พลีชีพค่ะ สิบโล สามเดือน

สังเกตนะคะ ว่ายุ้ยหายไปนานหลังจาก ฮาวทู ครั้งโน้น ทั้งๆที่มีเนตใช้แล้ว

พูดกันตรงๆคือ ซุ่มไดเอทอยู่ค่ะ

คือยุ้ยเองเป็นเด็กอวบๆมาแต่เด็กแล้ว ค่ะ สูงแค่ 156 หนักอยู่ที่ 52 - 55 อยู่ตลอด สุดๆที่ 58

ลดตั้งแต่เมษา ที่ผ่านมา ถึง ตอนนี้ ลงไป สิบโลล่ะค่ะ

จากการอ่านรายงานการวิจัยว่า ไม่เกิน ครึ่ง ถึง หนึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์

ที่ไม่เป็นอันตรายมาก

ตอนมัธยม ก็ออกแนวอยากลดแหละค่ะ แต่แม่ทำอาหารตลอด (รสมือแม่อ่ะเนาะ) ก็กินๆ ไม่ห่วงเลย

ทำกิจกรรมก็เยอะนะคะที่ต้องแต่งตัว มีรูปเราออกมาเมื่อไหร่รู้เลยไม่สวย ไม่ดู ไม่ชอบถ่ายรูปไม่สนใจ(เป็นงั้นไป)

รูปนี้งานทูบีนัมเบอร์วัน เมืองทอง ตอน ม. 5 ค่ะ น่าจะ 56 

รูปนี้ ม.6 เทอมสองค่ะ น้ำหนัก สัก 55 มั้ง ไม่ชั่งหรอกเชอะ

สองรูปนี้น่าจะห้าสีบสี่ห้าสิบห้า เป็นรูปตอนเข้า ปี 1 ใหม่ๆค่ะ

พอมาอยู่เชียงใหม่ ก็เข้าสู่การคอสเพลย์เต็มตัวสักที ถ่ายรูปบ่อยขึ้น รู้เลย ไม่ไหวละ อวบเกินพิกัดละ

รู้นะคะ แต่ก็ยังไม่ลดๆๆๆ

น่าจะห้าสิบสี่นะคะสองรูปนี้ รูปแรกตุลาคม รูปสอง ต้นธันวาเห็นจะได้

ยังคงดึงดันที่จะกินๆต่อไป ออกแนวฉันไม่แคร์

แล้วก็รูปถ่าย ในม. และงานคอสที่พืชสวนโลก และงาน J-TOUR ที่กาดสวนแก้วเดือนกุมภาพันธ์ตามลำดับ 

หนักที่ราวๆ 53 -54 อยู่อย่างนี้

แต่พอรูปเซตนี้มา แบบว่าอืดแฮะ ไม่ไหวแล้ว ต้องได้น่า ลองสักตั้ง 

เริ่มราวๆ ต้นเดือนเมษายน

วิธีการอยู่ที่ แรกๆเลยนะคะ เริ่มออกกำลังกายก่อนค่ะ

ซิทอัพ เต้น หลังอาหารเย็นค่ะ กลับมายังไงก็ต้องทำ

สักสองอาทิตย์ลดลงไป 1 กิโลกรัม เหลือ 53

จากนั้นลองอดข้าวเย็น หรือไม่กินหลังหกโมง หิวมากค่ะ ไม่ไหวแล้วเลย เปลี่ยนเป็นแอ๊บเปิลตอนเย็น

ยังออกกำลังกายอยู่ เพิ่มเวลาออกขึ้นไปทุกวัน จากแรกๆ ซิทอัพร้อยนึง

เพิ่มเป็นเต้น บวก ซิทอัพ ครึ่งชั่วโมง

ประมาณเดือนหนึ่งจากวันแรกผ่านไป เหลือ 51-52 กิโลกรัมประมาณนั้นค่ะ รูปไพรเวทที่คณะ ตอนเรียนซัมเมอร์

และแล้ว เราก็เริ้มนับแคลค่ะ 

คือมื้อเช้า ตื่นไปเรียนแบบรีบๆ ได้กินบ้างไม่ได้กินบ้างแต่ก็พยายามกินทุกวันนะคะ

อย่างน้อยคือขนมปัง จะบอกว่าช่วงแรกเคร่งมาก จำกัด 800 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน

