มแจ่มใสและทำอารมณ์ให้ดีก่อนเดินเข้าเคาท์เตอร์ (บีเอบางคนจะไม่ยินดีที่จะรับลูกค้าที่มีอารมณ์อยู่ เพราะลูกค้าบางคนอาจจะใส่อารมณ์กับเรา อารมณ์โมโหอาจทำให้ฟังอะไรนิดอะไรหน่อยก็ไม่ถูกหูไปซะหมด อาจจะทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นได้ซึ่งเราไม่พยายามให้เกิดกรณีนี้เป็นอย่างยิ่ง)

2. เมื่อเดินเข้าเคาท์เตอร์ไม่ควรที่จะคุยโทรศัพท์อยู่ เพราะบีเอจะไม่เดินเข้าไปรับครับ (เพราะเราถือว่าเป็นมารยาทและเป็นการให้เกียรติลูกค้า)

3.เมื่อต้องการรับบริการด่วนโดยที่ไม่ได้นัดรอบไว้ อย่างเช่น บริการนวนหน้า บริการแต่งหน้า สำหรับท่านที่เป็น member ของแบรนนั้นๆ ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า การบริการ แต่งหน้า หรือนวดหน้า เป็นบริการเสริม (ฟรี) จึงจำเป็นที่ลูกค้าต้องนัดรอบไว้ก่อน เพราะมีลูกค้าที่จะขอรับบริการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ส่วนมากจะเต็มหมด แต่ถ้าคุณมีความจำเป็นจริง ๆ ให้พูดคุยกับพนักงานดี ๆ ตามมารยาทที่ควรจะปฏิบัติเมื่อจะขอให้ใครช่วยทำอะไรให้สักอย่าง  อย่าใส่อารมณ์กับพนักงานเด็ดขาดเพราะหลังจากนั้น จะไม่มีเคาท์เตอร์ไหน ยินดีที่จะให้บริการคุณอีก เพราะทุกเคาท์เตอร์ของแบรน นั้นๆ มีข้อมูลลูกค้าที่มันลิงค์กันในทุกสาขา ถ้าคุณเป็นลูกค้าชั้นดี(ไม่เรื่องมาก ไม่เหวี่ยง) เราก็ยินดีที่จะบริการ แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าที่เรื่องเยอะ โน่น นี่ นั่น คุณเตรียมตัวไว้เลยว่าต้องหาแบรนใหม่ไว้บริการคุณ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีซึ่งทำให้เกิดการร้องเรียนได้ ซึ่งเราพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เกิดกรณีนี้

4. การเปลี่ยนสินค้า หรือคืนสินค้า หรือเดินเข้าไปลองสินค้าโดยไม่คิดที่จะซื้อ  อย่าไปคืน,เปลี่ยน,หรือลองเล่น ๆ ตอนห้างเปิด ถึงประมาณบ่าย 2 โดยที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าคนไทยเรานั้นถือ ฤกษ์ ยาม เป็นสำคัญ ถ้าเปิดดี วันนั้นก็จะขายดีไปด้วย ซื่งคนที่เป็นพ่อค้าแม่ขายก็คงจะทราบกันดี และเรื่องนี้ก็เป็นมารยาทสากลที่คนในเอเซียนส่วนใหญ่ปฏิบัติกัน ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่คนไทย ถ้าคุณมีความจำเป็นจริง ๆ ให้ซื้อสินค้าเพิ่มสัก 1 ชิ้น น่าจะดีกว่านะครับ และพนักงานจะขอบคุณ ๆ ไปตลอดวันเลยแหละครับ แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะซื้อจริง ๆ ควรกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ และขอให้วันนี้ขายดี ๆ ลูกค้าเยอะ ๆ เราก็ใจชื้น แล้วครับ

5.เมื่อไปซื้อเครื่องสำอางหรือรับบริการใด ๆ ไม่ควรนำเด็กไปด้วย ถ้าจำเป็นจริงๆ ต้องแน่ใจว่าสามารถควบคุมเด็กคนนั้นได้ เนื่องจาก เด็ก ๆ มักจะไม่อยู่ในการควบคุม บางครั้งเด็กบางคนจะเล่นจนเกินขอบเขต ทำให้สินค้า หรือ Tester เสียหายได้ ในกรณีที่เป็น สินค้า หรือ Tester มันมีมูลค่า ทางห้างถือว่าเป็นสินค้าที่เค้าซื้อมาแล้ว คุณจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนั้นโดยไม่จำเป็น และถ้าเด็กซนมาก ๆ พนักงานไม่สามารถว่าอะไรได้หรอกครับ แต่รู้มั้ยครับเค้าคิดว่า พ่อแม่มันไม่สั่งสอนหรืออย่างไร ฉะนั้นทางที่ดีอย่าเอาเด็กไปด้วยจะดีกว่าครับ

6.อย่าพยายามขอส่วนลด หรือของแถมเพิ่มเลยครับ ไม่มีประโยชน์ เพราะอย่างที่แจ้งเอาไว้ในหัวข้อที่ 5 แล้วว่า สินค้า หรือ tester  รวมถึงของแถม ทางห้างถือว่ามันมีมูลค่า เพราะในแบรนชั้นนำต่าง ๆ เป็นสินค้าที่ทางห้างได้ทำการซื้อขาด ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นส่วนลดใด ๆ ของแถมต่าง ๆ โปรโมชั่นขึ้นอยู่กับทางห้างนั้น ๆ พนักงานไม่สามารถตัดสินใจลดราคาหรือแถมอะไรเพิ่มได้นอกเหนือจากโปรโมชั่นทางห้างในช่วงนั้น ๆ ได้ครับ อย่าพยายามเร้าหรือ เพราะมันไม่มีประโยชน์จริง ๆ ครับ

