รวมความรู้+ประสบการณ์เกี่ยวกับ"มะหาด"ทั้งมวลของเราค่ะ

สวัสดีค่ะ เราเป็นสมาชิกเว็บจีบันมานานแล้ว แต่ห่างหายไปนานมาก กลับมาดูอีกทีก็เห็นว่าสาวๆหลายคนในจีบันก็เริ่มสนใจในเรื่องของ"มะหาด"กันแล้วใช่ม้า

วันนี้เราเลยขอตั้งกระทู้รวมความรู้ และประสบการณ์ทั้งหมดทั้งมวลของตัวเองมาบอกเล่าให้เพื่อนๆฟังค่ะ

...มะหาด เป็นชื่อที่บูมม๊ากมากในขณะนี้ เป็นเทรนด์โลชั่นในปัจจุบันไปเลย ไปร้านไหนๆก็ได้ยินว่ามีมะหาดๆ เอ๊ะ แล้วมันคืออะไรกันนะ? นี่คือข้อมูลที่เราสืบค้นได้ทั้งหมดนะคะ

มะหาด มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Artocarpus lakoocha Roxb. ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถพบได้โดยทั่วไปในประเทศไทย ปกติแล้ว เรามักใช้เปลือก ราก และแก่น มาต้มดื่มหรือบดเป็นผงชง เพื่อลดไข้ ถ่ายพยาธิ ถอนพิษร้อน ส่วนที่เราใช้มาผสมในเครื่องสำอาง คือ สารสกัดจาก “แก่น”

มีการศึกษาวิจัยพบว่าสารธรรมชาติในกลุ่มสติลบีน (stilbene) หลายชนิดมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส หนึ่งในสารกลุ่มนี้คือ ออกซิเรสเวอราทรอล (oxyresveratrol หรือ trans-2,4,3,5- tetrahydroxystilbene ) ที่สกัดจากแก่นของมะหาด ยับยั้งการเกิดของเอนไซม์ไทโรซิเนสได้มากถึง 10 เท่า (กิตติศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ และคณะ แห่งคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) จากการทดลองในสัตว์และมนุษย์ในระยะสั้นพบว่า สามารถทำให้ผิวขาวได้มากขึ้น

การใช้ที่ความเข้มข้นสูงเกินไป อาจมีผลในการทำลายเซลล์เม็ดสีผิว และทำลายเซลล์ผิวได้ความเข้มข้นทั่วไปจึงไม่ควรเกิน 5% ซึ่งเราก็คงต้องต้องรอดูระยะยาว ว่าจะมีผลเสียต่อผิวหรือไม่อย่างไร

นอกจากนั้น ศูนย์ผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ศึกษาการใช้สารสกัด 5% oxyresveratrol จากสมุนไพรแก่นมะหาดในการรักษาฝ้า ได้ผลดีไม่แตกต่างจากยาทา 2% Hydroquinone (ยาทาฝ้าชนิดออกฤทธิ์แรงที่จ่ายโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น) และพบผลข้างเคียงเล็กน้อย

ตอนแรกเราก็สงสัยเหมือนกันอะค่ะ ว่ามันคืออะไร ชื่อแปลกจัง

แต่พอสืบค้นดูแล้วก็ อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ไม่ได้การ... ต้องลองบ้างแล้ว เดี๋ยวตกเทรนด์ค่ะ อิอิ

ก็เริ่มหาซื้อมาลองหลายๆเจ้า สี-เนื้อ ราคา ไม่เหมือนกันซักเจ้าเลย น้ำตาลเข้มมั่ง อ่อนขนาดสีครีมมั่ง เน้นซื้อเป็นกิโลเอาราคาถูก แต่ไม่ค่อยจะเห็นผลเลยอะค่ะ

ก็เริ่มสงสัยใหญ่เลย เอ๊ะ ก็ไหนว่ามันขาวไง แล้วทำไมเราไม่ขาวล่ะ หรือมันจะไม่ใช่มะหาด ก็ลองค้นคว้าลึกเข้าไปอีก จนมาเจอบทความนึง ก็รู้สึกว่าใช่เลยค่ะ เนื้อหาเป็นแบบนี้นะคะ