กลางวัน กินอะไรก็ได้ค่ะ ค่อยๆลดข้าวลง แต่ขนมไม่ค่อยแตะนะคะ

เย็น แอบเปิลบ้าง โจ๊กบ้าง สลัดบ้าง

แต่ก็ยังออกกำลังกาย ซิทอัพ สองสามร้อย เต้นสิบห้านาทีค่ะ

อ่อ ยุ้ยไม่ได้เต้นแอโรบิคนะคะ แต่เป็นเต้นเพลงในหนังบอลลีวูดค่ะชอบส่วนตัว หึหึ

ผ่านไปเดือนนึงค่ะ เหลือ 49 กิโลกรัม หมดซัมเมอร์ 

กลับบ้านสักอาทิตย์ หายไป อีก เหลือ 48 กิโลกรัม (พ่อยังไม่ได้บ่นอะไร ชอบ ดีใจด้วยซ้ำ)

อีกเดือนนึง ก็ทำเหมือนเดือนที่แล้วเป๊ะเลยค่ะ (อ้าวมันก็เดือนนี้ที่ผ่านมานี่นา)

ออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เป็น ครึ่งชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมง

แต่ช่วงนี้มีหลุดบ้าง กินบ้างนะคะ 

แต่หลุดนี่คือ ไม่เกิน 1000 กิโลแคลอรี่ (นี่เธอเรียกว่าหลุดเหรอ??)

แต่ก็กินทุกมื้อนะคะ กินขนมเพิ่มบ้าง

ซ้ายสุด กับกลาง  46 กิโลกรัมค่ะ ขวาสุด 45

ตอนนี้จะเรียกว่าสิ้นสุดไหม ก็ไม่นะคะ แต่ก็พยายามกินเพิ่มแล้ว

เห็นอะไรก็เป็นแคลอรี่ไปหมดนี่สิ แย่ๆ

วันนี้ล่าสุด ลงมา 43.8 

นี่พ่อก็เพิ่งมาหา บ่นใหญ่เลยค่ะว่ายังกะคนเป็นโรค

นอนไม่หลับ กลัวลูกไม่มีแรง นอนเป็นลมตายคาห้อง ผอมเกิน บลาๆ

คือยุ้ยจะบอกว่ายุ้ยแข็งแรงขึ้นกว่าตอนอ้วนๆอีกนะ

เพื่อนๆ พากันเป็นหวัด เป็นไข้ ติดๆกัน แต่ยุ้ยไม่เป็นน่ะ แต่ดันท้องเสียเพราะลาบเหตุเผ็ดนรก(สั่งเองแหละค่ะ)

วันนั้นยังไปเดินในสวนสัตว์เชียงใหม่ ประมาณสี่กิโลเมตรเลย ไม่ยักเป็นลม

เสียดายไม่ได้ขึ้นดอยกับน้องเมื่อวันเสาร์ 

ลองเอากระโปรงม่วงเอว 31 ใส่ไหว้ครูปีที่แล้วมาใส่ (ตะกี๊นี่เอง)

ลองถ่ายหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จค่ะ

ก่อนและหลังแสนทรหด -0- ตกใจตัวเองมากกก

 เราจริงๆเหรอเนี่ย

ทุกวันนี้ถ้าไม่ได้ออกำลังกาย ตื่นมาจะรู้สึกเมื่อยๆ ปวดๆ ไปหมดเลยค่ะ

ง่วงด้วย พอออกกำลังกาย กลับ สดชื่นซะงั้น

รูปสุดท้ายค่ะ ว่างๆจะทำ how to ให้ชมนะคะ คอนเสปป์หลอนๆ แบบ โอเรียนทอล

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ สำหรับยุ้ยมันยังคงดำเนินไป

แต่ความเข้มข้นจะค่อยๆลดลง ขนาดวันนี้กินไปประมาณ 800 กิโลแคลอรี่กว่าๆ

ยังบ่นอึดอัดแล้วเลย

ถ้าพี่ๆคนไหน มีคำแนะนำหลังไดเอท ว่าวันที่หยุดทานอะไรบ้างจะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ

เพราะตอนนี้แบบว่าอยากกินไรก็ไม่กล้ากินเยอะ

ขอบคุณค่ะ