ทำตาสองชั้นแบบไม่พึ่งมีดหมอ ไม่ขอติดเทป

MamyPukku23 Jul 0858

สวัสดีค่า สาว ๆ จีบัน
คุณแม่ลูกอ่อนอย่างอีชั้นก็ยังยุ่งกับการไล่จับลูกอย่างเคยนะคะ
ช่วงนี้เป็นฤดูการรับปริญญาของหลาย ๆ มหาวิทยาลัย
ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนด้วยนะคะ

พอดีเพื่อนซี้ เพื่อนสนิท ที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลยันมัธยมต้น
จนปัจจุบันก็ยังแฮงเอ้าท์+เม้าท์ ๆ กันเป็นประจำอย่างหนูยูโกะเธอเรียนจบโท
กว่าจะรับกันจริง ๆ ก็ปีหน้าโน่น แต่ด้วยความเห่อ เอ๊ยยย ม่ายช่ายยย
ไหน ๆ ก็จะแต่งหน้า+ถ่ายรูปบัณฑิตส่งมหาวิทยาลัย เพื่อทำเรื่องขอจบแล้ว
ก็มาให้คุณเพื่อน(อีชั้น)โบ๊ะหน้าเล่นซะหน่อย
แถมได้คุณเพื่อนเขย(สามีอีชั้น) ถ่ายรูปเล่นให้ด้วยในสวนหลังบ้าน
กลับจากญี่ปุ่น เดือนหน้า ก็ขน คสอ.มาให้เพื่อนเป็นค่าแรงก็แล้วกันนะเคอะ....

ชื่อคุณนายก็บอกอยู่แล้ว ว่ายูโกะ หน้าเธอก็ออกหมวยซะปานนี้
ตามธรรมดาของคนตาตี่ ก็อยากจะตาโต แต่หนังตาคุณนายก็ไม่มีรอยพับให้ติดเทป
เพื่อคุณเพื่อน อีชั้นเลยขอเสนอ แต่น แต๊น......
เทคนิคการแรเงาสร้างรอยพับเปลือกตา เจ้าค่า.....

มาดูอุปกรณ์กระทำการกัน

ผิวหน้าคุณนายค่อนข้างแห้ง รูขุมขนไม่กว้าง แต่มีรอยย่นใต้ตา กะรอยปูด ๆ ของสิวหิน

ลงรองพื้นแบบน้ำของ Kma เบอร์ 01 เพราะผิวเธอขาวเหลือง

คอนซิลเลอร์ไม่ต้อง แต่มีแพนด้า เราจะมากลบด้วยไฮไลท์ในภาพที่ 2 กัน
ชอบรองพื้นขวดนี้ของคัฟเวอร์มาร์คมาก ๆ เนียนบาง กลบแพนด้ามิดแบบไม่ทิ้งรอยย่น
ที่สำคัญใช้ไม่เปลืองด้วย แต้มนิดก็ปิดนสนิทค่า

ช่วยกู้ดั้ง ด้วยครีมเฉดดิ้งของ MTI แล้วเอาที่ติด ๆ นิ้ว ทำกรอบหน้าซะหน่อย

เกลี่ยเนียนดีแล้วก็โบ๊ะ ๆ ด้วยแป้งฝุ่น Kma สี Y1(สีเดียวใช้ได้หลายสีผิว เพราะมันโปร่งแสง)
สังเกตดู หน้าเธอเริ่มมีมิติขึ้นมาบ้างแล้ว
(อย่าแซวว่ามิติมืดล่ะ ...เดี๋ยวรู้อายุ)

เขียนหางคิ้วด้วยดินสอของคัฟเวอร์มาร์ค
นี่เป็นอีกหนึ่งไอเท็มโปรดจากแบรนด์นี้
เนื้อนิ่ม เขียนง่าย ใช้ทน และที่สำคัญคือ ไม่แพง
มีติดไว้สองแท่ง สีดำกับสีน้ำตาลแดงก็พอแระ เอาไว้ทำอะไรได้หลายอย่าง
แต่ไม่ควรเอามาคีบมาม่าแทนตะเกียบ (มันลื่น)

เบลนหัวคิ้วให้ฟุ้ง ๆ แล้วไล่ลงมาตามข้างจมูกอีกนิดหน่อย
ด้วยอายเค้กของ MTI ตลับนี้มีสองสี ใช้คุ้มอีกเช่นกัน
เพราะเราใช้สีดำทำอินเนอร์ไลน์โดยการหยอดอายเมจิค ของมิชช่าอ่ะค่า