** ทำไมในท้องตลาดมีโลชั่นมะหาดขายและเคลมว่าขาวใน 5 วัน 10 วัน และราคาถูกแค่กิโลละ 300-500 บาทเองคะ **

ขอตอบแบบกลางๆไม่ให้ร้ายใครนะคะ เพราะโดยส่วนตัวเอง ทางร้านก็ไม่รู้ว่าแหล่งผลิตอยู่ที่ใหน เขาผสมอะไรลงไปในครีมบ้าง อาจจะผสมมะหาดหรือไม่ได้ผสมเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะผสมแค่เพียงเล็กน้อยมากประมาณว่าใช้ช้อนตักสารสกัดมะหาดขึ้นมา เจอลมเบาๆพัด สารสกัดก็ปลิวหายไปหมด ยังไม่ทันได้ผสมเลยคะ  หรือใส่มะหาดน้อยๆ และเติมสารอื่นที่ช่วยให้ขาวไวขึ้น เช่น วิตามินบี 3 วิตามินซี หรือ AHA (กรดผลไม้)  ซึ่งจะทำให้เห็นผล 5-10 วัน  และลูกค้าก็จะคิดไปว่าที่ขาวขึ้นเป็นเพราะมะหาดก็เป็นไปได้

ทำยังไงหากต้องการโลชั่นมะหาดที่มีคุณภาพ และราคาไม่แพง ตอบ...ต้องมีวอลุ่มการสั่งเยอะๆ ก็จะทำให้ได้ราคาต่อกิโลลดลงมาที่ 100 หรือต่ำกว่านั้นได้คะ

ส่วนนี่เป็นความรู้เกี่ยวกับการตั้งชื่อและเลข อ.ย. ค่ะ

ถ้าเป็นครีมที่ใส่สารสกัดจริงตามที่จดแจ้งกับ อย. และเคลมเรื่องขาวกับ อย.ได้ มีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดที่ป้องกันการกลับมาดำคล้ำ สังเกตได้ว่า สินค้านั้นจะสามารถจดแจ้งชื่อสูตร กับ อย. แบบนี้ได้ คือ XXXX Lakoocha white and sunscreen body lotion  ในชื่อที่จดแจ้ง จะมีคำว่า white และ sunscreen ด้วย  ชื่อนี้จดได้ อย.ให้จด เพราะ อย.ดูสูตรแล้วว่ามันทำให้ขาวได้จริง และกรองแสงแดดได้จริง ต่างจากโลชั่นมะหาดในท้องตลาดทั่วไปที่ต้องจดด้วยชื่อ MAHAD LOTION 

เกี่ยวกับชื่่อที่ อย.จะอนุญาตให้ผ่านหรือไม่ผ่าน มันมีเงื่อนไขหลายอย่าง บางคนคิดว่า พอใส่มะหาดไปแล้ว จะตั้งชื่ออะไรก็ได้ และใช้ไปก็ต้องขาว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง โลชั่่นมะหาดที่ขายตัดราคากันอยู่ ทำไมเขาไม่จดชื่อว่า Super White Mahad lotion เพราะการเคลมเรื่องขาวไม่ขาว มันต้องดูที่ส่วนผสมด้วย บางที่ไปยื่นจดแจ้งสูตร อย. แล้วไปตั้งชื่อครีมว่า PEARL CREAM แต่ในสวนผสมไมมี PEARL เลย แบบนี้ อย.ก็ไม่ให้คะ ล่าสุดมีลููกค้ามาให้ทางเราออกแบบฉลากสินค้าโลชั่นมะหาดให้ แต่เลข อย.ที่ให้ลงบนฉลากเป็นเลขของครีมไข่มุก ซึ่งเป็นสวมเลข อย.เราเลยไม่รับทำ

**ขอขอบคุณเนื้อหาจากบทความของเว็บแห่งหนึ่งด้วยนะคะ(ขอไม่บอกชื่อเว็บนะคะ เพราะกลัวหาว่าเป็นเห็บขายของ)

***จะพยายามแก้ไขให้เป็นกระทู้ความรู้ที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนๆจีบันค่ะ