7.จดจำไว้เสมอว่าคนไทย ถือเรื่องมารยาทเป็นสำคัญ ถ้าคุณอยากให้ใครปฏิบัติกับคุณเป็นอย่างดี คุณก็ควรปฏิบัติกับผู้นั้นอย่างดีด้วยเช่นกันครับ

 

เท่านี้คุณก็เป็นลูกค้าชั้นดีที่เข้าเคาท์เตอร์ไหน ๆ พนักงานก็ยินดีที่จะบริการแล้วครับ

 

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ให้กับทั้งลูกค้าและพนักงานได้เข้าใจกันนะครับ

 

ถ้ามีข้อความใดที่อ่านแล้วรู้สึกไม่ดี หรือบางข้อความที่ไม่สุภาพ ผมก็กราบขอโทษเป็นอย่างยิ่งครับ

บทความนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแบรนเครื่องสำอางค์ใด ๆ เป็นประสบการณ์ที่ผมได้ประสบ ณ.ตอนที่ได้ทำงานอยู่ จึงอยากจะให้ทุกท่านได้ทราบถึงจิตใจของพนักงานขาย ว่าพวกเราไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย ตามที่บางท่านคิด และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะบริการท่านให้ประทับใจ เพียงแต่อยากให้ท่านทราบว่าเราก็เป็นคน ๆ นึงเหมือนกับท่านครับ

                             

                                                                                                   ขอบคุณมากครับ

                                                                                                      Oat Nars

Discussion (20)

แฟนหนูไปจะไปซื้อลิปสติกแมคมาให้เป็นของขวัญวันเกิดอ่ะค่ะ แล้วเค้าใส่กางเกงบอลไปเดินห้าง บีเอแมคนี่แทบไม่รับแขกเลย (จริงๆแล้วแฟนหนูก็มีตังค์ซื้อนะคะ) เรามองไปแล้วว่าบีเอมักมองลูกค้าที่การแต่งตัวมากกว่าค่ะ ="= 

แต่บีเอบางแบรนด์ก็น่ารักนะคะ พูดดีแนะนำสินค้าดี รู้ละเอียด

เอ่อ กลายเป็นว่าลูกค้าต้องคอยประจบ ทำตัวเรียบร้อยก่อนเข้าหาbaซะงั้น Thailand only เลย คุณทำงานด้านบริการ คุณควรมีหัวใจของการบริการ เพราะเราเชื่อมั่นว่าลูกค้าส่วนใหญ่เขาก็ไม่ใช่พวกวีนเหวี่ยงไปทั่วเหมือนกัน ถ้ามีก็ส่วนน้อย เอาเหอะ ไปซื้อเคาเตอร์เมืองนอกดีกว่า ถูกและสบายใจกว่า

ขอบคุณที่แนะนำนะค่ะ แต่ว่าเราก็ยิ้มแย้ม อยากซื้อของ มือถือก็ไม่กด เด็กก็ไม่มี ไปก็เย็นๆ

แต่ทำไมไปทีไร BA หลายเคาเตอร์ก็ไม่แคร์ จะลองสินค้าก็ไม่ลองให้ ทั้งที่จะซื้อนะเนี่ย

ควรเพิ่ม แต่งตัว ให้ดูมีชาต เข้าไปด้วยอาจจะได้ผลเพิ่มขึ้น

555 อันนี้อย่าซีเรียสนะค่ะ บางเคาเตอร์ก็บริการดีอยู่แล้ว คงอยู่ที่บุคคล ค่ะ

เราก็เป็นบีเออยู่ยี่ห้อนึง มันเป็นขายตรงด้วยอ่ั

อดทนมาก ไม่เหมือนบีเอยี่ห้ออื่นๆ 

แล้วเราก็ไปใช้เคาเตอร์แบรนด์ (เราก็แต่งตัวมีเงินนะ 555)

แต่ทำไมบีเอเคาเตอร์แบนรด์เค้าไม่ค่อยรับลูกค้า ไม่เหมือนของเรา

ทั้งๆทีเราไม่ได้ค่าคอมด้วยซ้ำ

 

บ่นๆตามประสาบีเอ

เคยทำงานโรงแรมมาก่อนค่ะ และองค์กรสอนว่า ไม่ว่าแขกจะมาเหวี่ยง วีน ด่าเรารุนแรงแค่ไหน ถึงแม้ว่าไม่ใช่ความผิดของเรา เราก็ต้องน้อมรับและขอโทษค่ะ เราไม่สามารถที่จะปฏิเสธไม่ให้บริการแก่แขกคนนั้น หรือเลือกให้บริการเฉพาะแขกที่อารมย์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสได้หรอกนะคะ ทำได้เพียงแต่พยายามรับฟัง, ขอโทษ, เข้าใจ, และกระตือรือร้นหาทางแก้ปัญหา แค่นี้แขกทุกคนไม่ว่าจะเหวี่ยงมาจากไหน แต่ถ้าเขาเห็นว่าเรากระตือรือร้นที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เขาก็ดีใจแล้วคะ....

 

ในธุรกิจการบริการ "ลูกค้า" หรือ "ผู้ที่มาใช้บริการ" ย่อมคาดหวังที่จะได้รับการบริการที่ดีจากเรา โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดีอยู่แล้ว ลูกค้าย่อมคาดหวังถึงการบริการที่ดีด้วยเช่นกันค่ะ