ต่อด้วยใช้มาสคาร่าปัดขนคิ้ว ให้คิ้วเรียงเป็นระเบียบ
อันที่ใช้นี่ สีน้ำตาลของฟาสิโอ้ธรรมดา ๆ
แต่กระแดะเอาสติกเกอร์คิตตี้ไปติดเพื่อความคิกขุ
ทำแบบนี้กะเครื่องสำอางตัวเองหลายชิ้นแระ
ไม่อยากซื้อคสอ.ของคิตตี้จริง ๆ แอบคิดว่ามันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่(มั้ง)

มาถึงขั้นตอนสำคัญ คือการสร้างเหลาเต๊ง
ก่อนอื่นก็แหกตาคุณเพื่อน เอ๊ยยย ม่ายช่ายยย ใช้นิ้วยกเปลือตาให้ตึง ๆ
จะได้เขียนถนัด ๆ
เอาดินสอเขียนคิ้วสีดำ จิ้มวาสลีน ขยี้กะหลังมือให้เนื้อมันนิ่ม ๆ ฉ่ำ ๆ
แล้วเขียนชั้นตามันขึ้นมาเลยค่า
ส่วนจะตำแหน่งไหน ยังไง ก็ประมาณเอาว่าดูเหมือนชั้นตาเวลาลืมตาก็แล้วกันนะคะ

หลังจากนั้นใช้อายแชโดว์ เบลนสีทับไปบนรอยดินสอ
เพื่อทำเป็นรอยเงาของเปลือกตาเวลาที่เราลืมตา

ใช้เจลไลน์เนอร์ปาดเข้ม ๆ หนา ๆ ไปเลย
เพื่อความแบ๊วของลูกตาค่า

เปรียบเทียบให้ดูสองข้าง ที่เขียนกับไม่เขียนชั้นตา
ดูโตกว่ากันจริง ๆ นะ

ขั้นตอนต่อ ๆ มาเราไม่ได้ถ่ายรูปแบบ Step by Step เพราะลูกเริ่มกวนเป็นระยะ ประกอบกับขี้เกียจ ฮี่ ๆ
ก็เป็นขั้นตอนการปัดแก้มและทาปากตาปกติแหละค่า
ลิปก็ยังเป็น เรฟลอน+คลีนิค แท่งเดิม กะลังเห่อนิ
ส่วนสีแก้มก็ใช้สีที่มีเครื่องหมายดอกจันสองสีมาผสมกันนะคะ
(วันนี้เรามาเน้นแต่งตาตี่ให้โตอ่ะนะ ขั้นตอนอื่นไม่ต้องเน้นละกัน)

เราข้ามขั้นการดัดและปัดขนตาไปเลย เพราะแม่นางยูโกะขนตาบาง+สั้นอย่างแรง
เราจึงพึ่งพาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ใช่แล้ว...ขนตาปลอม แปะไปโลด
ขนตาปลอมเบอร์นี้ 431 +กาวไดโซ แปะแล้วเวอร์คแค่ไหนก็ตามมาดูกัน

มาดูกันจะ ๆ แจ้ง ๆ

ซูมกันให้เห็น ๆ อิทธิฤทธิ์ขนตาปลอมอาละวาด

ถ่ายรูปผู้กระทำ และผู้ถูกกระทำคู่กันซะหน่อย
ยินดีด้วยนะจ๊ะ เพื่อน

ปล. ตอนคุณซะมีเรียกมาถ่ายรูปคู่ รีบโบ๊ะหน้าด้วยแป้งมิสทีนแพลตตินั่มของหนูอั้ม+ทาปากเล็กน้อย หน้าเลยเด้งสู้คุณเพื่อนไม่ได้
เอาเหอะ ยกให้คุณนายเธอซักวัน เหอ ๆๆๆ

หลายคนเข้ามาดูแล้วอาจจะคิดว่า
ทำไมแต่งหน้าอ่อนจัง ใส่ขนตาปลอมก็ดูเหมือนไม่ใส่
คือว่ามันเป็นสไตล์ที่เราชอบน่ะค่า
บางงานถ้าเราแต่งแฟชั่นจ๋ามากไป กลับมาดูรูปอีกทีอาจมีฮาได้
อีกอย่าง การแต่งหน้ารับปริญญา เป็นงานที่มักจะถ่ายรูปกลางแจ้ง
เพราะฉะนั้น Clean Beauty คือสไตล์ที่เหมาะสมที่สุดจ้า
(จำขี้ปากเขามาอีกทีน่ะ)

สุดท้าย เรียกเรตติ้งด้วยรูปลูกสาวค่า

ขอบคุณที่ติดตามชมค่า
ยินดีน้อมรับคำติ-ชมทุกประการนะคะ